บทที่ 267 การแก้แค้นของสวีเถิงเฟย
“เป็นไปไม่ได้”
หวางเฉินตอบไปว่า “ถ้าเขาเป็นไอ้กระจอก จะได้พักที่คฤหาสน์เดี่ยวได้ยังไง”
“อีกอย่าง นายดูดีๆ คฤหาสน์ที่ไอ้หมอนั่นพัก เป็นหลังที่ใหญ่ที่สุด แถมข้างหน้ายังจอดรถสปอร์ตอยู่ด้วย”
“นอกจากคฤหาสน์ของไอ้หมอนั่นแล้ว นายดูสิว่ามีหลังไหนมีรถบ้าง”
“สถานตากอากาศนี้เป็นแบบรักษ์ธรรมชาติ เพราะงั้นเลยให้แค่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ากับจักรยาน ฉันคิดว่ามีแค่เจ้าของคฤหาสน์ถึงจะมีสิทธิ์ขับรถสปอร์ตนั่นที่นี่”
ความหมายของหวางเฉินเท่ากับจะบอกสวีเถิงเฟยว่า หลี่ฝางเป็นเจ้าของสถานตากอากาศนี่
สวีเถิงเฟยเริ่มคิดได้ เขาเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
“หวางเฉินนายคิดเยอะไปหรือเปล่า ไอ้หมอนี่มันก็แค่ไอ้กระจอกคนนึง พ่อแม่เป็นชาวนา ไม่มีได้ฐานะอะไรเลย” สวีเถิงเฟยหังเราะ แล้วพูดต่อว่า “แต่ว่ามันสนิทกับถังหยู่ซวนพอสมควร”
“ถังหยู่ซวน หลานของคุณหลี่เหรอ” หวางเฉินถาม
“ใช่ไง เขากับถังหยู่ซวนความสัมพันธ์ไม่เลว ฉันไปสืบมาแล้ว วันนี้ถังหยู่ซวนไม่มา อีกอย่างตั้งแต่มันเข้ามหาลัย มันกับถังหู่ซวนก็เริ่มห่างกันมากขึ้น”
สวีเถิงเฟยกระดกคิ้ว หัวเราะพร้อมพูดต่อว่า “มันต้องไม่ได้พักที่คฤหาสน์นี้แน่ๆ คงจะมาหาถังหยู่ซวน”
“เพียงแค่ว่าถังหยู่ซวนไม่อยู่ มันมาหาผิดวันก็แค่นั้น…”
“นายดูชุดที่มันใส่สิ ก็แค่ชุดวอร์มธรรมดา เหมือนคนที่มีฐานะสูงส่งที่ไหนล่ะ” สวีเถิงเฟยหัวเราะอย่างไม่แยแส
“ดูก็ไม่เหมือนนั่นแหละ” หวางเฉินหัวเราะ
“มันชื่อหลี่ฝาง หลายปีก่อนพ่อแม่ทำแชร์ลูกโซ่ ไม่กล้ากลับมา ช่วงนี้ไอ้หมอนี่เพิ่งจะขายที่ไปที่นึง น่าจะขายไป2-3 ล้านได้ ก็เลยรับพ่อแม่มันกลับมาอยู่ด้วย”
“แต่ว่า เงิน 2-3 ล้านนั่น โดนมันใช้ไปหมดตั้งนานแล้ว” สวีเถิงเฟยแนะนำกับหวางเฉินอย่าละเอียด
พอฟังเสร็จ หวางเฉินก็กระดกคิ้ว ยิ้มด้วยความมีเลศนัย “งั้นเรา…ไปสั่งสอนมันดีไหม”
“งั้นก็สั่งสอนมันให้ดีๆ หน่อยแล้วกัน” สวีเถิงเฟยพยักหน้า สายตาเต็มไปด้วยความร้ายกาจ
วันนั้นหลี่ฝางบังคับให้เขาให้ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด แล้วเดินจากเขาหมาป่าจนถึงในเมือง แล้วยังโดนตำรวจจับไปด้วย
แค้นนี้ต้องชำระ หลายวันมานี้สวีเถิงเฟยนอนก็ยังนอนไม่หลับดีนัก
เพราะในเมื่อ…มีรูปถ่ายที่สวีเถิงเฟยต้องอับอายผู้คน
…
ทางนี้ หลี่ฝางมารวมตัวกับคนอื่น
พอเห็นหลี่ฝาง หวางเสี่ยวโก๋ก็ชูนิ้วโป้งให้เขา พร้อมพูดว่า “หลี่ฝาง ฉันนับถือนายจริงๆ เลย ฉันเข้าใจแล้ว แค่ไปกับนาย ก็ได้อยู่ดีกินดี”
“ทำไมเหรอ” หลี่ฝางหมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ
“เมื่อคืนที่บาร์ เราเมาแล้วก็มีคนพาขึ้นไปนอนพัก”
“วันนี้มาสถานตากอากาศ เราก็ถูกจัดให้เป็นแขกวีไอพี ไม่ใช่แค่มีคนนำทาง ที่พักนี่ก็หรูหรามาก เป็นห้องชุดกว้าง 1-200 ร้อยตารางอีก”
“แล้วคนที่นำทางเรา ยังบอกด้วยว่า ถ้าเราหิว ก็ไปกินที่ภัตตาคารได้ หรือไม่ก็โทรสั่งร้านให้ขึ้นไปส่ง มีทั้งอาหารจีน อาหารฝรั่ง ไม่คิดเงินด้วย”
หวางเสี่ยวโก่หระกดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “เขาบอกว่า เราเป็นแขกของคุณชาย”
“หลี่ฝาง นายเป็นคุณชายคนที่พวกเขาพุดถึงใช่ไหม” หวางเสี่ยวโก๋ถาม
หลี่ฝางส่ายหน้า พร้อมวตอบไปว่า “ไม่ใช่แน่นอน ฉันแค่สนิทกับคุณชายคนนั้นเฉยๆ”
“เมื่อคืนก็บอกกับพวกนายแล้วไง บัตรของเราเขาก็เป็นคนให้” หลี่ฝางอธิบาย
หวางเสี่ยวโก๋เดินเข้ามาโอบไหล่เขา “หลี่ฝาง นายจะเรียกคุณชายคนนั้นมารู้จักกับพวกเราซักหน่อยล่ะ”
“มีโอกาสก่อนละกัน” เขาตอบอย่างขอไปที
“ทุกคนหิวแล้วใช่ไหม หรือว่าเราไปกินข้าวที่ภัตตาคารกันก่อนไหม”
ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ เขายังไม่ได้กินอะไรเลย พอหลี่ฝางพูด ท้องของทุกคนก็ร้องขึ้นทันที
มาถึงภัตตาคาร ทุกคนก็กินอาหาร
แต่นอกภัตตาคาร
สวีเถิงเฟยก็ยืนอยู่ตรงนั้น ต้องมองไปที่พวกเขาหลี่ฝาง
ไม่นาน ข้างหลังของหวางเฉินก็มีคน 4-5 คนเดินมารวมตัวกัน
“พี่เฉิน…”
คน 4-5 คนนั่น สีหน้าบ่งบอกได้เลยว่าไม่ใช่คนดีอะไรแน่นอน
ปกติหวางเฉินเป็นคนเลี้ยงพกวเขาไว้ เรื่องกินเรื่องพัก รวมถึงบัตรสถานตากอากาศนั่น หวางเฉินก็เป็นคนซื้อให้
“สวีเถิงเฟย ลูกน้องฉันมาแล้ว นายตั้งใจจะสั่งสอนไอ้หมอนั่นยังไง” หวางเฉินหัวเราะ แล้วพูดต่อว่า “ไปจับมันมาซ้อมซักรอบ หรือว่า?”
“รอให้พวกมันกินอะไรกันก่อน” สวีเถิงเฟยตอบ
“เพราะที่นี่เป็นสถานตากอากาศ ไม่ใช่ข้างนอก ไม่ว่าเราจะทำอะไร ก็ต้องระวังก่อนหน่อย”
สวีเถิงเฟยมองไปที่คนที่อยู่อยู่ด้านหลังหวางเฉินยิ้มแล้วพูดว่า “พวกนายรู้จักฉันใช่ไหม”
“คุณเป็นถึงคุณชายใหญ่แห่งบริษัทสวีซื่อ พวกเราจะไม่รู้จักได้ยังไงครับ” ชายที่อยู่ข้างหลังหวางเฉินรีบพูดเอาใจทันที
“เดี๋ยวอีกซักพักช่วยฉันทำงานเสร็จ คนละสองพัน” สวีเถิงเฟยพูดอย่างใจกว้าง
4-5 คนพวกนั้นต่างก็รีบพูดขอบคุณทันที
สวีเถิงเฟยมองหลี่ฝางด้วยความเยือกเย็น ยิ้มด้วยสีหน้าเย็นชา
หลี่ฝางและพวกกินข้าวเสร็จ เลี่ยวข่ายก็เสนอความคิดขึ้นมาว่า “ฉันได้ยินมาว่าสถานตากอากาศมีบ่อน้ำร้อนที่อยู่ใกล้หน้าผา หรือเราไปแช่น้ำร้อนกันดีไหม
“ได้สิ” หวางเสี่ยวโก๋รีบพยักหน้าเห็นด้วย
“ฉันไม่ไปหรอก ” สาวอ้วนที่อยู่หอพักกับเหยนเสี่ยวน่าส่ายหัว “ฉันยอมกลับไปนอนดีกว่า”
หญิงสวมแว่นตาก็ส่ายหน้า “ฉันก็ไม่ไป เมื่อกี้ฉันเห็นห้องสมุด ฉันว่าจะไปอ่านหนังสือซักหน่อย”
“พี่ แล้วพี่ล่ะ” หวางเสี่ยวโก๋หันไปถามเหยนเสี่ยวน่า
เหยนเสี่ยวน่ามองไปทางฉินวี่เฟย พร้อมถามว่า “วี่เฟย เธอจะไปไหม”
“ยังไงก็ไม่อะไรทำ ก็ไปแช่น้ำร้อนก็ได้”
ฉินวี่เฟยพูดต่อว่า “พอดีเมื่อคืนดื่มเยอะไป ยังไม่ค่อยได้พักผ่อนดีๆ เลย ไปแช่น้ำร้อนผ่อนคลายซักหน่อย”
“ดื่มไปเยอะเหรอ เมื่อคืนเธอไม่ได้ดื่มไม่ใช่เหรอ” เหยนเสี่ยวน่าถามด้วยความสงสัย
หลี่ฝางรู้สึกใจฝ่อขึ้นมาทันที เขารีบพูดไปว่า “อย่าคุยกันเลย รีบไปกันเถอะ”
“ที่แช่น้ำร้อนนั่น มันจำกัดจำนวนคนนะ เกิดเราไปช้าอาจจะไม่ให้เข้าไปก็ได้”
หลี่ฝางพูดจบ คนที่อยากไปต่างก็ลุกขึ้นยืน
หลี่ซ่วยซ่วยก็ไม่ได้ไป เขาไปห้องสมุดกับผู้หญิงใส่แว่นแล้ว
เวลานี้ โก่เอ๋อก็มาพอดี
หลี่ฝางเดินเข้าไปถามว่า “เราจะไปแช่น้ำร้อน เธอไปด้วยกันไหม”
“ไปสิ” โก่เอ๋อตอบรับอย่างเร็ว
ทุกคนหาจักรยานคนละคัน แล้วก็พากันออกเดินทาง
โก๋เอ๋อปั่นไม่เป็น จึงต้องนั่งคันเดียวกับหลี่ฝางไป
“เหมือนว่าพวกมันจะไปขอบหน้าผาแล้ว ที่นั่นมีบ่อน้ำพุร้อน” หวางเฉินพูดกับสวีเถิงเฟย
อยู่ดีๆ สวีเถิงเฟยก็เกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมา
“หวางเฉินลูกน้องนายเคยฆ่าคนไหม” สวีเถิงเฟยเรียกหวางเฉินเข้ามาเพื่อถาม
หวางเฉินส่ายหน้า “พวกนี้มันก็นักเลงธรรมดา”
“ทำไม นายอยากฆ่าไอ้หมอนั่นเหรอ” หวางเฉินไม่ใช่คนโง่ เขารู้ดีว่าสวีเถิงเฟยต้องารอะไร
สวีเถิงเฟยพยักหน้า “ไม่ปิดบังนายลกัน ในมือของไอ้หมอนั่นมีรูปที่เอาไว้ขู่ฉันได้ มันเป็นรูปที่น่าอายเลยแหละ”
หวางเฉินหวักมือเรียกลูกน้องตัวเองมา
“เสี่ยวเซิง ได้ยินว่าย่านายป่วย ต้องอยู่โรงพยาบายตลอดเวลา มีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ ใช่ไหม” หวางเฉินถามลูกน้องของตัวเอง
ลูกน้องคนนี้ที่ชื่อเสี่ยงเซิงพยักหน้า “ใช่ครับ แต่โรงพยาบาลใจดำมาก พักวันนึงก็ต้องใช้เงินหลายพัน ผมไม่มีเงินแล้ว เพิ่งจะทำเรื่องให้ย่าออกจากโรงพยาบาล”
“อาการป่วยของย่าหายดีแล้วเหรอ” หวางเฉินถามต่อ
“ยังเลย ถ้าอยากจะรักษาให้หาย อย่างน้อยก็ต้องใช้เงิน 2 แสนเลยครับ” เสี่ยวเซิงพูดจบ ก็ถอนหายใจรัวๆ
“เสี่ยวเซิงฉันมีงานอยู่งานนึง ถ้าทำเสร็จ ค่าตอบแทนประมาณ 3 แสน…” หวางเฉินยิ้มหรี่ตายิ้ม
“เพียงแต่ว่า ไม่รู้ว่านายจะกล้าทำไหม”
“กล้าครับ!”
เสี่ยวเซิงพอได้ยินคำนั้น ตาก็ลุกวาว พูดด้วยไม่ลังเลว่า “พี่เฉิน พี่รีบบอกผม งานอะไรที่มันจะได้เงิน 3 แสนนั่น!”
เสี่ยวเซิงรีบร้อนขึ้น เพราะยังไงเขาก็เป็นคนที่ถูกย่าเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก
ตอนนี้ย่าป่วยเข้าโรงพยาบาล เขาต้องยืมเงินเป็นหนี้สินหนัก เหลือแค่ไปขายไตแล้ว
หวางเฉินชี้ไปที่หลี่ฝาง แล้วพูดว่า “เห็นไอ้คนนั้นไหม”
“ฆ่ามัน ก็จะได้เงิน 3 แสน”
หวางเฉินยิ้มด้วยความเย็นชา พร้อมถามต่อว่า “นายจะทำไหม”
“ฆ่าคนเหรอ” เสี่ยวเซิงเริ่มกลัวขึ้นมา
“เสี่ยวเซิง คิดถึงย่านายสิ…ไม่มีโรงพยาบาล เขาอยู่ได้ไม่นานหรอก” หวางเฉินตอบ
“ครับ ผมทำ” เสี่ยวเซิงรับปาก