NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 271

ตอนที่ 271

บทที่ 271 ผู้มีพระคุณช่วยชีวิตหลี่ฝาง

หลี่ฝางทำอะไรไม่ถูก

เขาไม่คิดเลย ว่าอีกฝ่ายต้องการที่จะฆ่าเขา

หลี่ฝางใช้แรงที่มีทั้งหมด ดิ้นรนสุดชีวิต

แต่พี่น้องของเสี่ยวเซิงทั้งสองคน ก็จับหลี่ฝางเอาไว้แน่นมากๆ

“แม่งเอ๊ย!”

หลี่ฝางตะโกนใส่หน้า เสี่ยวเซิงไปหนึ่งที

“ฉันไปทำอะไรให้นายห้ะ นายถึงอยากจะฆ่าฉัน!” หลี่ฝางจ้องเสี่ยวเซิงตาเขม็ง แล้วถามขึ้น

เสี่ยวเซิงไม่ได้พูดอะไร แม้แต่ฝีก้าวก็ยังไม่มีการหยุด

เสี่ยวเซิงที่อยู่เบื้องหน้าเริ่มเข้าประชิดตัวเขามากขึ้นเรื่อยๆ นัยน์ตาของหลี่ฝาง แสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวัง

ตัวเขาจะโดนฆ่าแล้วเหรอ?

ทำใจไม่ได้จริงๆ นะ!

คุณปู่ของตน เป็นมหาเศรษฐีนะ!

ตัวเขามีเงินที่ใช้ยังไงก็ใช้ไม่หมด ต้องมาตายแบบนี้เหรอ?

ไม่ได้!

ฉันจะตายไม่ได้!

แค่เพียงเสี้ยววินาที ในใจของหลี่ฝาง โวยวายออกมาสุดชีวิต

หลี่ฝางฮึดสู้ขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้ พละกำลังของเขา จู่ๆ ก็รุนแรงขึ้น

หลี่ฝางคลั่ง เขาใช้มือข้างหนึ่งสะบัดคนหนึ่งคนจนตกลงไปในน้ำ

“จับตัวมันไว้แน่นๆ !” เสี่ยวเซิงตะคอกขึ้น

มีดเข้ามาใกล้ขึ้นอีก หลี่ฝางบ้าคลั่งขึ้นอีกครั้ง หันหลังสะบัดคนอีกคนจนล้มลง

เวลานั้น เสี่ยวเซิงก็เข้าประชิดตัวหลี่ฝางแล้ว

หลี่ฝางหันกลับมา ก็เห็นว่ามีดเล่มนั้นพุ่งเข้ามาแล้ว

จู่ๆ ก็มีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามา

ฉินวี่เฟยวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนมาถึงเบื้องหน้าของหลี่ฝาง

มีดเล่มนั้น ก็ได้แทงลงไปที่ไหล่ด้านหลังของฉินวี่เฟย

“วิ่ง!” ฉินวี่เฟยมองไปที่หลี่ฝาง แล้วพูดพลางกลั้นความเจ็บปวด: “รีบวิ่ง!”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว สีหน้าเกิดความลังเล

เพียงพริบตาเดียว หลี่ฝางก็เข้าประชิดตัวเสี่ยวเซิง

เสี่ยวเซิงดึงมีด ออกมาจากร่างของฉินวี่เฟย แล้วแทงไปทางหลี่ฝาง

แต่หลี่ฝาง กลับเร็วกว่าหนึ่งก้าว เขาชกเข้าไปที่เบ้าตาของเสี่ยวเซิงเต็มๆ

ต่อมา หลี่ฝางก็ลงมืออย่างรวดเร็ว ออกหมัด ชกไปที่ขมับ และก้านคอ ของเสี่ยวเซิง

สุดท้าย หลี่ฝางก็แย่งมีดมาได้ แล้วแทงมันลงไปที่ท้องของเสี่ยวเซิง

ในตอนนั้น หลี่ฝางก็ราวกับผีเข้า ในใจคิดแค่ว่า ต้องฆ่าไอ้หมาเน่าที่อยู่ตรงหน้าเขาให้ได้

ไม่นาน เสี่ยวจางก็พาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองนายเข้ามา

เสี่ยวจางมองไปที่หลี่ฝาง แล้วถามขึ้นอย่างตกใจ: “คุณชาย เกิดอะไรขึ้นครับ?”

หลี่ฝางพูดขึ้นอย่างเย็นชา: “พวกมันจะฆ่าฉัน”

“อะไรนะ?”

เสี่ยวจางตกใจ น้ำเสียงก็สั่นขึ้น: “พวกมัน……จะฆ่าคุณ?”

“รีบจับพวกมันเอาไว้!”

เสี่ยวจางมองไปที่เสี่ยวเซิงและพวก นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย็นชาที่อาฆาต

รปภ.ที่บ้านพักตากอากาศ แต่ละคนล้วนเป็นทหารผ่านศึก ถึงแม้จะไม่ใช่มือดี แต่จัดการกับพวกนักเลงแบบนี้ ไม่ใช่ปัญหาเลย

มาถึงด้านหน้าของฉินวี่เฟย หลี่ฝางก็ช่วยพยุงเธอขึ้น แล้วพูด: “ฉันพาเธอไปทำแผล”

“คุณชาย ที่บ้านพักตากอากาศมีหมอและคลินิกเฉพาะทางอยู่” เสี่ยวจางรีบพูดขึ้น: “ผมจะนำทางให้ครับ”

หลี่ฝางมองเสี่ยวจางอย่างเย็นชา แล้วถาม: “ทำไม เรียกเขามาไม่ได้เหรอ?”

หลี่ฝางไม่ค่อยได้ใช้น้ำเสียงออกคำสั่งแบบนี้ คุยกับพวกลูกน้อง

บางที ในตอนนี้ หลี่ฝางเพิ่งจะทำตัวเป็นคุณชายคนนึง

“ขอโทษครับ คุณชาย ผมจะไปตามหมอมาครับ”

เสี่ยวจางกลัวสุดๆ ทันใดนั้นก็ควักโทรศัพท์ขึ้นมาทันที แล้วโทรหาหมอประจำบ้านพักตากอากาศ

หลังจากวางสาย เสี่ยวจางก็พูดขึ้น: “คุณชาย อีกแป๊บหมอก็ถึงแล้วครับ เชิญคุณชายไปพักในห้องก่อนครับ!”

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพยุงฉินวี่เฟย เข้าไปในห้องพัก

แผลที่ไหล่ด้านหลังของฉินวี่เฟยนั้นลึกมาก จากปากแผลสามารถมองเห็นกระดูก เห็นแล้วน่ากลัวมากๆ

ในใจของหลี่ฝาง รู้สึกผิดมากๆ

ยังไงก็ตาม มีดเล่มนี้ ที่จริงมันควรจะแทงถูกตัวเขา

เป็นฉินวี่เฟย ที่เอาตัวเองเข้ามาบังในเวลาที่อันตรายแบบนี้

ไม่งั้น หลี่ฝางนั้นตอนนี้ อาจจะต้องขึ้นไปเจอบรรพบุรุษแล้ว

ไม่นาน คุณหมอก็มาถึงอย่างรีบร้อน แล้วฆ่าเชื้อที่แผลตรงไหล่ด้านหลัง ของฉินวี่เฟย และทำการปิดแผล……

จากนั้น ร่างของฉินวี่เฟย ก็ถูกผ้าพันแผล พันรอบตัวอยู่หลายรอบ

“เพื่อนฉันไม่เป็นไรใช่มั้ย?” หลี่ฝางถามหมอ

“ไม่ได้เป็นอันตรายมากครับ ถึงแม้บาดแผลจะลึก แต่ว่ายังดีที่เป็นไหล่ด้านหลัง ไม่ได้กระทบต่ออวัยวะภายใน……ถ้าหากโดนแทงจากด้านหน้า นั่นก็เป็นปัญหาใหญ่แล้วครับ”

“แต่ว่า หลังจากที่แผลสมานแล้ว ก็จะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ นั่นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”

“เกรงว่าหลังจากนี้เธอจะใส่ชุดที่โชว์หลัง……หรือว่าบิกินี่ไม่ได้แล้ว”

หมอมองไปที่ฉินวี่เฟย แล้วส่ายหน้า

ฉินวี่เฟยสวยแบบนี้ ถ้าหากใส่บิกินี่ กับเสื้อโชว์หลังไม่ได้……แม้แต่คุณหมอก็รู้สึกเสียดาย

ฉินวี่เฟยได้ยินแบบนี้ สีหน้าก็ดูเสียใจเล็กน้อย

พอหลี่ฝางได้ยิน ความรู้สึกผิดในใจ ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

“ขอโทษ”

หลี่ฝางมองไปที่ฉินวี่เฟย แล้วพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิดสุดๆ

“ไม่เป็นไร……” มุมปากของฉินวี่เฟย ก็ฝืนยิ้มออกมา: “ยังไงฉันก็ไม่ชอบใส่เสื้อโชว์หลังอยู่แล้ว”

ถึงแม้ปากฉินวี่เฟยจะพูดแบบนี้ แต่ว่าหลี่ฝางรู้ ฉินวี่เฟยเป็นผู้หญิง ขอแค่เป็นผู้หญิง ล้วนแต่รักสวยรักงามกันทั้งนั้น

มีผู้หญิงคนไหนที่ร่างกายมีรอยแผลเป็น แล้วไม่เสียใจบ้าง?

หลังจากรอให้หมอออกไป หลี่ฝางก็มองฉินวี่เฟยแล้วถามขึ้น: “เธอเข้ามาช่วยฉันทำไม?”

พูดตามจริง หลี่ฝางคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าฉินวี่เฟยจะยื่นตัว เข้ามารับมีดแทนเขาแบบนี้

การเอาตัวเข้ามารับมีดแทนคนอื่นแบบนี้ ต้องมีความกล้าหาญอย่างมาก และต้องมีมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่

แต่ระหว่างหลี่ฝางกับฉินวี่เฟย เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีมิตรภาพที่ดีอะไรมากมาย

หนึ่งเดียวที่มี ก็คือความสัมพันธ์ของคนใช้ประโยชน์กับคนถูกใช้ประโยชน์แค่นั้น

ฉินวี่เฟยส่ายหน้า แล้วพูด: “ฉันก็ไม่รู้”

“ในตอนนั้นฉันเห็นแค่ไอ้หมอนั่นมันกำลังจะแทงนายตาย จากนั้นสมองก็โล่ง รู้ตัวอีกทีก็พุ่งเข้าไปแล้ว”

หลี่ฝางจำได้อย่างชัดเจน

ตอนที่ตนพูดมัดอยู่ เขาเห็นฉินวี่เฟยแว๊บนึง

ตอนนั้นฉินวี่เฟย หนึ่งต่อสองรับมือ ไม่มีโอกาสเอาเวลามาช่วยเขาได้เลย

แต่สุดท้ายแล้ว จู่ๆ ฉินวี่เฟยก็วิ่งพุ่งเข้ามา

หรือว่า นี่เป็นปฏิกิริยาตอบสนองของฉินวี่เฟย?

“นายอย่าคิดมากเลย ฉันแค่กลัวนายจะตาย……”

ฉินวี่เฟยกลัวว่าหลี่ฝางจะเข้าใจผิด จึงรีบอธิบาย: “ถ้าหากนายตาย ฉันจะทำยังไงล่ะ?”

“รอให้คุณปู่ของมู่เสี่ยวไป๋มู่เจิ้งถังรู้ว่าฉันไม่บริสุทธิ์แล้ว คงจะโกรธตระกูลฉินของฉันแน่ๆ เมื่อถึงตอนนั้น คุณปู่ คุณพ่อของฉัน……คนในตระกูลฉินทั้งหมด ก็คงรุมยิงคำถามฉันแน่ๆ”

“ถามว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร……ฉันคงบอกพวกเขาไม่ได้ว่า เป็นคนที่ตายไปแล้วคนนึงหรอกนะ?”

“พวกเขาจะเชื่อเหรอ?”

ฉินวี่เฟยมองบนใส่หลี่ฝาง แล้วพูด: “นายต้องมีชีวิตอยู่สิ”

“ถ้านายอยู่ ฉันถึงบอกพวกเขาได้ ว่าฉันคบกับคุณชายตระกูลหลี่ แล้วก็มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้ว พอตอนนั้น ถึงแม้คุณปู่จะโกรธฉันที่ไม่รักนวลสงวนตัว แต่ก็คงไม่ทำให้ฉันลำบากใจมากขึ้น กลับกันคงจะสนับสนุนให้ฉันคบกับนายต่อ”

“อย่างไรก็ตาม พวกเราอายุยังน้อย……ในเร็วๆ นี้ ก็ยังไม่สามารถแต่งงานได้”

“รอให้จบมหาลัย ฉันค่อยบอกกับคุณปู่ ว่าพวกเราเลิกกันแล้ว……ถึงตอนนั้น ฉันจะไม่ให้นายรับผิดชอบ แล้วฉันก็สามารถรอดตัวจากมู่เสี่ยวไป๋”

ฉินวี่เฟย พูดพลางหัวเราะขึ้นมา: “นายว่า นี่เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวมั้ย?”

หลี่ฝางลูบหัวฉินวี่เฟย แล้วพูด: “คิดไม่ถึงว่าเธอจะฉลาดแบบนี้”

“ไม่ว่าจะพูดยังไง ฉันก็ติดหนี้ชีวิตเธออยู่”

หลี่ฝางสูดหายใจเข้าลึก พูดพลางทำสีหน้าซับซ้อน: “เมื่อก่อน ฉันเคยทำร้ายเธอ คิดมาตลอดว่าที่เธอเข้าหาฉันเพราะมีเป้าหมาย เพราะงั้นฉันถึงได้ทำกับเธอแบบนั้น”

หลี่ฝางนึกถึงวันนั้น ที่รังแกฉินวี่เฟยบนดาดฟ้า……

และเมื่อกี้ ที่ฝืนใจฉินวี่เฟยจูบเธอ……

ในตอนนี้ หลี่ฝางรู้สึกว่าใบหน้าของตน ร้อนฉ่า

นี่คือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตนไว้นะ ทำไมเมื่อก่อนตนถึงได้เลวนักนะ!

“เมื่อก่อนฉันเข้าหานายเพราะมีเป้าหมาย นายรู้สึกถูกต้องแล้ว” ฉินวี่เฟยพูด

“เอาเถอะ เรื่องที่ผ่านไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงแล้ว”

หลี่ฝางหัวเราะ แล้วพูดสัญญากับฉินวี่เฟย: “ฉันรับประกัน ฉันจะไม่ให้เธอต้องแต่งงานกับมู่เสี่ยวไป๋แน่ๆ”

“นายพูดเป็นคำพูดมั้ย?” ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝาง แล้วถามอย่างสงสัย

“แน่นอนว่าเป็น”

หลี่ฝางเพิ่งพูดจบ เสี่ยวจางก็มาถึงหน้าประตูห้องพัก

หลี่ฝางพูดกับฉินวี่เฟย: “เธอนอนพักสักหน่อยเถอะ อย่าเพิ่งขยับ ฉันออกไปข้างนอกแป๊บนึง เดี๋ยวกลับมา”

ฉินวี่เฟยพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

หลี่ฝางหันหลัง เดินไปอยู่ด้านหน้าของเสี่ยวจาง แล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา: “เค้นถามออกมาได้หรือยัง? ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังพวกมัน?”

เสี่ยวจางพยักหน้า แล้วพูด: “ถามได้ความแล้วครับ”

“เป็นสวีเถิงเฟยบริษัทสวีซื่อครับ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน