NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 227

ตอนที่ 227

บทที่ 227 หลี่ต๋าคางมาแล้ว

หลี่ฝางเลิกคิ้ว มองถิงถิงด้วยสีหน้าได้ใจ

ถิงถิงมองหลี่ฝาง แล้วกลืนน้ำลาย

ตอนนี้ ในใจของถิงถิงได้ยินเสียงกลองปิดศาลดังขึ้น

หรือว่า หลี่ฝางจะเป็นเจ้าของ Recalling the past ตัวจริง

ถ้าเป็นอย่างนั้น เธอก็ทำผิดมหันต์กับคุณชายที่สูงส่งแล้วไม่ใช่เหรอ

“เธอเป็นใบ้ไปแล้วหรือไง รีบถามสิ”จ้าวเสี่ยวตาวอดไม่ได้ที่จะด่าถิงถิงออกไป

จ้าวเสี่ยวตาวในตอนนี้ ลืมตัวไปว่าว่าที่ภรรยาของตนเองก็อยู่ข้างๆ

ได้ยินเจ้าวเสี่ยวตาวด่าคน เฉียนเป่าเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

ถิงถิงเพิ่งจะเอ่ยปากถาม “รบกวนสอบถามว่า เจ้าของบาร์ของพวกคุณชื่ออะไร ใช่หลี่ฝางหรือเปล่า ”

หลังจากนั้นหนึ่งนาที ถิงถิงก็วางสายโทรศัพท์

จ้าวเสี่ยวตาวถามถิงถิงทันที “อีกฝ่ายว่ายังไง”

“หลี่ฝางเป็นเจ้าของ Recalling the past จริง ”พูดจบ ถิงถิงก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

“ฮึ ชั้นนึกไว้แล้วเชียว หลี่ฝางต้องเตรียมกับถังหยู่ซวนไว้ก่อนแล้วแน่ๆ จงใจหลอกพวกเรา”จ้าวเสี่ยวตาวพูดเสียงเย็น

จ้าวเสี่ยวตาวยังคงสงสัย “หลี่ฝาง โทรศัพท์สายเมื่อกี้ นายโทรหาถังหยู่ซวนใช่หรือเปล่า”

“คุณชายจ้าว พวกเขาคงไม่ได้ร่วมมือเตรียมการหลอกเรา”ไม่รอให้หลี่ฝางตอบ

ถิงถิงพูดขึ้นเสียงเบา

“เธอรู้ได้ยังไง”จ้าวเสี่ยวตาวถลึงตาใส่ถิงถิง

ถิงถิงชะงักไปสักครู่ ก่อนจะพูดว่า “เพราะอีกฝ่ายบอกว่า พรุ่งนี้จะให้คนของบาร์ส่งเอกสารสิทธิ์ โฉนดของบาร์ ทั้งหมดมาที่คฤหาสน์บ้านซาน”

“ไม่ได้มีเพียงแต่บาร์เท่านั้นที่เป็นของหลี่ฝาง ยังรวมถิงสิทธิ์ในการครอบครองบาร์ก็เป็นของหลี่ฝาง”ถิงถิงพูด

เมื่อได้ยิน สมองของจ้าวเสี่ยวตาวก็เกิดเสียงอื้ออึงขึ้น

คำหลอกลวงสามารถสร้างขึ้นได้ แต่ใบอนุญาต สัญญาหุ้นส่วนต่างๆ ไม่สามารถปลอมได้

ในเมื่อพวกเขากล้าพูดว่าจะส่งมาให้ นั่นแสดงว่า นี่คือเรื่องจริง

“จ้าวเสี่ยวตาว จนถึงตอนนี้แล้วทำไมยังไม่เชื่อหลี่ฝางอีก ถ้าบาร์ไม่ได้เป็นของเขา เขาจะกล้ารูดบัตรทีเดียวสี่สิบหกล้านเลย เพื่อเป็นเงินดาวน์ได้ยังไง”เฉียนเป่าเอ๋อกลอกตาให้กับจ้าวเสี่ยวตาว

“ปัญญาอ่อนจริงๆ ”เฉียนเป่าเอ๋อจนคำพูดแล้ว

จ้าวเสี่ยวตาวคนนี้ ทำไมถึงไม่มีสมองนะ

หลี่ฝางเดินไปตรงหน้าจ้าวเสี่ยวตาว พูดว่า “พรุ่งนี้ผมจะทำเรื่องเอกสารทุกอย่างให้เรียบร้อย ถึงตอนนั้น คุณก็เรียกพ่อแม่คุณมาได้เลย”

สมองของจ้าวเสี่ยวตาว อื้ออึงขึ้นอีกครั้ง

เขาเกือบจะลืมการพนันกันเมื่อครู่ไปแล้ว

ตัวเองแพ้แล้วเหรอ

และยังลากพ่อแม่ของตัวเองเข้ามาในเกมส์ด้วย

เวลานี้ จ้าวเสี่ยวตาวมองหลี่ฝางด้วยแววตาเย็นๆ ราวกับบื้อไปแล้ว“บาร์จะเป็นของนายได้ยังไง ”

“นายเป็นใครกันแน่”

“นายกับคุณท่านหลี่ เป็นอะไรกันแน่”

หลี่ฝางตบหน้าจ้าวเสี่ยวตาวเบาๆ พูดว่า “ทำไม เรื่องมาถึงตอนนี้ ยังคิดไม่ออกเหรอว่าผมเป็นใคร”

“เมื่อกี้ผมเตือนคุณแล้วนะ รถปอร์เช่918ของถังหยู่ซวน ผมให้เขาเอง”หลี่ฝางพูดเรียบๆ

จ้าวเสี่ยวตาวเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว มองหลี่ฝาง

ที่ทุกคนต่างก็เข้าใจไปว่าถังหยู่ซวนเป็นหลานชายของหลี่เจียเฉิน ก็เพราะรถปอร์เช่918คันนั้น

ถ้าหากว่ารถ918คันนั้นเดิมทีเป็นของหลี่ฝาง

นั่นก็แสดงว่า

หลี่ฝางต่างหากที่เป็นหลานของหลี่เจียเฉิน

จ้าวเสี่ยวตาวตกใจจนผงะถอยหลังไปหลายก้าว สะดุดล้มลงบนพื้น

หลี่ฝางหัวเราะ พูดว่า “จำไว้ อย่าบอกกับใครเด็ดขาดว่าผมเป็นใคร”

จ้าวเสี่ยวตาวใบหน้าขาวซีด ตกใจจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว

เขาเพียงแต่พยักหน้าให้กับหลี่ฝาง

“อย่าลืมบอกกับพ่อแม่คุณด้วยนะ พรุ่งนี้บ่ายสาม มารายงานตัวให้ตรงเวลาด้วย”หลี่ฝางพูดเสียงเย็น

จ้าวเสี่ยวตาวมองหลี่ฝางราวกับร้องขอชีวิต “หลี่ฝาง ฉันผิดไปแล้ว”

“ขอร้องล่ะปล่อยพ่อแม่ฉันไปเถอะ พ่อกับแม่ฉัน ปกติก็ยุ่งแต่กับงานที่บริษัท พวกเขาจะเอาเวลาที่ไหนมาดูแลบ้าน ทำความสะอาดให้นาย”จ้าวเสี่ยวตาวร้องขอความเมตตากับหลี่ฝาง

“นายรู้จักคำว่ายอมเดิมพันรับความพ่ายแพ้หรือเปล่า”

หลี่ฝางส่ายหน้า พูดว่า “แพ้ก็คือแพ้ แพ้ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทน”

“ตอนนี้มาขอร้องฉันจะมีประโยชน์อะไร” ”

“หากฉันแพ้ ขอร้องนายบ้าง นายจะปล่อยฉันหรือเปล่า ”หลี่ฝางถามกลับ

พูดจบ หลี่ฝางก็ไม่รอให้จ้าวเสี่ยวตาวตอบ แต่ก้าวเท้าเดินออกไปทันที

เพราะในใจของหลี่ฝางมีคำตอบที่ชัดเจนแล้ว

หากตนแพ้ ขอความเมตตากับจ้าวเสี่ยวตาว จ้าวเสี่ยวตาวคงไม่ปล่อยเขาไปแน่

หลังจากหลี่ฝางไปแล้ว เฉียนเป่าเอ๋อรีบเดินมาตรงหน้าจ้าวเสี่ยวตาว เตะเขาหนึ่งที “รีบลุกขึ้นเดี๋ยวนี้”

“เป่าเอ๋อ ผมจะทำยังไงดี ถ้าพ่อแม่ผมรู้เรื่องนี้เข้า พวกเขาต้องตีผมตายแน่”จ้าวเสี่ยวตาวร้อนใจจนจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว

จ้าวควนเป็นถึงประธานบริษัทของตระกูลจ้าว

ให้ประธานบริษัทมาเฝ้าบ้าน ล้อเล่นหรือไง

ส่วนแม่ของจ้าวเสี่ยวตาว นอกจากจะเป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัทแล้ว ก็ยังเป็นสุภาพสตรีที่มีชื่อเสียงในเมืองเอก

ให้เธอมาเป็นแม่บ้านให้หลี่ฝาง ยังไม่สู้ฆ่าเธอให้ตายเสียดีกว่า

แต่ถ้าหากบิดพลิ้ว จ้าวเสี่ยวตาวเองก็ไม่มีความกล้าขนาดนั้น

อย่าว่าแต่จ้าวเสี่ยวตาวไม่มีเลย แม้แต่ตระกูลจ้าวก็ไม่กล้า

ครั้งที่แล้วตอนที่อยู่ที่รีสอร์ต หลี่ฝางทำแจกันเครื่องลายครามตกแตกไปสี่ใบ แจกันพวกนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นของปลอม แต่รีสอร์ตก็แบล็กเมล์เอาเงินของตระกูลหยูไปได้ถึงสิบล้าน

ตอนนี้ จ้าวเสี่ยวตาวเข้าใจแล้ว ทำไม่วันนั้นที่รีสอร์ตถึงได้มีคนคอยปกป้องหลี่ฝาง

ที่แท้หลี่ฝางเป็นเจ้าของบ้านพักอากาศนั้นเอง

ขนาดตระกูลหยู่ยังไม่กล้าล่วงเกินตระกูลหลี่ แล้วตระกูลจ้าวของเขา แน่นอนว่าก็ทำไม่ได้เช่นกัน

หลี่ฝางเพิ่งจะเดินไปถึงตีนเขา ก็มองเห็นพ่อแม่ของตัวเอง หลี่ต๋าคางกับเมี๋ยวชุ่ย

หลี่ฝางขยี้ตาตัวเอง คิดว่าตนเองตาฝาดไป

“คุณพ่อ คุณแม่ ทำไมถึงมาที่นี่ได้”หลี่ฝางรีบวิ่งเข้าไปหาทันที เอ่ยถามอย่างตื่นเต้น

“ก็มาดูแกน่ะสิ”

“ฝึกทหารไปหลายวัน หน้าคล้ำไปเลย”เมี๋ยวชุ่ยจับใบหน้าหลี่ฝาง

พูดว่า “ทำไมไม่ทากันแดดซะบ้าง”

“แม่ ผมเป็นผู้ชายนะ ทากันแดดอะไรกัน คนอื่นจะได้หัวเราะเยาะเอา เดี๋ยวก็มีคนพูดว่าผมมันตุ๊ด”หลี่ฝางจนคำพูด

“ใช่แล้ว พ่อ ผมซื้อบ้านที่นี่หลังหนึ่ง”หลี่ฝางมองหลี่ต๋าคาง พูดอย่างลังเลอยู่บ้าง

ตอนที่พูด หลี่ฝางไม่กล้าสบตาหลี่ต๋าคาง ราวกับเป็นเด็กทำผิด

“พ่อ พ่อไม่โทษผมใช่มั้ย”หลี่ฝางถามขึ้น

“ก็แค่ซื้อบ้าน ฉันจะโทษแกทำไม”หลี่ต๋าคางถามกลับ

“แต่บ้านหลังนี้ ราคาสองร้อยล้านนะพ่อ”หลี่ฝางกลืนน้ำลาย

ที่จริงที่ซื้อบ้านหมายเลขหนึ่ง เหตุผลส่วนใหญ่ ก็เพื่อประชดเท่านั้น

มาคิดดูอีกที หลี่ฝางก็รู้สึกว่าแพงเกินไป

หากเทียบกับราคาต่อหน่วยของที่อื่นๆแล้ว ก็คงจะแค่หกหมื่นกว่า หลี่ฝางรู้สึกว่ายังพอใช้ได้ แต่ราคาต่อหน่วยที่นี่หนึ่งแสนแปดหมื่นแปด มันแพงเกินไปจริงๆ

“สองร้อยล้านแพงมากไปจริงๆ แต่ว่า บ้านเราก็ไม่ได้ขาดสนเงินสองร้อยล้านซะหน่อย”หลี่ต๋าคางหัวเราะ พูดอย่างไม่แคร์ “ฉันสร้างรีสอร์ตที่หนึ่ง ยังจ่ายเป็นหมื่นล้าน ”

“ใช่แล้ว เทียบกับพ่อของลูก ลูกประหยัดเงินได้กว่าตั้งเยอะ”เมี๋ยวชุ่ยพูดขึ้น

ตอนนี้เอง ถิงถิงขับรถนำชมบ้านมา พาจ้าวเสี่ยวตาวกับเฉียนเป่าเอ๋อมาด้วย

“เสี่ยวฝาง เมื่อกี้พวกเขาดูถูกแกเหรอ”หลี่ต๋าคางมองคนพวกนั้น

สายตามีแววเย็นเหยียบฉายออกมา

“พ่อรู้ได้ไง”

“แม่กับพ่อเห็นแล้ว”เมี๋ยวชุ่ยพูด “ที่จริงเรามาถึงนานแล้ว ตอนที่ลูกอยู่ที่สำนักงานขาย พวกเราก็อยู่ที่ประตูแล้ว”

“แม่กับพ่อยังได้ยินลุงเฉียนพูดว่า ลูกจะจ่ายเงินดาวน์ซื้อบ้าน ทำไม ไม่มีเงินแล้วเหรอ”

เมี๋ยวชุ่ยกลอกตาให้กับหลี่ฝาง “ไม่มีเงินแล้วทำไมไม่โทรหาพ่อกับแม่หึ”

หลี่ต๋าคางก็พูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ “ใช่ เห็นพวกฉันเป็นคนนอกสินะ ลูกชายซื้อบ้าน พ่อแม่ต้องเป็นคนออกเงินถึงจะถูก”

หลี่ฝางจับท้ายทอยอย่างอายๆ โล่งใจมาก

หลี่ฝางพูดว่า “ผมกลัวพ่อจะว่าผมไง เพราะบ้านหลังนี้ แพงมาก”

“เอาเถอะ เงินสดสองร้อยกว่าล้าน ฉันหาคนเอามาให้แล้ว ”หลี่ต๋าคางมองนาฬิกา พูดขึ้นว่า “น่าจะใกล้ถึงแล้ว”

“ยังจะกู้กับธนาคาร แกไม่อายเหรอ มีแต่ธนาคารยืมเงินกับตระกูลหลี่ของเรา ตระกูลหลี่ของเรา จะไปยืมเงินธนาคารทำไม ล้อเล่นหรือเปล่า ”หลี่ต๋าคางพูด ถลึงตาให้หลี่ฝาง

เพิ่งพูดจบ มีรถคันใหญ่ขับเข้ามา

และคนที่ขับรถ ก็คือส้าวส้วย

ส้าวส้วยลงจากรถ เดินไปตรงหน้าหลี่ต๋าคาง พูดว่า “ลูกพี่ใหญ่ เงินมาถึงแล้ว”

หลี่ต๋าคางพยักหน้า ถามกับหลี่ฝางว่า “เสี่ยวฝาง ไปเรียกพวกคนที่ดูถูกแกเมื่อกี้มาให้หมด”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท