บทที่ 262 ผู้หญิงชุดยีนส์ที่ที่มาไม่ธรรมดา
ผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้นระมัดระวังตัวเองสูงมาก พอเดินออกจากบาร์เธอก็วิ่งไปขึ้นรถตัวเองทันที
เหมือนว่าเธอจะรู้ตัวแล้วว่าส้งเสียงกับพวกกำลังตามเธอมาอยู่
รถของผู้หญิงชุดยีนส์คือรถ BMW MINI ถึงรถคันนี้จะดูเหมือนว่าเล็ก แต่มันสตาร์ทได้เร็วมาก
ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงและเสี่ยวสานวิ่งตามออกมา มองเห็นผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้น
“มันอยู่ในรถ!” ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงชี้ไปที่รถ BMW MINI ของเธอพร้อมพูด
“ขวางมันไว้ มันจะขับรถหนีแล้ว”
เสี่ยวสานรีบวิ่งไปขวางด้านหน้ารถ BMW MINI ทันที
เสี่ยวสานคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนั้นจะกล้าได้ขนาดนี้ เธอขับพุ่งเข้าชนทันที
ผู้หญิงชุดยีนส์ไม่ได้ลดความเร็วลงแม้แต่น้อย แต่เธอกลับยิ่งเหยียบคันเร่งพุ่งเข้ามา
เสี่ยวสานโดนชนเข้าอย่างจังจนปลิวออกไป
หลี่ฝางเห็นดังนั้นก็ตกใจมาก ผู้หญิงคนนี้เป็นนักฆ่าบนถนนหรือไงกัน?
มองไม่เห็นคนเลยเหรอ?
เสี่ยวสานนอนกองอยู่บนถนน เลือดในปากไหลออกมา
ผู้หญิงชุดยีนส์จ้องไปที่ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงคนนั้น “ถ้าไม่อยากตายก็หลบไป!”
เสี่ยวสานยังนอนจมกองเลือดอยู่เลย ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงคนนี้จะกล้าไปขวางได้ยังไง เขารีบวิ่งหลบไปทันที
นี่มันสุดยอดไปเลย!
ไม่กลัวว่าจะชนคนตายหรือไงกัน?
ส้งเสียงวิ่งออกไปตามนักข่าวสองคนนั้นทันที
นักข่าวสองคนนั้นวิ่งไปได้ไม่ไกลก็โดนส้งเสียงตามทัน
“ไอ้บ้าเอ้ย เรื่องน่าอายของฉันพวกแกก็กล้าถ่ายงั้นเหรอฮะ!” ส้งเสียงจ้องไปที่นักข่าวสองคนนั้นด้วยสายตาดุร้าย
“คุณชายส้ง เรามาถ่ายมังกรทองใหญ่ พี่เข้าใจเราผิดแล้วหรือเปล่า” นักข่าวเถียงข้างๆ คูๆ
“ใครจะไปเชื่อพวกแก!”
ส้งเสียงด่าจบ เสี่ยวสานก็นำทีมพรรคพวกมาถึง
“คุณชายส้ง?”
เสี่ยวซานเห็นส้งเสียงแบบนั้น ก็ตกใจไม่น้อย
หลังจากมั่นใจว่านั่นคือส้งเสียง เสี่ยวซานรีบพูดทันทีว่า “ไอ้บ้าที่ไหนมันกล้าขนาดนี้ แม้แต่คุณชายส้งยังกล้าลงมือ!”
“คุณชายส้ง คุณบอกผมเลยว่ามันชื่อว่าอะไร ผมจะไปจัดการมันให้ตาย”
ส้งเสียงส่ายหน้า พร้อมพูดว่า “ช่างมันเถอะ แกรีบเอาไอ้นักข่าวสองคนนี่จับไปซะ”
เสี่ยวซานพยักหน้ารับ แล้วพูดว่า “ได้เลยครับ”
เสี่ยวซานยิ้มหน้าบาน พร้อมพูดกับลูกน้องตัวเองว่า “เอาพวกมันจับขึ้นไปบนรถเลย”
นักข่าวสองคนนี้ต่างก็เป็นนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบมาไม่นาน จะเคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ได้ยังไงกัน
พวกเขาสองคนตกใจจนจะร้องออกมา
“ร้องทำไม ถ้าร้องอีกฉันฆ่าพวกแกแน่” เสี่ยวซานเดินไปตบจนพวกเขาหูชาพร้อมต่อว่า
หลังจากนักข่าวสองคนนั้นโดนเสี่ยวซานตบ ก็ไม่กล้าร้องอีกเลย
“คุณชายส้ง มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ครับ ทำไมเรื่องไปถึงนักข่าวได้” เสี่ยวซานเดินไปข้างๆ ส้งเสียง พร้อมถามด้วยความระวัง
“แกไม่ต้องรู้จะดีกว่า”
ส้งเสียงขมวดคิ้ว เขาจะกล้าเอาเรื่องวันนี้เล่าให้เสี่ยวซานฟังได้ไงกัน
“วางใจเถอะ แกช่วยฉันทำงาน มีเรื่องอะไรดีๆ ฉันยกไว้ให้แกแน่นอน” ส้งเสียงพูดพร้อมกับตบบ่าเสี่ยวซาน
“แน่นอนครับ คุณชายส้งใจกว้างอยู่แล้ว” เสี่ยวซานพยักหน้าพร้อมยิ้มร่า
ตู้เฟย โจวเจ๋ ส้งเสียง ในบรรดาคนพวกนี้ ตระกูลส้งที่รวยที่สุด
แน่นอนว่าส้งเสียงก็จะใจกว้างเป็นพิเศษ
เราะฉะนั้นคนที่อยู่ไปวันๆ อย่างเสี่ยวซานจื่อชอบช่วยงานส้งเสียงที่สุดแล้ว
แล้วในเวลานั้น ผู้หญิงชุดยีนส์ก็ขับ BMW MINI เข้ามา
“บ้าเอ้ย เสี่ยวซานจื่อ รีบขวางมันไว้” ส้งเสียงรีบบอกแล้วชี้ไปที่ผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้น
เสี่ยวซานจื่อรีบวิ่งขึ้นรถไป แค่โค้งเดียวก็สามารถขวางผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้นได้แล้ว
“นรกจริงๆ”
เสี่ยวซานจื่อมองไปที่ผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้น พร้อมเดินเข้าไป
แต่ผู้หญิงชุดยีนส์กลับเริ่มถอยรถมา
“บ้าเอ้ย ข้างหลังเป็นทางตัน ฉันจะดูซิว่าแกจะหนีไปไหน” ส้งเสียงเบ้ปากอย่างไม่แยแส ไม่รู้สึกสนใจเลยสักนิด
ผู้หญิงชุดยีนส์จ้องมองไปที่ส้งเสียง สีหน้าเย็นชา
“ขับชนนอย่างแกให้ตายไปเลยไง”
ผู้หญิงชุดยีนส์พูดจบก็เหยียบคันเร่งอย่างแรงพุ่งชนมาที่ส้งเสียง
ส้งเสียงเองก็คิดไม่ถึงงว่าผู้หญิงชุดยีนส์คนนี้จะขับรถพุ่งชนตัวเอง
ตอนนั้นส้งเสียงอยากจะหลบไป แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
เสียงปังดังขึ้น ส้งเสียงโดนชนจนตัวปลิวออกไป
“บ้าจริง คุณชายส้ง!” เสี่ยวซานรีบลงไปจากรถ อุ้มส้งเสียงขึ้นมา
ส้งเสียงสลบเหมือดไปแล้ว
ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงก็วิ่งเข้ามา “พี่ซาน ทำไงดี”
“จะทำไงได้ รีบโทรหาลุงแก เรียกเขามาจับคนเลย”
เสี่ยวซานมองไปที่ผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้น พร้อมพูดอย่างราบเรียบว่า “ผู้หญิงคนนี้เข้าข่ายฆ่าคนโดยเจตนา จับมันไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงความจริงแล้วคือหลายชายของหม่าเทียน
เขารีบโทรแจ้งตำรวจ เพื่อบอกหม่าเทียนให้มาจับตัวไป
“สาวสวย เราแจ้งตำรวจแล้ว” ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงก็เดินไปข้างหน้าผู้หญิงชุดยีนส์
ผู้หญิงชุดยีนส์มองด้วยความไม่แยแส พร้อมพูดว่า “แจ้งเถอะ รอให้คุณตำรวจมา จะได้จับพวกแกไปก่อน”
ผู้หญิงชุดยีนส์ไม่มีท่าทางว่าจะกลัวเลยซักนิด เธอเดินลงมาจากรถ แล้วเดินกลับเข้าไปในบาร์ทันที
หลี่ฝางยืนขวางเธออยู่หน้าประตูบาร์ พร้อมถามว่า “เธอไม่กลัวเหรอ”
“กลัวอะไร” เธอตอบ
“เธอชนคนติดต่อกัน 2 คนไง ไม่กลัวตำรวจจะมาเอาเรื่องเธอเหรอ” หลี่ฝางชะงักไป ผู้หญิงคนนี้ สมองมีปัญหาหรือไงกัน
“วางใจเถอะ ฉันรู้ว่าฉันทำได้แค่ไหน พวกนั้นมันไม่ถึงกับตายหรอก อย่างมากก็แค่บาดเจ็บ ก็แค่จ่ายเงินให้ก็จบ”
เธอชี้ไปที่เสี่ยงซาน พร้อมพูดว่า “แต่ว่าไอ้หมอนั่น ฉันกลัวนิดนึง”
“เธอเป็นคนนอกพื้นที่ ถ้าเกิดโดนพวกมันจับไป น่ากลัวมากเลยนะ”
“ฉันสวยขนาดนี้ น่ารักขนาดนี้ ถ้าเกิดโดนพวกมันทำมิดีมิร้าย ต่อไปฉันจะไปแต่งงานกับใครได้”
เธอเบ้ปาก พร้อมพูด
หลี่ฝางยิ้มแหยะ “เธอตั้งใจขับชนเหรอ”
“ใช่ไง ฉันตั้งใจชน ให้พวกมันแจ้งตำรวจ” เธอยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม “ยังไงตำรวจก็ทำอะไรฉันไม่ได้อยู่ดี”
สีหน้าของเธอ ไม่มีความกลัวเลยซักนิด
เธอกลับมาถึงโรงแรม ไม่ทันได้นั่งนาน ตำรวจก็มาเสียแล้ว
พอตำรวจมา เธอก็รีบวิ่งออกมาหาทันที ไม่รอให้ตำรวจจับตัวเองไป เดินไปขึ้นรถตำรวจเอง
หลี่ฝางไม่วางใจเท่าไหร่นัก เพราะยังไงผู้หญิงคนนี้ก็เป็นคนนอกพื้นที่
อย่างที่เขาบอกมังกรจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็สู้งูตัวเล็กที่อยู่ในพื้นที่ไม่ได้ ต่อให้ผู้หญิงคนนี้จะมีคนหนุนหลังขนาดไหน แต่ในเมืองที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้ เธออาจจะเสียเปรียบได้
หลี่ฝางเดินไปที่เคาท์เตอร์บาร์ พร้อมบอกกับลุงเฉียน ว่า “ลุงเฉียน ดูแลเพื่อนผมให้หน่อยนะ”
“เดี๋ยวอีกซักพักพวกเขาดื่มจนเมาแล้ว ก็พาขึ้นไปพักผ่อนข้างบนเลย” หลี่ฝางกำชับพร้อมออกไปจากบาร์
ตอนที่ไปถึง ผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้นโดนนำตัวไปที่ห้องสอบสวนเพื่อสอบสวนแล้ว
ไม่นาน ตำรวจคนนึงก็เดินออกมา แล้วเอาสมุดบันทึกมอบให้หม่าเทียนน “หัวหน้าหม่า ผู้หญิงคนนั้นยอมรับหมดแล้ว”
หม่าเทียนรู้สึกงงเล็กน้อย “เร็วขนาดนี้เลยเหรอ”
“ใช่ครับ ผมพูดอะไรเธอก็ยอมรับ ผมถามว่าตั้งใจใช่ไหม เธอก็บอกว่าใช่ ถามว่าตั้งใจฆ่าคนใช่ไหม เธอก็บอกว่าใช่”
ตำรวจคนนั้นมองมาที่หม่าเทียนแล้วถามว่า “หัวหน้าหม่า ผู้หญิงคนนี้ผิดปกติหรือเปล่า”
ขณะนั้นหลี่ฝางก็เดินเข้ามา
“ลุงหม่า เมื่อกี้ลุงเป็นคนจับผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม” หลี่ฝางเห็นหม่าเทียน ก็เดินเข้ามาหา
“ใช่ นายรู้ได้ไง” หม่าเทียนพยักหน้า
หลี่ฝางหัวเราะแล้วพูดว่า “ลุงหม่า ลุงลืมไปแล้วเหรอ บาร์นั่นของบ้านผมเอง”
“”เรื่องเกิดอยู่หน้าบ้านตัวเอง ผมจะไม่รู้ได้ไง”
หม่าเทียนมองไปที่หลี่ฝาง พร้อมพูดว่า “ผู้หญิงคนนั้นยอมรับหมดแล้ว”
“นายรู้จักเธอเหรอ” หม่าเทียนถาม
หลี่ฝางพยักหน้า “เธอเป็นเพื่อนผมเอง”
“ความจริงเรื่องนี้จะโทษเพื่อนผมทั้งหมดก็ไม่ได้ ส้งเสียงจะจับตัวเธอ แถมยังเรียกพวกเสี่ยวซานจื่อมาอีก เพื่อนผมกลัวมาก ถึงได้ทำใจร้อนทำเรื่องแบบนั้นได้” หลี่ฝางรีบพูด
หม่าเทียนมองไปที่หลี่ฝาง เขาขมวดคิ้ว “เสี่ยวฝาน ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนในพื้นที่ ถ้านายไม่ได้สนิทกับเธอขนาดนั้น ก็อย่ามายุ่งกับเรื่องนี้เลย”
“ส้งเสียงเพิ่งถูกส่งไปโรงพยาบาล เมื่อกี้ฉันได้รับโทรศัพท์บอกว่าตอนนี้เข้าห้องไอซียูแล้ว เกรงว่าจะบาดเจ็บสาหัสเลย”
“อีกคน ก็เป็นลูกเศรษฐีตงไห่”
“เรื่องที่เธอทำไม่เล็กเลยนะ ถ้าเป็นนายฉันยังพอช่วยได้ หาทางออกให้ แต่ถ้าพวกนายแค่เพื่อนธรรมดาทั่วไป…” หม่าเทียนส่ายหน้า
“เสี่ยวฝาน ตอนนี้ดึกมากแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”
ประโยคนี้ของหม่าเทียน ชัดเจนว่าเขาไม่ไหว้หน้าหลี่ฝางแล้ว
เวลานั้น ผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้นก็เดินออกมหาจากห้องสอบสวน เธอพูดขึ้นว่า “ให้ฉันโทรศัพท์หน่อยได้ไหม”
“โทรเถอะ” หม่าเทียนพูดด้วยความไม่สนอะไร “ยังไงเรื่องนี้ก็ต้องให้ที่บ้านเธอรู้อยู่ดี”
เธอหยิบมือถือขึ้นมาแล้วโทรหาใครบางคน
ผู้หญิงชุดยีนส์โทรศัพท์เสร็จ หม่าเทียนก็สะบัดมือพร้อมพูดว่า “เอาเธอไปฝากไว้ห้องขังก่อน รอให้อาการบาดเจ็บของส่งเสียงออกมา เราค่อยว่ากันเรื่องความผิดของเธอ”
“เดี๋ยวก่อน” ผู้หญิงชุดยีนส์พูดขึ้น
“รออะไร” หม่าเทียนขมวดคิ้ว
“รอโทรศัพท์ก่อน”
เธอยิ้มอย่างมั่นใจ “แปบเดียว เดี๋ยวคุณก็จะได้รับสายบางสาย”
พูดไม่ทันขาดคำ โทรศัพท์ของหม่าเทียนก็ดังขึ้น จากนั้นสีหน้าของเขาก็เริ่มเครียดขึ้นมาทันที เขาพูดกับปลายสายพร้อมยืนตรงทำความเคารพ “ครับ!”