NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 260

ตอนที่ 260

บทที่260 ความฉลาดของหลี่ฝางลึกซึ้งมาก

“เกินไปเหรอ?”

“ผมได้ยินว่า เคยมีผู้หญิงคนหนึ่ง คุกเข่าต่อหน้าคุณที่ร้านกลางคืน คุกเข่าอยู่ครึ่งชั่วโมง สุดท้ายคุณก็ไม่สนใจเธอ ……”

“ผมยังได้ยินว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งพอถูกคุณทิ้ง ก็กระโดดตึกฆ่าตัวตาย ……”

“ผมไม่ได้ปรักปรำคุณสินะ?”

“เทียบกับเรื่องพวกนั้นที่คุณทำแล้ว ผมว่าผมให้คุณคลานแบบหมา ถือว่าบุญไม่น้อยแล้ว”หลี่ฝางมองส้งเสียง พูดนิ่งๆ

ได้ยินคำนี้ สีหน้าของส้งเสียง ก็ดูแย่สุดๆ

หลายปีนี้ ส้งเสียงเล่นกับผู้หญิงมาจำนวนมาก ทั้งนักเรียนมอปลาย มหาวิทยาลัย ส่วนมากก็เป็นผู้หญิงวัยแรกแย้มทั้งนั้น

พอเล่นเสร็จ ส่วนมากส้งเสียงก็ทิ้งพวกเธออย่างไม่ไยดี

เนื่องจากตระกูลส้งเป็นตระกูลใหญ่และธุรกิจใหญ่ มีอำนาจอิทธิพล ถึงแม้ส้งเสียงทำเรื่องที่เกินไปแค่ไหน ก็ไม่มีใครกล้าสืบถึงที่……

รวมถึงผู้หญิงที่ตายคนนั้น ตำรวจแค่มั่นใจว่าฆ่าตัวตาย แต่ไม่ได้สร้างปัญหาใดๆให้ส้งเสียง

และหลี่ฝาง ที่จริงก็อยากสั่งสอนสัตว์เดรัจฉานตัวนี้มานานแล้ว

ก็แค่ ไม่เคยหาโอกาสที่เหมาะสมได้เท่านั้น

และตอนนี้ โอกาสมาแล้ว หลี่ฝางจะปล่อยเขาไปง่ายๆได้ไง?

หลี่ฝางพูด โบกมือไปที่โหจื่อ

โหจื่อเดินเข้ามา ยื่นเงินถุงหนึ่งให้หลี่ฝาง

หลี่ฝางหัวเราะ พูด:“แน่นอน ผมก็ไม่ให้คุณคลานฟรีๆ เงินพวกนี้เอาให้คุณ ถือว่าจ้างคุณมาแสดงที่ผับเรา”

หลี่ฝางเอาเงินยื่นไปที่ส้งเสียง

กระเป๋านี้ มีอยู่ห้าแสนกว่าเต็มๆ บางทีเงินนี้ สำหรับคนทั่วไปแล้ว ก็มากมายนับไม่ถ้วน

แต่สำหรับส้งเสียงแล้ว น่าจะเป็นเงินใช้จ่ายถึงสามเดือนได้

ใครจะไปคลานเหมือนหมา เพื่อเงินสองสามเดือนล่ะ?

อีกอย่างยังต่อหน้าคนตั้งมากมายด้วย!

ส้งเสียงไม่รับ สวมบิกินี่ไปรูดเสาเต้น ก็ถือว่าสุดๆของเขาแล้ว

จะคลานตามหมาอีก ส้งเสียงทำไม่ได้

ส้งเสียงส่ายหน้า พูดอย่างเย็นชา:“หลี่ฝาง ครอบครัวคุณรวย แต่ไม่ได้หมายความว่าครอบครัวคุณจะทำอะไรไม่สนกฎหมายได้”

“ที่ตู้ต้าไห่มีจุดจบต้องล้มละลาย เพราะว่าเชื่อคำพูดใส่ร้าย ถูกพ่อคุณหลอก”

“และครอบครัวผม กับตระกูลหลี่ของคุณก็ไม่ได้เกี่ยวข้องทางด้านการเงินเลยสักนิด คุณอยากให้พวกเราตระกูลส้งล้มละลาย ก็ไม่มีทาง”

ส้งเสียงทำเสียงในลำคอ พูด:“ผมไม่เล่นแล้ว”

“ใครบอกว่าจะต้องมีการติดต่อทางการเงิน ถึงทำให้ตระกูลส้งของคุณล้มละลายได้”

หลี่ฝางหัวเราะ พูด:“ตระกูลส้งของพวกคุณ ช่วงนี้ลงคุณโครงการไปไม่น้อยนี่?”

“แน่นอน โครงการพวกนี้ ไม่ใช่ของพวกเราตระกูลหลี่ แต่ถ้าตระกูลหลี่ลงมือขัดขวาง โครงการพวกนี้ จะทำได้ต่อไปอย่างราบรื่นเหรอ?”

“ผมยังได้ยินว่าตระกูลส้งมีโรงพิมพ์ มลพิษแย่มาก เอางี้ไหม ผมโทรหาสวีจื่อโห้ให้ ให้เขาสืบดูดีๆ”หลี่ฝางพูดจบ ก็หัวเราะอย่างเยือกเย็น

หลี่ฝางพูดคำนี้ไป หน้าของส้งเสียง ก็เปลี่ยนทันที

เขาดูหวาดกลัวมาก โรงพิมพ์นั้น ถึงแม้กำไรต่อเดือนจะสูงถึงหลักล้าน แต่ขณะเดียวกันก็นำมลพิษมาให้ประชากรของเมืองตงไห่อย่างมากด้วย

ก็แค่ หลายๆแผนกถูกตระกูลส้งติดสินบนไปแล้ว

อีกอย่าง โรงพิมพ์ของตระกูลส้งก็ปกปิดสุดๆ ไม่ทำงานตอนกลางวัน จะทำตอนดึก

“คุณจับตาดูตระกูลส้งของเรานานแล้ว ใช่ไหม?”เวลานี้ ส้งเสียงก็มองสีหน้าหลี่ฝาง ดูน่ากลัวสุดๆ

หลี่ฝางได้แต่ยิ้มนิ่งๆ ไม่พูดอะไร

หลี่ฝางไม่ใช่ทายาทรุ่นสองที่เอาแต่นั่งกินนอนกินอย่างเดียว

ตอนที่หลี่ฝางเริ่มก่อตั้งธุรกิจ หลี่ฝางก็ไปหาลุงเฉียน ให้ลุงเฉียนจับตาดูการเคลื่อนไหวของตระกูลส้งกับตระกูลโจว

มีข่าวคราวใดๆ จะต้องรายงานทันที

และโรงพิมพ์นั้น หลี่ฝางในฐานะคนตงไห่ ก็ได้ยินเรื่องนี้มานานแล้ว ดังนั้นจึงให้ลุงเฉียนให้คนไปเป็นสายลับที่โรงพิมพ์ของตระกูลส้ง ถ่ายรูปที่จัดการน้ำเน่าเสียมาหลายใบ

ถ้ารูปอยู่ในมือตำรวจ งั้นตระกูลส้ง ก็จะเผชิญหน้ากับความรับผิดชอบทางอาญาแน่นอน

นอกจากนี้ ช่วงนี้ตระกูลโจว ก็ขายอสังหาริมทรัพย์ไปไม่น้อย น่าจะขายไปประมาณห้าสิบล้านกว่าหยวน

พ่อของโจวเจ๋ เตรียมเอาอุตสาหกรรมทั้งครอบครัวของตัวเอง ไปลงทุนที่บริษัทมีเดียของโจวเจ๋

หลี่ฝางก็ได้ยินข่าวมาก่อน จึงให้โจวหยางกลับไปที่บ้าน ให้นำหน้าไปก่อน โดยคว้าเงินสดห้าสิบล้านของพ่อตัวเองมา

ถึงแม้ทางหลี่ฝาง ไม่ขาดเงินห้าสิบล้านนี้ แต่หลี่ฝางกับโจวหยางต่างไม่หวังให้ห้าสิบล้านนี้ ตกไปอยู่ในมือของโจวเจ๋

นอกจากส้งเสียง โจวเจ๋แล้ว หลี่ฝางยังแอบติดตามการเคลื่อนไหวของคนรวยตระกูลต่างๆของเมืองเอกไม่น้อย

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

หลี่ฝางรู้ คนอย่างส้งเสียง โจวเจ๋ มู่เสี่ยวไป๋ไม่นานก็ช้าก็จะกลายเป็นศัตรูของตัวเอง

ดังนั้น หลี่ฝางจึงให้ลุงเฉียนขุดหลักฐานอาชญากรรมของพวกเขาให้ได้มากที่สุด และถือไว้ในกำมือ เตรียมในกรณีที่ต้องการ

“คุณคิดว่าแค่คำพูดคุณไม่กี่คำนี้ ทำเอาผมตกใจได้เหรอ?”

ส้งเสียงพูดอย่างดูถูก:“อย่างมากตอนนี้ผมก็โทรหาพ่อ ให้เขาปิดโรงพิมพ์ซะ”

ส้งเสียงกับส้งกงหมิงต่างรู้ดี โรงพิมพ์ไม่ช้าก็เร็วก็จะวิบัติ และอยากปิดนานแล้ว

แต่กำไรเป็นล้านในทุกเดือน ……ทำให้พวกเขาทำใจไม่ได้ที่จะลงมือ

“แล้วแต่”

หลี่ฝางพูดนิ่งๆ:“ยังไงซะผมก็เตรียมรวบรวมหลักฐานไว้นานแล้ว ถ้าคุณไม่เชื่อ เดี๋ยวรูปจะส่งไปที่มือถือคุณ”

“ใช่สิ มีผู้ชายวัยรุ่นที่ชื่อหลี่หงเทาคนหนึ่ง เป็นช่างเทคนิคในโรงพิมพ์ของคุณใช่ไหม?”

มองส้งเสียง หลี่ฝางก็เลิกคิ้ว พูด:“เขาอยู่หมู่บ้านเดียวกับผม ลาออกไปเมื่อหลายวันก่อน”

“แน่นอน แค่คนตัวเล็กๆแบบนี้ คุณจำไม่ได้แน่”

“แต่เขาไม่ใช่แค่ช่วยผมถ่ายหลักฐานอาชญากรรมของคุณมาตั้งเยอะนะ แต่ยังเอาสัญญาว่าจ้างของตัวเองด้วย เมื่อตอนที่จำเป็น ก็เอามาเสริมเป็นพยานได้”

“ส้งเสียง คุณว่า ในมือของผมมีหลักฐาน และก็ยังมีพยาน ……ผมจะทำลายพวกคุณตระกูลส้งได้ไหม?”หลี่ฝางยิ้ม หรี่ตามองส้งเสียง

ส้งเสียงมองหลี่ฝาง ไม่ค่อยจะเชื่อนัก

หลี่ฝางเด็กกว่าส้งเสียงหลายปี

ส้งเสียงไม่อยากจะเชื่อ วิธีการของหลี่ฝางจะเด็ดดวงได้ขนาดนี้ แล้วก็วางแผนเขาเอาไว้แล้ว

“คุณ……อายุก็ไม่มาก คิดไม่ถึงว่าความฉลาดจะลึกซึ้งขนาดนี้”ส้งเสียงกัดฟันมองหลี่ฝาง พูดอย่างโมโห

หลี่ฝางจับเส้นชีวิตของส้งเสียงมานานแล้ว แต่ ไม่ได้ลงมือมาตลอด

หลี่ฝางกำลังรอ รอส้งเสียงจ่อปากปืนมาที่ตัวเอง ……

จ่อมามาเมื่อไหร่ หลี่ฝางก็ยิงไปเมื่อนั้น

ส้งเสียงหยิบโทรศัพท์ของตัวเอง มาจากมือของเสี่ยวสาน รีบโทรหาพ่อแม่ของตัวเอง

สีหน้าของส้งเสียง ตกใจหมด

ยังไง เรื่องที่โรงพิมพ์เปิดเผยไป ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก

ผ่านไปห้านาที ส้งเสียงก็กลับมา

โรงพิมพ์ยืนยันมาแล้ว มีหลี่หงเทาจริงๆ และหลี่หงเทานี้ หลายวันก่อนลาออกไปแล้ว เงินเดือนก็ไม่เอา

โทรศัพท์ของหลี่หงเทาโทรไม่ติด แม้แต่คนในบ้านเขา ก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหน

ส้งเสียงกลับมา มองหลี่ฝาง ถามอย่างเยือกเย็น:“หลี่หงเทาถูกคุณซ่อนไปใช่ไหม?”

หลี่ฝางส่ายหน้า พูดว่า:“ผมไม่ได้ซ่อนหลี่หงเทา”

“ทำไม คุณจะหาเขาเหรอ?”

หลี่ฝางหัวเราะ พูดกับโหจื่อ:“โหจื่อ เรียกหลี่หงเทามา”

ไม่นานนัก โหจื่อก็พาวัยรุ่นคนหนึ่งเข้ามา

“คุณคือหลี่หงเทา?”ส้งเสียงมองวัยรุ่นคนนี้ แล้วถาม

หลี่หงเทาพยักหน้า ยิ้มให้ส้งเสียง:“สวัสดีคุณชายส้ง”

“คุณชายส้ง ที่คุณสวมอยู่ที่ตัวนี้ เซ็กซี่จริงๆเลย!”หลี่หงเทาหัวเราะขึ้นมา

“แม่เอ๊ย คุณมันหมาที่เกลือเป็นหนอนจริงๆเลย!”

ส้งเสียงด่าไป แล้วยกหมัดขึ้นมา จะพุ่งไปที่หลี่หงเทา

ส่วนโหจื่อ กลับดึงหลี่หงเทาไปไว้ด้านหลังตัวเอง จากนั้นก็ยกเท้าขึ้น ไปที่ท้องส้งเสียง ถีบออกไป

ส้งเสียงถูกโหจื่อเตะ จนหมอบลงพื้น ยืนขึ้นมาไม่ได้อยู่นาน

ในปากของส้งเสียง เจ็บจนสูดลมเย็นเข้าไป

“คุณไปทำงานเถอะ”หลี่ฝางโบกมือ ให้หลี่หงเทาออกไป

“หลี่ฝาง พวกเราสองคนไม่มีความแค้นต่อกัน ทำไมคุณต้องเจตนาจัดการผมด้วย?”ส้งเสียงมองหลี่ฝาง ถามอย่างเยือกเย็น

“ใช่ พวกเราสองคนตอนนี้ไม่มีความแค้นอะไรกันแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าต่อไปจะไม่มีความแค้นต่อกัน?ทั้งหมดที่ผมทำนี้ ก็แค่อยากป้องกันไว้ก่อนที่มันจะเกิดก็แค่นั้น”

“ผมเตรียมการล่วงหน้าที่จะรับมือกับดาบคมๆของคุณ รอเมื่อไหรที่คุณทำอะไรผม ผมก็จะสะท้อนดาบใส่”

“แบบนี้ ผมก็จะมีวิธีแก้กับคุณแล้ว”

หลี่ฝางมองส้งเสียง หัวเราะออกมา:“เป็นไงบ้าง ตอนนี้คลานแบบหมาได้แล้วสินะ?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท