บทที่ 223 บัตรของใครสามารถรูดได้ห้าสิบล้าน
“พนัน”
จ้าวเสี่ยวตาวอึ้งไปสักพัก มองไปยังหลี่ฝางแล้วถามขึ้น “นายจะพนันอะไรกับฉัน”
“คุณรู้สึกว่าผมไม่น่าจะซื้อบ้านหมายเลขหนึ่งได้ไม่ใช่เหรอ”หลี่ฝางยิ้ม ถามกลับ
จ้าวเสี่ยวตาวจนคำพูด “บ้านหลายเลขหนึ่งอย่าว่าแต่นายเลย แม้แต่ตระกูลจ้าวของฉันก็ซื้อไม่ได้”
ทุนของตระกูลจ้าว มากสุดก็แค่สามร้อยล้าน
หากต้องซื้อบ้านหมายเลขหนึ่งจริง จ้าวเสี่ยวตาวคงตั้งใช้ทรัพย์สินทั้งตระกูลจ้าวร่วมด้วย
“ตระกูลเฉียนก็ซื้อไม่ไหว”เฉียนเป่าเอ๋อพูดตาม
ตระกูลเฉียนแม้จะขึ้นชื่อว่ามีฐานะ แต่หากจะให้พวกเขาเอาเงินสองร้อยกว่าล้านมาซื้อบ้าน
ตระกูลเฉียนคงไม่เห็นด้วยแน่นอน
ทั้งเมืองเอก คนที่กล้าใช้เงินสองร้อยกว่าล้านซื้อบ้าน ยกนิ้วขึ้นนับก็พอรู้ได้
หลี่ฝางยิ้มเรียบเฉย “ผมซื้อได้”
“หลี่ฝาง ฉันขอเตือนคุณว่าอย่าล้อเล่นดีกว่า นี่มันบ้านมูลค่ากว่าสองร้อยล้านนะ”เฉียนเป่าเอ๋อพูด
เฉียนเป่าเอ๋อคิดในใจ อย่าว่าพ่อแม่คุณเป็นชาวไร่ชาวนาเลย แม้ว่าพ่อแม่คุณจะเป็นเถ้าแก่ใหญ่ ก็ไม่แน่ว่าจะซื้อได้
จะว่าไป ถึงแม้จะเป็นเถ้าแก่ใหญ่ จะมีสักกี่คนที่สามารถควักเงินจำนวนสองร้อยล้านออกมาได้ในทันที
“เป่าเอ๋อ คุณว่านายคนนี้กำลังฝันเฟื่องอยู่หรือเปล่า มโนว่าตัวเองเป็นสามีแห่งชาติหวังซือชงหรือไง”จ้าวเสี่ยวตาวหัวเราะอย่างรู้สึกขำขัน
เขามองไปยังหลี่ฝาง สายตาราวกับมองดูตัวตลก
“ใช่แล้ว นายเพิ่งบอกว่าจะพนันกัน พนันอะไร ลองพูดสิ”จ้าวเสี่ยวตาวถามขึ้นด้วยสีหน้าอยากรู้
หลี่ฝางยิ้ม พูดขึ้น “ง่ายมาก ในเมื่อพวกคุณต่างก็รู้สึกว่าผมซื้อบ้านหลายเลขหนึ่งไม่ได้ งั้นพวกเรามาพนันกัน ”
“ถ้าเดี๋ยวผมซื้อบ้านหมายเลขหนึ่งได้ละก็ แสดงว่าผมชนะ กลับกัน แปลว่าคุณแพ้พนัน”หลี่ฝางพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
หลังพูดจบ จ้าวเสี่ยวตาวก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา
“นี่ไม่เท่ากับว่านายแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยเหรอ”จ้าวเสี่ยวตาวพูดกลั้วเสียงหัวเราะ
จ้าวเสี่ยวตาวไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด ว่าหลี่ฝางจะซื้อบ้านหมายเลขหนึ่งได้จริง
เขายินดีที่จะเชื่อว่าโลกจะแตกในนาทีต่อไปซะมากกว่า
“อาจไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้”หลี่ฝางพูดด้วยความมั่นใจ
เฉียนเป่าเอ๋อส่ายหน้า รู้สึกว่าหลี่ฝางจะหาเรื่องพ่ายแพ้ให้ตัวเองซะแล้ว
ถิงถิงยิ่งหัวเราะหนักขึ้น รู้สึกว่าหลี่ฝางช่างกล้าหาญเกินไปแล้ว
เห็นอยู่ชัดๆว่าซื้อไม่ได้ แต่กลับมีสีหน้ามั่นใจว่าต้องซื้อได้แน่นอน
ถิงถิงขายบ้านมาหลายปี คลุกคลีอยู่กับบ้านหรูที่สุดมาแล้ว ส่วนบ้านหมายเลขหนึ่งของคฤหาสน์บ้านซาน
บ้านหลังนี้ แทบไม่มีคนถามถึงเลย
ถิงถิงเคยลองคิดเล่นๆ บ้านหมายเลขหนึ่ง ท้ายที่สุดจะตกอยู่ในมือของคนแบบไหนกันแน่
อย่างน้อยคงต้องมีอายุประมาณหนึ่ง และมีสถานะที่มั่นคง
แน่นอนว่าคงไม่ใช่คนอย่างหลี่ฝาง เพิ่งจะยี่สิบต้นๆ แต่งตัวธรรมดา
“งั้นนายรีบพูดมาเถอะ ชนะแล้วจะยังไง แพ้แล้วจะให้ทำอะไร ”ตอนนี้ สีหน้าของจ้าวเสี่ยวตาว นับว่าเบิกบานใจซะไม่มี
เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองกำชัยชนะไว้ในมือแล้ว
“ถ้าคุณชนะ ก็ทำตามที่คุณบอก ให้พ่อผมมาดูแลบ้านให้คุณ ให้แม่ผมมาเป็นแม่บ้าน คุณว่าไง”หลี่ฝางพูดยิ้มๆ
“ฮ่าฮ่า พูดอ้อมค้อมไปมา ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”
ได้ยินคำพูดของหลี่ฝาง จ้าวเสี่ยวตาวก็หัวเราะเสียงดัง
เขาเข้าใจในทันที
เขารู้สึกหลี่ฝาง จงใจจะแพ้ให้ตน จากนั้นก็จะให้พ่อแม่ของเขา มาเป็นคนใช้ในบ้านของตน
“หลี่ฝาง นายคิดจะให้พ่อแม่นายมาทำงานที่บ้านฉัน ก็พูดมาตรงๆเถอะ ทำไมต้องอ้อมค้อมด้วย ยังจะออกอุบายพนันอะไรอีก”จ้าวเสี่ยวตาวพูดด้วยเสียงหัวเราะ “น่าขันจริงๆ”
จ้าวเสี่ยวตาวหัวเราะจนจะหงายหลัง หัวเราะจนท้องแข็งไปหมดแล้ว
ร.ป.ภ.หนึ่งคน แม่บ้านหนึ่งคน เงินเดือนต่อหนึ่งปีแค่ห้าหมื่น จ้าวเสี่ยวตาวคำนวณแล้วรู้สึกคุ้มมาก
ค่าแรงงาน ถูกซะจริงเชียว
อีกอย่าง เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็สามารถทำให้หลี่ฝางอับอายได้สาสมใจ
จ้าวเสี่ยวตาวพยักหน้า “ฉันตกลง”
“ถ้าคุณแพ้ ก็ทำตามที่ผมพูดเมื่อกี้ ให้พ่อแม่คุณมาดูแลบ้าน ทำความสะอาด เข้าใจมั้ย”หลี่ฝางมองจ้าวเสี่ยวตาว ยิ้มเย็น
“ไม่มีปัญหา”จ้าวเสี่ยวตาวยิ้มแล้วพยักหน้า พูดว่า “นายไม่มีทางชนะหรอก”
“วางใจได้ ผมไม่ได้ใจขี้งกเหมือนคุณ ถ้าพ่อแม่คุณมาทำงานให้ผม ผมจะให้พวกเขาปีละล้านเลย”หลี่ฝางเลิกคิ้ว “ดูสิ ผมดีกับพ่อแม่คุณมากนะ”
จ้าวเสี่ยวตาวมองหลี่ฝางอย่างดูถูก ในใจหัวเราะเสียงเย็น รอดูก่อนเถอะ รอให้พ่อแม่นายมาทำงานให้ฉันก่อน ดูสิว่าฉันจะจัดการกับนายยังไง พ่อแม่นายด้วย แค่บอกไปมั่วๆว่าของหาย จากนั้นก็ไปแจ้งตำรวจ ก็สามารถทำให้พ่อแม่ของหลี่ฝางได้รับโทษแล้ว
จ้าวเสี่ยวตาวคิดในใจ ถึงตอนนั้น ต้องสั่งสอนคนบ้านนี้ให้ได้
“วางใจเถอะ รอให้พ่อแม่นายมาอยู่กับฉัน ฉันก็จะดูแลอย่างดีเช่นกัน”
มองหลี่ฝาง จ้าวเสี่ยวตาวหัวเราะมาดร้าย
เฉียนเป่าเอ๋อมองหลี่ฝาง ส่ายหน้า
เฉียนเป่าเอ๋อคาดเดาในใจ เหมือนกับจ้าวเสี่ยวตาว
เธอก็คิดว่าหลี่ฝางนั้นจงใจแกล้งแพ้ให้กับจ้าวเสี่ยวตาว เพื่อให้พ่อแม่ของตัวเองสามารถมาทำงานที่คฤหาสน์บ้านซาน เพื่อช่วยดูแลบ้าน
เพราะสภาพแววล้อมในการทำงานแบบนี้ ทั้งสบาย ทั้งง่ายดาย
แต่ว่าค่าแรงน้อยไม่หน่อยเท่านั้น
เฉียนเป่าเอ๋อคิดในใจ ถ้าพ่อแม่ของหลี่ฝางมาจริงๆ ก็ขึ้นเงินเดือนให้พวกเขาสักหน่อย อย่างน้อยก็คงต้องให้ปีละแสนกว่า
เดินไปข้างหน้าหลายก้าว ก็มาถึงบ้านหมายเลขหนึ่ง
สวนดอกไม้ของบ้านหมายเลขหนึ่ง ใหญ่มาก
และยังมีสระว่ายน้ำ ช่างเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การจัดงานปาร์ตี้สุดๆ
“พี่ พี่คิดว่าไง”มองภายนอกแวบหนึ่ง หลี่ฝางหันไปถามหลินชิงชิง
หลินชิงชิงพยักหน้า “บ้านหรูขนาดนี้ พี่ก็เพิ่งเคยเห็นจากในทีวีเท่านั้น”
จ้าวเสี่ยวตาวได้ยินคำพูดของหลินชิงชิง ทำให้เขาหัวเราะอย่างเยาะเย้ยขึ้นอีกครั้ง
“วางใจเถอะ ไม่ช้านี้หลี่ฝางก็จะซื้อบ้านหลังนี้ไว้แล้ว ถึงตอนนั้น ก็ไม่ต้องมองจากทางทีวีตาละห้อยแล้ว แต่จะได้อยู่ที่นี่ทุกวัน”จ้าวเสี่ยวตาวแกล้งพูดขึ้น
“เขาพูดถูก พี่ รอให้ผมซื้อบ้านหมายเลขหนึ่งแล้ว ผมจะเอากุญแจให้พี่หนึ่งชุด”หลี่ฝางไหลตามคำพูดของจ้าวเสี่ยวตาว
จ้าวเสี่ยวตาวขมวดคิ้ว โมโหขึ้นมาเล็กน้อย “หน้าไม่อายจริงๆ โลกนี้คงไม่มีใครเทียบได้แล้ว”
ยืนอยู่ตรงกลางของสวนดอกไม้ หลี่ฝางหัวเราะ พูดว่า “ไม่ต้องเข้าไปดูแล้ว บ้านหลังนี้ ผมซื้อ”
“เสี่ยวฝาง จะไม่เข้าไปดูหน่อยเหรอ ”หลินชิงชิงถาม
เพราะว่า บ้านหลังนี้มีมูลค่าถึงสองร้อยล้านเชียวนะ ไม่เข้าไปดูสักหน่อย ก็จะซื้อซะแล้ว
ถิงถิงหึเสียงเย็น หัวเราะขำ
ลูกค้าที่ตัดใจได้รวดเร็วขนาดนี้ ถิงถิงไม่เคยพบเจอมาก่อน
ใครบ้างจะซื้อบ้าน ทั้งที่ไม่ดูให้ละเอียดซะก่อน
จากนั้นก็ต่อรองราคา ถามว่ามีสิทธิพิเศษอะไรอีกบ้าง
แม้แต่จ้าวเสี่ยวตาวกับเฉียนเป่าเอ๋อซื้อบ้านเมื่อกี้ ก็ไม่ได้วางเงินมัดจำทันที แต่ก็ไปหาเจ้านายเพื่อต่อรองกันก่อน
“ดูไม่ดูแล้วมันจะแตกต่างกันตรงไหน ดูแล้วต้องซื้อ ไม่ดูก็ต้องซื้อ ”หลี่ฝางเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ
เมื่อครู่ หลี่ฝางดูบ้านหมายเลขแปดแล้ว การตกแต่งภายใน บรรยากาศ ตัวเองก็รู้สึกพอใจ
บ้านหมายเลขหนึ่งแพงกว่าบ้านหมายเลขแปดสามเท่า การตกแต่ง บรรยากาศต่างๆ ย่อมต้องดีกว่าบ้านหมายเลขแปดอยู่แล้ว
ฉะนั้น หลี่ฝางรู้สึกว่า ไม่จำเป็นต้องเข้าไปดู
“ถ้างั้นฉันขอเข้าไปดูหน่อย”เฉียนเป่าเอ๋อพูด เดินเข้าไปในบ้าน
พอเข้าไป เฉียนเป่าเอ๋อก็รู้สึกตกตะลึงทันที
ข้างในนี้ตกแต่ง ราวกับวังของพระราชา
ใหญ่เกินไปแล้ว
“เสียดาย บ้านหลังนี้สองร้อยกว่าล้านแน่ะ”เฉียนเป่าเอ๋อพึมพำถอนหายใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉียนเป่าเอ๋อรู้สึกว่าบ้านตัวเองจน
หลังจากเฉียนเป่าเอ๋อเข้าไป จ้าวเสี่ยวตาวก็เข้าไปด้วย
จ้าวเสี่ยวตาวได้ยินเฉียนเป่าเอ๋อพึมพำ ก็พูดว่า “เป่าเอ๋อ ถ้าคุณชอบ รอผมหาเงินได้แล้ว จะซื้อบ้านหลังนี้ให้คุณนะ”
ได้ยินคำนี้ เฉียนเป่าเอ๋อหัวเราะแห้งๆ “ถ้างั้นฉันคงต้องอยู่จนอายุห้าร้อยปีถึงจะมีวันนั้นละมั้ง”
“นี่คุณพูดอะไรของคุณเนี่ย ไม่เชื่อผมเหรอ”จ้าวเสี่ยวตาวขมวดคิ้ว
แล้วมันไม่ใช่หรือไง เฉียนเป่าเอ๋อไม่เชื่อว่าจ้าวเสี่ยวตาวจะหาเงินสองร้อยล้านได้
เฉียนเป่าเอ๋อเดินต่อไปข้างหน้า จ้าวเสี่ยวตาวยังคงตามติดอยู่ข้างหลัง
แต่ตอนนี้ หลี่ฝางมองไปยังถิงถิง พูดขึ้นว่า “ผมอยากถามอะไรหน่อย บ้านหลังนี้ ผมจะบัตรเครดิตจ่ายได้ไหม”
“ได้สิ แต่ฉันคิดว่า แต่ไม่มีบัตรเครดิตของใครสามารถรูดวงเงินได้เยอะขนาดนั้นนะ แค่เงินดาวน์ ก็ต้องใช้สี่ห้าสิบล้านแล้ว ”ถิงถิงส่ายหน้าเอ่ยเสียงขำ
มีบัตรของใครบ้างสามารถรูดได้สี่ห้าสิบล้าน เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
หลี่ฝางล้วงเข้าไปในอกเสื้อ หยิบบัตรสีดำออกมา
ตอนที่เห็นบัตรนี้ สีหน้าของถิงถิง ก็เปลี่ยนไปทันที
เธอขายบ้านราคาหลายสิบล้านทุกวัน ได้พบกับเศรษฐีร้อยล้านอยู่บ้าง แล้วจะไม่รู้จักแบล็กการ์ดได้ยังไง