NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 267

ตอนที่ 267

บทที่ 267 การแก้แค้นของสวีเถิงเฟย

“เป็นไปไม่ได้”

หวางเฉินตอบไปว่า “ถ้าเขาเป็นไอ้กระจอก จะได้พักที่คฤหาสน์เดี่ยวได้ยังไง”

“อีกอย่าง นายดูดีๆ คฤหาสน์ที่ไอ้หมอนั่นพัก เป็นหลังที่ใหญ่ที่สุด แถมข้างหน้ายังจอดรถสปอร์ตอยู่ด้วย”

“นอกจากคฤหาสน์ของไอ้หมอนั่นแล้ว นายดูสิว่ามีหลังไหนมีรถบ้าง”

“สถานตากอากาศนี้เป็นแบบรักษ์ธรรมชาติ เพราะงั้นเลยให้แค่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ากับจักรยาน ฉันคิดว่ามีแค่เจ้าของคฤหาสน์ถึงจะมีสิทธิ์ขับรถสปอร์ตนั่นที่นี่”

ความหมายของหวางเฉินเท่ากับจะบอกสวีเถิงเฟยว่า หลี่ฝางเป็นเจ้าของสถานตากอากาศนี่

สวีเถิงเฟยเริ่มคิดได้ เขาเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง

“หวางเฉินนายคิดเยอะไปหรือเปล่า ไอ้หมอนี่มันก็แค่ไอ้กระจอกคนนึง พ่อแม่เป็นชาวนา ไม่มีได้ฐานะอะไรเลย” สวีเถิงเฟยหังเราะ แล้วพูดต่อว่า “แต่ว่ามันสนิทกับถังหยู่ซวนพอสมควร”

“ถังหยู่ซวน หลานของคุณหลี่เหรอ” หวางเฉินถาม

“ใช่ไง เขากับถังหยู่ซวนความสัมพันธ์ไม่เลว ฉันไปสืบมาแล้ว วันนี้ถังหยู่ซวนไม่มา อีกอย่างตั้งแต่มันเข้ามหาลัย มันกับถังหู่ซวนก็เริ่มห่างกันมากขึ้น”

สวีเถิงเฟยกระดกคิ้ว หัวเราะพร้อมพูดต่อว่า “มันต้องไม่ได้พักที่คฤหาสน์นี้แน่ๆ คงจะมาหาถังหยู่ซวน”

“เพียงแค่ว่าถังหยู่ซวนไม่อยู่ มันมาหาผิดวันก็แค่นั้น…”

“นายดูชุดที่มันใส่สิ ก็แค่ชุดวอร์มธรรมดา เหมือนคนที่มีฐานะสูงส่งที่ไหนล่ะ” สวีเถิงเฟยหัวเราะอย่างไม่แยแส

“ดูก็ไม่เหมือนนั่นแหละ” หวางเฉินหัวเราะ

“มันชื่อหลี่ฝาง หลายปีก่อนพ่อแม่ทำแชร์ลูกโซ่ ไม่กล้ากลับมา ช่วงนี้ไอ้หมอนี่เพิ่งจะขายที่ไปที่นึง น่าจะขายไป2-3 ล้านได้ ก็เลยรับพ่อแม่มันกลับมาอยู่ด้วย”

“แต่ว่า เงิน 2-3 ล้านนั่น โดนมันใช้ไปหมดตั้งนานแล้ว” สวีเถิงเฟยแนะนำกับหวางเฉินอย่าละเอียด

พอฟังเสร็จ หวางเฉินก็กระดกคิ้ว ยิ้มด้วยความมีเลศนัย “งั้นเรา…ไปสั่งสอนมันดีไหม”

“งั้นก็สั่งสอนมันให้ดีๆ หน่อยแล้วกัน” สวีเถิงเฟยพยักหน้า สายตาเต็มไปด้วยความร้ายกาจ

วันนั้นหลี่ฝางบังคับให้เขาให้ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด แล้วเดินจากเขาหมาป่าจนถึงในเมือง แล้วยังโดนตำรวจจับไปด้วย

แค้นนี้ต้องชำระ หลายวันมานี้สวีเถิงเฟยนอนก็ยังนอนไม่หลับดีนัก

เพราะในเมื่อ…มีรูปถ่ายที่สวีเถิงเฟยต้องอับอายผู้คน

ทางนี้ หลี่ฝางมารวมตัวกับคนอื่น

พอเห็นหลี่ฝาง หวางเสี่ยวโก๋ก็ชูนิ้วโป้งให้เขา พร้อมพูดว่า “หลี่ฝาง ฉันนับถือนายจริงๆ เลย ฉันเข้าใจแล้ว แค่ไปกับนาย ก็ได้อยู่ดีกินดี”

“ทำไมเหรอ” หลี่ฝางหมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ

“เมื่อคืนที่บาร์ เราเมาแล้วก็มีคนพาขึ้นไปนอนพัก”

“วันนี้มาสถานตากอากาศ เราก็ถูกจัดให้เป็นแขกวีไอพี ไม่ใช่แค่มีคนนำทาง ที่พักนี่ก็หรูหรามาก เป็นห้องชุดกว้าง 1-200 ร้อยตารางอีก”

“แล้วคนที่นำทางเรา ยังบอกด้วยว่า ถ้าเราหิว ก็ไปกินที่ภัตตาคารได้ หรือไม่ก็โทรสั่งร้านให้ขึ้นไปส่ง มีทั้งอาหารจีน อาหารฝรั่ง ไม่คิดเงินด้วย”

หวางเสี่ยวโก่หระกดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “เขาบอกว่า เราเป็นแขกของคุณชาย”

“หลี่ฝาง นายเป็นคุณชายคนที่พวกเขาพุดถึงใช่ไหม” หวางเสี่ยวโก๋ถาม

หลี่ฝางส่ายหน้า พร้อมวตอบไปว่า “ไม่ใช่แน่นอน ฉันแค่สนิทกับคุณชายคนนั้นเฉยๆ”

“เมื่อคืนก็บอกกับพวกนายแล้วไง บัตรของเราเขาก็เป็นคนให้” หลี่ฝางอธิบาย

หวางเสี่ยวโก๋เดินเข้ามาโอบไหล่เขา “หลี่ฝาง นายจะเรียกคุณชายคนนั้นมารู้จักกับพวกเราซักหน่อยล่ะ”

“มีโอกาสก่อนละกัน” เขาตอบอย่างขอไปที

“ทุกคนหิวแล้วใช่ไหม หรือว่าเราไปกินข้าวที่ภัตตาคารกันก่อนไหม”

ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ เขายังไม่ได้กินอะไรเลย พอหลี่ฝางพูด ท้องของทุกคนก็ร้องขึ้นทันที

มาถึงภัตตาคาร ทุกคนก็กินอาหาร

แต่นอกภัตตาคาร

สวีเถิงเฟยก็ยืนอยู่ตรงนั้น ต้องมองไปที่พวกเขาหลี่ฝาง

ไม่นาน ข้างหลังของหวางเฉินก็มีคน 4-5 คนเดินมารวมตัวกัน

“พี่เฉิน…”

คน 4-5 คนนั่น สีหน้าบ่งบอกได้เลยว่าไม่ใช่คนดีอะไรแน่นอน

ปกติหวางเฉินเป็นคนเลี้ยงพกวเขาไว้ เรื่องกินเรื่องพัก รวมถึงบัตรสถานตากอากาศนั่น หวางเฉินก็เป็นคนซื้อให้

“สวีเถิงเฟย ลูกน้องฉันมาแล้ว นายตั้งใจจะสั่งสอนไอ้หมอนั่นยังไง” หวางเฉินหัวเราะ แล้วพูดต่อว่า “ไปจับมันมาซ้อมซักรอบ หรือว่า?”

“รอให้พวกมันกินอะไรกันก่อน” สวีเถิงเฟยตอบ

“เพราะที่นี่เป็นสถานตากอากาศ ไม่ใช่ข้างนอก ไม่ว่าเราจะทำอะไร ก็ต้องระวังก่อนหน่อย”

สวีเถิงเฟยมองไปที่คนที่อยู่อยู่ด้านหลังหวางเฉินยิ้มแล้วพูดว่า “พวกนายรู้จักฉันใช่ไหม”

“คุณเป็นถึงคุณชายใหญ่แห่งบริษัทสวีซื่อ พวกเราจะไม่รู้จักได้ยังไงครับ” ชายที่อยู่ข้างหลังหวางเฉินรีบพูดเอาใจทันที

“เดี๋ยวอีกซักพักช่วยฉันทำงานเสร็จ คนละสองพัน” สวีเถิงเฟยพูดอย่างใจกว้าง

4-5 คนพวกนั้นต่างก็รีบพูดขอบคุณทันที

สวีเถิงเฟยมองหลี่ฝางด้วยความเยือกเย็น ยิ้มด้วยสีหน้าเย็นชา

หลี่ฝางและพวกกินข้าวเสร็จ เลี่ยวข่ายก็เสนอความคิดขึ้นมาว่า “ฉันได้ยินมาว่าสถานตากอากาศมีบ่อน้ำร้อนที่อยู่ใกล้หน้าผา หรือเราไปแช่น้ำร้อนกันดีไหม

“ได้สิ” หวางเสี่ยวโก๋รีบพยักหน้าเห็นด้วย

“ฉันไม่ไปหรอก ” สาวอ้วนที่อยู่หอพักกับเหยนเสี่ยวน่าส่ายหัว “ฉันยอมกลับไปนอนดีกว่า”

หญิงสวมแว่นตาก็ส่ายหน้า “ฉันก็ไม่ไป เมื่อกี้ฉันเห็นห้องสมุด ฉันว่าจะไปอ่านหนังสือซักหน่อย”

“พี่ แล้วพี่ล่ะ” หวางเสี่ยวโก๋หันไปถามเหยนเสี่ยวน่า

เหยนเสี่ยวน่ามองไปทางฉินวี่เฟย พร้อมถามว่า “วี่เฟย เธอจะไปไหม”

“ยังไงก็ไม่อะไรทำ ก็ไปแช่น้ำร้อนก็ได้”

ฉินวี่เฟยพูดต่อว่า “พอดีเมื่อคืนดื่มเยอะไป ยังไม่ค่อยได้พักผ่อนดีๆ เลย ไปแช่น้ำร้อนผ่อนคลายซักหน่อย”

“ดื่มไปเยอะเหรอ เมื่อคืนเธอไม่ได้ดื่มไม่ใช่เหรอ” เหยนเสี่ยวน่าถามด้วยความสงสัย

หลี่ฝางรู้สึกใจฝ่อขึ้นมาทันที เขารีบพูดไปว่า “อย่าคุยกันเลย รีบไปกันเถอะ”

“ที่แช่น้ำร้อนนั่น มันจำกัดจำนวนคนนะ เกิดเราไปช้าอาจจะไม่ให้เข้าไปก็ได้”

หลี่ฝางพูดจบ คนที่อยากไปต่างก็ลุกขึ้นยืน

หลี่ซ่วยซ่วยก็ไม่ได้ไป เขาไปห้องสมุดกับผู้หญิงใส่แว่นแล้ว

เวลานี้ โก่เอ๋อก็มาพอดี

หลี่ฝางเดินเข้าไปถามว่า “เราจะไปแช่น้ำร้อน เธอไปด้วยกันไหม”

“ไปสิ” โก่เอ๋อตอบรับอย่างเร็ว

ทุกคนหาจักรยานคนละคัน แล้วก็พากันออกเดินทาง

โก๋เอ๋อปั่นไม่เป็น จึงต้องนั่งคันเดียวกับหลี่ฝางไป

“เหมือนว่าพวกมันจะไปขอบหน้าผาแล้ว ที่นั่นมีบ่อน้ำพุร้อน” หวางเฉินพูดกับสวีเถิงเฟย

อยู่ดีๆ สวีเถิงเฟยก็เกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมา

“หวางเฉินลูกน้องนายเคยฆ่าคนไหม” สวีเถิงเฟยเรียกหวางเฉินเข้ามาเพื่อถาม

หวางเฉินส่ายหน้า “พวกนี้มันก็นักเลงธรรมดา”

“ทำไม นายอยากฆ่าไอ้หมอนั่นเหรอ” หวางเฉินไม่ใช่คนโง่ เขารู้ดีว่าสวีเถิงเฟยต้องารอะไร

สวีเถิงเฟยพยักหน้า “ไม่ปิดบังนายลกัน ในมือของไอ้หมอนั่นมีรูปที่เอาไว้ขู่ฉันได้ มันเป็นรูปที่น่าอายเลยแหละ”

หวางเฉินหวักมือเรียกลูกน้องตัวเองมา

“เสี่ยวเซิง ได้ยินว่าย่านายป่วย ต้องอยู่โรงพยาบายตลอดเวลา มีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ ใช่ไหม” หวางเฉินถามลูกน้องของตัวเอง

ลูกน้องคนนี้ที่ชื่อเสี่ยงเซิงพยักหน้า “ใช่ครับ แต่โรงพยาบาลใจดำมาก พักวันนึงก็ต้องใช้เงินหลายพัน ผมไม่มีเงินแล้ว เพิ่งจะทำเรื่องให้ย่าออกจากโรงพยาบาล”

“อาการป่วยของย่าหายดีแล้วเหรอ” หวางเฉินถามต่อ

“ยังเลย ถ้าอยากจะรักษาให้หาย อย่างน้อยก็ต้องใช้เงิน 2 แสนเลยครับ” เสี่ยวเซิงพูดจบ ก็ถอนหายใจรัวๆ

“เสี่ยวเซิงฉันมีงานอยู่งานนึง ถ้าทำเสร็จ ค่าตอบแทนประมาณ 3 แสน…” หวางเฉินยิ้มหรี่ตายิ้ม

“เพียงแต่ว่า ไม่รู้ว่านายจะกล้าทำไหม”

“กล้าครับ!”

เสี่ยวเซิงพอได้ยินคำนั้น ตาก็ลุกวาว พูดด้วยไม่ลังเลว่า “พี่เฉิน พี่รีบบอกผม งานอะไรที่มันจะได้เงิน 3 แสนนั่น!”

เสี่ยวเซิงรีบร้อนขึ้น เพราะยังไงเขาก็เป็นคนที่ถูกย่าเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก

ตอนนี้ย่าป่วยเข้าโรงพยาบาล เขาต้องยืมเงินเป็นหนี้สินหนัก เหลือแค่ไปขายไตแล้ว

หวางเฉินชี้ไปที่หลี่ฝาง แล้วพูดว่า “เห็นไอ้คนนั้นไหม”

“ฆ่ามัน ก็จะได้เงิน 3 แสน”

หวางเฉินยิ้มด้วยความเย็นชา พร้อมถามต่อว่า “นายจะทำไหม”

“ฆ่าคนเหรอ” เสี่ยวเซิงเริ่มกลัวขึ้นมา

“เสี่ยวเซิง คิดถึงย่านายสิ…ไม่มีโรงพยาบาล เขาอยู่ได้ไม่นานหรอก” หวางเฉินตอบ

“ครับ ผมทำ” เสี่ยวเซิงรับปาก

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท