NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 201

ตอนที่ 201

บทที่201 ผู้ช่วยที่ตู้เฟยหามา

ตู้เฟยรับสาย ก่อนจะวิ่งปรี่เข้าไปหาสวีเถิงเฟย: “พี่สวี พวกเหยโก่วมาถึงแล้ว”

สวีเถิงเฟยในตอนนั้นเอง เหมือนกับเจอเรื่องซวยซ้ำซ้อน แถมยังป่วย จะไปมีอารมณ์แก้แค้นหลี่ฝางที่ไหนกัน?

“ให้เขาไปเถอะ” สวีเถิงเฟยพูดออกมาอย่างไม่มีเรี่ยวแรง

“ห๊ะ?พี่สวี ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม เหยโก่วมาถึงขนาดนี้แล้ว แต่จะให้พวกเขาไปเหรอ?” ตู้เฟยถามด้วยความลำบากใจ

สวีเถิงเฟยเงยหน้าขึ้น พลางมองตู้เฟยด้วยสายตาเย็นชา: “คุณโง่หรือเปล่าเนี่ย?”

“ข้าแพ้ไปสิบล้านแล้ว แต่ยืมมาได้ก็เพราะเหยโก่ว ถ้าเกิดให้เหยโก่วรู้ว่าฉันแพ้ไปจนหมดอีก เขาจะปล่อยฉันไปเหรอ?”

สวีเถิงเฟยขมวดคิ้วมาชนกัน พลางคิดในใจ เรื่องนี้จะให้เหยโก่วรู้ไม่ได้เด็ดขาด

ขนาดหลี่ฝาง สวีเถิงเฟยกับหลี่ฝางนั้นก็ไม่ได้สัมผัสกันมากเท่าไหร่

สวีเถิงเฟยมาหาหลิวเหล่าซานเพื่อแก้แค้นหลี่ฝาง โดยหมายถึงหยูเถิงนั้นเอง

“โอเค ฉันรู้แล้วล่ะ” ตู้เฟยพยักหน้า แววตามีความมืดมนอยู่

จากนั้นไม่นาน ตู้เฟยก็เดินมาที่อีกด้านหนึ่ง พลางเอาโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรไปหาเหยโก่ว: “พี่โก่ว คุณมาแล้วใช่ไหม”

แต่ในตอนนั้นเอง ทุกๆ คนในหมาป่ากำลังตามหา ผู้วิ่งแข่งอยู่

ผู้วิ่งแข่งหนีไปไหนแล้ว?

ทำไมไม่เจอแล้วล่ะ?!

ขนาดกล้องวงจรปิดต่างๆ ยังถ่ายไม่ติดเขาเลย หรือว่า เขาเป็นผีเหรอไงนะ?

พยานที่เห็นเพียงคนเดียว ก็คือเซี่ยจือชิว

ตอนที่เซี่ยจือชิวไปถึง ก็เห็นเงาดำออกมาจากMustang ก่อนจะเข้าไปในป่าต้นไม้ใหญ่

ก็หมายความว่า ที่ว่ากันว่า ผู้วิ่งแข่ง ตอนนี้กำลังหลบตัวอยู่ในป่าต้นไม้นั้น

แต่ว่าป่าไม้มันใหญ่ขนาดนั้น อยากจะหาเขา มันยากมากเลย

เซี่ยจือชิวถอนหายใจ จากนั้นก็ออกไปจากเขาหมาป่า

“คิดไม่ถึงเลยว่าเขาหมาป่าตัวเล็กๆ อย่างนั้น จะเก่งกาจขนาดนี้” เมื่อลงมาจากภูเขา เซี่ยจือชิวก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ยอดเขา

เซี่ยจือชิวไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะแพ้ เกรงว่ามู่เหวินตงกับราชาหมาป่าจะมาร่วมงานแข่งรถ เซี่ยจือชิวเองก็คิดว่าจะเป็นผู้ชนะ

ถึงแม้ว่าคะแนนของราชาหมาป่าจะดีมาก แต่ก็ทำตามไม่ได้เลย

เกรงว่าราชาหมาป่าเอง ยังยากที่จะทำลายสถิติของตัวเองเลย

เขามีครอบครัวแล้ว มีลูกมีภรรยาแล้ว มีบริษัท แถมยังมีสิ่งที่ต้องดูแลอีกมาก……

ชีวิตของเขามีโซ่ตรวนแล้ว คะแนนที่มากที่สุดเขาคือแปดนาทีสามสิบวินาที

แต่เซี่ยจือชิว เมื่อครู่ใช้เวลาเพียงแปดนาทียี่สิบห้าวินาที

……

เซี่ยลู่ในตอนนั้นเองพอจะมาอยู่ตรงหน้าหลี่ฝางอย่างช้าๆ พลางมองไปที่หลี่ฝางแล้วพูดออกมา: “หลี่ฝาง เดี๋ยวคุณรีบหน่อยนะ”

“ทำไมล่ะ?” หลี่ฝางถามด้วยความสงสัย

“สวีเถิงเฟยหาคนีแก้แค้นคุณ” เซี่ยลู่พูดเตือน

หลี่ฝางมองเซี่ยลู่ มีแววตาแห่งความกังวล: “จริงเหรอ?”

“จริงสิ เมื่อครู่ตอนที่พวกเขาโทรศัพท์ ฉันอยู่ตรงหน้าเนี่ย” เซี่ยลู่พูดออกมาด้วยความจริงจัง

“ให้ตายเถอะ คงไม่ใช่ไอหลิวเหล่าซานคนนั้นใช่ไหม?” หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นปมพลางพูดออกมา

เพิ่งพูดจบ หลี่ฝางก็ส่ายหัว

ไม่สิ หลิวเหล่าซานอยู่ใกล้ๆ สุ่ยมู่ แต่ระยะทางของสุ่ยมู่นั้นมันห่างจากเขาหมาป่า ก็ต้องใช้เวลาราวๆ หนึ่งชั่วโมง

ดังนั้น ความเป็นไปได้ของหลิวเหล่าซานนั้นไม่ได้มีมาก

“คนนั้นเหมือนจะชื่อเหยโก่วนะ พี่ชายเขาเหมือนจะชื่อเหยสง มีชื่อเสียงมากในเมือง”

“คุณระวังหน่อยนะ ฉันไปก่อนนะ”

“ถ้าให้ตู้เฟยมาเห็น ฉันต้องจบเห่แน่นอน” เซี่ยลู่พูดออกมาด้วยความกลัว

พูดจบ เซี่ยลู่ก็วิ่งไปที่ด้านหน้าของตู้เฟย

ตอนนี้ตู้เฟยวางสายของเหยโก่ว เขามองมาที่เซี่ยลู่: “เมื่อครู่คุณไปที่ไหนน่ะ ฉันหาคุณไม่เจอเลย?”

“เมื่อครู่ไปหาเฉียวเฉียวมาแล้ว แล้วคุยกับเธอสักพัก” เซี่ยลู่โกหก

ตู้เฟยพึมพำเสียงเย็นชาออกมา พลางพูดอย่างไม่แยแส: “มีอะไรให้คุยอะไรกับเธอล่ะ”

“เดี๋ยวส้งเสียงเล่นกับเธอจนพอแล้ว จะช้าเร็วก็ต้องทิ้งเธอ” ตู้เฟยพูดออกมาอย่างมั่นใจ

ตู้เฟยกับส้งเสียงนั้นรู้จักกันมานาน ส้งเสียงเป็นใครกันนั้น เขารู้ดีที่สุด

ส้งเสียงเชี่ยวชาญในการดูดเลือดของผู้หญิงมากที่สุดเลย เมื่อไหร่ที่ได้เลือกมาแล้ว เขาก็ไม่รู้สึกสนใจในตัวผู้หญิงคนนั้นแล้ว

แน่นอน ส้งเสียงไม่เหมือนกับลูกหลานเศรษฐีคนอื่นๆ เอามาซื้อของขวัญ ฟาดเงิน หรือเข้าไปกรอกเหล้าเข้าปากในบาร์……

ส้งเสียงนั้นโด่งดังในเรื่องความรักความสัมพันธ์มาก เขาเชี่ยวชาญในการเล่นกับความรู้สึก เขาจะค่อยๆ เล่น เพลิดเพลินกับระหว่างทาง

เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งรักเขาแล้ว แล้วเต็มใจที่จะเอาครั้งแรกของตัวเองให้กับเขา เขาก็จะออกห่าง อย่างไร้วี่แวว

มีผู้ชายมากมายที่กลายเป็นเศร้าลงเพราะว่าถูกส้งเสียงทิ้ง ยิ่งไปกว่านั้นมีผู้หญิงกรีดข้อมือฆ่าตัวตายเพราะเขาด้วย……

ตู้เฟยหัวเราะเสียงเยือกเย็นขึ้นในใจ ไม่รู้ว่าหลิวเฉียวเฉียวจะมีจุดจบอย่างไร……

แต่ผ่านไปไม่นาน ส้งเสียงยังไม่ทันจะได้หลิวเฉียวเฉียว ก็ทำให้ตู้เฟยรู้สึกแปลกใจ

การแข่งขันของเขาหมาป่าจบแล้ว ทุกคนก็ทยอยออกไป

ใบหน้าของฉินจื่อยี่นั้นไม่ค่อยพอใจมากเท่าไหร่ แต่ว่าเขาคิดว่า แพ้ให้คนแบบนี้ มันไม่น่าอายหรอก

ถึงแม้ว่ามู่เหวินตงจะอยู่ แต่ก็คงจะแพ้เช่นเดียวกัน

ขนาดสถิติที่เก็บมาได้เจ็ดปียังถูกชะล้างออกเลย การแพ้คนแบบนี้ ฉินจื่อยี่ไม่รู้สึกขายหน้าเลย

ในทางกลับกัน เขายังรู้สึกภูมิใจกับทักษะของรถที่ทำออกมาอย่างสวยงาม

“หลี่ฝาง พวกเราไปกันเถอะ”

หลังจากที่ฉินจื่อยี่กลับไปแล้ว ก็ถามหลี่ฝางออกไปประโยคหนึ่ง

หลี่ฝางส่ายหัว พลางปฏิเสธ: “คุณไปก่อนเถอะ ส้าวส้วยไปเข้าห้องน้ำ ถึงตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย”

“……”

ฉินจื่อยี่พูดอะไรไม่ออก จากนั้นก็พูดออกมา: “งั้นก็ดี ฉันไปก่อนละกัน”

ฉินจื่อยี่ขับเฟอร์รารี่ของตัวเอง ก่อนจะออกจากเขาหมาป่า

ฉินจื่อยี่เพิ่งจะออกไป หลี่ฝางก็รู้สึกเสียดาย

หลี่ฝางตบขาฉาด พลางพูดออกมา: “ให้ตายเถอะ ทำไมปล่อยให้ฉินจื่อยี่ไปล่ะ!”

ฉินจื่อยี่เป็นเครื่องรางกันภัยของตัวเอง

ถ้าเกิดว่าเขาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเหยโก่วหรือว่าเหยสง ก็ไม่กล้าทำอะไรตัวเอง

หลี่ฝางสบถออกมา เพียงไม่กี่วินาที รถของฉินจื่อยี่กลับขับออกไปไกลหลายร้อยเมตร หลี่ฝางตะโกนไม่ออกด้วยซ้ำ

“ให้ตายเถอะ ไอสารเลวส้าวส้วย ทำไมยังไม่กลับมาอีก!” หลี่ฝางด่าออกมาด้วยความโกรธ

คนต่างออกไปกันหมด แต่มีกลุ่มคนหนึ่ง กลับมาหาเขาหมาป่า

เหยโก่วขับรถเอสยูวีออกไป ตามคำบอกของตู้เฟย เพื่อมาถึงที่ยอดของเขาหมาป่า

“พี่โก่ว คุณมาแล้วเหรอ” เมื่อตู้เฟยเห็นเหยโก่ว ก็รีบเรียกต้อนรับ

แต่เมื่อสวีเถิงเฟยมองเห็นเหยโก่ว กลับตกใจจนสะดุ้งโหยง

“คุณชายสวี” เหยโก่วไม่ได้สนใจตู้เฟย ก่อนจะเดินไปทางสวีเถิงเฟย

“คุณชายสวี ทำไมคุณไปนั่งอยู่ที่พื้นล่ะ?พื้นมันเย็นขนาดนั้นเชียวนะ” เหยโก่วแซวสวีเถิงเฟยเล็กน้อย

“พี่โก่ว คุณมาได้อย่างไรกัน?” สวีเถิงเฟยมองเห็นเหยโก่ว ก็ตกใจ

เหยโก่วมีสีหน้าเปลี่ยนไป พลางพูดออกมาด้วยความไม่ค่อยพอใจ: “ไม่ใช่ว่าคุณให้ฉันมาหรอกเหรอ?”

“คุณไม่ได้บอกเหรอว่ามีไอ้หนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อหลี่ฝาง หาเรื่องคุณแล้วน่ะ คุณเจอเขาที่เขาหมาป่า เลยเรียกฉันมาเพื่อให้ตัดขาเขาทิ้งซะ” เหยโก่วขมวดคิ้วเป็นปม พลางพูดออกมา: “ทำไม ไม่แค้นแล้วเหรอ?”

เหยโก่วโบกมือ ก่อนจะเรียกให้ตู้เฟยมาหา: “ตู้เฟย ฉันถามคุณ คำนี้คุณชายสวีเป็นคนพูดใช่ไหม?”

สวีเถิงเฟยกัดฟันพลางมองตู้เฟย จากนั้นจึงพูดออกมาเสียงต่ำ: “บ้าเอ้ย คุณอยากจะฆ่าฉันเหรอ ฉันไม่ได้ให้คุณยกเลิกแล้วหรือไง?”

“พี่สวี พี่เหยโก่วมาแล้ว ทำไมจะต้องยกเลิกด้วยล่ะ”

ตู้เฟยยิ้มเจ้าเล่ห์ พลางตบไหล่ของสวีเถิงเฟย: “พี่เหยโก่วยังไม่รู้เรื่องที่คุณขโมยเงินนะ”

“คุณ……” สวีเถิงเฟยมองตู้เฟย ด้วยแววตาโหดร้าย

คำพูดคำนี้ของตู้เฟย กำลังขู่สวีเถิงเฟยอย่างเห็นได้ชัดเลย

ถ้าเกิดว่าสวีเถิงเฟยไม่เข้าข้างกับตู้เฟย แล้วตัดขาของหลี่ฝางทิ้ง งั้นเขาก็จะเอาเรื่องที่สวีเถิงเฟยขโมยเงิน ไปบอกเหยโก่ว

สวีเถิงเฟยมีใบหน้าแข็งทื่อ เขาคิดไม่ถึงเลย ว่าตู้เฟยจะกล้ามากขนาดนี้ ขนาดเขายังกล้ามาแทงข้างหลังเลย

“ฉันอะไร……”

ตู้เฟยชี้มาทางหลี่ฝาง พลางพูดกับสวีเถิงเฟย: “พี่สวี หลี่ฝางอยู่ที่นั่นไง”

“คุณอยากให้ฉันหุบปาก ก็ต้องให้พี่เหยโก่วไปตัดขาของหลี่ฝางซะ ฉันรู้ว่าพี่เหยโก่วสนิทสนมกับคุณดี คุณไปพูด พี่เหยโก่วจะต้องฟังแน่นอน” ตู้เฟยยิ้มขึ้น

สวีเถิงเฟยถอนหายใจออกมา

เหยโก่วเดินมาแล้ว พลางพูดออกมาด้วยความไม่สบอารมณ์: “คุณทั้งสองคุยอะไรกันอยู่น่ะ”

“คุณชายใหญ่สวี ไอหนุ่มนั่นมันอยู่ไหน?” เหยโก่วถามสวีเถิงเฟย

สวีเถิงเฟยมองไปทางตู้เฟย พลางกัดฟันแล้วพูดออกมา: “พี่เหยโก่ว เขาอยู่ที่นั่นไง”

สวีเถิงเฟยชี้มาทางที่หลี่ฝางอยู่

แต่หลี่ฝางเห็นว่าสวีเถิงเฟยกำลังชี้มาที่ตัวเอง ก็ดูแลส้าวส้วยต่อไปไม่ได้แล้ว เลยรีบวิ่งไปที่รถของตัวเอง

“ขวางเขาเอาไว้ อย่าให้เขาหนีไปได้!”

ตู้เฟยมองเห็นหลี่ฝางกำลังจะหนี เลยรีบตะโกนออกมา

แต่เหยโก่วนั้นยิ้มอย่างไม่แยแส: “อยากหนีเหรอ?มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท