NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 196

ตอนที่ 196

บทที่196 สวีเถิงเฟยมาแล้ว

“เชื่อสิ เชื่อสิ จะไม่เชื่อได้ไงกัน?”ฉินจื่อยี่รีบพูดปฏิเสธ

ล้อเล่นบ้าอะไรเนี่ย?

จ้าวเสี่ยวตาวถือว่าอยู่ในแวดวงลูกเศรษฐี ฝีมือต่อสู้ถือว่าใช้ได้

แม้แต่เขายังถูกทำร้ายจนกระอักเลือด แล้วฉินจื่อยี่ยังจะกล้ารับคำท้าได้ไง?

“เทควันโดของจ้าวเสี่ยวตาวสุดยอดมาก ถูกคุณโจมตีจนแพ้ได้ไงนะ”ฉินจื่อยี่ยังคงไม่ค่อยจะเชื่อ

“หมัดเท้าปักบุปผาก็จอดแล้ว”หลี่ฝางพูดอย่างเหยียดหยาม

ส้าวส้วยืนอยู่ข้างๆ ก็ไม่ได้เปิดโปงหลี่ฝาง

เจ้านายชอบเสแสร้ง ก็ให้เขาเสแสร้งไปเถอะ

ถ้าส้าวส้วยเปิดโปงต่อหน้า ก็เท่ากับฉีกหน้าของหลี่ฝาง

แล้วจะน่าอายแค่ไหน?

ฉินจื่อยี่มองหลี่ฝางด้วยสีหน้าตกใจ เขากำลังคาดเดาตัวตนของหลี่ฝาง

ถึงแม้ฉินจื่อยี่ไม่เข้าใจหลี่ฝาง แต่เข้าใจน้องสาวของตัวเอง

ฉินวี่เฟยน้องสาวของตัวเอง เป็นคนสายตาเฉียบคม

เธอแนะนำหลี่ฝางให้ตัวเอง งั้นหลี่ฝางจะต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดา

ฉินจื่อยี่มองสายตาของหลี่ฝาง ไม่เหมือนเดิมโดยสิ้นเชิง

……

เวลานี้ เขาหมาป่าก็เริ่มมีคนเข้ามาเรื่อยๆ

“สวีเถิงเฟยยังไม่มาอีก?”

หลี่ฝางมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นเงาของสวีเถิงเฟย

ฉินจื่อยี่พูด:“วางใจเถอะ ก่อนสี่ทุ่ม สวีเถิงเฟยจะต้องมา”

“เพราะสี่ทุ่ม เขาหมาป่าจะปิดเขา ถึงตอนนั้น ไม่ว่ารถใดๆก็เข้ามาไม่ได้”ฉินจื่อยี่พูด

“เพื่อนผม ผมไปทักทายพวกเขาก่อน”พูดจบ ฉินจื่อยี่ก็เดินออกไป

ฉินจื่อยี่ในฐานะที่เป็น ลูกเศรษฐีที่มีชื่อเสียงในแวดวง จึงมีเพื่อนไม่น้อย

หลี่ฝางกลับมองเห็นคนหน้าคุ้นๆไม่น้อย ครั้งที่แล้วคนพวกนั้นที่เข้าร่วมงานเลี้ยงรีสอร์ต ส่วนมากก็มาที่นี่

มีมาคนมาแข่งรถ ส่วนมากคนมาเพื่อหาเพื่อน

ยังไงมีเพื่อนเยอะคอนเนคชั่นก็จะเยอะ

สายตามองคนที่มากขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้ ภาพสีขาวก็พุ่งเข้ามาในสายตาทุกคน

“ทำไมถังหยู่ซวนก็มาล่ะ?”

ถังหยู่ซวนขับปอร์เช่918ของตัวเอง ปรากฏตัวที่เขาหมาป่า

ตอนที่เห็นถังหยู่ซวน หลี่ฝางก็ยังแปลกใจหน่อยๆ

ยังไงก่อนหน้านี้ที่รีสอร์ต หลี่ฝางก็ยังจำได้ว่า เผชิญหน้ากลุ่มคนที่รายล้อมไปด้วยลูกเศรษฐี ถังหยู่ซวนก็ตกใจหนี

แต่ครั้งนี้ จู่ๆเขาก็มา

และการมาของเขา ก็ดึงดูดคนจับตามองไม่น้อย

ตามไปกับถังหยู่ซวน แล้วก็มีส่งเสียงกับโจวเจ๋อีกสองคน

หลี่ฝางเตรียมจะไปหาถังหยู่ซวน จู่ๆผู้หญิงสวมต่างหูก็เดินเข้ามา

“คุณจริงๆด้วย!”

“ฉันคิดว่าตัวเองมองผิดซะอีก”

ผู้หญิงสวมต่างหูมองหลี่ฝางอย่างแปลกใจ:“คุณมาอยู่นี่ได้ไง?เมื่อก่อนทำไมไม่เคยเห็นคุณ”

“ฉันได้ยินว่าคืนนี้มีคนแข่งรถที่เขาหมาป่า ก็เลยมาร่วมสนุกสักหน่อย”หลี่ฝางพูด

“ฟังคุณพูดแล้ว เหมือนคุณจะมาที่เขาหมาป่าบ่อยๆ”หลี่ฝางมองผู้หญิงสวมต่างหูอย่างดีใจ

ผู้หญิงสวมต่างหูหัวเราะ พูดอย่างภูมิใจ:“ไม่บ่อยหรอก ทุกเดือนพี่สาวจะมา”

“หลี่ฝาง คุณมาที่นี่ครั้งแรก เพิ่งมาที่เขาหมาป่า แต่ทำเรื่องอะไรมั่วๆล่ะ ฉันบอกคุณให้นะ คืนนี้ที่มาเขาหมาป่า ต่างเป็นคนมีสถานะทั้งนั้น”ผู้หญิงสวมต่างหูพูดกับหลี่ฝาง

หลี่ฝางพยักหน้า ถามผู้หญิงสวมต่างหู:“คุณก็เป็นนักแข่งรถเหรอ?”

“ฉันไม่ใช่ แฟนฉันต่างหากล่ะ”ผู้หญิงสวมต่างหูพูดไปยังที่ไม่ไกลจากตรงนั้น แล้วผู้ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามา

“แนะนำให้คุณรู้จัก หลิวจินหยาง แฟนฉันเอง”ผู้หญิงสวมต่างหูพูดแนะนำ

“หมองหมอง เด็กคนนี้ใคร?”หลิวจินหยางมองหลี่ฝาง ใบหน้าไม่ค่อยพอใจ

“เพื่อนนักเรียนฉันเอง หลี่ฝาง”ผู้หญิงสวมต่างหูพูด:“และก็เป็นแฟนของเพื่อนสนิทฉัน”

“ก็ลู่หลุ่ยคนนั้นไง ครั้งที่แล้วที่กินข้าวด้วยกันน่ะ”เงียบไป ผู้หญิงสวมต่างหูก็พูดเสริม

หลิวจินหยางได้ยินคำนี้ ก็ขมวดคิ้ว:“เขาคือแฟนของลู่หลุ่ย?”

“ห่า ลู่หลุ่ยตาบอดเหรอไง?”หลิวจินหยางพูดตรงๆ

ตอนนั้นหลี่ฝางก็โมโห เขาเดินก้าวเข้ามา พูดกับหลิวจินหยาง:“แม่เอ๊ยพูดอะไรน่ะ”

“ผมบอกว่าคุณไม่เหมาะสมกับลู่หลุ่ยไง ทำไม?”

“คุณไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองเลย ……คุณนี่ ทำไมจีบลู่หลุ่ยได้?”หลิวจินหยางมองสำรวจหลี่ฝางหัวจรดท้า พูดดูถูก:“ดูจากสภาพคุณแล้ว ก็ไม่เหมือนคนมีเงินอะไรนัก”

“เกี่ยวอะไรกับคุณ”หลี่ฝางพูดอย่างเซ็งๆ

ถ้าไม่ได้เห็นแก่หน้าของผู้หญิงสวมต่างหู หลี่ฝางก็ลงมือแล้ว

ผู้หญิงสวมต่างหูอึดอัดหน่อยๆ เธอผลักแฟนของตัวเอง พูดเบาๆ:“คุณทำอะไรน่ะ ลู่หลุ่ยเธอจะหาแฟนยังไง ก็เรื่องของลู่หลุ่ยเขาสิ คุณพูดบ้าอะไรน่ะ”

“อีกอย่าง หลี่ฝางไม่ได้ขี้เหร่ไปกว่าคุณด้วย”ผู้หญิงสวมต่างหูกลอกตาใส่หลิวจินหยางเขม็ง

หลิวจินหยางไม่พอใจแล้ว:“หมองหมอง คุณพูดแบบนี้หมายความว่าไง คุณว่าผมหล่อน้อยกว่าไอ้เด็กนี่เหรอ?ห่าเอ๊ย คุณตาบอดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

“คุณต่างหากที่ตาบอด”

ผู้หญิงสวมต่างหูพูดโกรธๆ:“พอแล้ว ไปเล่นกับรถของคุณเถอะไป”

“คุณอยู่ให้ห่างไอ้เด็กนี่หน่อย”หลิวจินหยางสั่งผู้หญิงสวมต่างหู แล้วเดินไปที่รถของตัวเอง

รถของหลิวจินหยาง เป็นMustangคันหนึ่ง

ถึงรถคันนี้ไม่ถูก แต่อยู่ในที่เขาหมาป่า ก็ถือว่าเป็นรถไม่กี่รุ่นที่ถูกที่สุด

แต่เทคนิคขับรถของหลิวจินหยางไม่เลว ทุกวันที่หนึ่งของทุกเดือน เขาจะพาผู้หญิงสวมต่างหูมาแข่งรถทุกครั้ง

ผู้หญิงสวมต่างหูไม่ฟังที่หลิวจินหยางสั่ง เดินมาตรงหน้าหลี่ฝาง:“หลี่ฝาง ขอโทษนะ ฉันขอโทษแฟนฉันด้วย”

“เขาก็เป็นแบบนั้น พูดอะไรไม่ค่อยดีนัก แต่จิตใจไม่เลว”

หลี่ฝางเบะปากไม่พูดอะไร ในใจอัดอั้นความโกรธไว้ชัดเจน

“คุณหาแฟนแบบนี้ได้ไงกันเนี่ย”

หลี่ฝางพูดอย่างพูดไม่ออก:“ก่อนเขาพูด ไม่คิดก่อนบ้างหรือไงกัน?”

“แม้แต่คำอะไรที่ควรพูด อะไรที่ไม่ควรพูดก็ยังแยกไม่ออก”

“เอาน่า อย่าโกรธนะ วันไหนพี่จะเลี้ยงคุณกับลู่หลุ่ยกินข้าว โอเคนะ”ผู้หญิงสวมต่างหูพูดอย่างขอโทษ

“งั้นคุณก็อย่าเรียกแฟนมาล่ะ”หลี่ฝางพูด

หลี่ฝางคิดว่าหลิวจินหยางนี้ค่อนข้างแย่จริงๆ

หลี่ฝางมองเวลา ตอนนี้สามทุ่มครึ่งแล้ว

เขาหมาป่าในตอนนี้ ก็คึกคักขึ้นมา

สาวสวยสวมบิกินี่กลุ่มหนึ่ง ก็โบกไม้โบกมือตรงหน้าหลี่ฝาง

แล้วรถหรูแต่ละคันๆ ก็จอดเรียงกันเป็นแถวๆ

เวลานี้ ในที่สุดถังหยู่ซวนก็เห็นหลี่ฝาง เขาวิ่งเข้ามา ถามอย่างแปลกใจ:“หลี่ฝาง คุณก็มาเหรอ?”

“ใช่ ผมมาทำอะไรนิดหน่อย”

“คุณล่ะ?”หลี่ฝางมองถังหยู่ซวนแล้วถาม

“ผมได้ยินโจวเจ๋พูดว่าวันนี้เขาหมาป่ามีการแข่งแข่งรถครั้งใหญ่ ก็เลยมาน่ะ”ถังหยู่ซวนพูด

หลี่ฝางหัวเราะ:“คุณก็เข้าร่วมแข่งรถ?”

“ใช่ ผมลืมขอความคิดเห็นของคุณเลย ยังไงปอร์เช่918นี้ ที่จริงก็เป็นของคุณ”ถังหยู่ซวนถามอย่างอึดอัด

“ระวังหน่อย อย่าขับเร็วไปล่ะ”หลี่ฝางพยักหน้า พูดสั่ง

ถังหยู่ซวนหมดคำพูด แข่งรถนี้ มีใครบ้างห้ามคนอื่นอย่าขับเร็วไป?

ไม่ขับเร็ว จะเรียกแข่งรถไหม?

“วางใจน่ะ ผมจะระวังความปลอดภัย”ถังหยู่ซวนพูดยิ้มๆ

คุยถามไถ่ไม่กี่คำ ถังหยู่ซวนก็พูด:“เหลืออีกยี่สิบนาทีก็เริ่มแล้ว ผมขอไปคุ้นเคยเส้นทางก่อนนะ”

“ไปเถอะ”หลี่ฝางโบกมือให้

ถังหยู่ซวนออกไป ฉินจื่อยี่ก็เข้ามา

“คุณกับเขาเป็นเพื่อนรักกันเหรอ?”ฉินจื่อยี่ชี้ไปที่ถังหยู่ซวน ถามไป

หลี่ฝางพยักหน้า:“ใช่”

“ได้ยินว่าเขาคือหลานชายของหลี่เจียเฉินคุณท่านหลี่ ผมดูจากสภาพเขาแล้ว ไม่เหมือนเลย”ฉินจื่อยี่ส่ายหน้า พูด:“แต่รถของเขา โคตรเจ๋ง”

“ปอร์เช่918 ราคายี่สิบกว่าล้าน แพงกว่ารถของผมอีก”

ถ้าถังหยู่ซวนไม่มา งั้นเฟอร์รารี่ของฉินจื่อยี่ ก็คือรถที่แพงที่สุดในเขาหมาป่า

พอถังหยู่ซวนมา ปอร์เช่918ก็แย่งซีนเฟอร์รารี่ของฉินจื่อยี่เลย

“แต่ความเร็วรถเขาไม่เร็วเท่าผม เครื่องยนต์อะไรก็ปรับแต่งมาหมดแล้ว”ฉินจื่อยี่มองปอร์เช่918 ส่ายหน้าแบบเหยียดหยาม

“นอกจากเทคนิครถของเขาจะดีกว่าผม ไม่งั้น ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม”ฉินจื่อยี่พูดอย่ามั่นใจ

พอพูดจบ ปอร์เช่918ก็ขับออกไป

หลี่ฝางไม่สนใจหัวข้อเรื่องแข่งรถ ไม่ว่าใครเร็ว หลี่ฝางก็ไม่อยากรู้ทั้งนั้น

หลี่ฝางมองฉินจื่อยี่ ถามว่า:“ใกล้จะเริ่มอยู่แล้ว สวีเถิงเฟยทำไมยังไม่มาล่ะ?”

“สรุปเขาจะมาหรือไม่มา?”หลี่ฝางขมวดคิ้วพูด

“เขามาแล้ว”

เพิ่งพูดจบ ฉินจื่อยี่ก็ชี้ไปที่เบนท์ลีย์คันนั้นแล้วพูด:“นั่นรถเขา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท