NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 216

ตอนที่ 216

บทที่ 216 ในที่สุดก็ได้ชำระแค้นแล้ว

เมื่อมู่เสี่ยวไป๋ได้ยินประโยคนี้ ก็ราวกับได้หญ้าช่วยชีวิตอย่างนั้น เขาคว้าแขนหลี่ฝางไว้แน่น จากนั้นก็ถาม: “ทางเลือกอะไร?”

ก่อนหน้านี้ หลี่ฝางให้ทางเลือกมู่เสี่ยวไป๋สองทาง

ทางแรกคือกินขี้ ทางเลือกนี้ คนปกติก็ทำไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมู่เสี่ยวไป๋? คุณชายตระกูลมู่

อีกหนึ่งทางเลือกคือกระโดดแม่น้ำ สำหรับมู่เสี่ยวไป๋ที่ว่ายน้ำไม่เป็น ก็ไม่ต่างอะไรกับฆ่าตัวตาย

เพราะงั้น ทางเลือกที่หลี่ฝางเคยให้สองทางเลือก คือทางสิ้นหวัง กับทางตาย

มู่เสี่ยวไป๋คิดในใจ หลี่ฝางจะให้โอกาสเขาอีกครั้งใช่มั้ย?

หลี่ฝางยิ้มนิ่งๆ แล้วพูด: “ง่ายมาก ยอมแพ้เรื่องพี่ชิงชิงซ่ะ ห้ามวอแวพี่ชิงชิงอีก”

“มู่เสี่ยวไป๋ หรือว่านายมองไม่ออกจริงๆ เหรอ? พี่ชิงชิงไม่ได้ชอบนายเลยสักนิด นายตื้อพี่ชิงชิงไม่ปล่อย ทำให้ชีวิตของพี่ชิงชิงมีแต่ปัญญา”

“การรักคนๆนึงด้วยใจจริง หากในสถานการณ์ที่อีกฝ่ายไม่รักนาย ต้องรู้จักปล่อยมือ ให้อีกฝ่ายไปตามหาความสุขของเขา”

“ไม่ใช่แบบนาย เกาะแน่นอย่างกับปลาสเตอร์หนังหมา” หลี่ฝางพูด

หลินชิงชิงที่นั่งอยู่ในรถ ได้ยินคำพูดพวกนี้ ก็สะเทือนใจเล็กน้อย

หลี่ฝางพูดโดนใจหลินชิงชิง ตอนนี้ปัญหาใหญ่ของหลินชิงชิง ก็คือมู่เสี่ยวไป๋นี่แหละ

ผู้ชายที่รักตนที่สุด ได้กลายเป็นแรงกดดันที่ใหญ่ที่สุดของเธอ

“นายปล่อยมือจากพี่ชิงชิง ฉันก็จะยกโทษให้ เป็นไง มู่เสี่ยวไป๋?” หลี่ฝางมองมู่เสี่ยวไป๋ พลางเอ่ยถาม

มู่เสี่ยวไป๋ส่ายหน้า แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง: “ปล่อยมือแม่นายสิ ต่อให้ฉันจะต้องโดดลงแม่น้ำ ฉันก็จะไม่ปล่อยชิงชิงไป”

ในขณะนั้น สีหน้าของมู่เสี่ยวไป๋ ก็เปลี่ยนเป็นดุดันขึ้นมาทันที

เขามองตาหลี่ฝาง ก็เริ่มดูเลวร้ายขึ้นเช่นกัน

ในตอนนั้น มู่เสี่ยวไป๋ก็เหมือนจะคิดได้แล้ว ว่าหลี่ฝางต้องชอบหลินชิงชิงแน่ๆ

“ได้สิ นายโดดลงแม่น้ำก็ได้ ถ้านายกระโดดฉันจะยกโทษให้” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วทำหน้าตายียวนใส่มู่เสี่ยวไป๋

“นาย!” มู่เสี่ยวไป๋กัดฟันกรอด ตัวเองจะกระโดดลงไปจริงๆ ได้ไงล่ะ!

หลี่ฝางหัวเราะเหอๆ ส่ายหน้าพลางพูด: “ช่างเถอะ ฉันว่านายอย่าขอโทษเลย ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด”

“พี่ชิงชิง พวกเราไปเถอะ” หลี่ฝางหันกลับ ไปพูดกับหลินชิงชิง

มู่เสี่ยวไป๋รีบคว้าแขนหลี่ฝางเอาไว้ แล้วพูดขึ้น: “ไม่ได้ ไม่ว่ายังไง วันนี้ฉันต้องได้รับการให้อภัยจากนาย”

“ถ้าหากนายไม่ยกโทษให้ฉัน ฉันจะฆ่าจางกงหมิงซ่ะ”

มู่เสี่ยวไป๋ไม่กล้าทำอะไรหลี่ฝาง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่กล้าทำอะไรจางกงหมิง

จางกงหมิงเพิ่งจะแย่งพื้นที่ของห้าวหนานมา แล้วทำร้ายห้าวหนานจนกลายเป็นผัก

แค่คำพูดประโยคนี้ของมู่เสี่ยวไป๋ แค่ครู่เดียวก็สามารถทำให้จางกงหมิงเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง

แค่เขาบอกทุกคนว่า จางกงหมิงไม่ใช่คนของมู่เสี่ยวไป๋

พวกพ้อง พี่น้องของห้าวหนาน ก็คงจะพร้อมมาแทงจางกงหมิงจนตาย

ดังนั้น ประโยคนี้ของมู่เสี่ยวไป๋ ไม่ได้ล้อเล่นเลย

มู่เสี่ยวไป๋มองหลี่ฝาง พลางพูด: “ฉันรู้ถึงความรู้สึกระหว่างนายกับจางกงหมิง ความรู้สึกระหว่างพวกนายสองคน นั้นลึกซึ้งมากๆ เขาก็เคยช่วยชีวิตนายไว้หลายครั้ง นายเป็นหนี้ชีวิตเขาอยู่หลายชีวิตเลย”

สีหน้าของหลี่ฝาง เคร่งขรึมลงไปในทันที

ถูกต้อง จางกงหมิงเคยช่วยชีวิตเขาไว้หลายครั้ง

ดังนั้น ไม่ว่ายังไง ตัวเขาก็ไม่สามารถมองดูจางกงหมิงตายไปต่อหน้าต่อตาได้

หลี่ฝางมองมู่เสี่ยวไป๋ กวักมือเรียก พลางพูด: “นายมานี่หน่อย”

“ทำไม?” มู่เสี่ยวไป๋ถาม

“นายอยากให้ฉันยกโทษให้ไม่ใช่เหรอ? นายเข้ามาใกล้ๆ หน่อย แล้วฉันจะยกโทษให้นาย” หลี่ฝางพูดต่อแล้วกวักมือเรียกมู่เสี่ยวไป๋

มู่เสี่ยวไป๋สงสัยอยู่ครู่ แต่ก็ยังเดินขึ้นหน้าเข้าประชิดตัวหลี่ฝาง

อย่างไรก็ตาม ถ้าสามารถได้รับการให้อภัยจากหลี่ฝาง เป็นเรื่องที่เร่งด่วนที่สุดของมู่เสี่ยวไป๋ในตอนนี้

เมื่อมู่เสี่ยวไป๋เข้าประชิดตัวหลี่ฝางแล้ว หลี่ฝางก็ยื่นมือออกไป หยิบมีดพกมาจากเบาะด้านหลัง

เมื่อมู่เสี่ยวไป๋รู้สึกตัว มันก็สายไปเสียแล้ว

หลี่ฝางคล้องคอมู่เสี่ยวไป๋ไว้ แล้วใช้มีดพกในมือ แทงเข้าไปกลางท้องน้อยของมู่เสี่ยวไป๋

มู่เสี่ยวไป๋เบิกตากว้าง พลางมองไปที่มีดเล่มนั้นกำลังแทงเข้าไปที่ท้องเขาอย่างช้าๆ เลือดแต่ละหยด ไหลย้อมเสื้อสีขาวของเขาจนเป็นสีแดง

หลี่ฝางยิ้มอย่างเย็นชา แล้วพูดกับมู่เสี่ยวไป๋: “เมื่อก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่มัธยมตงไห่ นายแทงฉันไปครั้งนึง ในตอนนั้นฉันสาบานกับตัวเองว่า ต้องมีสักวันนึง ฉันจะทำให้นายได้รับความเจ็บปวดทั้งหมด กลับคืนไปเป็นสองเท่า”

สองเท่า?

เมื่อได้ยินประโยคนี้ ตาของมู่เสี่ยวไป๋ ก็เบิกกว้างกว่าเดิม

ทันทีที่หลี่ฝางพูดจบ เขาก็กระชากมีดพก ที่เสียบอยู่ที่ท้องของมู่เสี่ยวไป๋ออกมา จากนั้นก็แทงมันลงไปที่ท้องของมู่เสี่ยวไป๋อีกหนึ่งที

ในตอนนั้น หลี่ฝางจึงปล่อยคอของมู่เสี่ยวไป๋ออก แล้วพูด: “เอาล่ะ ฉันยกโทษให้นายแล้ว”

มู่เสี่ยวไป๋เซถอยหลังไปหลายก้าว ตรงท้องเขา มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด

เสือที่ได้เห็นฉากนี้ ก็ช็อกไปในทันที

“เจ้านาย ไม่เป็นไรใช่มั้ย?” เสือกลั้นน้ำลาย แล้วพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว

เลือดไหลออกมาเร็วมาก ผ่านไปไม่กี่วินาที เลือดบนพื้น ก็ไหลเป็นกอง

“เร็ว รีบพาฉันไปโรงพยาบาล” มู่เสี่ยวไป๋ตกใจ สีหน้าของเขา ซีดมาก ราวกับไม่มีเลือดเลย

เสือพยุงมู่เสี่ยวไป๋ พาขึ้นรถ แล้วไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว

หลินชิงชิงมองไปที่หลี่ฝาง แล้วพูด: “นายยังอยากมีชีวิตอยู่มั้ยเหนี่ย?”

“นั่นคือมู่เสี่ยวไป๋นะ นายแทงมู่เสี่ยวไป๋ ตระกูลมู่จะปล่อยนายไปเหรอ?” หลินชิงชิงมองหลี่ฝางด้วยสีหน้ากังวล

หลี่ฝางมองหลินชิงชิงด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วพูด: “พี่ ส่งทิชชูให้ผมหน่อย ผมจะเช็ดมือ”

“นี่มันเวลาไหนแล้ว นายยังอยากจะเช็ดเลือด……” หลินชิงชิงขมวดคิ้ว: “เห็นทีนายยังไม่ได้คิดถึงว่าจะทำยังไงกับผลที่จะตามมาสินะ!”

“อิทธิพลของตระกูลมู่ในเมืองเอก นั้นใหญ่มาก จนไม่มีใครกล้าต่อกรด้วย” หลินชิงชิงพูดขึ้น

แต่ว่า เมื่อพูดจบ เธอก็ส่งทิชชูให้หลี่ฝาง

ยังไงก็ตาม มือของหลี่ฝางเต็มไปด้วยเลือด เห็นแล้วน่ากลัว

หลี่ฝางเช็ดมือ แล้วพูดอย่างหยิ่งๆ เล็กน้อย: “พี่ พี่คิดว่าอิทธิพลของตระกูลมู่นั้นใหญ่จริงๆ เหรอ?”

“แน่นอนสิ ในปีนั้นพ่อของฉันก็เพิ่งพาตระกูลมู่ จึงมีฐานะอย่างทุกวันนี้ได้”

“ยังมีลูกพี่ลูกน้องฉันอีก เขาเพิ่งจะมาถึงเมืองเอกได้ไม่กี่วัน ก็มีพื้นที่ในเมืองเอกแล้ว นี่หรือว่าจะบ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูลมู่ไม่ได้เหรอ?” หลินชิงชิงพูด

หลังจากหลี่ฝางฟังจบ ก็ทำให้หัวเราะอย่างเหยียดหยามมากขึ้นไปอีก

“นายขำอะไร? เพราะว่าได้แก้แค้น?” หลินชิงชิงมองหลี่ฝาง ขมวดคิ้วพลางถามขึ้น

“ไม่ใช่ ที่ได้แทงมู่เสี่ยวไป๋คืน ถึงแม้จะทำให้ผมหัวเราะได้ แต่ที่ผมหัวเราะ ทั้งหมดไม่ได้เป็นเพราะได้แก้แค้น”

หลี่ฝางส่ายหน้า พลางพูด: “พี่ พี่คิดดูนะ ทำไมมู่เสี่ยวไป๋ถึงต้องขอโทษผมด้วย?”

“นั่นสิ ทำไมเขาต้องขอโทษนายด้วย?” หลินชิงชิงชะงักไปในทันที

หลี่ฝางพูด: “ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? ถึงแม่ตระกูลมู่จะยิ่งใหญ่ขนาดไหน ต่อหน้าตระกูลหลี่ เห็นทีจะใหญ่ไม่พอ”

“อย่างน้อย พวกเขาตระกูลมู่ ความยิ่งใหญ่คงห่างจากตระกูลหลี่ของพวกเราอีกไกล”

“ถ้าไม่อย่างนั้น คนที่ก้มหัวขอโทษ คงจะไม่ใช่มู่เสี่ยวไป๋ แต่เป็นผมหลี่ฝางแล้ว”

หลี่ฝางพูดแบบนี้ หลินชิงชิงก็เข้าใจได้ในทันที

“ตามที่นายพูด แบบนี้มู่เสี่ยวไป๋ก็รู้ฐานะของนายแล้วสิ?” หลินชิงชิงมองหลี่ฝางด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อย

“ถึงจะยังไม่รู้ แต่เดี๋ยวก็คงจะได้รู้แล้ว”

หลี่ฝางพูดขึ้นอย่างไม่สนใจ: “รู้ก็รู้สิ อย่างน้อยถ้าเขารู้แล้ว ก็คงจะไม่มาหาเรื่องผมแล้ว”

ตอนนั้น จู่ๆ หลินชิงชิงก็หันหน้า ไปมองรถหรูที่จอดเรียงกันอยู่บนสะพาน

หลังจากที่มู่เสี่ยวไป๋ถูกส่งไปโรงพยาบาลแล้ว รถหรูที่จอดเรียงกันอยู่นั้น ก็เริ่มทยอยสลายตัว

หลินชิงชิงชี้ไปที่รถหรูพวกนั้น แล้วถามหลี่ฝาง: “รถพวกนี้ คงจะไม่ใช่รถของตระกูลนายใช่มั้ย?”

“แน่นอนว่าไม่ใช่ของตระกูลผม ตระกูลผมไม่ได้ขายรถสักหน่อย”

หลี่ฝางหัวเราะพลางส่ายหน้า: “แต่ว่ารถหรูพวกนี้ น่าจะมาเพราะผม”

หลินชิงชิงหายใจเฮือก

“รถโรลส์รอยยสเยอะขนาดนี้ ฉันเพิ่งจะเห็นเป็นครั้งแรกเหนี่ย”

หลินชิงชิงมองไปที่รถเหล่านั้นอย่างละเอียด แล้วพูด: “คนที่นั่งอยู่ในรถ เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในเมืองเอกทั้งนั้นเลยใช่มั้ย?”

“น่าจะใช่นะ ถ้าหากเป็นพวกลูกกระจ๊อก จะไปทำให้ตระกูลมู่กลัวได้ยังไง? บีบบังคับจนไม่ว่ายังไงมู่เสี่ยวไป๋ต้องขอโทษผมให้ได้ พี่ว่าแบบนั้นมั้ย?”

หลี่ฝางหัวเราะเหอๆ นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่ฝางได้เห็นสามารถของตระกูลหลี่

ไม่พูดก็ไม่ได้ หลี่ฝางในตอนนี้ ในใจมีความมั่นใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

และในขณะเดียวกัน ท่านจวนก็หัวเราะ ให้หลี่ต๋าคาง แล้วพูด: “ลูกชายนายก็พอจะมีความกล้าหาญอยู่บ้าง”

“ท่านจวนก็พูดไป ความกล้าของเด็กนั่น ไม่ใช่ท่านจวนให้หรอกเหรอ?” หลี่ต๋าคางพูดพลางหัวเราะ: “หากท่านไม่เรียกคนมาเยอะแบบนี้ เขาจะกล้าแบบนี้ได้ยังไง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท