NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 244

ตอนที่ 244

บทที่ 244 หลี่ฝางถูกเยาะเย้ย

หินก้อนเล็กกระแทกเข้าที่ข้อมือของเสือ ทำให้ข้อมือของเขา กระแทกจนเป็นรอยเลือด

และหวางเห้า ได้ทิ่มเข็มพิษเข้าไปในคอของเสือ

เพียงครู่เดียว เส้นเลือดบนคอของเสือก็ปูดขึ้น และใบหน้าของเขาก็น่าเกลียดมาก

“สิ่งนี้ไม่ใช่ยาพิษ แต่ในเวลาอันสั้นสามารถทำให้คนชาทั้งตัว” ส้าวส้วยพูด

ดังนั้น ถ้านายต้องการฆ่าเขา ทางที่ดีคือใช้มีดฟันอีกที” ส้าวส้วยก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว และเตือนหวางเห้า

หลังจากที่หวางเห้าได้ยิน ก็เก็บมีดจากพื้นขึ้นมา ยิ้มอย่างเย็นชา

“ฆ่าเขาทำไม? แค่ทำให้เขาพิการก็พอ”

หวางเห้ายกมีดขึ้น แล้วลงมือทันที เส้นเอ็นแขนของเสือ เอ็นขา ตัดออกจนหมด

ขณะนี้ เสือกลายเป็นคนพิการอย่างสมบูรณ์

คนพิการคนหนึ่ง ไม่มีภัยคุกคามต่อหวางเห้า

แม้ว่าเสือจะสมควรตาย แต่หวางเห้าก็ไม่ต้องการที่จะเอาตัวเองเข้าไปข้องเกี่ยว

ในเวลานี้ คนของเสือ ต่างตกตะลึงกันหมด

ทุกคนต่างจ้องมองกันไปมา แต่ไม่มีใครกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า

ความแข็งแกร่งของส้าวส้วย ทำให้พวกหวาดกลัว

เสือพิการแล้ว ต้าเป่า เสี่ยวเป่าก็ตายหมดแล้ว… …

คนที่จะแบกภาระหนักก็ไม่มีแล้ว

ในวันนี้หวางเห้า สามารถยึดครองอาณาเขตของเสือได้สำเร็จ

สำหรับคนของห้าวหนาน หากปราศจากความช่วยเหลือของเสือ ก็ไม่กล้าที่จะหาเรื่องจางกงหมิงอีก

… …

เมื่อนำรถของตัวเองกลับมา หลี่ฝางก็ไปที่(วิลล่ากลางภูเขา)

ในเวลานี้(วิลล่ากลางภูเขา)นั้น มีนักศึกษาสาวสวยจำนวนมากมารวมตัวกัน

ในจำนวนนี้ คนที่หลี่ฝางรู้จัก มีหลี่เสี่ยวเสี่ยว หวางเหยา… …

เหตุใดเซี่ยลู่กับหลิวเฉียวเฉียวจึงมาที่นี่ด้วย?

มีสาวงามนับร้อย มาอยู่ตรงนี้

พวกเธอต่างก็มาสมัครเป็นวีเจ

หลี่ฝางใช้โอกาสที่คนเหล่านี้ไม่ทันสังเกต โดยใช้เส้นทางลับเดินเข้าไปวิลล่า

เมื่อพบโจวหยาง หลี่ฝางยิ้มและพูดว่า “ไม่เลวนี่ ในเวลาสั้นๆสามารถหาสาวงามได้มากมายขนาดนี้!”

“มันเป็นคุณงานความดีของคุณทั้งหมดไม่ใช่หรือ?”

โจวหยางยิ้มและพูดว่า “ผมไม่ได้ทำอะไร แค่โพสต์ในเน็ตเครือข่ายการรับสมัคร”

“วิลล่ากลางภูเขาหมายเลข1วิลล่าที่ดีขนาดนี้ ห้องพักและอาหารฟรี แค่ข้อเสนอนี้ ก็เพียงพอที่จะล่อใจแล้ว”

“บวกกับถู่โต้วยังเป็นแพลตฟอร์มการรับส่งข้อมูล ที่มีการดาวน์โหลดหลายสิบล้าน และผู้ใช้งานประจำวันก็มีมากถึงหลายล้าน วีเจที่เซ็นสัญญากับพวกเรา มันแตกต่างจากการเซ็นสัญญากับบริษัทสื่ออื่น”

“การเซ็นสัญญากับบริษัทสื่อธรรมดา เงินที่ได้มา แพลตฟอร์มจะแบ่งไปครึ่งหนึ่งของเงินที่ได้รับ ส่วนครึ่งหนึ่งที่เหลือ จะแบ่งเท่ากันระหว่างบริษัทสื่อกับวีเจ”

“สำหรับพวกเรา เป็นของแพลตฟอร์มโดยตรง แม้ว่าจะเป็นสามส่วนสิบ พวกเขาก็แบ่งได้ไม่น้อย”

หลังจากที่โจวหยางพูดจบ เขาก็เหลือบมองไปที่หลี่ฝาง และถามว่า “จริงสิ ที่คุณซื้อถู่โต้ว ใช้เงินเท่าไหร่?”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” หลี่ฝางส่ายหัว

“พ่อฉันเป็นคนซื้อ” หลี่ฝางพูด

“ถ้าอย่างนั้นพ่อของคุณก็รักคุณมาก ผมถามพ่อของผม ท่านบอกว่า การประเมินค่าของถู่โต้ว อย่างน้อยก็หลายร้อยล้านผมบอกว่าถู่โต้วเชิญผมมาเป็นผู้จัดการ แต่ท่านก็ยังไม่เชื่อ” โจวหยางพูดด้วยรอยยิ้ม

“หลายร้อยล้าน” ใบหน้าของหลี่ฝางเปลี่ยนไปเล็กน้อย มันแพงไปหน่อย

แต่สำหรับตระกูลหลี่ ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องใหญ่

“สักครู่ก็จะเริ่มรับสมัคร จะอยู่ด้วยกันหรือไม่?” โจวหยางถามหลี่ฝาง

หลี่ฝางส่ายหัว และพูดว่า “ช่างเถอะ เรื่องออกสังคม ปล่อยให้นายจัดการเอง”

หลี่ฝางหยิบตั๋วสถานตากอากาศกว่ายี่สิบใบออกจากอกเสื้อ วางไว้ตรงหน้าโจวหยาง

“นี่คืออะไร?” โจวหยางถาม

“ตั๋วสถานที่ตากอากาศ มีมากเกินไป ไม่รู้จะให้ใคร ฝากไว้กับนายดีกว่า ใครก็ตามที่สมัครผ่าน ก็มอบให้เธอหนึ่งใบ ถือเป็นสวัสดิการของบริษัท”

ทันทีที่หลี่ฝางพูดจบ เขาก็ถามโจวหยางว่า “พวกเรามอบตั๋วให้ รู้สึกขี้เหนียวไปไหม?”

โจวหยางหยิบมันขึ้น แล้วดู “ตั๋วสถานตากอากาศหลงเหมิง?”

“ใช่”

“ตั๋วใบนี้อยู่ในเน็ตราคาพุ่งขึ้นมาใบละหกพันกว่าแล้ว อีกอย่าง แม้ว่าจะหกพันกว่า ก็ไม่มีใครอยากขาย” โจวหยางเหลือบมองหลี่ฝาง พูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่เพียงแต่ไม่ขี้เหนียว แต่กลับดูมีค่ามาก”

“เพราะว่า ผู้สมัครในวันนี้ ล้วนเป็นแค่วีเจที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง

ในขณะที่พูด สีหน้าของโจวหยาง ก็ตกตะลึง

โจวหยางเงยหน้าขึ้นมองหลี่ฝาง และพูดว่า “ว้าว หลี่ฝาง คุณล้อเล่นกับผมหรือเปล่า”

“ล้อเล่นอะไร?” หลี่ฝางถาม

“ตั๋วพวกนี้ของคุณ ล้วนแต่เป็นตั๋ววีไอพีสถานตากอากาศ คุณรู้ไหมว่าตั๋ววีไอพีใบนี้ราคาเท่าไหร่?” โจวหยางจ้องไปที่หลี่ฝาง อย่างน้อยก็ต้องเริ่มต้นหนึ่งแสน”

อีกอย่างไม่มีใครยอมขายให้คนอื่นต่อ!”

ไม่มีใครยอมขายให้ใคร หลี่ฝางรู้มานานแล้ว

ตั๋ววีไอพีประเภทนี้ ออกมาจากสถานตากอากาศ มอบให้ตงไห่ เมืองเอก ตระกูลที่มีชื่อเสียง ผู้ประกอบการธุรกิจรายใหญ่

คนเช่นนี้ จะขาดแคลนเงินหรือไม่?

คำตอบคือไม่แน่นอน

อย่างไรก็ตามราคาใบละหนึ่งแสน หลี่ฝางคาดไม่ถึงเหมือนกัน

หลี่ฝางถาม “ทำไมมันแพงจัง ก็แค่ตั๋วใบเดียวเอง?”

“ตั๋ววีไอพีประเภทนี้ หลังจากที่เข้าไปแล้วไม่เพียงแต่ให้คุณกินดื่มเล่นฟรีแล้ว ยังสามารถเข้าไปในสนาม พบกับดาราๆดังซึ่งๆหน้า เข้าร่วมในงานเลี้ยงตอนเย็น ปาร์ตี้ งานประมูล”

“อย่าบอกว่าหนึ่งแสน สำหรับคนอย่างพวกเรา ถ้าราคาเพิ่มอีกห้าเท่า มันก็คุ้ม”

โจวหยางเม้มริมฝีปาก และพูดว่า “เช่นเดียวกับตระกูลโจวของเรา ได้รับหนึ่งใบ และมันก็ตกอยู่ในมือของโจวเจ๋

“จะเป็นไร สถานตากอากาศนี้ตระกูลหลี่ของเราเป็นคนเปิด แม้นายจะไม่มีตั๋ว ก็สามารถเข้าไปได้”

หลี่ฝางตบไหล่โจวหยาง และปลอบใจ “นายเป็นน้องชายของฉัน ต่อไปสถานตากอากาศนายเข้าได้ตามสบาย”

“จริงๆเหรอ?”

“ฉันจะไปโกหกนายทำไม?” หลี่ฝางพูดจบ ก็เดินออกไป

ถือตั๋ววีไอพีสถานตากอากาศยี่สิบใบไว้ในมือ โจวหยางส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว

ตั๋ววีไอพียี่สิบกว่าใบ ซึ่งอาจมีมูลค่าหลายล้าน แจกได้ง่ายๆ… …

โจวหยางถอนหายใจ แม่งเอ้ยคนร่ำรวยช่างทำตามอำเภอใจจริงๆ

ในไม่ช้า หลี่ฝางก็เดินออกไป หวางเหยาก็เดินเข้ามา

เมื่อทั้งสองเผชิญหน้ากัน หวางเหยาก็เรียก “เจ้านาย คุณมาด้วยเหรอ?”

“ชู่ๆ พูดเบาๆ อยู่ที่นี่ อย่าเรียกผมว่าเจ้านาย”หลี่ฝางพูด

หวางเหยาตะลึงไปชั่วขณะ และหลี่ฝางพูดอีกครั้ง คุณปฏิบัติต่อผมเหมือนวีเจที่มาสมัครงาน ผมไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนของผม เข้าใจไหม?”

หวางเหยาพยักหน้า และเดินเข้าไป

ในความเป็นจริงหวางเหยาได้รับการคัดเลือกเรียบร้อย ที่เข้าไปก็ทำเป็นพิธีเท่านั้น

ไม่ถึงห้านาที หวางเหยาก็เดินออกมา

เมื่อตอนที่ออกมา หวางเหยาถือตั๋วสถานตากอากาศไว้ในอ้อมอก ราวกับอุ้มของรักของหวง

“หวางเหยา ในมือถือของรักอะไรไว้ ดูมีความสุขมาก? คงไม่ใช่เช็คใช่ไหม?” (มีผู้หญิงงามเหมือนในภาพมิติที่สองถาม)

“เธอไม่ใช่วีเจดังอะไร เป็นไปไม่ได้ที่พอเซ็นสัญญาก็มอบเช็คให้ทันที?”

หวางเหยากระโดดโลดเต้นออกมา พร้อมกับรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้า เห็นแล้ว ก็รู้ว่าได้เซ็นสัญญาสำเร็จ

“นี่ไม่ใช่เช็ค แต่เป็นตั๋วสถานตากอากาศหลงเหมิง” หวางเหยา

“ขอเพียงเซ็นสัญญาสำเร็จ จะได้รับหนึ่งใบ”

หลังจากที่หวางเหยาพูดจบ วีเจหลายคนก็ตื่นเต้น

เพราะว่า ถ้าได้รับตั๋ว ก็จะได้พบกับตัวจริงดาราดังมากมาย

“บริษัทสื่อแห่งนี้ มีการแจกอย่างใจกว้าง นี่เพิ่งเซ็นสัญญา ก็มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้”

“อันที่จริงมันก็ไม่ใช่ชิ้นใหญ่ขนาดนั้นหรอก มันแค่ไม่กี่พัน ถ้าพวกเราไลน์สดเป็นเวลาหนึ่งเดือน พวกเขาก็สามารถสร้างรายได้จากพวกเรากลับมาได้”

“มันก็จริง”

หลังจากหวางเหยาได้ฟัง ก็หัวเราะ “หนึ่งเดือนพวกเธอสามารถรับของขวัญเป็นเงินแสนเลยหรือ?”

หวางเหยา เธอหมายความว่าอย่างไร หัวเราะเยาะพวกเรา? หนึ่งเดือนเธอก็มีรายได้แค่ไม่กี่หมื่นไม่ใช่เหรอ? บางทีถ้าพวกเราเจอเศรษฐีท้องถิ่นนี้ มันต้องได้มากกว่าเธอแน่นอน”

“ฉันไม่ได้หัวเราะพวกเธอ” ขณะนี้หวางเหยาสะบัดตั๋วในมือของเธอ และพูดว่า “ดูให้ดีนะ นี่คือตั๋ววีไอพีที่มีรหัส”

“รวมถึงอาหารและที่อยู่อาศัยฟรี สามารถสื่อสารแบบเห็นหน้าจังๆกับดาราดัง พวกเธอคิดว่า สิ่งนี้มีค่าเพียงไม่กี่พันหรือ?”

“โอ้พระเจ้า นี่เป็นของจริงหรือเปล่า? เซ็นสัญญาก็ให้ตั๋ววีไอพีสถานตากอากาศ? ฉันได้ยินมาว่าตั๋ววีไอพีนี้ ราคาที่ซื้อทางเน็ต โดยเริ่มต้นที่หนึ่งแสน”

“ถ้าฉันสามารถเซ็นสัญญาได้ ฉันจะขายต่อ หากำไรสักหนึ่งแสน!”

“ฉันคิดว่าเธอโง่หรือเปล่า ราคาซื้อเริ่มต้นที่หนึ่งแสน เธอรู้ไหมว่าตั๋ววีไอพีหายากแค่ไหน? แม้ว่าเธอจะขายสองแสนมันก็ขายออกทันที”

“ยังไงก็ตามถ้าฉันได้ตั๋ว ฉันจะไม่ขายแน่นอน จะไปงานมีตติ้งคนดัง นั่นเป็นประสบการณ์ที่หายากในชีวิต”

“บริษัทสื่อแห่งนี้ก็แข็งแกร่งเกินไป เซ็นสัญญาก็มอบของขวัญราคาหลายแสน”

“น่าอิจฉาเธอจริงๆ หวางเหยา”

หวางเหยาอยู่ภายใต้สายตาที่อิจฉา ออกจากวิลล่าหมายเลข 1

เมื่อเห็นฉากนี้ หลี่ฝางหัวเราะเบาๆ เดินไปตรงหน้าเซี่ยลู่และหลิวเฉียวเฉียว

เมื่อเห็นหลี่ฝาง เซี่ยลู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “หลี่ฝาง ทำไมคุณมาที่นี่?”

“ก็เหมือนกับคุณนั่นแหละ มาสมัครวีเจ” หลี่ฝางพูดด้วยรอยยิ้ม

“นายเป็นผู้ชาย และไม่มีความสามารถอะไร มาสมัครเป็นวีเจ?” หลิวเฉียวเฉียวมองหลี่ฝางด้วยความดูถูก

หลิวเฉียวเฉียวในตอนนี้ สวมกระกระโปรงกุชชี่ และถือกระเป๋าแอร์เมส ดูเป็นคนละคน

“ทำไม เงินขายที่ดิน ผลาญหมดแล้วเหรอ?” หลิวเฉียวเฉียวยิ้มอย่างเหยียดหยาม “ฉันเตือนนายตั้งแต่แรกแล้ว ว่าให้ประหยัดใช้หน่อย แต่นายก็ไม่ฟัง”

“ใช่สิ ไม่เหมือนเธอ เจอแฟนรวย เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย”

หลี่ฝางหัวเราะ “ทำไม ส้งเสียงรวยขนาดนี้ ทำไมเธอยังจะมาสมัครเป็นวีเจอีก?”

“ใครบอกว่าฉันจะมาเป็นวีเจ ฉันมีแฟนเลี้ยงดู จำเป็นต้องมาเป็นวีเจเหรอ? ฉันมาเป็นเพื่อนกับเซี่ยลู่” หลิวเฉียวเฉียวพูดด้วยสีหน้าอวดเก่ง

เซี่ยลู่ยิ้ม และไม่พูดอะไร

หลี่ฝางส่ายหัว ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน หลิวเฉียวเฉียวโดนเงินครอบงำไปแล้ว

ท่าทางเย่อหยิ่ง

“จริงๆแล้วเป็นวีเจก็ดี เลี้ยงดูตัวเองได้” หลี่ฝางประชดหลิวเฉียวเฉียว

หลิวเฉียวเฉียวไม่ได้โง่ ดังนั้นจึงฟังออกว่าหลี่ฝางเยาะเย้ยเธอที่ให้แฟนเลี้ยงดู

หลิวเฉียวเฉียวทำตาเหลือกให้หลี่ฝาง “ฉันไม่เป็นวีเจ ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้”

“ฉันแค่ไม่ชอบอาชีพวีเจ ขอบอกพวกคุณ ฉันกำลังเตรียมตัวจะเข้าสู่วงการบันเทิง”

“ทางด้านส้งเสียง มีตั๋ววีไอพีสถานตากอากาศสองใบ และคราวนี้ ผู้กำกับชื่อดังหลายคนก็จะไปสถานตากอากาศ ในเวลานั้น ส้งเสียงจะแนะนำฉันให้รู้จักกับผู้กำกับ และอาศัยบารมีของตระกูลส้ง พวกเขาจะให้บทบาทฉันแสดง”

หลี่ฝางยินยิ้มอย่างเหยียดหยาม ตระกูลส้ง มีพลังงานอำนาจมากขนาดนี้เลยเหรอ?”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ สีหน้าของเซี่ยลู่ ก็รู้สึกอายเล็กน้อย

เซี่ยลู่มาสมัครเป็นวีเจ แต่หลิวเฉียวเฉียวบอกว่าเธอไม่ชอบอาชีพนี้

ความหมายนี้ ก็เหมือนการดูถูกเซี่ยลู่?

“ถึงคิวฉันแล้ว ฉันจะเข้าไปก่อน” สีหน้าเซี่ยลู่ดูแย่เล็กน้อย และเดินเข้าไปในวิลล่า

ในเวลานี้ เหลือเพียงหลี่ฝางและหลิวเฉียวเฉียวเท่านั้นที่อยู่ข้างนอก

ในขณะนี้หลิวเฉียวเฉียวได้ไอออกมาทีหนึ่ง “หลี่ฝาง ฉันอยากจะขอบคุณนายจริงๆ”

“ขอบคุณผมเรื่องอะไร?” หลี่ฝางถาม

“นายลืมไปแล้วเหรอ? ในวันเกิดของฉันตอนนั้น ฉันสารภาพรักกับนาย ยังดีที่นายไม่ตอบรับ ไม่อย่างนั้น ฉันกับส้งเสียง คงจะไม่มีโอกาสแล้ว?”

“เห็นนายเป็นแบบนี้ ฉันพึ่งรู้ว่า ฉันโชคดีแค่ไหน”

“ตอนนี้นาย ไม่สามารถเทียบกับส้งเสียงได้เลย”

“จริงเหรอ?” หลี่ฝางยิ้ม

ส้งเสียงเป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัทส้งซื่อ หลังจากนั้นไม่กี่ปี ส้งซื่อทั้งหมดจะตกอยู่ในมือของส้งเสียง เขามีหนทางที่ดีและมีอนาคตที่สดใส สำหรับนาย หลังจากผลาญเงินทั้งหมดจากการขายที่ดิน กลับสู่สภาพเดิม คนยาจกอนาถา”

“นายคิดว่า ฉันควรจะขอบคุณนายหรือเปล่า ขอบคุณที่นายไม่ตอบตกลงคบกับฉัน” หลิวเฉียวเฉียวพูดด้วยความเยาะเย้ย

หลี่ฝางพยักหน้า และพูดว่า “ใช่แล้ว”

“ถ้าอย่างนั้น เธอควรขอบคุณผม”

หลี่ฝางส่ายหัว แล้วเดินไปข้างๆ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วโทรหาลุงเฉียน

หลังจากเชื่อมสายแล้ว หลี่ฝางก็ถามว่า “ลุงเฉียน ตั๋ววีไอพีจากสถานตากอากาศ ที่ส่งมอบออกไป ยังเอากลับมาได้ไหม?”

“เสี่ยวฝาง มีใครทำให้คุณขุ่นเคืองอีกแล้วหรือ?” ลุงเฉียนเข้าใจทันทีว่าหลี่ฝางหมายถึงอะไร “คุณบอกมาตรงๆ ถึงเวลานั้น ผมแค่ตัดสิทธิ์พวกเขา”

“ส้งเสียง” สีหน้าของหลี่ฝางเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ผมไม่อยากเห็นเขาอยู่ในสถานตากอากาศ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท