NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 200

ตอนที่ 200

บทที่200 ผู้วิ่งแข่งหายไป

ทุกคนต่างคาดหวังว่าMustangจะคว้าแชมป์ นอกจากสวีเถิงเฟยคนเดียว

สวีเถิงเฟยเอาสิบล้านไปไว้ที่ลัมโบร์กีนีแล้ว ถ้าMustangชนะ งั้นสิบล้านของเขา ก็จะหายไปกับตา

ที่สำคัญก็คือ เงินจำนวนนี้เขายืมมาจากเงินกู้ดอกเบี้ยสูง คนพวกนั้น สวีเถิงเฟยไปยุ่งด้วยไม่ได้

ถ้าคืนไม่ได้ ผลจะเป็นอย่างไรไม่อยากจะจินตนาการเลย

“จะต้องชนะ!”สวีเถิงเฟยกัดฟัน จ้องลัมโบร์กีนี

……

ตอนนี้ เหลือแค่ห้าทางโค้งแล้ว

Mustangตามลัมโบร์กีนีคันนั้นไปติดๆ แต่ไม่สามารถแซงได้

“เห้อ”

ราชาหมาป่าถอนหายใจ รู้สึกว่าไม่น่าจะเกิดปาฏิหาริย์

ยังไง สมรรถภาพของรถคันนั้น ก็ห่างกันเยอะ

ลัมโบร์กีนีราคาเป็นสิบล้าน Mustangราคาแค่ไม่กี่แสน สองคันนี้เป็นรถคนละเกรดเลย จะเทียบได้ไง?

“น่าเสียดายจริงๆ”

ทุกคนต่างเงียบไปที่Mustang เหมือนว่าMustangแพ้แล้ว

“หลังจากทางโค้กหักศอกสามสิบหก ก็เป็นทางตรง พอทางตรง ความเสียเปรียบของMustangก็จะมาก จนMustangแพ้”เสียงของราชาหมาป่าเงียบเหงามาก

“ถ้าที่เขาแข่งไม่ใช่Mustang แต่เป็นGTRของผม เขาต้องชนะแน่”

“รอการแข่งครั้งถัดไป ผมจะเอา GTRของผมให้เขายืม ไม่สิ ให้เขาเลย”ลูกเศรษฐีที่ขับGTRพูด

ทางโค้กหักศอกสามสิบ ก็เหลือแค่อันเดียวแล้ว

Mustangแพ้แน่

“นอกจากรถของเขาจะบินได้ ไม่อย่างนั้น เขาก็ไม่มีทางชนะ!”ราชาหมาป่าพูด

ราชาหมาป่าพูดจบ จู่ๆ Mustangจะบินขึ้นจริงๆ

Mustangเขาพุ่งตรงไปที่หน้าผา และขับรถลงมาจากใต้หน้าผา

ความลาดชันของหน้าผา ถึงแม้จะแค่มุมสี่สิบห้า แต่รถที่เร็วขนาดนั้น จะขับลงไปตรงๆ รถไม่คว่ำก็แปลกมากแล้ว

“เขาไม่กลัวตาย?”

“นี่ไม่ใช่การแข่งขัน นี่คือการเล่นกับชีวิต!”

Mustangบินขึ้นมา เขาบินขึ้นกลางอากาศประมาณเจ็ดแปดเมตร แล้วจึงตกไปที่หน้าผาลาดชัน

“พระเจ้า โคตรน่ากลัวเลย เขาเลือกที่หน้าผาที่เป็นทางลัดนี้……”

สมแล้วที่Mustangเป็นตัวแทนของรถกล้ามเนื้อจากอเมริกัน ตกลงจากกลางอากาศที่สูง รถยังคงสภาพสมบูรณ์

บิดงอไปแป๊บเดียว ในที่สุดMustangก็ควบคุมพวงมาลัยของตัวเองได้

“รถไม่คว่ำด้วย!”

“ผู้วิ่งแข่งไม่ได้ตาย สุดยอดจริงๆ!”

“เขา……สร้างปาฏิหาริย์อีกแล้ว”สีหน้าของราชาหมาป่า ตะลึงโดยสิ้นเชิง

เขาไม่เคยเห็นทักษะแข่งรถที่มีสีสันเช่นนี้

ถึงแม้ทั้งโลก เทคนิคขับรถเช่นนี้ มีเพียงแค่หนึ่งเดียวแน่นอน

ราชาหมาป่าคิดไม่ถึงเลย จู่ๆMustangจะเลือกพึ่งหน้าชันเพื่อเร่งความเร็วให้ตัวเอง

นักแข่งรถที่มีความกล้าแค่ไหน ก็ไม่กล้าบ้าคลั่งเช่นนี้!

Mustangใช้ความลาดชันของหน้าผา ความเร็วเกือบใกล้ความเร็วรถของลัมโบร์กีนี

บวกกับทางลัดนี้ ดังนั้น Mustangชนะแล้ว!

ตอนที่ลัมโบร์กีนีถึงเส้นชัย Mustangก็จอดไว้ที่เส้นชัยนานมากแล้ว

แค่Mustangคันนี้ ถูกกระแทกอย่างแรง

ทุกคนต่างเดือดดาล

ทุกคนล้อมรอบไปที่Mustang เสียงร้องตะโกนโหวกเหวกขึ้นมา

และเวลานี้ ก้นของสวีเถิงเฟยกลับทิ้งลงที่พื้น ร่างอ่อนปวกเปียกลงมา

“แพ้แล้ว แพ้แล้ว”

สวีเถิงเฟยมีใบหน้าหมดหวัง ในแววตาไร้การแสดงออกใดๆ

สิบล้านหายไปแล้ว

สวีเถิงเฟยเคยเห็นประสิทธิภาพรถของเซี่ยจือชิว ครั้งที่แล้วเขาพาเซี่ยจือชิวมาที่เขาหมาป่า พอคุ้นเคยกับเส้นทางของเขาหมาป่าแล้ว เซี่ยจือชิวก็ใช้เวลาแค่แปดนาทีสิบเอ็ดวินาที ในการแล่นรถเสร็จสิ้น

ความเร็วที่เร็วขนาดนี้ แม้แต่มู่เหวินตงมา ก็ยังพ่ายแพ้ให้เท่านั้น

มากไปกว่านั้น มู่เหวินตงกลายเป็นคนพอการไปแล้ว

ส่วนฉินจื่อยี่ เซี่ยจือชิวไม่เอาเขามาไว้ในสายตาด้วยซ้ำ

ราชาหมาป่าตอนนั้นคือผู้ทำลายสถิติของเขาหมาป่า กลายเป็นนักธุรกิจ ทิ้งการแข่งรถ

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นสวีเถิงเฟย หรือหยูเถิง ต่างคิดว่าเซี่ยจือชิวชนะแน่ร้อยเปอร์เซ็นต์

ใครจะไปคิดว่าลัมโบร์กีนีของเซี่ยจือชิวจะแพ้ให้Mustangคันหนึ่งได้?

ถ้าเอาข่าวนี้ไปบอกหยูเถิง หยูเถิงต้องไม่เชื่อแน่นอน

พูดความจริง ถ้าไม่ใช่สวีเถิงเฟยเห็นเองกับตา สวีเถิงเฟยก็ไม่เชื่อ

นี่มันแปลกประหลาดไม่น่าเชื่อจริงๆ เซี่ยจือชิวเป็นนักแข่งรถมืออาชีพ และยังได้รับแชมป์จากการแข่งขันระดับประเทศมามากมาย

ทักษะการขับรถของเขา ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก!

แพ้ได้ไงนะ?

เซี่ยจือชิวในลัมโบร์กีนี เข้าสู่ความเงียบอยู่นาน

เซี่ยจือชิวไม่เหมือนสวีเถิงเฟย สำหรับเขาแล้ว สิบล้านก็ไม่เท่าไหร่

ในสายตาเขา มีแต่ความชื่นชมนับถือ

เป็นนักแข่งรถมืออาชีพมาหลายปี ครั้งแรกที่เซี่ยจือชิวแพ้ได้อนาถขนาดนี้ แพ้ให้แค่Mustangคันเดียว

เซี่ยจือชิวแพ้อย่างยอมรับ โดยไม่มีข้อเรียกร้องใดๆ

และผู้คนก็มาตรงหน้าMustang แต่พบเพียงแค่ที่นั่งคนขับไม่มีคนอยู่

แต่ที่นั่งข้างคนขับ มีคนนอนอยู่คนหนึ่ง คนๆนี้ใส่หมวกกันน็อค มองไม่เห็นหน้า

แต่ผู้หญิงสวมต่างหูแค่มองก็ดูออกว่า นี่คือแฟนหนุ่มของเธอ หลิวจินหยาง

ผู้หญิงสวมต่างหูถลาขึ้นไป กอดหลิวจินหยางไว้ พอหลิวจินหยางฟื้นมา เขาก็มองMustangของตัวเอง ตะคอกใส่เสียงดัง

“แม่เอ๊ย นี่ใครทำเนี่ย?”ชี้ไปที่Mustangของตัวเอง แล้วหลิวจินหยางก็ต่อว่า

“ไอ้ระยำเมื่อกี๊ ตีคุณจนสลบเหรอ?”

“แม่เอ๊ย มีอะไรก็เสนอหน้ามาสิ ดันมาตีผมจนสลบ แล้วยังเอารถที่ผมรักไปชนจนแบบนี้อีก ออกมาเดี๋ยวนี้!”หลิวจินหยางร้อนใจสุดๆ

เงินออมหลายปีนี้ของหลิวจินหยาง ไปไว้ที่รถของตัวเองหมดแล้ว

ตอนนี้Mustangคันนี้ถูกชนจนกลายเป็นแบบนี้ น่าจะต้องถึงจุดที่ต้องทิ้งแล้ว

เดิมที ทุกคนคิดจะยกหลิวจินหยางขึ้น เพื่อยินดีกับเขา ประกาศว่าเขาคือแชมป์ ……

แต่หลิวจินหยางด่าแบบนี้ ทุกคนก็เข้าใจทันที เขาไม่ใช่แชมป์

เขานั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ แล่นเป็นเพื่อนไปกับผู้วิ่งแข่งที่แท้จริงเท่านั้น

“ผู้วิ่งแข่งล่ะ?”

ทุกคนต่างกำลังหาผู้วิ่งแข่ง ตามหาแชมป์ที่แท้จริง

คนนั้นที่ตีจนหลิวจินหยางสลบ โจรที่แย่งMustangของ หลิวจินหยาง……

หลายๆคนพูดไม่ออก ผู้วิ่งแข่งนี้ กลับกลายเป็นโจร?

มีทักษะการขับรถที่ยอดเยี่ยม ยังจะขโมยรถมาแข่งขัน

ลูกเศรษฐีไม่น้อยกำลังโกรธ พวกเขาบ่นในใจ:ผู้วิ่งแข่ง คุณออกมาเดี๋ยวนี้ เอาปอร์เช่ของผมให้คุณยืม เอาGTRของผมให้คุณ ……คุณแข่งอีกรอบสิ……

“ใช่สิ เวลาของเขาเท่าไหร่ ได้บันทึกไหม?”เวลานี้ ชายสวมแว่นก็ถาม

“แปดนาทีสิบวานาที ราชาหมาป่า เขาเร็วกว่าคุณห้าวินาที”

ชายสวมแว่นชื่นมชมยิ้มๆ:“คิดไม่ถึง Mustangธรรมดาๆนี้ ทำลายสถิติผมได้”

บรรทุกนี้ เก็บไว้ได้ตั้งเจ็ดปี

ชายสวมแว่นรอคอยบันทึกสถิติใหม่มาตลอด

เขารอมาเจ็ดปี ในที่สุดก็มาถึงแล้ว

“คะแนนที่แท้จริงของเขา น่าจะอยู่ในแปดนาที”ชายสวมแว่นยังคงมองสำรวจMustang แล้วส่ายหน้าพูด

Mustangคันนี้เป็นขยะมากๆ!

ปรับแต่งได้ล้มเหลวมาก ไม่สามารถเทียบได้เลยกับรถที่แข่งของเขาในตอนนั้น

“หมองหมอง เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”หลิวจินหยางถามผู้หญิงสวมต่างหู

ผู้หญิงสวมต่างหูมองหลิวจินหยาง:“คุณไม่รู้จริงๆ?”

หลิวจินหยางส่ายหน้า พูดอย่างงุนงงหน่อยๆ:“เมื่อกี๊มีคนทำผมสลบ จากนั้นผมก็ไม่รู้อะไรเลย”

“มีคนแย่งรถของคุณ ใช้รถของคุณ ขับไปชนะคนอื่น”ผู้หญิงสวมต่างหูยิ้มอย่างซับซ้อน

“อะไรนะ?นี่จะเป็นไปได้ไง!”หลิวจินหยางไม่อยากจะเชื่อ

“Mustangของผม ได้แชมป์เหรอ?”หลิวจินหยางกลืนน้ำลาย ถามผู้หญิงสวมต่างหูอีกรอบ

“ใช่ ไม่ใช่แค่ได้แชมป์ แต่ยังทำลายสถิติของราชาหมาป่าด้วย”ผู้หญิงสวมต่างหูพูดนิ่งๆ

หลิวจินหยางกลับสูดหายใจ

ในเวลานี้เอง ตู้เฟยเดินไปที่หลิวจินหยาง ถาม:“นี่ น้องชาย Mustangคันนี้ของคุณเหรอ?”

“ของผมเอง ทำไม?”หลิวจินหยางพยักหน้า

“ให้ นี่คือกุญแจรถของลัมโบร์กีนี ลัมโบร์กีนีคันนั้น เป็นของคุณ”ตู้เฟยชี้ไปที่ลัมโบร์กีนีคันนั้น เอากุญแจรถโยนให้หลิวจินหยาง

หลิวจินหยางถือกุญแจรถ หัวใจที่ตื่นเต้นก็เต้นออกมา

เวลานี้ หลิวจินหยางรู้สึกต่อคนที่ทำเขาสลบ ไม่มีความแค้นเลยสักนิด กลับกัน เขารู้สึกต่อคนนั้นที่ตีเขาจนสลบ เต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณมากๆ

“ฮ่าฮ่า ผมมีลัมโบร์กีนีแล้ว”หลิวจินหยางเข้าไปในลัมโบร์กีนี ตัวกำลังสั่นอย่างตื่นเต้น

นี่คือรถสปอร์ตราคาหลายสิบล้าน

หลิวจินหยางพยายามไปทั้งชีวิต ก็ไม่สามารถมีรถสปอร์ตได้ ……

การแข่งรถจบสิ้น คนกลุ่มหนึ่งมาที่เขาหมาป่าอย่างเงียบๆ คนกลุ่มนี้ ก็คือพวกเหยโก่ว

เหยโก่วหยิบโทรศัพท์มา โทรหาตู้เฟย:“ฮัลโหล ผมถึงแล้ว”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท