NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 192

ตอนที่ 192

บทที่192 ไปแก้แค้นสวีเถิงเฟย

“หมายความว่าไง?”ลู่หลุ่ยถาม

หลี่ฝางหัวเราะ พูดว่า:“จะหมายความว่าไงได้ ผมอยากถามคุณ ในใจคุณแล้ว เงินสำคัญ หรือว่าผมสำคัญ?”

เงินก้อนนั้น ที่จริงหมายถึงความภาคภูมิใจของตัวลู่หลุ่ยเอง

เมื่อนานแล้ว หลี่ฝางกับลู่หลุ่ยจนเหมือนกัน และก็เคยมีความดูแคลนตัวเองเช่นกัน

เมื่อกี๊ลู่หลุ่ยบอกว่าอยู่ต่อหน้าตัวเองแล้วไม่กล้าสู้หน้า แท้จริงแล้วเป็นการดูแคลนตัวเอง

“แน่นอนว่าคุณสิ”ลู่หลุ่ยไม่คิดสักนิด พูดไปตรงๆ

“ในเมื่อผมสำคัญกว่า ทำไมคุณเลือกที่จะห่างกับผมแค่เพราะเงินก้อนนั้นล่ะ?”

หลี่ฝางพูด: “คุณคบกับผมได้เลย จากนั้นก็ค่อยๆคืนเงินไง ยังไงผมก็ไม่รีบร้อน”

หลี่ฝางไม่ต้องการเงินก้อนนี้ด้วยซ้ำ

แต่หลี่ฝางรู้ ตัวเองไม่ต้องการ ในใจของลู่หลุ่ยก็ยิ่งรู้สึกเป็นหนี้มากขึ้น

“ไม่ได้”

ลู่หลุ่ยขมวดคิ้ว ส่ายหน้าพูด:“ถ้าไม่คืนเงินคุณ ฉันก็จะไม่มีทางแน่ใจว่า เพราะคุณช่วยฉัน ฉันเป็นหนี้คุณ คิดว่าเป็นหนี้คุณ ฉันเลยคบกับคุณ หรือว่าเพราะว่าชอบคุณ จึงคบกับคุณกันแน่”

“ไม่งั้นคุณให้เวลาฉันสองสามวัน ให้ฉันคิดดูดีๆ แล้วค่อยให้คำตอบคุณ”ลู่หลุ่ยพูด

ครั้งนี้หลี่ฝางกลับเห็นด้วย

อย่างแรก ลู่หลุ่ยพูดถึงปัญหานี้ ก็เป็นสิ่งที่หลี่ฝางใส่ใจที่สุด

หลี่ฝางก็กลัวว่าลู่หลุ่ยคบกับตัวเอง เพราะว่ารู้สึกขอบใจตัวเอง ไม่ใช่เพราะความรัก

อย่างที่สอง ลู่หลุ่ยบอกว่าให้เวลาเธอสองสามวัน เวลาสองสามวันนี้ อยู่ในขอบเขตที่หลี่ฝางยอมรับได้

ลู่หลุ่ยออกไป ผู้หญิงสวมต่างหูก็กลับมา

ผู้หญิงสวมต่างหูมาตรงหน้าหลี่ฝาง ตบใส่หลังหัวหลี่ฝาง:“คุณโง่หรือเปล่าเนี่ย ให้ลู่หลุ่ยไปแบบนี้เนี่ยนะ?”

“เธอบอกว่าจะคิดดูดีๆ แล้วผมจะทำอะไรได้?”หลี่ฝางพูดอย่างไม่มีทางเลือก

“เดิมทีลู่หลุ่ยก็เป็นหญิงสาวขี้อาย ทำอะไรก็ลังเลทุกอย่าง คุณก็เป็นผู้ชายหน่อยไม่ได้หรือไง ไม่เคยเห็นประธานจอมเผด็จการ?”

“แล้วทางนี้ก็ไม่ใช่ใคร คุณคว้าลู่หลุ่ยมา ดึงเธอมากอดในอ้อมแขน จูบไปสักทีสองที ความขัดแย้งของคุณสองคนก็ไม่จบแล้วเหรอ?”

“จากนิสัยของลู่หลุ่ย จะขัดขืนได้เหรอ?ถึงจะขัดขืน แรงเธอก็ไม่เยอะเท่าคุณ”

“ยังไงในใจเธอก็ชอบคุณ ถึงคุณจะทำอะไรเธอไป เธอก็ไม่ฟ้องคุณ ดูสิทำไมคุณขี้ขลาดขนาดนี้”

หลี่ฝางได้ยินคำพูดผู้หญิงสวมต่างหูนี้ ก็ตะลึงทันที

นี่คือคำพูดที่ผู้หญิงควรพูดเหรอ?

อีกอย่างผู้หญิงสวมต่างหูคนนี้ ก็เป็นเพื่อนลู่หลุ่ยเชียว ดันมาแนะนำให้ตัวเองใช้ความรุนแรง

“ใช่สิ เมื่อกี๊พวกคุณพนันอะไรกัน?”หลี่ฝางเปลี่ยนเรื่อง

“เห้อ ที่จริงพวกเราก็รู้อยู่แล้วว่าคุณคือแฟนของลู่หลุ่ย หน้าจอโทรศัพท์ลู่หลุ่ยเป็นคุณ เมื่อกี๊คุณตามลู่หลุ่ยมา พวกเราจำคุณได้”

“ดังนั้นฉันกับพวกสาวๆเลยพนันกัน ถ้าฉันอ่อยคุณได้ ก็หมายความว่าฉันชนะ แบบนั้น พวกเราก็จะร่วมมือกันจัดการคุณสักหน่อย”

“ถ้าฉันอ่อยคุณไม่ได้ หมายความว่าฉันแพ้แล้ว ขณะเดียวกันก็หมายความว่าคุณเป็นผู้ชายทั่วๆไป ถึงตอนนั้นพวกเราก็ออกไปด้วยกัน แล้วให้พื้นที่พวกคุณสองต่อสอง”

“ใครจะไปคิดว่าคนอย่างคุณจะซื่อได้ขนาดนี้ เสียดายความตั้งใจของเราหมด”พูดไป ผู้หญิงสวมต่างหูก็จ้องหลี่ฝางเขม็ง

หลี่ฝางถอนหายใจ ไม่พูดอะไรมาก

เรื่องความรู้สึก คนนอกมองออกขนาดนี้เชียว?

จากสถาคะตัวตนของหลี่ฝางตอนนี้ ผู้หญิงที่เขาอยากได้ จะมีแบบไหนบ้างที่จะไม่ได้มา?

ฝึกทหารเสร็จส้าวส้วยก็มาหาหลี่ฝาง

“เจ้านาย เลี้ยงผมกินแฮมเบอร์เกอร์หน่อยสิ!”ส้าวส้วยพูด

หลี่ฝางหงุดหงิดหน่อยๆ แล้วยื่นบัตรโรงอาหารให้ส้าวส้วย:“คุณไปซื้อเองสิ อยากซื้อเท่าไหร่ก็ซื้อเลย”

“ไม่ได้ เราสองคนต้องไปด้วยกัน”ส้าวส้วยพูดต่อ

หลี่ฝางหมดคำพูดหน่อยๆ:“ผมยังมีธุระนะ”

“ผมต้องไปเจอคนๆหนึ่ง”หลี่ฝางพูด

“เจอใครเหรอ?ชายหรือหญิง?”ส้าวส้วยถามอย่างสนใจ

“ชาย คุณจะไปด้วยกันไหม?”หลี่ฝางถาม

“โอเค แต่กลับมาคุณต้องเลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์ผมหลายๆอันนะ”ส้าวส้วยพยักหน้าตกลง

หลี่ฝางมองแวบหนึ่ง ในใจแอบหัวเราะ

ไปจัดการสวีเถิงเฟยเอง จะเสี่ยงแค่ไหน

ใครจะรู้ว่าสวีเถิงเฟยอยู่กับใคร ถ้าเขาไม่ใช่คนเดียว แล้วตัวเองจะลงมือได้ไง?

ให้หวางเห้าช่วย?

นั่นไม่เหมาะ จากตัวตนของหวางเห้า ทางที่ที่อย่าไปรุกรานสวีเถิงเฟยเลย

หวางเห้าถ้าลงมือกับสวีเถิงเฟย ก็จะขัดใจตระกูลสวี

อิทธิพลตระกูลสวีในเมืองเอก แข็งแกร่งมาก

ดังนั้น หลี่ฝางก็อยากเอาผู้ช่วยไปด้วย ส่วนหวางเสี่ยวโก๋ คิดดูแล้วถ้าไปก็ไม่กล้าทำอะไรสวีเถิงเฟย

กลับกันถ้าเป็นส้าวส้วย หลี่ฝางคิดว่าส้าวส้วยไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ตัวเองเจอเรื่องอะไรส้าวส้วย

จะต้องลงมือแน่

หลี่ฝางยังไม่รู้ ที่จริงส้าวส้วยก็คือคนที่หลี่ต๋าคางแอบส่งมาให้ปกป้องเขา

และก็เพราะสาเหตุนี้ส้าวส้วยจึงมาพัวพันกับหลี่ฝาง ตามหลี่ฝางออกไปด้วยกัน

มาที่โรงจอดรถ ไม่ทันรอหลี่ฝางกดกุญแจรถส้าวส้วยก็มาตรงหน้าG-Class

“คุณรู้ได้ไงว่าG-Classเป็นของผม?”มองส้าวส้วย หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ

ส้าวส้วยลูบศีรษะอย่างอึดอัด:“ครั้งที่แล้วเห็นคุณขับ”

หลี่ฝางยิ้มอย่างน่าสงสัย แอบมาทั้งนั้น เห็นว่าโรงจอดรถไม่มีใคร จึงขึ้นรถ

ตอนที่กลับมา หลี่ฝางก็กลับมาดึกๆดื่นๆ พอแน่ใจว่ารอบๆไม่มีใคร จึงลงจากรถออกมา

ส้าวส้วยเห็นได้ไง?

ช่างเถอะ

หลี่ฝางไม่สนใจคำถามนี้อีก สรุปคือ หลี่ฝางเชื่อว่าส้าวส้วยไม่มีความประสงค์ร้ายต่อตนเอง

พอขึ้นรถเสร็จ หลี่ฝางก็หยิบนามบัตรชุบทองนั่นมา โทรออกไป

“สวัสดี ผมคือเพื่อนของฉินวี่เฟย คุณรู้ว่าสวีเถิงเฟยอยู่ไหน ใช่ไหม?”หลี่ฝางพูดออกไปตรงๆ

“มาเจอหน้าคุยกันหน่อยมา ผมอยู่หน้าโรงเรียนพวกคุณ”ฝ่ายตรงข้ามพูด

วางสายเสร็จ หลี่ฝางก็ออกรถทันที

มาตรงหน้าดรงเรียน หลี่ฝางมองเห็นเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่ง

เวลานี้ โทรศัพท์ของหลี่ฝางก็ดังขึ้น พอรับ ก็เป็นผู้ชายนามบัตรนั่นโทรมา

“คุณมีG-Class?”

“ใช่”

“งั้นก็สะดวกมาก ตามเฟอร์รารี่ของผมไป ผมจะพาคุณไปหาสวีเถิงเฟย”ผู้ชายนามบัตรพูดจบ ก็วางสาย

“ผู้ชายคนนี้เท่จริงๆ”

ส้าวส้วยมองผู้ชายในรถเฟอร์รารี่ ก็พูดขำๆ:“เฟอร์รารี่ของเขาเป็นรุ่นลิมิเต็ด ในประเทศน้อยคนมากที่จะซื้อได้”

“ใช่ไหม?”

หลี่ฝางหัวเราะอย่างดูถูก ขับรถ ตามเฟอร์รารี่คันนี้ไป

ถึงผู้ชายคนนี้จะรวยแค่ไหน จะรวยได้มากกว่าตัวเองหรือไง?

หลี่ฝางไม่เชื่อ

“นี่เขาจะพาพวกเราไปไหน?”หลี่ฝางตามไปอยู่นาน ก็พบว่ายิ่งไปไกลเรื่อยๆ

จนจะออกไปจากเมืองเอกแล้ว

“เขาจะพาพวกเราไปเขาหมาป่า”ส้าวส้วยพูด

“เขาหมาป่า?”หลี่ฝางถาม:“นั่นคือที่ไหน?”

“เขาหมาป่าคือที่แข่งรถของลูกเศรษฐีกลุ่มหนึ่ง รูปแบบทางที่นั่นค่อนข้างซับซ้อน พูดได้ว่าไม่เกินห้าร้อยเมตร ก็จะมีทางโค้ง สถานที่ที่มีทางโค้งบ่อยๆ ไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตรก็จะมีตลอด”

“นี่คือทางไปเขาหมาป่า ส่วนเฟอร์รารี่ของผู้ชายคนนี้ เคยถูกเขาปรับแต่งมา คนในรถ เป็นนักแข่งรถแน่นอน”ส้าวส้วยพูดอย่างตัดสิน

หลี่ฝางได้ยินจบ ก็มองส้าวส้วยอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ส้าวส้วย คุณคือใครกันแน่?แค่มอง คุณก็รู้เลยว่าเฟอร์รารี่นั่นมาปรับแต่ง?”

“อีกอย่าง ทำไมคุณรู้จักเขาหมาป่าดีขนาดนั้น?คุณเคยไป?”

หลี่ฝางถามเป็นชุด

เวลานี้ส้าวส้วยลูบศีรษะอย่างอึดอัด:“เจ้านาย ลืมบอกคุณไป งานผมเมื่อก่อน ก็คือตามคนอื่น ปรับแต่งรถให้ลูกเศรษฐี”

“ส่วนเขาหมาป่า ผมไปไม่กี่ครั้งเอง แต่แค่ไปดูอะไรครึกครื้น”

หลี่ฝางมองส้าวส้วย หัวเราะออกมา

ส้าวส้วยผู้ชายคนนี้ เห็นชัดเจนว่าโกหก

ส้าวส้วยโกหกไม่เก่ง ทุกครั้งที่เขาโกหก จะดูไม่ธรรมชาติ แล้วมือก็ไปลูบหลังศีรษะอย่างไม่รู้ตัว

ส่วนทำไมส้าวส้วยต้องโกหก หลี่ฝางก็ไม่เค้นถาม

ก็เหมือนตัวหลี่ฝาง เพื่อปกปิดตัวตนของตัวเอง ไม่ใช่ว่าต้องโกหกประจำเหรอ?

ตามชายหนุ่มนามบัตรมาที่ขาหมาป่า เวลานี้ ฟ้าก็มืดลงแล้ว

เฟอร์รารี่หยุดลง หลี่ฝางก็หยุดลงด้วย ลงจากรถเดินไปตรงหน้าเฟอร์รารี่

“สวีเถิงเฟยล่ะ?”หลี่ฝางเดินไปถาม

“ยังมีเวลาอยู่ เขาต้องรออีกสักพักถึงมา”ผู้ชายในรถเฟอร์รารี่หัวเราะ แล้วพูด:“ใช่สิ คุณเป็นอะไรกับน้องสาวผม?”

“น้องสาวคุณ?”

“ฉินวี่เฟยไง”ผู้ชายในรถหัวเราะ:“ผมคือพี่เธอ ฉินจื่อยี่”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท