เหยนเสี่ยวน่ามองไปที่หลี่ฝาง: “ทำไม คุณก็มีญาติเป็นคณะกรรมการบริหารโรงเรียนด้วย?”
หลี่ฝางส่ายหน้า พูดว่า: “ก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก”
หลังจากที่หลี่ฝางรู้ว่าลู่หลุ่ยก็ถูกมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่รับเข้าแล้ว หลี่ฝางก็บอกกับหลี่ต๋าคางว่า ตัวเองก็อยากไปมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่เหมือนกัน
และลี่ต๋าคาง ใช้เวลาไปแค่ไม่ถึงสิบนาที ก็บอกหลี่ฝาง ว่าเขาถูกรับเข้าสุ่ยมู่แล้ว
สิบนาที ก็เอาโควตาของมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่มาได้ ช่วงเวลาสั้นๆแค่นี้ ก็มีแต่ผู้อำนวยการเท่านั้นที่ทำได้
ซึ่งก็หมายความว่า หลี่ต๋าคางสามารถคุยกับผู้อำนวยการได้ และการพูดคุยนั้น ยังมีน้ำหนักอย่างมาก
……
หลิวเสี่ยวเทาหนีออกจากโรงเรียน ตอนที่กำลังจะไปโรงพยาบาล กลับเห็นรถเบนท์ลีย์จอดอยู่ที่ประตูโรงเรียน
หลิวเสี่ยวเทาเห็นรถเบนท์ลีย์ ตัวสั่นครู่หนึ่ง
นี่คือรถของสวีเถิงเฟย
ในเวลานี้ กระจกรถของเบนท์ลีย์เลื่อนลง สวีเถิงเฟยยื่นหน้าออกมา กวักมือเรียกหลิวเสี่ยวเทา ความหมายคือให้เขาเข้าไป
หลิวเสี่ยวเทาลังเลครู่หนึ่ง แต่ก็เดินเข้าไป
เพิ่งขึ้นรถไป หลิวเสี่ยวเทาก็ต้องการเอ่ยปากอธิบาย
เสียงตบเพียะดังขึ้นมา
หลิวเสี่ยวเทายังไม่ทันได้เอ่ยปากพูด สวีเถิงเฟยก็ตบหน้าเขาไปหนึ่งครั้ง
“หลิวเสี่ยวเทา นายทรยศฉันใช่ไหม?” สวีเถิงเฟยมองหลิวเสี่ยวเทาอย่างเย็นชา
หลิวเสี่ยวเทาสีหน้าเคร่งเครียดลงมา เขาเคยรับปากสวีเถิงเฟย ไม่ว่าอย่างไร ก็จะไม่มีทางซัดทอดถึงสวีเถิงเฟย
“พี่เฟย ผมก็ไม่อยากเหมือนกัน แต่ไอ้หมอนั่นมันโหดร้ายมาก มันหักนิ้วมือผมหักไปหนึ่งนิ้ว!” หลิวเสี่ยวเทาพูดอย่างจนปัญญา
“ช่างเถอะ พี่เฟย ข้างตัวของไอ้หมอนั่นมียอดฝีมือคนหนึ่ง ต่อสู้เก่งมากจริงๆ บรรดาพี่น้องสุ่ยมู่ของผม ถูกไอ้หมอนั้นตีจนล้มลงไปกองกับพื้น”
“ผมเอาคืนเงินให้ไปพี่ดีกว่า” หลิวเสี่ยวเทาพูด
“คืนเงิน?” สวีเถิงเฟยยิ้มอย่างเหยียดหยาม: “เงินไม่ต้องคืนแล้ว นอกจากนี้ ฉันยังจะให้เงินนายไปอีกก้อนหนึ่ง”
“พี่เฟย ผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม? พี่ยังจะให้เงินผมอีก?”
หลิวเสี่ยวเทาอึ้งไป
นี่มันเรื่องอะไรกัน ตัวเองทำให้เรื่องพังไม่เป็นท่าแท้ๆ ไม่เพียงไม่ได้จัดการกับหลี่ฝาง ยังซัดทอดสวีเถิงเฟยออกมาอีก
สวีเถิงเฟยคนนี้ไม่หาเรื่องตัวเองก็แล้วไปเถอะ นี่ยังจะให้เงินตัวเองอีก?
นี่มันหมายความว่าอย่างไร?
หลิวเสี่ยวเทาสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไป
สวีเถิงเฟยหยิบเงินออกมาอีกสองปึก วางไว้ในมือของหลิวเสี่ยวเทา: “นี่เป็นเงินสองหมื่นหยวน”
“นายเอาเงินก้อนนี้ ไปหาอาของนายหลิวเหล่าซาน”
“ไอ้หมอนั่นเป็นแค่มวยทหารนิดหน่อยเท่านั้นแหละ ไม่ใช่ยอดฝีมืออะไรเลย นายไปหาอาของนาย ให้อาของนายพาคนมาเยอะหน่อย ตีขาของหลี่ฝางให้หักข้างหนึ่งให้ฉัน”
“สองหมื่นหยวนนี้ เป็นแค่มัดจำเท่านั้น หลังจากเสร็จเรื่อง ฉันจะให้พวกนายอีกสามหมื่นหยวน” สวีเถิงเฟยพูดและยิ้มอย่างเย็นชา
หลิวเสี่ยวเทาตาสว่างขึ้นมาทันที
ก่อนหน้านั้น สวีเถิงเฟยให้หลิวเสี่ยวเทาไปแค่หนึ่งหมื่นหยวนเท่านั้น ให้หลิวเสี่ยวเทาสั่งสอนหลี่ฝางให้หนัก อย่างน้อยก็ต้องซ้อมเขาให้เข้าโรงพยาบาล ให้เขานอนอยู่ในโรงพยาบาลซักหนึ่งอาทิตย์
ตอนนั้นสวีเถิงเฟยรับปาก ค่ารักษาพยาบาลอะไรพวกนั้น เขาจะช่วยแบกรับไว้
พูดตามตรงก็คือ งานที่ให้ไปเล่นงานหลี่ฝางครั้งที่แล้ว ค่าตอบแทนก็แค่หนึ่งหมื่นหยวนเท่านั้น
แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป ครั้งนี้ได้ตั้งห้าหมื่นหยวน
และในห้าหมื่นหยวนนี้ หลิวเสี่ยวเทาให้อาของแค่สามหมื่นหยวนเท่านั้นก็พอ
สวีเถิงเฟยกลอกตามองหลิวเสี่ยวเทาครู่หนึ่ง: “ฉันรู้ราคาค่าใช้จ่ายของหลิวเหล่าซาน สามหมื่นหยวนสำหรับขาหรือแขนข้างหนึ่ง ห้าหมื่นสำหรับคู่หนึ่ง”
“นายจะให้อานายเท่าไหร่ ฉันไม่สน อย่างไรก็ตาม ฉันให้เงินนายห้าหมื่นหยวน นายให้อาของนายตีขาหลี่ฝางให้หักข้างหนึ่ง โอเค?” สวีเถิงเฟยถาม
“โอเค!” หลิวเสี่ยวเทาทำมือโอเค
หลิวเสี่ยวเทาตื่นเต้นขึ้นมาทันที
ดึงเงินออกมาจากอาตัวเองสองหมื่นหยวน และอีกหนึ่งหมื่นหยวนที่สวีเถิงเฟยให้ตัวเองก่อนหน้านั้น สวีเถิงเฟยก็ไม่เอาแล้ว
นี่บวกกันขึ้นมา รวมกันเป็นสามหมื่นหยวนแล้ว
ถึงแม้ฐานะทางบ้านของหลิวเสี่ยวเทาจะดีมาก แต่เงินค่าขนมเขาก็ไม่ได้มากมายเท่าไหร่
ทุกๆเดือนหลิวเสี่ยวเทาจะใช้เงินไปกับแฟนสาวของตัวเอง เป็นจำนวนเงินกว่าหมื่นหยวน
ค่าใช้จ่ายที่มหาศาลขนาดนี้ อาศัยแค่เงินค่าขนมเล็กๆน้อยๆนั่นของหลิวเสี่ยวเทา มันไม่พออยู่แล้ว
ดังนั้นในเวลาปกติ หลิวเสี่ยวเทาจึงมักจะทำงานให้ทายาทเศรษฐีพวกนี้อยู่บ่อยๆ ทายาทเศรษฐีพวกนี้ก็ใจป้ำมาก ทุกครั้งที่ทำงานให้พวกเขาเสร็จเรียบร้อย อย่างน้อยก็จะได้ค่าตอบแทนพันสองพันหยวน
หลิวเสี่ยวเทาออกมาจากรถ ถือเงินสองหมื่นหยวนเอาไว้ โรงพยาบาลก็ไม่ไปแล้ว ไปหาอาของเขาหลิวเหล่าซานโดยตรง
หลิวเหล่าซานมีห้องคาสิโนอยู่ร้านหนึ่ง อยู่ใกล้ๆกับโรงเรียนนี่แหละ
เดินไปไม่ถึงสิบนาที หลิวเสี่ยวเทาก็มาถึงห้องคาสิโนร้านนี้
“เสี่ยวเทา แกมาได้ไง? มาหาอาแกเหรอ”
ในวันธรรมดา หลิวเสี่ยวเทามักจะมาห้องคาสิโนร้านนี้บ่อยๆ ดังนั้น คนที่นี่ ล้วนคุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดี
“ใช่ครับ คุณอากวนจื่อ อาสามของผมล่ะครับ” หลิวเสี่ยวเทาถาม
“อาสามแก? อาสามแกกำลังนอนหลับอยู่ในห้องน่ะ”
หลิวเสี่ยวเทาพยักหน้า:“คุณอากวนจื่อเล่นไปก่อนเถอะ ผมหาอาสามผมมีธุระนิดหน่อย”
มาถึงหน้าบ้านหลังเล็กหลังหนึ่ง หลิวเสี่ยวเทาก็ไม่ได้เคาะประตู ผลักเปิดประตูโดยตรง
เวลานี้ภายในบ้าน ไอ้หน้าหนวดคนหนึ่งกำลังเปลือยกายอยู่
ผู้หญิงคนนั้นแต่งหน้าหนาเตอะ ก็ไม่กล้าส่งเสียง กลัวคนที่เล่นไพ่อยู่ข้างนอกจะได้ยิน
“เจ้าเด็กเปรตคนนี้ ทำไมถึงไม่เคาะประตู!”
หลิวเหล่าซานด่าหลิวเสี่ยวเทาอย่างดุเดือด
“รีบปิดประตูเร็วเข้า” หลิวเหล่าซานจ้องหลิวเสี่ยวเทาครู่หนึ่ง
ในเวลานั้นหลิวเสี่ยวเทาตะลึงงันไป อึ้งไปสองสามวินาทีถึงจะกลับมามีสติอีกครั้ง แล้วไปปิดประตูเอาไว้
เขามองดูผู้หญิงที่อยู่บนเตียง มองตะลึงไป
รูปร่างของผู้หญิงคนนี้ ช่างดีเหลือเกิน
“มองอะไร แกไม่เคยเห็นหรือไงกัน!” หลิวเหล่าซานกลอกตาใส่หลายชายของตัวเอง และใช้ผ้าห่มคลุมผู้หญิงคนนั้นเอาไว้
“มาหาฉันด้วยความรีบร้อนแบบนี้ มีธุระเหรอ?”
หลิวเหล่าซานใส่เสื้อผ้าเสร็จ ลงมาจากบนเตียง
“ทางที่ดีแกควรจะมีธุระที่มาหาฉัน ถ้าไม่อย่างนั้น……” หลิวเหล่าซานมองดูหลิวเสี่ยวเทาอย่างเย็นชา: “ถ้าไม่อย่างนั้นต่อไปอย่าคิดที่จะมาห้องคาสิโนของฉันอีก”
เห็นได้ชัดว่าหลิวเหล่าซานไม่พอใจแล้ว
ถูกขัดจังหวะเรื่องดีๆไม่ว่าใครก็ต้องอารมณ์เสียอยู่แล้ว
รวมไปถึงผู้หญิงที่อยู่บนเตียงคนนั้นด้วย สีหน้าของเธอก็ดูแย่มากเหมือนกัน สายตาที่มองหลิวเสี่ยวเทา ดูเหมือนกับอยากจะกินคน
หลิวเสี่ยวเทารีบควักสองหมื่นหยวนที่อยู่ในอกออกมา วางเอาไว้บนโต๊ะ
พอเห็นเงิน สีหน้าของหลิวเหล่าซาน ดูดีขึ้นมากในทันที
“อาสาม อายังจำไหมว่าผมมีเพื่อนคนหนึ่งที่ชื่อสวีเถิงเฟย?” หลิวเสี่ยวเทาถาม
“จำได้แน่นอนอยู่แล้ว คุณชายใหญ่ตระกูลสวี ฉันจะลืมได้ไหม? ไอ้หมอนั่นเป็นถึงเจ้านายที่มีเงินนะ” หลิวเหล่าซานพูด
หลังจากนั้น หลิวเหล่าซานก็คาดเดาออกมาในทันที: “เงินนี่ เป็นของสวีเถิงเฟย?”
“ใช่ สวีเถิงเฟยต้องการให้อาทำงานหนึ่งให้เขา ที่โรงเรียนเรามีเด็กผู้ชายคนหนึ่งไม่มีตา ล่วงเกินสวีเถิงเฟยเข้า ดังนั้นสวีเถิงเฟยจึงต้องการจะหักขาเขาข้างหนึ่ง”
“ขาข้างหนึ่ง?”
หลิวเหล่าซานรู้สึกโกรธเล็กน้อย: “เขาให้เงินฉันแค่สองหมื่นหยวนเนี่ยนะ?”
“ราคาในวงการของกูอยู่ที่สามหมื่นนะโว้ย!” หลิวเหล่าซานพูดด้วยความโกรธ
“อย่าโกรธไปสิ อาสาม สองหมื่นนี้ เป็นแค่มัดจำเท่านั้น หลังจากที่อาทำงานเสร็จแล้ว เขาจะให้เงินอาอีกหนึ่งหมื่นหยวน” หลิวเสี่ยวเทารีบพูด
“งั้นก็ค่อยยังชั่วหน่อย” หลิวเหล่าซานพยักหน้า
“อาสาม นี่อาตกลงแล้วใช่ไหม?” หลิวเสี่ยวเทาถามด้วยความดีใจ
“ไอ้หมอนั่นมีที่มาอย่างไร?” หลิวเหล่าซานถาม
หลิวเหล่าซานไม่ใช่คนมุทะลุ ไม่รู้ตื้นลึกบางหนาของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะลงมือ
ถ้าเกิดอีกฝ่ายมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา งานนี้ ถึงแม้จะให้เป็นแสน หลิวเหล่าซานก็จะไม่รับ
“ผมถามมาแล้ว พ่อแม่ของไอ้หมอนั่น ล้วนเป็นชาวนาธรรมดาๆเท่านั้น มาจากทางด้านตงไห่”
“ชื่อว่าหลี่ฝาง”
หลิวเสี่ยวเทาพูดว่า: “อาสาม ไอ้คนที่ชื่อหลี่ฝางคนนี้ ไม่มีพื้นหลังอะไร แต่ว่าข้างตัวของเขา ก็มียอดฝีมืออยู่คนหนึ่ง”
“ก็ไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นยอดฝีมือมั้ง แต่เขาสู้กับครูผู้ฝึกของเราแล้วเสมอกันได้ ดูเหมือนจะเป็นมวยทหารอะไรนี่แหละ” หลิวเสี่ยวเทาพูดเสริม
“แม่ง มวยทหารนั่นมันร้ายกาจอย่างไร”
หลิวเหล่าซานดูถูกอย่างมาก: “ในเมื่อไอ้หมอนั่นไม่มีไม่มีภูมิหลังอะไร งั้นงานนี้ ฉันจะรับไว้แล้วกัน”
ปกติ ส่วนใหญ่แล้วหลิวเหล่าซานได้รับแต่งานของพวกแก๊งต่างๆ ไม่ง่ายที่ตอนนี้จะได้พบกับนักเรียนยากจนคนหนึ่ง นี่เท่ากับบีบไปเจอลูกพลับอ่อน(รังแกคนที่อ่อนแอรังแกได้ง่าย)
หลิวเหล่าซานจะพลาดได้เหรอ?
ไม่พลาดแน่นอนอยู่แล้ว
“อาสาม งั้นอารอจดหมายของผมนะ” หลิวเสี่ยวเทาพูดจบ ก็อยากจะไป
ตอนที่กำลังจะจากไป หลิวเหล่าซานเรียกเขาเอาไว้: “เดี๋ยวก่อน เสี่ยวเทา!”
“ฉันจำได้ว่าคุณชายสวีสวีเถิงเฟย ใช้เงินมือเติบมาตลอด เขาให้แค่สามหมื่นหยวนจริงๆเหรอ?” หลิวเหล่าซานขมวดคิ้ว มองดูหลิวเสี่ยวเทาด้วยความสงสัย: “ฉันว่านะเสี่ยวเทา แกคงไม่ได้แอบอมเงินอาส่วนหนึ่งเงียบๆใช่ไหม?”
“อาสาม จะเป็นไปได้อย่างไรล่ะ”
หลิวเสี่ยวเทายิ้มอย่างใจเย็น: “ผมจะไปมีความกล้าที่ไหนมาอมเงินของอากัน