NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 230

ตอนที่ 230

บทที่ 230 เกิดเรื่องที่ร้านปิ้งย่าง

หลี่ต๋าคางยิ้มไม่พูด

สำหรับคนที่มีตำแหน่งฐานะอย่างหลี่ต๋าคาง ดาราพวกนั้น ใครบ้างจะไม่เกรงใจ

เหล่าดาราไม่ได้ขาดแคลนเงินพรีเซนเตอร์แค่ไม่กี่ล้านหรอก แต่ที่พวกเขาไม่มีคือ การได้รู้จักใกล้ชิดกับหลี่ต๋าคาง

“พ่อ รีสอร์ตของพ่อ ยังมีกี่วันถึงจะเปิด”หลี่ฝางถามขึ้น

“อาทิตย์หนึ่งพอดี”

หลี่ต๋าคางเพิ่งพูดจบ หลี่ฝางก็นิ่งอึ้งไป “เวลาแค่อาทิตย์เดียว ผมจะเอาเวลาที่ไหนมาสร้างแพลตฟอร์มล่ะ”

“ถ้าทำเอง ก็ไม่ทันแน่ ซื้อเลยสิ”

หลี่ต๋าคางพูด “เรื่องนี้ ลุงเฉียนจะช่วยแกจัดการเอง”

“ซื้อเหรอ”

หลี่ฝางรู้สึกไม่ค่อยชอบใจ ให้ซื้อเอา แน่นอนว่าต้องเสียเงินจำนวนมาก

เดิมทีหลี่ฝางคิดว่าจะใช้เงินลงทุนสักสิบล้านในการทดลองดูก่อน แต่สุดท้ายแค่ซื้อบ้านก็ปาเข้าไปสองร้อยล้านแล้ว ไม่รู้ว่าถ้าซื้อแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ยังต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่

วันนี้เป็นวันที่ร้านปิ้งย่างเจ้าพานเปิดร้านเป็นวันสุดท้าย

ไม่นาน หลี่ฝางและคนอื่นๆ ก็มาถึงร้านปิ้งย่างของเจ้าพาน

“วันนี้แขกเยอะจริงๆ ”หลังจากลงจากรถ หลี่ฝางมองไปยังหลินชิงชิงและพูดขึ้น

ตั้งแต่ประตูร้านจนถึงข้างถนน มีลูกค้าที่มานั่งกินปิ้งย่างนั่งเต็มไปหมด

กิจการช่างได้รับความนิยมจริงๆ

หลินชิงชิงอธิบายยิ้มๆ “พวกเขาเป็นลูกค้าประจำของเจ้าพาน วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เปิดร้านแล้ว เจ้าพานเลยเลี้ยง ไม่คิดเงิน”

“ไม่คิดเงิน”หลี่ฝางหัวเราะ “ถึงว่าสิแขกเยอะซะไม่มี”

“เจ้าพานได้ค่าเวนคืนเท่าไหร่กัน ถึงได้ใจป้ำขนาดนี้”หลี่ฝางถามไปอย่างนั้นเอง

“สามแสนกว่า ”หลินชิงชิงยิ้ม “สำหรับเจ้าพาน ถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่แล้ว”

หลี่ฝางพยักหน้า คิดในใจ เยอะอยู่นะ

แต่พอหลี่ต๋าคางได้ยินเงินจำนวนนี้ ก็ขมวดคิ้วเบาๆ “พื้นที่นี้ เป็นของเขาเหรอ”

“ใช่แล้ว ทั้งผืนนี้ เป็นที่ดินของบ้านเจ้าพาน”หลินชิงชิงพูด

หลี่ต๋าคางยิ้ม ยิ้มอย่างมีเลศนัย

“ไป พวกเราไปห้องส่วนตัวเถอะ ฉันจองไว้ล่วงหน้าแล้ว”

หลินชิงชิงพูดจบ ทั้งหมดก็เดินขึ้นชั้นบน

“คุณอา ดื่มเหล้าหรือเปล่าคะ”หลินชิงชิงถามหลี่ต๋าคาง

หลี่ฝางชิงตอบว่า“พ่อผมชอบดื่มเบียร์ สั่งขึ้นมาหนึ่งลัง ”

หลี่ฝางยังจำได้ดี ตอนเด็กทุกครั้งที่หลี่ต๋าฝางกลับบ้าน ต้องหิ้วยำมาสองชุด แล้วนั่งดื่มเบียร์ในสวน

หลินชิงชิงไปนานมากกว่าจะกลับมา

แต่ตอนที่กลับเข้ามา ที่หน้าผากเหมือนจะมีรอยแดงเป็นจ้ำ

“พี่ หัวพี่เป็นอะไร”หลี่ฝางดูแล้ว ก็รีบถามทันที

หลินชิงชิงเบือนหน้า ก้มหัวลง เพื่อปิดบังบาดแผล

“ตอนที่ขึ้นมาบนนี้ไม่ทันระวังตัว ชนเข้ากับผนัง”หลินชิงชิงวางเบียร์ลง

แล้วพูดว่า “ฉันจะไปช่วยงานสักหน่อย พวกคุณรอสักครู่นะคะ เนื้อย่างจะได้แล้ว”

หลินชิงชิงพูดจบ ก็รีบออกไปจากห้องทันที

ชนผนัง

หลี่ฝางไม่โง่สักหน่อย จะเป็นแผลชนได้ยังไง

“เสี่ยวฝาง แกไปดูสิ ว่าเกิดเรื่องอะไรกันแน่”หลี่ต๋าคางก็ดูออกว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากล จึงพูดกับหลี่ฝาง

“อืม”หลี่ฝางพยักหน้า ลุกขึ้นเดินออกไป

“ถ้าเกิดเรื่องก็มาเรียกพ่อด้วย”หลี่ต๋าคางร้องบอก

หลังจากหลี่ฝางออกไปแล้ว คิ้วของหลี่ต๋าคาง ก็ขมวดขึ้น

“ตระกูลเฉียนโกงเงินของเราไปไม่น้อยเลยนะ ”เมี๋ยวชุ่ยพูด

“ใช่ ตามหลักแล้วเงินที่เราใช้ชดเชย พื้นที่ใหญ่ขนาดนี้ อย่างน้อยต้องได้รับชดเชยเป็นเงินล้านกว่าๆ ”หลี่ต๋าคางขมวดคิ้ว สายตามีแววเย็นเยือก “ตระกูลเฉียน เขี้ยวเกินไปแล้ว”

หลี่ต๋าคางเอามือถือออกมา โทรหาเบอร์ของลุงเฉียน

ตอนที่หลี่ฝางมาถึงชั้นล่างของร้าน เจอเข้ากับไอ้หน้าบากกับพวกพอดี

เวลานี้ โต๊ะหลายตัวได้ถูกพวกของไอ้หน้าบากคว่ำไปแล้ว

หลานสาวของเจ้าพาน ตกใจจนร้องไห้ กอดขาของหลินชิงชิงเอาไว้ ร้องไห้เสียงดังขึ้นมา

“ฉันว่านะเจ้าพาน ได้ยินว่าครั้งนี้ย้ายขึ้นที่ดิน นายได้เงินไม่น้อยเลยนี่”ไอ้หน้าบากมองเจ้าพาน เลิกคิ้วขึ้น “เชิญแขกมาเยอะขนาดนี้ ทำไมไม่โทรบอกฉันสักคำ”

“ชิ นายนี่มันไม่ไว้หน้าพี่หน้าบากซะเลย ”ลูกน้องของไอ้หน้าบากคนหนึ่ง ตรงไปเตะเจ้าพานหนึ่งที

เจ้าพานถูกเตะไปกองที่พื้น แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยพยุงให้ลุกขึ้น

“ยังมีเธอ ชิงชิง หลายวันนี้หายหน้าไปไหนมา ไปหาเธอตั้งหลายที่ก็หาไม่เจอ

เธอไปมีผู้ชายอยู่ข้างนอกหรือเปล่า ”หันกลับมา ไอ้หน้าบากมองหลินชิงชิงสายตาเย็น ถามขึ้น

“ฉันจะไปไหนมันเกี่ยวอะไรกับนาย คงไม่จำเป็นต้องบอกนายทุกเรื่องหรอกมั้ง”หลินชิงชิงกลอกตาให้กับไอ้หน้าบาก

“โอ้โห ไม่เจอกันไม่กี่วัน กล้าดีขึ้นมากเลยนะ กล้าเถียงฉันด้วย”ไอ้หน้าบากสีหน้าขรึมลง เดินไปหาหลินชิงชิง

มือของไอ้หน้าบาก คว้าหมับไปที่หลินชิงชิง

ครั้งนี้ หลินชิงชิงไม่คิดจะยอมอีกต่อไปแล้ว

ก่อนหน้านี้ตอนที่ไอ้หน้าบากรังแกเธอ เพื่อปกป้องร้านปิ้งย่างของเจ้าพาน หลินชิงชิงได้แต่อดทน ยอมถอย ขอเพียงไอ้หน้าบากไม่ทำเกินเลย หลินชิงชิงจะไม่ต่อต้าน

ตอนนี้เจ้าพานจะไปจากที่นี่แล้ว หลินชิงชิงไม่จำเป็นต้องทนอีกต่อไป

หลินชิงชิงยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็ว จับนิ้วมือสามนิ้วของไอ้หน้าบากเอาไว้ ใช้แรงดึงอย่างแรง

ไอ้หน้าบากเจ็บเจียนตาย ปากตะโกนร้องเจ็บ ตัวก็คุกเข่าลงไป

“ฉันทนนายมานานแล้ว”

หลินชิงชิงเตะเขาไปหนึ่งที ตรงคางของไอ้หน้าบาก ทำให้ล้มลงไปกับพื้น

“อีบ้าเอ๊ย อีนังสารเลว ที่แท้ก็มีฝีมือต่อสู้หรือเนี่ย”ไอ้หน้าบากที่ล้มอยู่กับพื้น

มองหลินชิงชิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ โมโหมาก

“แต่ฉันไม่เชื่อหรอก ว่าเธอคนเดียวจะสู้กับสิบคนได้”ไอ้หน้าบากพูดกลั้วหัวเราะ

ไอ้หน้าบากพาคนมาไม่น้อย รวมๆแล้วก็สิบกว่าคนได้

“โธ่เอ๊ยไม่ต้องกงต้องกินแล้ว ไสหัวออกไปให้หมด”หลังจากที่ไอ้หน้าบากลุกขึ้นได้ ก็ด่าลูกค้าที่นั่งอยู่เต็มร้านปิ้งย่าง

ลูกค้าเหล่านี้ ได้ยินเสียงด่า ก็รีบลุกขึ้นหนีอย่างรวดเร็ว

ไอ้หน้าบากเป็นเจ้าถิ่นอยู่ที่นี่ คนทั่วไป ใครจะกล้าแหย่เขา

“นังสารเลว ถุย”

มองหลินชิงชิง ไอ้หน้าบากถุยเลือดออกมา

ต้องบอกว่า ลูกเตะของหลินชิงชิง หนักไม่เบา

“ครั้งที่แล้วฉันเมากลับบ้าน ระหว่างทางถูกผู้หญิงคนหนึ่งซ้อม แม่มันเถอะ เป็นเธอสินะ”ไอ้หน้าบากขบเคี้ยวฟัน

หลินชิงชิงหัวเราะ “ใช่ฉันเอง”

“ผู้หญิงอย่างเธอ ใจร้ายจริงๆ ตีจนฉันลุกจากเตียงไม่ได้ตั้งสามวัน ”ไอ้หน้าบากพูดด้วยสีหน้าชั่วร้าย

“แค่สามวัน เห็นทีนายก็ทนไม้ทนมือเหมือนกัน”

หลินชิงชิงพูดขึ้น “ฉันยังรู้สึกเสียใจอยู่นิดหน่อย ทำไมไม่ตีขานายให้หักไปเลยนะ จะได้ไม่เที่ยวไปหาเรื่องเขาไปทั่ว”

ครั้งนั้นไอ้หน้าบากโอบเอวของหลินชิงชิงตอนนั้นหลินชิงชิงไม่ได้ระเบิดอารมณ์ทันที

แต่หลังจากนั้น หลินชิงชิงได้เปลี่ยนชุดที่ทะมัดทะแมงขึ้น ปิดหน้า ไปซุ่มโจมตีไอ้หน้าบาก

แต่ว่าตอนนั้น ไอ้หน้าบากคิดไม่ถึงว่าคนที่ลอบกัดเขา จะเป็นหลินชิงชิง

“แม่งเอ๊ย ฉันตามสืบอยู่เป็นอาทิตย์ ก็หาคนร้ายไม่เจอ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเธอ”

ไอ้หน้าบากกัดฟัน โบกมือและพูดขึ้น “พี่น้องทั้งหลาย ลุย ถอดเสื้อผ้าของนังผู้หญิงคนนี้ ออกให้หมด”

เสียงของไอ้หน้าบากเพิ่งจะสิ้นสุดลง คนสิบกว่าคนก็กรูกันเข้าไป พุ่งเข้าไปในร้านปิ้งย่าง ล้อมหลินชิงชิงเอาไว้

“พวกนายอย่าทำซี้ซั้วนะ ถ้าพวกนายทำ ฉันจะแจ้งความ”เจ้าพานเอามือถือออกมา พูดขึ้นคำหนึ่ง

“แจ้งความ นายลองแจ้งดูสิ”ไอ้หน้าบากมองเจ้าพานอย่างดูถูก

“นายเชื่อหรือเปล่าว่าฉันโยนหลานสาวแกลงไปในเตาไฟได้นะ ”ไอ้หน้าบากชี้ไปยังหลานสาวของเจ้าพาน ยิ้มชั่วร้าย

“นายกล้าเหรอ”หลินชิงชิงเอ่ยเสียงเย็น

“เผาเธอให้ตาย ฉันไม่กล้าหรอก แต่ถ้าทำให้หน้าเธอเสียโฉม ฉันยังพอจะทำได้”ไอ้หน้าบากหัวเราะชั่วร้าย “ดูเด็กน้อยคนนี้สิ หน้าตาไม่เลวเลย โตขึ้นมา ต้องเป็นสาวสวยล่มเมืองแน่นอน”

ระหว่างพูด ไอ้หน้าบากก็หยิบมีดออกมาจากอก “แต่ถ้ากรีดไปที่หน้านั่นสักสองแผล แม้เธอจะรูปร่างดีแค่ไหน สวยแค่ไหน ก็คงไม่มีใครเอา”

“ลูกพี่ อย่าเลย ฉันชอบโลลิที่สุด ทำไมต้องทำลายโฉมเธอด้วย ไม่สู้ส่งเธอให้ฉัน ฉันจะเลี้ยงเอง ”เจ้าอ้วนคนหนึ่ง เอ่ยด้วยสีหน้าน่าเวทนา

“พอแล้ว อย่าไร้สาระน่ะ รีบถอดเสื้อผ้าของนังคนนั้นเร็ว”ไอ้หน้าบากพูดเสียงเย็น “สะสางเรื่องวันนี้เสร็จ พวกเราจะไปจากเมืองเอก”

พูดจบ ไอ้หน้าบากก็เดินไปตรงหน้าเจ้าพาน แย่งมือถือเจ้าพานไป โยนเข้าไปในกองไฟ

“ไอ้แก่ เอาเงินเวนคืนสามแสนของแกออกมา ถ้าไม่อย่างงั้น ฉันจะทำลายโฉมหลานสาวแก”ไอ้หน้าบากมองเจ้าพานอย่างดุร้าย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท