NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 269

ตอนที่ 269

บทที่ 269 เล่นสนุกในน้ำกับฉินวี่เฟย

หลังจากได้ลิ้มชิมรสรสชาติต้องห้ามนั่น หลี่ฝางก็ยากที่จะลืมเลือน เฝ้าคอยปรารถนาทุกครา

บวกกับฉินวี่เฟยเองก็เป็นของดีมีราคา

ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หรือหน้าตา…

ฉินวี่เหยสมบูรณ์แบบจนไม่มีที่ติ…

ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าสวยอันดับ 1 ของเมืองเอก แต่ฉินวี่เฟยกับต้องมาคู่กับ…

การที่ได้มีอะไรกับผู้หญิงแบบนี้ เป็นความฝันของผู้ชายหลายๆ คน

แต่เมื่อวาน ตัวเองกับมีอะไรกับเธอโดยไม่รู้ตัวไปแล้ว…

ก็เหมือนกับการที่ตือโป๊ยก่ายกินลูกโสม…ยังไม่ได้ลิ้มชิมรสอะไรด้วยซ้ำ

จะว่าไป ตัวเองเป็นผู้ชายที่โดนผู้หญิงสวนกลับ เรื่องนี้ถ้าบอกออกไป คงเสียหน้าแน่ๆ

ไม่ได้ จะต้องเอาเกียรติความเป็นผู้ชายของตัวเองกลับมา

เวลานี้ ฉินวี่เฟยเริ่มรุกรน

“ฉินวี่เหย เธอจะหนีไปไหน”

หลี่ฝางยิ้มกริ่ม “เธอกลัวฉันเหรอ”

“หลี่ฝาง นายรีบปล่อยฉันนะ นายไม่เห็นเหรอว่าที่นี่คือที่ไหน” ฉินวี่เฟยรีบผลักเขาออก

พอผลักออกไปมือเธอกับลื่นไถลไปข้างล่าง

หลี่ฝางยื่นมือมา ดึงแขนของเธอ แล้วดึงตัวเธอขึ้นมา

ซึ่งก็คือในตอนนี้

อันตรายกำลังคืบคลานเข้ามา

เสี่ยวเซิงเอาลูกน้องของตัวเองมาที่ทางเข้าของสระน้ำพุร้อน

“เฮ้ คุณเอาชุดว่ายน้ำมาหรือยัง ถ้าไม่ได้เอามาเข้าไม่ได้นะ” พนักงานขายห้ามพวกของเสี่ยวเซิงไว้เช่นกัน

เสี่ยวเซิงขมวดคิ้ว ถามไปว่า “ที่นี่ถูกสุกราคาเท่าไหร่”

“ถูกสุดก็ 188” พนักงานขายตอบ

เสี่ยวเซิงสีหน้าเปลี่ยน พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกแกแย่งเงินกันหรือไง ชุดว่ายน้ำข้างนอกขายแค่ไม่กี่สิบหยวน พวกแกขายตั้ง 188 เหรอ”

“ขอโทษด้วยค่ะ คุณผู้ชายทั้งหลาย นี่คือราคาที่เจ้านายเราตั้งไว้” พนักงานขายตอบด้วยความจำใจ

มาเที่ยวที่สถานตากอากาศนี้ ต่างก็เป็นคนรวยทั้งนั้น

เพราะงั้นปกติไม่มีใครมาต่อรองราคาอยู่แล้ว

อีกทั้งที่นี่ยังเป็นสระน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่บนหน้าผา เงินทุนในการรักษาก็สูงอยู่แล้ว เอากำไรจากชุดว่ายน้ำนิดหน่อย ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้

“ช่างเถอะ เอามาให้เรา 5 ชุดแล้วกัน” เสี่ยวเซิงขมวดคิ้วตอบ

เสี่ยวเซิงคิดในใจว่า งานตั้ง 3 แสน ตัวเองลงทุนไปแค่พันกว่าหยวน ไม่ถือว่าเยอะมาก

พอควักเงินออกมาจ่ายค่าชุดว่ายน้ำเสร็จ พนักงานขายก็พูดต่อว่า “อ่อใช่ค่ะ หมวกว่ายน้ำที่ก็ต้องซื้อ ป้องกันเส้นผมตกลงไปในสระน้ำนะคะ”

“บ้าเอ้ย…เรายังเป็นวัยรุ่นกันอยู่เลย จะผมหล่อนได้ไง” เสี่ยวเซิงพูดด้วยความทนไม่ไหว

“ไป!”

พอพูดจบ เขาก็ไม่สนใจพนักงานขาย เดินโถ่งๆ เข้าไปในสระน้ำ

“นี่คือข้อกำหนดที่ตั้งไว้ ถ้าพวกคุณไม่ซื้อตามที่บอกไว้ ฉันจะเรียกยามมาเชิญคุณออกไปนะ!” พนักงานขายพูดอย่างไม่เกรงใจ

“โถ่เว้ย…ซื้อๆ เราซื้อก็ได้โอเคไหม อันละเท่าไหร่” เสี่ยวเซิงกัดฟันยอมจำนน

เพราะยังไงคงรอให้หลี่ฝางออกมาแล้วค่อยลงมือไม่ได้

ถ้าเป็นแบบนั้น โอกาสที่จะสำเร็จไม่เพียงแต่น้อยลง

อีกอย่างก็ยากที่จะหนีไปด้วย

เพราะไม่ว่ายังไง สระน้ำพุร้อนใหญ่ขนาดนั้น ถ้าฆ่าคนอยู่ในนั้น ไม่เพียงแต่จะมีความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จสูง อีกอย่างถ้าเสร็จเรื่องตัวเองก็หนีไปได้ง่าย

“60…” พนักงานขายตอบ

“บ้าเอ้ย แพงขนาดนี้เลยเหรอ” เสี่ยวเซิงอยากจะใช้มีดแทงพนักงานขายคนนี้จนตายเสียจริง

“60 ถูกสุดแล้ว” พนักงานเห็นว่าเสี่ยวเซิงและพวกดูเหมือนจะไม่มีเงินอะไร จึงพูดต่อว่า “หรือว่าไม่ต้องเอาแล้ว ฉันจะคืนเงินค่าชุดว่ายน้ำให้พวกคุณ พวกคุณไม่ต้องไปแช่แล้ว”

“อีกสองวันแล้วค่อยมาเถอะค่ะ อีกสองวันราคาจะลดลง ช่วงนี้สถานตากอากาศค่อนข้างยุ่ง” พนักงานขายพูดแนะนำด้วยความหวังดี

“บ้าหรือไง อีผู้หญิงบ้า ดูถูกพวกฉันเหรอ!”

“เอาหมวกมาให้เรา 54 ใบ” เสี่ยวเซิงพูดด้วยความไม่พอใจ

“งั้นจะเอาราคาแบบไหนคะ ถ้าแบบดีหน่อยของเราจะมีราคา 230 ถ้าดีกว่านั้นก็จะต้อง 520”

พนักงานขายยังพูดไม่จบ ก็โดนเสี่ยวเซิงพูดตัดบท “เอาที่ถูกที่สุดก็พอ”

พนักงานมองด้วยความดูถูก เธอเอาหมวกที่ราคาถูกที่สุดให้พวกเขา

พอจ่ายเงินเสร็จ เสี่ยวเซิงก็ถามต่อว่า “อ่อใช่ เดี๋ยวตอนออกมา คืนได้ไหม”

“ไม่ได้ค่ะ” พนักงานขายตอบด้วยไม่แยแส

“พวกแกนี่มันบริการยังไงเนี่ย!” เสี่ยวเซิงมองพนักงานขายด้วยความเหยียดหยาม “รอฉันหลับมา ฉันจะร้องเรียนเธอแน่!”

พอซื้อชุดว่ายน้ำเสร็จ เสี่ยวเซิงและพวกถึงได้เข้าไปในสระน้ำพุร้อน

“โถ่เว้ย สระน้ำพุร้อนนี่ใหญ่ขนาดนี้ เราต้องหานานขนาดไหนถึงจะเจอไอ้หมอนั่น” เสี่ยวเซิงอดไม่ได้ที่จะด่า

เสี่ยวเซิงเวลานี้ ทั้งเครียดทั้งกลัว

เพราะเขาไม่เคยแม้แต่จะฆ่าคนเลยสักครั้ง

ต่อให้แทงคน เขาก็กล้าแทงแค่แขน ขาอะไรพวกนี้ ไม่กล้าแทงเข้าท้องเลย…

ตอนนี้ กลับต้องให้เขามาฆ่าคน…

สำหรับเสี่ยวเซิง การฆ่าคนคือความท้าทายอย่างมาก

แต่เพื่อจะช่วยชีวิตย่าของตัวเอง เขาเองก็ต้องจำใจไปทำมัน

อย่าว่าแต่ฆ่าคนอื่นเลย ต่อให้ต้องฆ่าตัวเอง เขาก็ยอมทั้งนั้น

ชีวิตนี้ของเขา ย่าเป็นคนมอบให้

พอเปลี่ยนชุดว่ายน้ำเสร็จ พวกเขาก็ลงไปในสระน้ำพุร้อนทันที

สระน้ำพุร้อนมีหมอกปรากฏขึ้นตลอดเวลา จนกลายเป็นเหมือนควันจางๆ ทำให้วิสัยทัศน์ในการมองเห็นน้อยลง

นี่คือเหตุผลว่าทำไมหลี่ฝางถึงได้กล้าทำสิ่งนั้นกับฉินวี่เฟยอีก

อย่างแรกคือเขาไม่เคยลองในน้ำ รู้สึกว่ามันท้าทายดี

สองคือนอกจากว่ามีคนเดินเข้าใกล้ไม่เกิน 1 เมตร มิฉะนั้นไม่มีใครเห็นแน่นอนว่าเขาทำอะไร

“แยกกันหา!”

เสี่ยวเซิงหันไปมองลูกน้องของตัวเอง “พวกแกสองคนไปทางนั้น พวกแกสองคนตามฉันมา ถ้าหาเจอตะโกนเรียกพวกเราดังๆ”

พอพูดจบ ลูกน้องที่อยู่ข้างหลังของตัวเองก็เหลือแค่ 2 คนเท่านั้น

สองคนช่วยตัวเองจับหลี่ฝางไว้ แล้วตัวเองลงมือ คนก็น่าจะพอ

“พี่เซิง ทำไมพี่เอามีดมาด้วย เราแค่มาสั่งสอนไอ้หมอนั่นไม่ใช่เหรอ ไม่ถึงกับต้องใช้มีดไหม คุณชายสวีนั่นก็ให้เราแค่ 2 พัน ถ้าเกิดเราทำอะไรเกินเลยขึ้นมา เราก็เดือดร้อนกันสิ” ลูกน้องที่อยู่ข้างหลังพูดขึ้น

“คุณชายสวีพูดแล้ว ถ้าสำเร็จ จะเพิ่มให้พวกแกคนละ 2 พัน” เพื่อให้คนอื่นช่วยตัวเอง เขาพูดโกหกไปด้วย

“เดี๋ยวถ้าเจอไอ้หมอนั่น พวกแกช่วยฉันจับมันไว้ก็พอ ฉันจะเป็นคนลงมือเอง”

เสี่ยวเซิงพูดต่อว่า “แบบนี้ ถ้าเกิดเรื่องอะไรเดือดร้อนขึ้นมา ก็ตกมาที่ฉันคนเดียว ไม่เกี่ยวกับพวกแก”

“พี่เซิง พี่จะดีเกินไปแล้วนะ เมื่อกี้ค่าชุดว่ายน้ำกับหมวกพี่ก็เป็นคนออก ตอนนี้ยังจะมาออกตัวรับทุกอย่างอีก”

“ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้ว เราเป็นเพื่อนกันทั้งนั้น ไปหาคนให้เจอก่อนเถอะ” เสี่ยวเซิงพูดด้วยความรำคาญ

รีบหาหลี่ฝางให้เจอ รีบจัดการกับเขา เสี่ยวเซิงเกรงว่าถ้ารอไปนานกว่านี้ ตัวเองจะถอยไปก่อน

พอตอนนี้ เพียงแต่ใจเต้นรัว อีกทั้งมือยังสั่นไม่หยุดอยู่เลย

เขากำลังคิดว่า ตัวเองฆ่าคนตายไปแล้ว จะหนีไปรอดไหม

ถ้าหนีไปรอด จะโดนตัดสินประหารไหม จะโดนยิงด้วยปืนไหม

พอคิดไปคิดมา เขาก็มือไอ้อ่อนปวกเปียก จนลื่นไถลลงไปในน้ำ

“พี่เซิง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

กว่าทุกคนจะดึงเขาขึ้นมา หน้าอกเขาก็ถูกกรีดไปหนึ่งแผล

เลือดไม่หยุดไหลออกมา จนไหลลงไปในสระน้ำพุร้อน

“พี่เซิง พี่เลือดไหลแล้ว เรารีบขึ้นไปบนฝั่งเถอะ”

เมื่อกี้ตอนที่ไถลลงไป เสี่ยวเซิงไม่ได้ระวัง ใช้มีดค้ำหน้าออกตัวเองไว้ จึงทำให้เกิดบาดแผลใหญ่ขึ้น

“แค่บาดแผลภายนอก ไม่เป็นไรหรอก”

เสี่ยวเซิงกัดฟัน อดทนกับความเจ็บปวดนั้น พร้อมพูดว่า “ทำงานให้คุณชายสวีให้เรียบร้อยก่อน ถ้าสำเร็จ ค่อยไปทำแผลก็ทัน”

“พี่เสี่ยวเซิง ทำไมวันนี้พี่เปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้”

ลูกน้องที่อยู่ข้างหลังถามด้วยความสงสัย

เสี่ยวเซิงเมื่อก่อน ไม่ได้ใจกล้าขนาดนี้ ไม่ได้เป็นคนที่กล้าที่จะรับผิดชอบอะไรขนาดนี้

ที่สำคัญที่สุดก็คือ ปกติเสี่ยวเซิงขี้เหนียวมาก ตอนกินข้าวเขาไม่เคยออกตัวจ่ายเลย ต่อให้ถึงคิวตัวเองต้องเลี้ยง เขาก็ทำเป็นไปเข้าห้องน้ำเพื่อหลีกเลี่ยง

แต่ทุกคนเห็นว่าเขาครอบครัวยากจน ไม่มีพ่อแม่ เลยไม่มีใครถือสาเขา

แต่วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น

ไม่เพียงแค่เอาเงินจ่ายชุดว่ายน้ำกับหมวกให้ แถมยังโดนมีดบาดแผลใหญ่ขนาดนั้นยังไม่สนใจ

นี่ไม่ใช่แค่บาดแผลธรรมดา แต่มีดเข้าไปลึกถึงข้างในเนื้อเลยทีเดียว

แค่มองดู ก็รู้สึกเจ็บตามแล้ว

แต่เสี่ยวเซิง กลับกัดฟันอดทนต่อ

“พี่เสี่ยวเซิง เราขึ้นฝั่งไปทำแผลกันก่อนเถอะ ยังไงไอ้หมอนั่นก็คงไม่ออกมาตอนนี้ เราค่อยหาโอกาสมาจัดการกับมันก็ได้”

“ใช่ พี่เสี่ยวเซิง เราค่อยจัดการกับมันตอนเย็นก็ได้นะ”

ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังพูด

เสี่ยวเซิงส่ายหน้า พร้อมพูดว่า “อย่าพูดมาก เงินพันกว่าบาทค่าชุดว่ายน้ำนี่ก็จ่ายไปแล้ว ถ้าไม่ลงมือตอนนี้ เงินนั่นก็เปล่าประโยชน์สิ”

ลูกน้องที่อยู่ข้างหลังพอได้ฟังก็เห็นด้วย เงินนี่ก็จ่ายไปแล้ว ถ้าไม่ลงมืออะไรแล้วออกไปแบบนี้ ก็เท่ากับเสียเปรียบไปแล้ว

แต่ในเวลานี้ หลี่ฝางยังคงจูบกับฉินวี่เฟยอยู่

ตอนนั้นฉินวี่เฟยเองก็เริ่มไม่ขัดขืนอะไรแล้ว

เพราะในเมื่อเมื่อคืนก็มีอะไรกันไปแล้ว แค่จูบ จะเป็นไรไป

ทันใดนั้น หลี่ฝางก็เห็นคาบเลือดลอยมา

หลี่ฝางผลักฉินวี่เฟยออกไป พร้อมถามว่า “บ้าจริง อันนั้นเธอมาแล้วเหรอ”

“ไม่นะ” ฉินวี่เฟยส่ายหน้า มองหลี่ฝางด้วยความดูถูก “ยังเร็วอยู่เลย”

“หรือว่ามันคือเลือดคนเหรอ”

พอคิดถึงตอนนี้ หลี่ฝางขมวดคิ้วขึ้นมา

สระน้ำพุร้อนนี่จะมีเลือดคนได้ยังไง

หรือว่า มีใครเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ

เสี่ยวเซิงพอได้ยินเสียง ก็เดินมาทางหลี่ฝางและฉินวี่เฟยทันที

“เพื่อน หน้าอกนายเลือดออก”

พอเห็นบาดแผลที่อยู่บนตัวเสี่ยวเซิง เขาก็รีบบอกทันที “รีบขึ้นฝั่งไปทำแผลเถอะ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท