NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 262

ตอนที่ 262

บทที่ 262 ผู้หญิงชุดยีนส์ที่ที่มาไม่ธรรมดา

ผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้นระมัดระวังตัวเองสูงมาก พอเดินออกจากบาร์เธอก็วิ่งไปขึ้นรถตัวเองทันที

เหมือนว่าเธอจะรู้ตัวแล้วว่าส้งเสียงกับพวกกำลังตามเธอมาอยู่

รถของผู้หญิงชุดยีนส์คือรถ BMW MINI ถึงรถคันนี้จะดูเหมือนว่าเล็ก แต่มันสตาร์ทได้เร็วมาก

ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงและเสี่ยวสานวิ่งตามออกมา มองเห็นผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้น

“มันอยู่ในรถ!” ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงชี้ไปที่รถ BMW MINI ของเธอพร้อมพูด

“ขวางมันไว้ มันจะขับรถหนีแล้ว”

เสี่ยวสานรีบวิ่งไปขวางด้านหน้ารถ BMW MINI ทันที

เสี่ยวสานคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนั้นจะกล้าได้ขนาดนี้ เธอขับพุ่งเข้าชนทันที

ผู้หญิงชุดยีนส์ไม่ได้ลดความเร็วลงแม้แต่น้อย แต่เธอกลับยิ่งเหยียบคันเร่งพุ่งเข้ามา

เสี่ยวสานโดนชนเข้าอย่างจังจนปลิวออกไป

หลี่ฝางเห็นดังนั้นก็ตกใจมาก ผู้หญิงคนนี้เป็นนักฆ่าบนถนนหรือไงกัน?

มองไม่เห็นคนเลยเหรอ?

เสี่ยวสานนอนกองอยู่บนถนน เลือดในปากไหลออกมา

ผู้หญิงชุดยีนส์จ้องไปที่ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงคนนั้น “ถ้าไม่อยากตายก็หลบไป!”

เสี่ยวสานยังนอนจมกองเลือดอยู่เลย ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงคนนี้จะกล้าไปขวางได้ยังไง เขารีบวิ่งหลบไปทันที

นี่มันสุดยอดไปเลย!

ไม่กลัวว่าจะชนคนตายหรือไงกัน?

ส้งเสียงวิ่งออกไปตามนักข่าวสองคนนั้นทันที

นักข่าวสองคนนั้นวิ่งไปได้ไม่ไกลก็โดนส้งเสียงตามทัน

“ไอ้บ้าเอ้ย เรื่องน่าอายของฉันพวกแกก็กล้าถ่ายงั้นเหรอฮะ!” ส้งเสียงจ้องไปที่นักข่าวสองคนนั้นด้วยสายตาดุร้าย

“คุณชายส้ง เรามาถ่ายมังกรทองใหญ่ พี่เข้าใจเราผิดแล้วหรือเปล่า” นักข่าวเถียงข้างๆ คูๆ

“ใครจะไปเชื่อพวกแก!”

ส้งเสียงด่าจบ เสี่ยวสานก็นำทีมพรรคพวกมาถึง

“คุณชายส้ง?”

เสี่ยวซานเห็นส้งเสียงแบบนั้น ก็ตกใจไม่น้อย

หลังจากมั่นใจว่านั่นคือส้งเสียง เสี่ยวซานรีบพูดทันทีว่า “ไอ้บ้าที่ไหนมันกล้าขนาดนี้ แม้แต่คุณชายส้งยังกล้าลงมือ!”

“คุณชายส้ง คุณบอกผมเลยว่ามันชื่อว่าอะไร ผมจะไปจัดการมันให้ตาย”

ส้งเสียงส่ายหน้า พร้อมพูดว่า “ช่างมันเถอะ แกรีบเอาไอ้นักข่าวสองคนนี่จับไปซะ”

เสี่ยวซานพยักหน้ารับ แล้วพูดว่า “ได้เลยครับ”

เสี่ยวซานยิ้มหน้าบาน พร้อมพูดกับลูกน้องตัวเองว่า “เอาพวกมันจับขึ้นไปบนรถเลย”

นักข่าวสองคนนี้ต่างก็เป็นนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบมาไม่นาน จะเคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ได้ยังไงกัน

พวกเขาสองคนตกใจจนจะร้องออกมา

“ร้องทำไม ถ้าร้องอีกฉันฆ่าพวกแกแน่” เสี่ยวซานเดินไปตบจนพวกเขาหูชาพร้อมต่อว่า

หลังจากนักข่าวสองคนนั้นโดนเสี่ยวซานตบ ก็ไม่กล้าร้องอีกเลย

“คุณชายส้ง มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ครับ ทำไมเรื่องไปถึงนักข่าวได้” เสี่ยวซานเดินไปข้างๆ ส้งเสียง พร้อมถามด้วยความระวัง

“แกไม่ต้องรู้จะดีกว่า”

ส้งเสียงขมวดคิ้ว เขาจะกล้าเอาเรื่องวันนี้เล่าให้เสี่ยวซานฟังได้ไงกัน

“วางใจเถอะ แกช่วยฉันทำงาน มีเรื่องอะไรดีๆ ฉันยกไว้ให้แกแน่นอน” ส้งเสียงพูดพร้อมกับตบบ่าเสี่ยวซาน

“แน่นอนครับ คุณชายส้งใจกว้างอยู่แล้ว” เสี่ยวซานพยักหน้าพร้อมยิ้มร่า

ตู้เฟย โจวเจ๋ ส้งเสียง ในบรรดาคนพวกนี้ ตระกูลส้งที่รวยที่สุด

แน่นอนว่าส้งเสียงก็จะใจกว้างเป็นพิเศษ

เราะฉะนั้นคนที่อยู่ไปวันๆ อย่างเสี่ยวซานจื่อชอบช่วยงานส้งเสียงที่สุดแล้ว

แล้วในเวลานั้น ผู้หญิงชุดยีนส์ก็ขับ BMW MINI เข้ามา

“บ้าเอ้ย เสี่ยวซานจื่อ รีบขวางมันไว้” ส้งเสียงรีบบอกแล้วชี้ไปที่ผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้น

เสี่ยวซานจื่อรีบวิ่งขึ้นรถไป แค่โค้งเดียวก็สามารถขวางผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้นได้แล้ว

“นรกจริงๆ”

เสี่ยวซานจื่อมองไปที่ผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้น พร้อมเดินเข้าไป

แต่ผู้หญิงชุดยีนส์กลับเริ่มถอยรถมา

“บ้าเอ้ย ข้างหลังเป็นทางตัน ฉันจะดูซิว่าแกจะหนีไปไหน” ส้งเสียงเบ้ปากอย่างไม่แยแส ไม่รู้สึกสนใจเลยสักนิด

ผู้หญิงชุดยีนส์จ้องมองไปที่ส้งเสียง สีหน้าเย็นชา

“ขับชนนอย่างแกให้ตายไปเลยไง”

ผู้หญิงชุดยีนส์พูดจบก็เหยียบคันเร่งอย่างแรงพุ่งชนมาที่ส้งเสียง

ส้งเสียงเองก็คิดไม่ถึงงว่าผู้หญิงชุดยีนส์คนนี้จะขับรถพุ่งชนตัวเอง

ตอนนั้นส้งเสียงอยากจะหลบไป แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว

เสียงปังดังขึ้น ส้งเสียงโดนชนจนตัวปลิวออกไป

“บ้าจริง คุณชายส้ง!” เสี่ยวซานรีบลงไปจากรถ อุ้มส้งเสียงขึ้นมา

ส้งเสียงสลบเหมือดไปแล้ว

ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงก็วิ่งเข้ามา “พี่ซาน ทำไงดี”

“จะทำไงได้ รีบโทรหาลุงแก เรียกเขามาจับคนเลย”

เสี่ยวซานมองไปที่ผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้น พร้อมพูดอย่างราบเรียบว่า “ผู้หญิงคนนี้เข้าข่ายฆ่าคนโดยเจตนา จับมันไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงความจริงแล้วคือหลายชายของหม่าเทียน

เขารีบโทรแจ้งตำรวจ เพื่อบอกหม่าเทียนให้มาจับตัวไป

“สาวสวย เราแจ้งตำรวจแล้ว” ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงก็เดินไปข้างหน้าผู้หญิงชุดยีนส์

ผู้หญิงชุดยีนส์มองด้วยความไม่แยแส พร้อมพูดว่า “แจ้งเถอะ รอให้คุณตำรวจมา จะได้จับพวกแกไปก่อน”

ผู้หญิงชุดยีนส์ไม่มีท่าทางว่าจะกลัวเลยซักนิด เธอเดินลงมาจากรถ แล้วเดินกลับเข้าไปในบาร์ทันที

หลี่ฝางยืนขวางเธออยู่หน้าประตูบาร์ พร้อมถามว่า “เธอไม่กลัวเหรอ”

“กลัวอะไร” เธอตอบ

“เธอชนคนติดต่อกัน 2 คนไง ไม่กลัวตำรวจจะมาเอาเรื่องเธอเหรอ” หลี่ฝางชะงักไป ผู้หญิงคนนี้ สมองมีปัญหาหรือไงกัน

“วางใจเถอะ ฉันรู้ว่าฉันทำได้แค่ไหน พวกนั้นมันไม่ถึงกับตายหรอก อย่างมากก็แค่บาดเจ็บ ก็แค่จ่ายเงินให้ก็จบ”

เธอชี้ไปที่เสี่ยงซาน พร้อมพูดว่า “แต่ว่าไอ้หมอนั่น ฉันกลัวนิดนึง”

“เธอเป็นคนนอกพื้นที่ ถ้าเกิดโดนพวกมันจับไป น่ากลัวมากเลยนะ”

“ฉันสวยขนาดนี้ น่ารักขนาดนี้ ถ้าเกิดโดนพวกมันทำมิดีมิร้าย ต่อไปฉันจะไปแต่งงานกับใครได้”

เธอเบ้ปาก พร้อมพูด

หลี่ฝางยิ้มแหยะ “เธอตั้งใจขับชนเหรอ”

“ใช่ไง ฉันตั้งใจชน ให้พวกมันแจ้งตำรวจ” เธอยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม “ยังไงตำรวจก็ทำอะไรฉันไม่ได้อยู่ดี”

สีหน้าของเธอ ไม่มีความกลัวเลยซักนิด

เธอกลับมาถึงโรงแรม ไม่ทันได้นั่งนาน ตำรวจก็มาเสียแล้ว

พอตำรวจมา เธอก็รีบวิ่งออกมาหาทันที ไม่รอให้ตำรวจจับตัวเองไป เดินไปขึ้นรถตำรวจเอง

หลี่ฝางไม่วางใจเท่าไหร่นัก เพราะยังไงผู้หญิงคนนี้ก็เป็นคนนอกพื้นที่

อย่างที่เขาบอกมังกรจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็สู้งูตัวเล็กที่อยู่ในพื้นที่ไม่ได้ ต่อให้ผู้หญิงคนนี้จะมีคนหนุนหลังขนาดไหน แต่ในเมืองที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้ เธออาจจะเสียเปรียบได้

หลี่ฝางเดินไปที่เคาท์เตอร์บาร์ พร้อมบอกกับลุงเฉียน ว่า “ลุงเฉียน ดูแลเพื่อนผมให้หน่อยนะ”

“เดี๋ยวอีกซักพักพวกเขาดื่มจนเมาแล้ว ก็พาขึ้นไปพักผ่อนข้างบนเลย” หลี่ฝางกำชับพร้อมออกไปจากบาร์

ตอนที่ไปถึง ผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้นโดนนำตัวไปที่ห้องสอบสวนเพื่อสอบสวนแล้ว

ไม่นาน ตำรวจคนนึงก็เดินออกมา แล้วเอาสมุดบันทึกมอบให้หม่าเทียนน “หัวหน้าหม่า ผู้หญิงคนนั้นยอมรับหมดแล้ว”

หม่าเทียนรู้สึกงงเล็กน้อย “เร็วขนาดนี้เลยเหรอ”

“ใช่ครับ ผมพูดอะไรเธอก็ยอมรับ ผมถามว่าตั้งใจใช่ไหม เธอก็บอกว่าใช่ ถามว่าตั้งใจฆ่าคนใช่ไหม เธอก็บอกว่าใช่”

ตำรวจคนนั้นมองมาที่หม่าเทียนแล้วถามว่า “หัวหน้าหม่า ผู้หญิงคนนี้ผิดปกติหรือเปล่า”

ขณะนั้นหลี่ฝางก็เดินเข้ามา

“ลุงหม่า เมื่อกี้ลุงเป็นคนจับผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม” หลี่ฝางเห็นหม่าเทียน ก็เดินเข้ามาหา

“ใช่ นายรู้ได้ไง” หม่าเทียนพยักหน้า

หลี่ฝางหัวเราะแล้วพูดว่า “ลุงหม่า ลุงลืมไปแล้วเหรอ บาร์นั่นของบ้านผมเอง”

“”เรื่องเกิดอยู่หน้าบ้านตัวเอง ผมจะไม่รู้ได้ไง”

หม่าเทียนมองไปที่หลี่ฝาง พร้อมพูดว่า “ผู้หญิงคนนั้นยอมรับหมดแล้ว”

“นายรู้จักเธอเหรอ” หม่าเทียนถาม

หลี่ฝางพยักหน้า “เธอเป็นเพื่อนผมเอง”

“ความจริงเรื่องนี้จะโทษเพื่อนผมทั้งหมดก็ไม่ได้ ส้งเสียงจะจับตัวเธอ แถมยังเรียกพวกเสี่ยวซานจื่อมาอีก เพื่อนผมกลัวมาก ถึงได้ทำใจร้อนทำเรื่องแบบนั้นได้” หลี่ฝางรีบพูด

หม่าเทียนมองไปที่หลี่ฝาง เขาขมวดคิ้ว “เสี่ยวฝาน ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนในพื้นที่ ถ้านายไม่ได้สนิทกับเธอขนาดนั้น ก็อย่ามายุ่งกับเรื่องนี้เลย”

“ส้งเสียงเพิ่งถูกส่งไปโรงพยาบาล เมื่อกี้ฉันได้รับโทรศัพท์บอกว่าตอนนี้เข้าห้องไอซียูแล้ว เกรงว่าจะบาดเจ็บสาหัสเลย”

“อีกคน ก็เป็นลูกเศรษฐีตงไห่”

“เรื่องที่เธอทำไม่เล็กเลยนะ ถ้าเป็นนายฉันยังพอช่วยได้ หาทางออกให้ แต่ถ้าพวกนายแค่เพื่อนธรรมดาทั่วไป…” หม่าเทียนส่ายหน้า

“เสี่ยวฝาน ตอนนี้ดึกมากแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”

ประโยคนี้ของหม่าเทียน ชัดเจนว่าเขาไม่ไหว้หน้าหลี่ฝางแล้ว

เวลานั้น ผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้นก็เดินออกมหาจากห้องสอบสวน เธอพูดขึ้นว่า “ให้ฉันโทรศัพท์หน่อยได้ไหม”

“โทรเถอะ” หม่าเทียนพูดด้วยความไม่สนอะไร “ยังไงเรื่องนี้ก็ต้องให้ที่บ้านเธอรู้อยู่ดี”

เธอหยิบมือถือขึ้นมาแล้วโทรหาใครบางคน

ผู้หญิงชุดยีนส์โทรศัพท์เสร็จ หม่าเทียนก็สะบัดมือพร้อมพูดว่า “เอาเธอไปฝากไว้ห้องขังก่อน รอให้อาการบาดเจ็บของส่งเสียงออกมา เราค่อยว่ากันเรื่องความผิดของเธอ”

“เดี๋ยวก่อน” ผู้หญิงชุดยีนส์พูดขึ้น

“รออะไร” หม่าเทียนขมวดคิ้ว

“รอโทรศัพท์ก่อน”

เธอยิ้มอย่างมั่นใจ “แปบเดียว เดี๋ยวคุณก็จะได้รับสายบางสาย”

พูดไม่ทันขาดคำ โทรศัพท์ของหม่าเทียนก็ดังขึ้น จากนั้นสีหน้าของเขาก็เริ่มเครียดขึ้นมาทันที เขาพูดกับปลายสายพร้อมยืนตรงทำความเคารพ “ครับ!”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท