NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 181

ตอนที่ 181

เหยนเสี่ยวน่ามองไปที่หลี่ฝาง: “ทำไม คุณก็มีญาติเป็นคณะกรรมการบริหารโรงเรียนด้วย?”

หลี่ฝางส่ายหน้า พูดว่า: “ก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก”

หลังจากที่หลี่ฝางรู้ว่าลู่หลุ่ยก็ถูกมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่รับเข้าแล้ว หลี่ฝางก็บอกกับหลี่ต๋าคางว่า ตัวเองก็อยากไปมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่เหมือนกัน

และลี่ต๋าคาง ใช้เวลาไปแค่ไม่ถึงสิบนาที ก็บอกหลี่ฝาง ว่าเขาถูกรับเข้าสุ่ยมู่แล้ว

สิบนาที ก็เอาโควตาของมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่มาได้ ช่วงเวลาสั้นๆแค่นี้ ก็มีแต่ผู้อำนวยการเท่านั้นที่ทำได้

ซึ่งก็หมายความว่า หลี่ต๋าคางสามารถคุยกับผู้อำนวยการได้ และการพูดคุยนั้น ยังมีน้ำหนักอย่างมาก

……

หลิวเสี่ยวเทาหนีออกจากโรงเรียน ตอนที่กำลังจะไปโรงพยาบาล กลับเห็นรถเบนท์ลีย์จอดอยู่ที่ประตูโรงเรียน

หลิวเสี่ยวเทาเห็นรถเบนท์ลีย์ ตัวสั่นครู่หนึ่ง

นี่คือรถของสวีเถิงเฟย

ในเวลานี้ กระจกรถของเบนท์ลีย์เลื่อนลง สวีเถิงเฟยยื่นหน้าออกมา กวักมือเรียกหลิวเสี่ยวเทา ความหมายคือให้เขาเข้าไป

หลิวเสี่ยวเทาลังเลครู่หนึ่ง แต่ก็เดินเข้าไป

เพิ่งขึ้นรถไป หลิวเสี่ยวเทาก็ต้องการเอ่ยปากอธิบาย

เสียงตบเพียะดังขึ้นมา

หลิวเสี่ยวเทายังไม่ทันได้เอ่ยปากพูด สวีเถิงเฟยก็ตบหน้าเขาไปหนึ่งครั้ง

“หลิวเสี่ยวเทา นายทรยศฉันใช่ไหม?” สวีเถิงเฟยมองหลิวเสี่ยวเทาอย่างเย็นชา

หลิวเสี่ยวเทาสีหน้าเคร่งเครียดลงมา เขาเคยรับปากสวีเถิงเฟย ไม่ว่าอย่างไร ก็จะไม่มีทางซัดทอดถึงสวีเถิงเฟย

“พี่เฟย ผมก็ไม่อยากเหมือนกัน แต่ไอ้หมอนั่นมันโหดร้ายมาก มันหักนิ้วมือผมหักไปหนึ่งนิ้ว!” หลิวเสี่ยวเทาพูดอย่างจนปัญญา

“ช่างเถอะ พี่เฟย ข้างตัวของไอ้หมอนั่นมียอดฝีมือคนหนึ่ง ต่อสู้เก่งมากจริงๆ บรรดาพี่น้องสุ่ยมู่ของผม ถูกไอ้หมอนั้นตีจนล้มลงไปกองกับพื้น”

“ผมเอาคืนเงินให้ไปพี่ดีกว่า” หลิวเสี่ยวเทาพูด

“คืนเงิน?” สวีเถิงเฟยยิ้มอย่างเหยียดหยาม: “เงินไม่ต้องคืนแล้ว นอกจากนี้ ฉันยังจะให้เงินนายไปอีกก้อนหนึ่ง”

“พี่เฟย ผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม? พี่ยังจะให้เงินผมอีก?”

หลิวเสี่ยวเทาอึ้งไป

นี่มันเรื่องอะไรกัน ตัวเองทำให้เรื่องพังไม่เป็นท่าแท้ๆ ไม่เพียงไม่ได้จัดการกับหลี่ฝาง ยังซัดทอดสวีเถิงเฟยออกมาอีก

สวีเถิงเฟยคนนี้ไม่หาเรื่องตัวเองก็แล้วไปเถอะ นี่ยังจะให้เงินตัวเองอีก?

นี่มันหมายความว่าอย่างไร?

หลิวเสี่ยวเทาสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไป

สวีเถิงเฟยหยิบเงินออกมาอีกสองปึก วางไว้ในมือของหลิวเสี่ยวเทา: “นี่เป็นเงินสองหมื่นหยวน”

“นายเอาเงินก้อนนี้ ไปหาอาของนายหลิวเหล่าซาน”

“ไอ้หมอนั่นเป็นแค่มวยทหารนิดหน่อยเท่านั้นแหละ ไม่ใช่ยอดฝีมืออะไรเลย นายไปหาอาของนาย ให้อาของนายพาคนมาเยอะหน่อย ตีขาของหลี่ฝางให้หักข้างหนึ่งให้ฉัน”

“สองหมื่นหยวนนี้ เป็นแค่มัดจำเท่านั้น หลังจากเสร็จเรื่อง ฉันจะให้พวกนายอีกสามหมื่นหยวน” สวีเถิงเฟยพูดและยิ้มอย่างเย็นชา

หลิวเสี่ยวเทาตาสว่างขึ้นมาทันที

ก่อนหน้านั้น สวีเถิงเฟยให้หลิวเสี่ยวเทาไปแค่หนึ่งหมื่นหยวนเท่านั้น ให้หลิวเสี่ยวเทาสั่งสอนหลี่ฝางให้หนัก อย่างน้อยก็ต้องซ้อมเขาให้เข้าโรงพยาบาล ให้เขานอนอยู่ในโรงพยาบาลซักหนึ่งอาทิตย์

ตอนนั้นสวีเถิงเฟยรับปาก ค่ารักษาพยาบาลอะไรพวกนั้น เขาจะช่วยแบกรับไว้

พูดตามตรงก็คือ งานที่ให้ไปเล่นงานหลี่ฝางครั้งที่แล้ว ค่าตอบแทนก็แค่หนึ่งหมื่นหยวนเท่านั้น

แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป ครั้งนี้ได้ตั้งห้าหมื่นหยวน

และในห้าหมื่นหยวนนี้ หลิวเสี่ยวเทาให้อาของแค่สามหมื่นหยวนเท่านั้นก็พอ

สวีเถิงเฟยกลอกตามองหลิวเสี่ยวเทาครู่หนึ่ง: “ฉันรู้ราคาค่าใช้จ่ายของหลิวเหล่าซาน สามหมื่นหยวนสำหรับขาหรือแขนข้างหนึ่ง ห้าหมื่นสำหรับคู่หนึ่ง”

“นายจะให้อานายเท่าไหร่ ฉันไม่สน อย่างไรก็ตาม ฉันให้เงินนายห้าหมื่นหยวน นายให้อาของนายตีขาหลี่ฝางให้หักข้างหนึ่ง โอเค?” สวีเถิงเฟยถาม

“โอเค!” หลิวเสี่ยวเทาทำมือโอเค

หลิวเสี่ยวเทาตื่นเต้นขึ้นมาทันที

ดึงเงินออกมาจากอาตัวเองสองหมื่นหยวน และอีกหนึ่งหมื่นหยวนที่สวีเถิงเฟยให้ตัวเองก่อนหน้านั้น สวีเถิงเฟยก็ไม่เอาแล้ว

นี่บวกกันขึ้นมา รวมกันเป็นสามหมื่นหยวนแล้ว

ถึงแม้ฐานะทางบ้านของหลิวเสี่ยวเทาจะดีมาก แต่เงินค่าขนมเขาก็ไม่ได้มากมายเท่าไหร่

ทุกๆเดือนหลิวเสี่ยวเทาจะใช้เงินไปกับแฟนสาวของตัวเอง เป็นจำนวนเงินกว่าหมื่นหยวน

ค่าใช้จ่ายที่มหาศาลขนาดนี้ อาศัยแค่เงินค่าขนมเล็กๆน้อยๆนั่นของหลิวเสี่ยวเทา มันไม่พออยู่แล้ว

ดังนั้นในเวลาปกติ หลิวเสี่ยวเทาจึงมักจะทำงานให้ทายาทเศรษฐีพวกนี้อยู่บ่อยๆ ทายาทเศรษฐีพวกนี้ก็ใจป้ำมาก ทุกครั้งที่ทำงานให้พวกเขาเสร็จเรียบร้อย อย่างน้อยก็จะได้ค่าตอบแทนพันสองพันหยวน

หลิวเสี่ยวเทาออกมาจากรถ ถือเงินสองหมื่นหยวนเอาไว้ โรงพยาบาลก็ไม่ไปแล้ว ไปหาอาของเขาหลิวเหล่าซานโดยตรง

หลิวเหล่าซานมีห้องคาสิโนอยู่ร้านหนึ่ง อยู่ใกล้ๆกับโรงเรียนนี่แหละ

เดินไปไม่ถึงสิบนาที หลิวเสี่ยวเทาก็มาถึงห้องคาสิโนร้านนี้

“เสี่ยวเทา แกมาได้ไง? มาหาอาแกเหรอ”

ในวันธรรมดา หลิวเสี่ยวเทามักจะมาห้องคาสิโนร้านนี้บ่อยๆ ดังนั้น คนที่นี่ ล้วนคุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดี

“ใช่ครับ คุณอากวนจื่อ อาสามของผมล่ะครับ” หลิวเสี่ยวเทาถาม

“อาสามแก? อาสามแกกำลังนอนหลับอยู่ในห้องน่ะ”

หลิวเสี่ยวเทาพยักหน้า:“คุณอากวนจื่อเล่นไปก่อนเถอะ ผมหาอาสามผมมีธุระนิดหน่อย”

มาถึงหน้าบ้านหลังเล็กหลังหนึ่ง หลิวเสี่ยวเทาก็ไม่ได้เคาะประตู ผลักเปิดประตูโดยตรง

เวลานี้ภายในบ้าน ไอ้หน้าหนวดคนหนึ่งกำลังเปลือยกายอยู่

ผู้หญิงคนนั้นแต่งหน้าหนาเตอะ ก็ไม่กล้าส่งเสียง กลัวคนที่เล่นไพ่อยู่ข้างนอกจะได้ยิน

“เจ้าเด็กเปรตคนนี้ ทำไมถึงไม่เคาะประตู!”

หลิวเหล่าซานด่าหลิวเสี่ยวเทาอย่างดุเดือด

“รีบปิดประตูเร็วเข้า” หลิวเหล่าซานจ้องหลิวเสี่ยวเทาครู่หนึ่ง

ในเวลานั้นหลิวเสี่ยวเทาตะลึงงันไป อึ้งไปสองสามวินาทีถึงจะกลับมามีสติอีกครั้ง แล้วไปปิดประตูเอาไว้

เขามองดูผู้หญิงที่อยู่บนเตียง มองตะลึงไป

รูปร่างของผู้หญิงคนนี้ ช่างดีเหลือเกิน

“มองอะไร แกไม่เคยเห็นหรือไงกัน!” หลิวเหล่าซานกลอกตาใส่หลายชายของตัวเอง และใช้ผ้าห่มคลุมผู้หญิงคนนั้นเอาไว้

“มาหาฉันด้วยความรีบร้อนแบบนี้ มีธุระเหรอ?”

หลิวเหล่าซานใส่เสื้อผ้าเสร็จ ลงมาจากบนเตียง

“ทางที่ดีแกควรจะมีธุระที่มาหาฉัน ถ้าไม่อย่างนั้น……” หลิวเหล่าซานมองดูหลิวเสี่ยวเทาอย่างเย็นชา: “ถ้าไม่อย่างนั้นต่อไปอย่าคิดที่จะมาห้องคาสิโนของฉันอีก”

เห็นได้ชัดว่าหลิวเหล่าซานไม่พอใจแล้ว

ถูกขัดจังหวะเรื่องดีๆไม่ว่าใครก็ต้องอารมณ์เสียอยู่แล้ว

รวมไปถึงผู้หญิงที่อยู่บนเตียงคนนั้นด้วย สีหน้าของเธอก็ดูแย่มากเหมือนกัน สายตาที่มองหลิวเสี่ยวเทา ดูเหมือนกับอยากจะกินคน

หลิวเสี่ยวเทารีบควักสองหมื่นหยวนที่อยู่ในอกออกมา วางเอาไว้บนโต๊ะ

พอเห็นเงิน สีหน้าของหลิวเหล่าซาน ดูดีขึ้นมากในทันที

“อาสาม อายังจำไหมว่าผมมีเพื่อนคนหนึ่งที่ชื่อสวีเถิงเฟย?” หลิวเสี่ยวเทาถาม

“จำได้แน่นอนอยู่แล้ว คุณชายใหญ่ตระกูลสวี ฉันจะลืมได้ไหม? ไอ้หมอนั่นเป็นถึงเจ้านายที่มีเงินนะ” หลิวเหล่าซานพูด

หลังจากนั้น หลิวเหล่าซานก็คาดเดาออกมาในทันที: “เงินนี่ เป็นของสวีเถิงเฟย?”

“ใช่ สวีเถิงเฟยต้องการให้อาทำงานหนึ่งให้เขา ที่โรงเรียนเรามีเด็กผู้ชายคนหนึ่งไม่มีตา ล่วงเกินสวีเถิงเฟยเข้า ดังนั้นสวีเถิงเฟยจึงต้องการจะหักขาเขาข้างหนึ่ง”

“ขาข้างหนึ่ง?”

หลิวเหล่าซานรู้สึกโกรธเล็กน้อย: “เขาให้เงินฉันแค่สองหมื่นหยวนเนี่ยนะ?”

“ราคาในวงการของกูอยู่ที่สามหมื่นนะโว้ย!” หลิวเหล่าซานพูดด้วยความโกรธ

“อย่าโกรธไปสิ อาสาม สองหมื่นนี้ เป็นแค่มัดจำเท่านั้น หลังจากที่อาทำงานเสร็จแล้ว เขาจะให้เงินอาอีกหนึ่งหมื่นหยวน” หลิวเสี่ยวเทารีบพูด

“งั้นก็ค่อยยังชั่วหน่อย” หลิวเหล่าซานพยักหน้า

“อาสาม นี่อาตกลงแล้วใช่ไหม?” หลิวเสี่ยวเทาถามด้วยความดีใจ

“ไอ้หมอนั่นมีที่มาอย่างไร?” หลิวเหล่าซานถาม

หลิวเหล่าซานไม่ใช่คนมุทะลุ ไม่รู้ตื้นลึกบางหนาของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะลงมือ

ถ้าเกิดอีกฝ่ายมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา งานนี้ ถึงแม้จะให้เป็นแสน หลิวเหล่าซานก็จะไม่รับ

“ผมถามมาแล้ว พ่อแม่ของไอ้หมอนั่น ล้วนเป็นชาวนาธรรมดาๆเท่านั้น มาจากทางด้านตงไห่”

“ชื่อว่าหลี่ฝาง”

หลิวเสี่ยวเทาพูดว่า: “อาสาม ไอ้คนที่ชื่อหลี่ฝางคนนี้ ไม่มีพื้นหลังอะไร แต่ว่าข้างตัวของเขา ก็มียอดฝีมืออยู่คนหนึ่ง”

“ก็ไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นยอดฝีมือมั้ง แต่เขาสู้กับครูผู้ฝึกของเราแล้วเสมอกันได้ ดูเหมือนจะเป็นมวยทหารอะไรนี่แหละ” หลิวเสี่ยวเทาพูดเสริม

“แม่ง มวยทหารนั่นมันร้ายกาจอย่างไร”

หลิวเหล่าซานดูถูกอย่างมาก: “ในเมื่อไอ้หมอนั่นไม่มีไม่มีภูมิหลังอะไร งั้นงานนี้ ฉันจะรับไว้แล้วกัน”

ปกติ ส่วนใหญ่แล้วหลิวเหล่าซานได้รับแต่งานของพวกแก๊งต่างๆ ไม่ง่ายที่ตอนนี้จะได้พบกับนักเรียนยากจนคนหนึ่ง นี่เท่ากับบีบไปเจอลูกพลับอ่อน(รังแกคนที่อ่อนแอรังแกได้ง่าย)

หลิวเหล่าซานจะพลาดได้เหรอ?

ไม่พลาดแน่นอนอยู่แล้ว

“อาสาม งั้นอารอจดหมายของผมนะ” หลิวเสี่ยวเทาพูดจบ ก็อยากจะไป

ตอนที่กำลังจะจากไป หลิวเหล่าซานเรียกเขาเอาไว้: “เดี๋ยวก่อน เสี่ยวเทา!”

“ฉันจำได้ว่าคุณชายสวีสวีเถิงเฟย ใช้เงินมือเติบมาตลอด เขาให้แค่สามหมื่นหยวนจริงๆเหรอ?” หลิวเหล่าซานขมวดคิ้ว มองดูหลิวเสี่ยวเทาด้วยความสงสัย: “ฉันว่านะเสี่ยวเทา แกคงไม่ได้แอบอมเงินอาส่วนหนึ่งเงียบๆใช่ไหม?”

“อาสาม จะเป็นไปได้อย่างไรล่ะ”

หลิวเสี่ยวเทายิ้มอย่างใจเย็น: “ผมจะไปมีความกล้าที่ไหนมาอมเงินของอากัน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท