NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 238

ตอนที่ 238

บทที่ 238 การขอร้องของจางกงหมิง

สถานะของจางกงหมิงตอนนี้ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย

เมื่อได้ยินข่าวนี้ ในใจหลี่ฝางหวาดกลัวอยู่หลายส่วน

“พี่ ผมจะรีบไป”

หลังวางสาย หลี่ฝางขับรถตรงไปที่บ้านของหลินชิงชิง

ระหว่างเดินทาง หลี่ฝางล้วงโทรศัพท์มือถือออกมา ก่อนต่อสายหาส้าวส้วย

“ทำอะไรอยู่?” เพิ่งโทรติด หลี่ฝางเอ่ยถามขึ้น

“กำลังจะนอน” ส้าวส้วยเอ่ยอย่างเอ้อระเหย “เถ้าแก่ โทรมาดึกขนาดนี้ มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า?”

“ฉันจะแชร์โลเคชั่นไปในวีแชท นายรีบมาหาฉัน” หลี่ฝางเอ่ยขึ้น

“เถ้าแก่ ดึกขนาดนี้แล้ว ได้ค่าล่วงเวลาหรือเปล่า” ส้าวส้วยเอ่ยถาม

“…” หลี่ฝางไม่พูดจาเพราะหมดคำพูด

“อย่างน้อยต้องเพิ่มแฮมเบอร์เกอร์อีกสองชิ้น” ส้าวส้วยเอ่ยอย่างจริงจัง

ส้าวส้วยคนนี้ รักการกินแฮมเบอร์เกอร์ขนาดนั้น?

“เพิ่มให้อีกสาม” หลี่ฝางเอ่ยขึ้น

“ขอบคุณมากครับเถ้าแก่”

ส้าวส้วยเอ่ยจบ วางสายไป

หลี่ฝางเปิดจีพีเอส แต่ส้าวส้วยไม่ตอบรับ

ส้าวส้วยตอบกลับมาประโยคหนึ่ง “เถ้าแก่ มือถือผมแบตหมด ส่งโลเคชั่นมาให้ผมตรงๆ เถอะ”

หลี่ฝางจนใจ เพียงส่งที่ตั้งบ้านของหลินชิงชิงให้แก่ส้าวส้วย

ส้าวส้วยเวลานี้ ความจริงอยู่ด้านหลังหลี่ฝาง

ส้าวส้วยจะกล้าเปิดจีพีเอสได้อย่างไร เช่นนั้นเผยตำแหน่งที่อยู่ของตนนะสิ?

เช่นนั้นต่อมา หลี่ฝางต้องรู้ว่าส้าวส้วยติดตามเขา

แน่นอนว่าที่ส้าวส้วยติดตามหลี่ฝาง เพื่อคุ้มครองเขา แต่การคุ้มครองเช่นนี้ เสี่ยงต่อการถูกหลี่ฝางไล่ออกอย่างมาก

เพราะทุกคนต่างมีเรื่องส่วนตัวของตนไม่ใช่เหรอ?

คล้ายเรื่องที่หลี่ฝางค้างคืนที่ห้องของหลินชิงชิง หลี่ฝางต้องไม่อยากให้คนอื่นรู้แน่

แต่ส้าวส้วยรู้ และรู้ทั้งสองครั้ง

เพียงหลี่ฝางไป ส้าวส้วยติดตามไปทันที

หลี่ฝางมักรู้สึกว่าจู่ๆ กงหมิงไปเที่ยวที่บ้านของหลินชิงชิง ต้องไม่เรื่องที่ดีแน่

ไม่นาน หลี่ฝางมาถึงบ้านของหลินชิงชิง

เวลานี้ดึกสงัดแล้ว

รอบด้านของบ้าน เงียบจนน่าหวาดกลัว

ไฟภายในบ้านของหลินชิงชิงปิดสนิท

นี้จึงทำให้ใจของหลี่ฝางรู้สึกไม่สบายใจบางส่วน

หลี่ฝางมองทางด้านหลังแวบหนึ่ง ส้าวส้วยเจ้าคนนี้ทำไมยังมาไม่ถึงอีก?

“ไม่สนใจแล้ว เข้าไปก่อนแล้วกัน”

หลี่ฝางรอไม่ไหว จึงเดินเข้าไป

ทันใดนั้น หลี่ฝางเป็นห่วงหลินชิงชิงเป็นพิเศษ

หัวใจของหลี่ฝางเต้นอย่างรุนแรงตลอดทาง

หลังรีบวิ่งขึ้นไป หลี่ฝางเคาะประตู

ไม่ถึงสามวินาที ประตูก็เปิดออก ทันใดนั้นหลี่ฝางยิ่งกังวลเพิ่มขึ้น

ตอนนี้จางกงหมิงกลายเป็นคนของมู่เสี่ยวไป๋แล้ว หลี่ฝางกลัวว่ามู่เสี่ยวไป๋อาจอยู่ด้านในด้วย

ตอนเพิ่งแทงมู่เสี่ยวไป๋ไปสองครั้ง นี้หากให้มู่เสี่ยวไป๋จับตนได้ ตนต้องตายเป็นแน่?

หลังประตูเปิด เงาร่างสีดำวิ่งออกมา ก่อนลากหลี่ฝางเข้าไป

หลี่ฝางตกใจจนแทบร้องตะโกนขึ้นมา แต่กลับถูกเงาสีดำนี้อุดปากไว้

“ฉันเอง จางกงหมิง” จางกงหมิงเอ่ยขึ้น

หลี่ฝางได้ยินเสียงที่คุ้นเคย จึงวางใจลง

ภายในห้อง ไม่มีคนอื่น

มีเพียงหลินชิงชิงและจางกงหมิงสองคน

“ทำไมพวกเธอสองคนไม่เปิดไฟ?” หลี่ฝางเอ่ยถามขึ้น

จางกงหมิงส่ายศีรษะ ก่อนเอ่ยว่า “ตอนนี้ฉันถูกคนตามฆ่าอยู่”

“ตามฆ่า ถูกใครตามฆ่า?” ได้ฟังคำนี้ หลี่ฝางตกใจอย่างหนัก

“เป็นคนของห้าวหนาน แต่เป็นใคร ตอนนี้ฉันยังไม่แน่ชัด” จางกงหมิงเอ่ยด้วยสีหน้าหนักใจ

หลี่ฝางมองจางกงหมิงอย่างไม่เชื่อสายตา “เกิดอะไรขึ้น มีมู่เสี่ยวไป๋ปกป้องนายอยู่ไม่ใช่เหรอ พวกเขาทำไมถึงกล้าขนาดนี้?”

“ยังมีกลุ่มพี่น้องของนายพวกนั้นล่ะ พวกเขาไม่ได้ตามมาจากตงไห่เหรอ?”

หลี่ฝางเอ่ยถามรัวเป็นชุด “พวกเขาล่ะ พวกเขาไปไหนแล้ว?”

“ฉันกับพวกพี่น้องล้วนถูกหักหลัง คนของห้าวหนาน รู้เบาะแสของพวกเราอยู่แล้ว จึงซุ่มโจมตีฉันระหว่างทาง”

“ตอนนั้นฉันและพวกพี่น้องต่างดื่มจนเมา รวมทั้งอีกฝ่ายมีคนมากกว่า เดิมทีพวกฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้อยู่แล้ว พวกฉันจึงถูกโจมตีจนแตกแยกกัน ตอนไร้ทางเลือก ฉันทำได้เพียงหนีมาที่บ้านของหลินชิงชิง หลบอยู่ที่นี่สักระยะ”

“ฉันสงสัยว่าข้างกายฉันจะมีไส้ศึก ไม่งั้นคนของห้าวหนาน จะรู้เบาะแสของฉันแม่นยำขนาดนั้นได้ยังไง”

“ตอนนี้ฉันไม่กล้ากลับไปที่พักของตนเอง”

จางกงหมิงมองหลี่ฝางและหลินชิงชิง ก่อนเอ่ยว่า “ในเมืองเอก นอกจากพวกแกสองคน ไม่มีใครที่ฉันจะเชื่อใจได้”

หลี่ฝางกลอกตามองจางกงหมิง แล้วเอ่ยว่า “พอเถอะ หลายวันก่อนแกเกือบโยนฉันลงแม่น้ำเป็นอาหารปลา”

“ไอ้หนู ทำไมคิดแค้นขนาดนี้ ฉันบอกไม่ใช่เหรอ แกว่ายน้ำเป็น เพียงกลั้นหายใจไว้ ไม่ให้สำลัก ต้องไม่ตายแน่นอน”

จางกงหมิงเอ่ย “ฉันเคยโดดน้ำตก สูงกว่าสามร้อยเมตร มาตั้งหลายครั้ง”

“แม่X ถ้าหาก ถ้าหากฉันไม่ได้กลั้นลมหายใจล่ะ” หลี่ฝางรู้สึกจนใจ

“มู่เสี่ยวไป๋ให้นายโยนฉัน นายก็โยน นายกลับฟังคำสั่งเขา ตอนนี้เกิดเรื่อง ยังมีหน้ามาหาฉันให้ช่วย” หลี่ฝางเอ่ยอย่างโมโห

“งั้นนายจะช่วยไม่ช่วย?” จางกงหมิงเอ่ยถาม

เพราะจางกงหมิงเคยช่วยหลี่ฝางมาหลายครั้ง

จางกงหมิงมีอันตราย หลี่ฝางจึงไม่อาจเห็นคนใกล้ตายแล้วไม่ช่วยเหลือไม่ได้

หลี่ฝางเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “นายคือพี่ใหญ่ของฉัน นายเอ่ยปากแล้ว ฉันจะไม่ช่วยได้เหรอ?”

“อีกอย่าง มาก็มาแล้ว จะวิ่งมาให้เสียแรงเปล่าได้ยังไง” หลี่ฝางเอ่ยขึ้น

จางกงหมิงได้ยินจบ หัวเราะเฮอะเฮอะ “ไอ้หนู ฉันรู้ว่าในใจแกยังโกรธฉัน รอฉันจัดการเรื่องเสร็จ ฉันจะให้แกลงโทษฉันยกหนึ่ง นี้คงพอใจแล้วสินะ”

“นายต้องการทำอะไร?” หลี่ฝางซักถาม

“เรื่องนี้ค่อยคุยกัน พวกเราต้องคุยเรื่องคืนนี้ก่อน” จางกงหมิงดึงหลี่ฝางไปที่โซฟาด้านข้าง ก่อนนั่งลง

หลินชิงชิงวิ่งไปดึงผ้าม่าน จากนั้นเปิดโคมไฟให้แสงสว่างเพียงเล็กน้อยขึ้นอันหนึ่ง

ทันใดนั้น หลี่ฝางเห็นใบหน้าของจางกงหมิงชัดเจน

ใบหน้าของจางกงหมิงถูกมีดกรีดเป็นรอย และตอนนี้เลือดยังไหลอยู่

เสื้อผ้าของเขาถูกมีดเฉือนจนขาดวิ่น บนแขน ไหล่ และหน้าอกต่างมีรอยคมมีด

มีหลายแห่ง แทบเห็นถึงกระดูก

“พี่ พี่พันแผลให้พี่หมิงก่อนเถอะ” หลี่ฝางหลังเห็น เอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง

สีหน้าจางกงหมิงซีดเซียว มองรู้ว่าเสียเลือดอย่างหนัก

หลินชิงเองก็ตกใจ ก่อนมองจางกงหมิงพร้อมตำหนิตนเอง “เมื่อกี้ไม่ได้เปิดไฟ จึงไม่ทันได้สังเกตบาดแผลของพี่ ทำไมพี่ไม่พูด!”

“แค่แผลภายนอกเท่านั้น จะพูดทำไมกัน”

จางกงหมิงฉีกยิ้มออกมา ก่อนเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “วางใจเถอะ ไม่ถึงตายหรอก”

หลินชิงชิงหยิบกระเป๋าปฐมพยาบาลมา ก่อนเริ่มทำแผลให้กับจางกงหมิง

จางกงหมิงกัดฟัน และไม่กล้าส่งเสียงออกมา

“ทำไมต้องระวังตัวขนาดนี้?” หลี่ฝางขมวดคิ้วเอ่ยถาม “หรือที่นี่ไม่ปลอดภัย?”

“เมื่อกี้ตอนที่วิ่งมา ถูกพวกมันเห็นเข้า”

“ฉันคิดว่าพวกมันอยู่ใกล้ๆ แถวนี้ ดังนั้นฉันจึงไม่กล้าให้ชิงชิงเปิดไฟ และไม่กล้าเคลื่อนไหวมากเกินไป เพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกพวกมันพบเข้า”

“แต่ไม่ต้องกลัว บ้านแถวนี้กว้างขวาง มีเป็นสิบกว่าตึก พวกเขาไม่กล้าไล่เคาะประตูทีละหลังเพื่อตามหาหรอก” จางกงหมิงเอ่ย

หลี่ฝางขมวดคิ้ว “หรือจะให้บอกหวางเห้า เรียกเขามา?”

“ไม่จำเป็น” จางกงหมิงส่ายหน้า

“งั้นนายเล่ามา รายละเอียดเป็นยังไงกันแน่ นายคิดให้ฉันช่วยอะไร?” หลี่ฝางเอ่ยถาม

“เรื่องราว ยังต้องเริ่มจากวันที่นายแทงมู่เสี่ยวไป๋”

จางกงหมิงมองหลี่ฝาง พลันหัวเราะขึ้น “สองมีดของนายนั่น เกือบปลิดชีวิตของมู่เสี่ยวไป๋ ตอนที่ส่งมู่เสี่ยวไป๋ถึงโรงพยาบาล มู่เสี่ยวไป๋เกือบไม่รอดแล้ว”

“หมอบอกว่าหากช้าไปอีกสิบวิ ช่วยมู่เสี่ยวไป๋กลับมาไม่ได้แล้ว”

“เสี่ยวฝาง แทงคนไม่เป็น ต่อไปอย่าแทงมั่ว เพราะมันถึงแก่ชีวิตได้ บางแห่งอาจเป็นอวัยวะ บางแห่งเป็นหลอดเลือดใหญ่ หากนายไม่คิดฆ่าเขา ห้ามแทงบริเวณพวกนี้” จางกงหมิงสั่งสอนหลี่ฝางก่อนประโยคหนึ่ง

หลี่ฝางยิ้มอย่างเก้อเขิน “ฉันเกือบแทงมู่เสี่ยวไป๋ตาย?”

“ไม่ใช่หรือไง มู่เสี่ยวไป๋สลบไปสามวันเต็มๆ ตอนนี้เพิ่งฟื้นขึ้นมา แต่ยังอ่อนแรง ลงจากเตียงไม่ได้ด้วยซ้ำ”

จางกงหมิงเอ่ยว่า “ความจริงด้วยฝีมือของเสี่ยวโจว เขามาก็สามารถช่วยฉันได้ แต่เขาตอนนี้ต้องอยู่เฝ้ามู่เสี่ยวไป๋ก่อน ฉันไม่กล้าโทรหาเขา”

“จึงเรียกนายมา”

“หลังมู่เสี่ยวไป๋หมดสติ คนของห้าวหนาน เริ่มมีแผนการร้าย คิดแก้แค้นฉัน แต่ฉันระวังตัวมาตลอด ไม่เปิดโอกาสให้พวกมัน”

“แต่คิดไม่ถึง ทางฉันจะมีไส้ศึก”

จางกงหมิงเอ่ยว่า “ฉันรู้ว่ามันคือใครแล้ว”

“ใคร?”

“เสือ” จางกงหมิงขมวดคิ้วเอ่ยขึ้น

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท