บทที่ 228 เงินสดที่กองเป็นภูเขา
“เรียกพวกเขามาทำไม”หลี่ฝางถาม
“ให้บทเรียนพวกเขาสักหน่อย แล้วให้พวกเขาดูสิว่า ใครกันแน่ที่เป็นคนรวยจริงๆ”หลี่ต๋าคางพูดกลั้วหัวเราะ
หลี่ฝางคิดในใจ จะทำให้มากเรื่องทำไม
ตัวเองได้พิสูจน์ไปแล้ว
ทั้งฐานะเจ้าของแบล็กการ์ด เจ้าของบาร์
แต่ว่าหลี่ต๋าคางได้พูดไปแล้ว หลี่ฝางก็ได้แต่ทำตาม เขาเกินไปยังรถนำชมบ้าน
พูดกับพวกเขาว่า “พ่อผมเรียกพวกคุณไปทางโน้นหน่อย”
“พ่อคุณมาเหรอ”เฉียนเป่าเอ๋อรีบกระโดดลงจากรถ มองหลี่ฝางอย่างสนอกสนใจ
เฉียนเป่าเอ๋อคิดดูแล้ว คนที่มีแบล็กการ์ด จะมีหน้าตายังไง
แต่จ้าวเสี่ยวตาวกลับรู้สึกกลัวอยู่บ้าง เพราะเขามองเห็นส้าวส้วย
ในปากของส้าวส้วยอมอมยิ้มอยู่ มองมาทางเขาอย่างมีรสชาติ
“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดหรือไง พ่อแนให้นายไปหา”หลี่ฝางจ้องจ้าวเสี่ยวตาว
จ้าวเสี่ยวตาวรู้ฐานะที่แท้จริงของหลี่ฝางแล้ว แน่นอนว่าไม่กลัวปะทะด้วย
เขาตอบรับเสียงเบา กระโดดลงจากรถ เดินไป
“ยังมีเธอ……”หลี่ฝางชี้ไปทางถิงถิง
ถิงถิงสีหน้าไม่น่าดู เพราะว่า ก่อนหน้านี้เธอดูถูกหลี่ฝางไว้มาก คิดว่าเขาเป็นยาจก
ถ้าเธอไป คงไม่มีผลดีแน่
แต่ตอนนี้หลี่ฝางคือลูกค้ารายใหญ่ของคฤหาสน์บ้านซาน สิ่งที่เขาพูด ถิงถิงไม่ฟังได้หรือ
แต่หวางจุนคนนั้น หลี่ฝางไม่ได้เรียกเขา แต่เขากลับเดินตามไปอย่างกระตือรือร้น
หลังจากคนทั้งหมดมาครบแล้ว หลี่ต๋าคางก็ส่งสายตาให้กับส้าวส้วยทีหนึ่ง
ส้าวส้วยรู้ความหมายของหลี่ต๋าคางทันที ชี้คนทั้งหมดแล้วพูดว่า “อย่าจับมั่วนะ ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ต้องรับผิดชอบเองนะ”
อย่าจับ มีเรื่องแล้ว ต้องรับผิดชอบ
เฉียนเป่าเอ๋ออึ้ง นี่มันหมายความว่าไง
ส้าวส้วยพูดจบ ก็โดดขึ้นไปบนรถ จากนั้นก็จับพวงมาลัยแน่น สตาร์ทรถทันที ขับรถตรงมาทางพวกเขา
“บ้าเอ๊ย ไอ้นี่มันจะทำอะไรขอมัน เขาจะชนพวกเราตายหรือไง”จ้าวเสี่ยวตาวตกใจจนหัวใจจะกระเด็นออกมาแล้ว
เฉียนเป่าเอ๋อก็ตกใจไม่แพ้กัน จับมือจ้าวเสี่ยวตาวไว้แน่น
เฉียนเป่าเอ๋อรู้สึกว่า ร่างกายของจ้าวเสี่ยวตาว แข็งทื่อไปหมด
รถขับใกล้เข้ามาทุกที หลี่ฝางก็ตกใจเช่นกัน
ส้าวส้วยจะทำอะไรเนี่ย
พวกเขาก็แค่ดูถูกเขาไม่กี่คำ เจ้านายตัวเองก็ให้ส้าวส้วยชนพวกเขาตายกันหมดหรือไง
นี่มันทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่แล้ว
ห้าเมตร สามเมตร สองเมตร หนึ่งเมตร
ทุกคนต่างร้องเสียงหลง
ส้าวส้วยยิ้ม หักหัวรถกะทันหัน ขับรถวนรอบพวกเขา
ส้าวส้วยขับวนรอบพวกเขา เริ่มดริฟต์รถเป็นวงกลม
พอดริฟถึงรอบที่สาม รถยนต์ ก็เอียงไปข้างหนึ่งอย่างกะทันหัน ล้อข้างหนึ่งยกสูงขึ้น
เงินเป็นตั้งๆ ตกลงมาจากบนรถ
ผ่านไปหลายนาที ส้าวส้วยจอดรถ ลงมาจากรถ
ส้าวส้วยเดินไปตรงหน้าจ้าวเสี่ยวตาว ในปากยังอมอมยิ้ม พูดไม่ค่อยชัดเจนอยู่บ้าง“คืนนี้มีธุระอะไรหรือเปล่า”
“มี ติดธุระนิดหน่อย ”จ้าวเสี่ยวตาวตอบอย่างไม่ค่อยมั่นใจ เขาจะไปกินข้าวกับเฉียนเป่าเอ๋อ
“มีธุระ คุณมีธุระอะไร ”ส้าวส้วยได้ยินคำตอบ สีหน้าก็ขรึมลงทันที
“ไม่มี ไม่มีธุระอะไร พี่ชายมีอะไรหรือเปล่า ”จ้าวเสี่ยวตาวเคยเห็นฝีมือของส้าวส้วย รู้ว่าเขาคือยอดฝีมือ
ลูกเตะพิฆาตต่อเนื่องสามครั้งกลางอากาศของเขา ถูกส้าวส้วยโจมตีได้
ตอนนั้น จ้าวเสี่ยวตาวเข้าใจแล้วว่า แม้แต่อันดับหนึ่งของเทควันโดถ้ามาอยู่ต่อหน้าส้าวส้วย ก็ต้องพ่ายแพ้อยู่ดี
ส้าวส้วยผุดรอยยิ้มขึ้น หัวเราะอย่างพอใจ พูดว่า “ช่วยฉันนับเงินหน่อย”
“นับเงิน”มองไปยังเงินสดกองโต จ้าวเสี่ยวตาวสีหน้าซับซ้อนวุ่นวาย
เขาเชื่ออย่างสนิทใจแล้วว่า หลี่ฝางเป็นหลานของหลี่เจียเฉินจริงๆ ทายาทเศรษฐีที่รวยมาก
“ใช่แล้ว เจ้านาย ยังขาดเงินอีกเท่าไหร่”ส้าวส้วยมองหลี่ฝางและถามขึ้น
หลี่ฝางก็ไม่รู้ ทำได้เพียงถามหวางจุน “หวางจุน ฉันจะไม่ทำเรื่องผ่อนบ้านแล้ว ยุ่งยากเกินไป คิดว่าจะจ่ายครั้งเดียวเลย นายช่วยคำนวณให้หน่อย ยังขาดเงินอีกเท่าไหร่”
หวางจุนเปิดแอปฯเครื่องคิดเลขในมือถือ คิดคำนวณอยู่สักครู่ ก็พูดว่า “ยังขาดหนึ่งร้อยแปดสิบห้าล้านเก้าแสนเก้าหมื่นสองพัน”
ส้าวส้วยพยักหน้า พูดกับจ้าวเสี่ยวตาวว่า “ได้ยินหรือยัง”
“ช่วยฉันนับเงินจำนวนหนึ่งร้อยแปดสิบห้าล้านเก้าแสนเก้าหมื่นสองพันออกมา นับเสร็จเมื่อไหร่ ฉันจะเลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์นาย ”ส้าวส้วยตบไหล่จ้าวเสี่ยวตาว พูดยิ้มๆ
“เลี้ยงนายสามชิ้นเลย อ้อใช่แล้ว แฟนนายด้วย เลี้ยงเธอหนึ่งชิ้น”ส้าวส้วยมองเฉียนเป่าเอ๋อ เอ่ยเสริมขึ้น
“ฉันไม่กินแฮมเบอร์เกอร์”เฉียนเป่าเอ่อพูด
“งั้นฉันก็ประหยัดได้หนึ่งอัน”ส้าวส้วยเอ่ยอย่างดีใจ
“ฉันก็ไม่อยากนับเงินให้นายด้วย”เฉียนเป่าเอ๋อกลอกตาให้ส้าวส้วย
คิดว่าเธอเป็นอะไร เครื่องนับเงินเหรอ
เฉียนเป่าเอ๋อรู้สึกโมโหอยู่บ้าง
ส้าวส้วยส่ายหน้า “ไม่ได้ ยังไงก็ต้องช่วยฉันนับเงิน อีกอย่างคือนับเสร็จเมื่อไร ก็กินข้าวเมื่อนั้น”
หลี่ฝางวิ่งเข้าไป จับไหล่ของส้าวส้วยแล้วพูดว่า “ช่างเถอะ เมื่อกี้เธอไม่ได้ดูถูกฉัน”
“ปล่อยเธอไปเถอะ”หลี่ฝางมองเฉียนเป่าเอ๋อ
ส้าวส้วยพยักหน้า พูดกับเฉียนเป่าเอ๋อว่า “งั้นคุณไปได้”
จ้าวเสี่ยวตาวรู้สึกอยากกลับใจ
เงินหนึ่งร้อยแปดสิบห้าล้านเก้าแสนเก้าหมื่นสองพัน ใช้มือนับ
ต้องใช้เวลาเท่าไหร่กัน
“รีบนับเข้าเถอะ ที่นี่มีทั้งหมดสองสามร้อยล้าน แต่ฉันจำตัวเลขแน่นอนไม่ได้แล้ว นายช่วยฉันนับที แล้วค่อยบอกฉันอีกที”ส้าวส้วยพูดกับจ้าวเสี่ยวตาว
จ้าวเสี่ยวตาวยิ้มๆ พูดว่า “พี่ชาย เอางี้นะ ฉันจะหาพนักงานธนาคารที่ทำเรื่องนี้โดยเฉพาะมานับ ได้หรือเปล่า”
“ไม่ได้ ”ส้าวส้วยส่ายหน้าอย่างเด็ดขาด
“งั้นช่วยรอผมอีกสักหน่อยได้ไหม ผมจะไปซื้อเครื่องนับเงิน”จ้าวเสี่ยวตาวพูดอีก
“ฉันไม่เชื่อเครื่องนับเงิน ผิดออกบ่อย”ส้าวส้วยส่ายหน้า ยิ้มกับจ้าวเสี่ยวตาว “ฉันเชื่อนายมากกว่า ”
จ้าวเสี่ยวตาวมีใจที่คิดอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด
นี่มันต้องการจะแกล้งเขาชัดๆ
จ้าวเสี่ยวต้าวไม่ได้โง่สักหน่อย แค่นี้เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร
“รีบนับเข้าเถอะ นับเสร็จไวๆ นายก็จะได้กินแฮมเบอร์เกอร์ไวไว”ส้าวส้วยเดินไปที่รถ หยิบเอาแฮมเบอร์เกอร์มาสามชิ้น พูดว่า “อีกวันหนึ่งก็จะหมดอายุแล้ว นายนับเร็วหน่อย ถ้ามันหมดอายุแล้ว จะไม่อร่อย”
“……”จ้าวเสี่ยวตาวหมดคำพูด อีกวันเดียวก็จะหมดอายุ แล้วทำไมยังไม่รีบโยนทิ้งไป
“ดูสายตานายสิ รังเกียจแฮมเบอร์เกอร์ฉันเหรอ”ส้าวส้วยมองท่าทีของจ้าวเสี่ยวตาว ก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที
“แฮมเบอร์เกอร์นี้สอดไส้น่องไก่นะ ปกติฉันยังไม่กล้ากินเลย”ส้าวส้วยกลอกตาให้จ้าวเสี่ยวตาว แล้วพูดว่า “นายดูสิ ฉันดีกับนายแค่ไหน”
จ้าวเสี่ยวตาวแม้ว่าจะโมโหมาก แต่ใบหน้ากลับเห็นรอยยิ้มออกมา เอ่ยกับส้าวส้วยอย่างตื้นตัน “พี่ชาย ฉันขอบคุณพี่มากๆเลยนะ”
“ไม่ต้องเกรงใจ นายต้องช่วยฉันนับเงินนี่”
ส้าวส้วยหยิบมือถือออกมา เล่นเกมส์Honor of Kings “รีบนับเถอะ ฉันจะคอยดูนายอยู่ตรงนี้”
“อ้อใช่แล้ว ส่วนนายสองคน ”ส้าวส้วยชี้ไปที่ถิงถิงกับหวางจุน
ถิงถิงตอนนี้ ได้ถูกเงินที่กองเป็นภูเขาอยู่ตรงหน้า ทำเอาตะลึงงัน
เธอโตมาขนาดนี้ ไหนเลยจะเคยเห็นเงินสดมากมายก่ายกองขนาดนี้
เงินสดเยอะมากขนาดนี้ อย่างน้อยก็คงหนักสักสองสามตัน
เงินเป็นมัดเป็นมัดเหล่านี้ ความหนาก็ไม่สม่ำเสมอ เห็นอย่างนี้ จ้าวเสี่ยวตาวยิ่งรู้สึกไร้คำพูด
นี่มันไม่ใช่หมายความว่า ต้องนับทีละใบหรอกเหรอ
นี่คงต้องนับเป็นเดือนละมั้ง
จ้าวเสี่ยวตาวเตะถิงถิงหนึ่งที “ยังยืนบื้ออยู่ทำไม รีบนับเงินสิ”
ถิงถิงถึงได้สติกลับมา นั่งลงและเริ่มนับเงิน
หลี่ฝางเดินไป เตะจ้าวเสี่ยวตาวหนึ่งทีเช่นกัน “นายก็อย่ามัวชักช้า รีบนับเข้าเถอะ”
“พรุ่งนี้ผมก็จะซื้อบ้านแล้ว คืนนี้พวกนายก็ไม่ต้องกลับไปแล้ว นับเงินให้ฉันที่นี่แหละ ”หลี่ฝางพูดขึ้น
ถิงถิงกับจ้าวเสี่ยวตาว เงยหน้ามองหลี่ฝาง เงียบพร้อมกัน
มีเพียงหวางจุนที่ไม่บ่นสักคำ เพราะว่า ความรู้สึกในการนับเงินแบบนี้ มันดีจริงๆ
และอีกอย่างเขาก็กำลังจะได้เงินจากหลี่ฝางอีกกว่าหนึ่งล้าน จะให้นับกันทั้งคืนแล้วยังไง
“พวกเราไปกันเถอะ ”หลี่ฝางหันไปมอง พูดขึ้นกับหลินชิงชิง
เมื่อกี้ หลินชิงชิงก็ตกใจจนเกือบช็อก
หนึ่งคือความสามารถในการขับรถของส้าวส้วย สองคือเงินสดจำนวนมากขนาดนี้
ตอนนี้ เมี๋ยวชุ่ยเดินมาตรงหน้าหลินชิงชิง จับที่ข้อมือของเธอ
“ไป ลูก ไปนั่งรถแม่”
“แม่จะพาหนูไปกินของอร่อยๆกัน”
เมี๋ยวชุ่ยไม่สนใจหลี่ต๋าคาง จับมือของหลินชิงชิง ลากไปที่รถของตนเอง
พอขึ้นรถ เมี๋ยวชุ่ยก็ถามขึ้น “ใช่แล้ว ลูก หนูอายุเท่าไหร่แล้ว มีแฟนหรือยัง”