บทที่282 คิดทบทวนไปมาอย่างหนักของส้าวส้วย
ก่อนหน้านี้ ในใจของหวางเฉิน ไม่พอใจส้าวส้วยเต็มร้อย ไม่พอใจเป็นพัน และไม่พอใจเป็นหมื่น ……
แต่พอเห็นอาเหยโก่วของตัวเองถูกส้าวส้วยตบจนหน้าคว่ำลงพื้น เขาก็ตกใจ
เวลานี้ ในที่สุดหวางเฉินก็เข้าใจทันที อาเหยโก่ว ทำไมต้องกลัวส้าวส้วยขนาดนั้น
ฝ่ามือหนึ่งฉาดถูกตบจนพลิกลงพื้น เหยโก่วลุกขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก เขากัดฟัน ที่จริงอยากระบายออกมา แต่สุดท้าย ก็ได้แต่เอาความโกรธเก็บไว้ในใจ
ส้าวส้วยในตอนนี้ มองเหยโก่วด้วยรอยยิ้ม
มีคนประเภทหนึ่งบนถนน ที่น่ากลัวที่สุด
นั่นก็คือคนที่เอามีดแทงคุณทั้งที่ยิ้มได้
คนแบบนี้ นิสัยจิตใจผิดปกติกว่าคนทั่วไป
ส้าวส้วยเป็นคนแบบนี้ ถึงแม้เขาจะฆ่าคุณ แต่ก็ยังมีรอยยิ้มให้ที่ใบหน้า ……
“เหยโก่ว คุณไม่ได้กินข้าวเหรอ?”
มองเหยโก่ว ส้าวส้วยจึงหัวเราะออกมา:“ตบคนแต่ไม่มีแรง แล้วยังบอกว่าตัวเองเป็นคนสังคมมืดอีก?น่าขายขี้หน้าไหมเนี่ยคุณ”
เหยโก่วหน้าบูดบึ้ง แต่พูดไม่ออก
น้อยมากที่เหยโก่วจะได้รับความละอายเช่นนี้……
แต่เขา ไม่สามารถทำอะไรได้
ที่ตัวส้าวส้วย มาพร้อมกับอำนาจที่ดูน่าเกรงขาม ทำให้เหยโก่วไม่กล้าลงมือ
แน่นอน เหยโก่วเข้าใจดี ถ้าลงมือ ตัวเองแพ้แน่
แต่ถ้าเป็นคนอื่น แพ้ก็ต้องสู้ แพ้ก็ต้องลงมือ
แต่เผชิญหน้ากับส้าวส้วย เหยโก่วก็ปลุกความกล้าไม่ได้
ส้าวส้วยพูดต่อ:“ตบแรงๆตามที่ผมเพิ่งตบคุณเมื่อกี๊ไป……ถ้าคุณตบเบา ผมก็จะตบคุณต่อไป”
พูดไป สีหน้าของส้าวส้วย ก็ค่อยๆเย็นชาลง
หวางเฉินกลัวแล้ว
เมื่อครู่ส้าวส้วยตบใส่เหยโก่วไปฉาดนั้น หวางเฉินเห็นกับตาชัดเจนดี
ฝ่ามือนั้นร้ายกาจมาก หวางเฉินรับรู้ได้
นี่ถ้าตบใส่หน้าตัวเอง……หวางเฉินไม่อยากจะเชื่ออีกเลย
“อาเหยโก่ว……อย่าสิ”
มองเห็นเหยโก่วยกแขนขึ้น หวางเฉินตกใจจนหน้าซีด สองมือของเขาส่ายไปมา ส่วนปากก็ร้องขอ
แต่ เหยโก่วไม่สนใจคำขอร้องของหวางเฉินสักนิด แต่ยังตบลงไป
ฝ่ามือนี้ ทำเอาหัวของหวางเฉินหมุน
ส้าวส้วยขมวดคิ้ว ส่ายหน้า พูดว่า:“เหยโก่ว ฉาดนี้ ห่างไกลความแรงจากเมื่อกี๊ที่คุณโดนตบมาก ทำไม แม้แต่แรงก็รวบรวมไม่ได้เหรอไง?”
“ดูเหมือน ผมต้องสอนคุณอีกแล้ว”
ส้าวส้วยลงมืออีกรอบ เขายกแขนขึ้น ตบไปที่เหยโก่ว
ส่วนเหยโก่วตระหนักได้ ก็ยกแขนขึ้นมาบัง
สุดท้าย ทั้งตัวของเหยโก่ว ก็ถูกตีออกไปไกลหนึ่งเมตร
ฝ่ามือนี้ ถึงแม้ไม่ได้ตบไปที่หน้าของเหยโก่ว แต่ทำให้เหยโก่ว ตัวสั่นขึ้นมาทันที
แขนของเหยโก่ว จนตอนนี้ก็ยังสั่นอยู่
ถึงจะไม่ขาด แต่ก็ปวดชา รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง
“เหยโก่ว ครั้งนี้ คุณน่าจะเข้าใจว่าลงมือหนักแค่ไหนแล้วสินะ?”มองเหยโก่ว ส้าวส้วยก็หัวเราะ
เหยโก่วพยักหน้า กลับไปตรงหน้าของหวางเฉินอีกครั้ง
เวลานี้ หวางเฉินตกใจกลัวจนสั่นทั้งตัว
ผู้ชายคนนี้ ยังเป็นคนอยู่ไหม?
แค่ฉาดเดียว ก็ตบอาเหยโก่วออกไปไกลเป็นเมตรได้
ถึงเป็นพ่อตัวเอง ก็ยากที่จะทำแบบนี้?
หวางเฉินกลืนน้ำลาย ตอนนี้เขาเสียใจมาก เสียใจที่ยุ่งเรื่องของสวีเถิงเฟย แล้วไปสะกิดต่อมของส้าวส้วยปีศาจร้ายตัวนี้
เหยโก่วกัดฟัน ใบหน้าปรากฏความร้ายกาจ
เวลานี้ เหยโก่วก็ไม่สนว่าหวางเฉินจะเป็นหลานชายแท้ๆของตัวเองอีก
ถ้ายังสนใจเรื่องความเป็นญาติ ก็กลัวว่า ตัวเองกับหวางเฉินก็คงจะถูกจัดการอยู่ที่นี่
เสียงดังแปะขึ้น แขนของเหยโก่ว หล่นลงจากอากาศ ตบเข้าไปที่หน้าของหวางเฉิน
ส่วนหัวของหวางเฉิน ก็กระแทกเข้าพื้น
ฝ่ามือนี้ ตีจนหวางเฉินมึนๆ
หวางเฉินออกแรงสะบัดหัว ถึงทำให้สติของตัวเอง ฟื้นคืนได้
“ไม่เลว แรงฉาดนี้ยังใช้ได้ แต่ ยังเพิ่มแรงได้อีก ผมว่าหลานชายของคุณ ยังรับไหว”
“โอเค ยังเหลืออีกสองที”ส้าวส้วยพูดเรียบๆ
“จะเหลืออีกสองได้ไง?”สีหน้าของหวางเฉิน ดูแย่สุดๆ
เหยโก่วพูดไม่ออกเล็กน้อย:“ท่าน ผมตบไปแล้วสองที เหลือแค่ทีเดียว”
“ทีแรกนับด้วยเหรอ?คุณช่วยหลานชายคุณแก้คันนี่?”
ส้าวส้วยกลอกตาใส่ทั้งสอง พูด:“ฉาดนั้นแรงไม่พอ ไม่ผ่าน ดังนั้นจึงไม่นับ”
“โอเค เริ่มตบฉาดที่สองได้ อย่าถ่วงเวลาผม ผมหิวหมดแล้ว”ส้าวส้วยลูบท้องของตัวเอง พูดด้วยท่าทีรังเกียจ:“รีบตบให้เสร็จ ผมก็จะรีบกินข้าว”
เหยโก่วนิ่งไป แล้วตบหวางเฉินไปอีกที
ฝ่ามือนี้ตบไป หัวของหวางเฉินชนไปที่พื้น จนทำให้เป็นตุ่มขนาดใหญ่
เหยโก่วในเวลานี้ ทรมานมาก
ถ้าไม่ใช่การบังคับ เขาจะตบหลานชายแท้ๆของตัวเอง แรงขนาดนั้นได้ไง?
ตอนที่เหยโก่วจะตบไปครั้งที่สาม หวางเฉินยืนขึ้นทันที
เขาเดินกะเผลก และเริ่มวิ่งหนี
ฝ่ามือนี้แรงมาก หวางเฉินเริ่มรับไม่ไหว
หน้าซ้ายและขวาของเขา ตอนนี้บวมขึ้นมา
แต่เหยโก่ว กลับรีบเดินไป คว้าไหล่ของหวางเฉินไว้ แล้วดึงเขามา
“อาเหยโก่ว อาปล่อยผมเถอะ ผมเป็นหลานชายแท้ๆของอานะ”หวางเฉินหันหน้าไป มองเหยโก่วด้วยใบหน้าขอร้อง
เหยโก่วมองหวางเฉิน สีหน้าสับสน:“เฉินเฉิน คุณคิดว่าอาอยากทำคุณเหรอ?”
“อาไม่ทำคุณ อากับคุณ ก็หนีไม่พ้น”
“อาหมดหนทางแล้ว”
“อดทนหน่อยนะ นี่เป็นตบสุดท้ายแล้ว”
“ตบฉาดสุดท้ายนี้จบ พวกเราสองคนอาหลาน ก็จะหลุดพ้น”เหยโก่วพูดด้วยใบหน้าที่หนักอึ้ง
เหยโก่วพูดไป ก็จะลงมือ แต่หวางเฉินชิงไปก่อน เริ่มเผ่นหนี
แต่ขาของหวางเฉิน ถูกส้าวส้วยตัดไปข้าง วิ่งไปได้ไม่เร็ว
เหยโก่วก้าวไปก่อน มาตรงหน้าของหวางเฉิน ตบใส่หน้าของหวางเฉินทันที
และก็เป็นตบสุดท้าย
ตบฉาดนี้ ทำเอาหวางเฉินลอยออกไป
ทั้งตัวหวางเฉิน ตกไปที่โต๊ะหนังสือ ทำเอาโต๊ะหนังสือ พลิกคว่ำลง
มองเห็นฉากนี้ ทุกคนต่างสูดลมหายใจ
ในห้องสมุด มีคนตั้งมากมาย
แน่นอนว่า เวลานี้ ไม่มีใครมีอารมณ์อ่านหนังสือมากแล้ว พวกเขาต่างกำลังดูฉากเด็ด
ใครจะไปคิดว่า ปกติห้องสมุดที่น่าเบื่อ จะมีฉากที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ได้
“นี่มันโหดมากๆเลย!”
“ผู้ชายคนนี้ คืออาแท้ๆของคนที่ได้รับบาดเจ็บจริงๆเหรอ?ทำไมลงมือได้โหดขนาดนี้ นี่มันเป็นจังหวะจะฆ่าคนเลยนะเนี่ย”
คนที่อยู่รอบๆ ถกเถียงกันเบาๆ
ส่วนหวางเฉิน ล้มลงที่พื้น กลิ้งพลิกอย่างเจ็บปวด ในปากร้องเสียงโอ๊ยออกมา
แปะแปะแปะ
ส้าวส้วยตบมือ มองเหยโก่ว หัวเราะเหอะๆพูดว่า:“ไม่เลว ไม่เลว ฝ่ามือนี้ตบไป แรงกว่าที่ผมตบคุณอีก”
หวางเฉินที่อยู่ที่พื้นได้ยินคำนี้ ก็ส่งสายตาอาฆาต ให้อาของตัวเอง
หวางเฉินกัดฟันมองเหยโก่ว พูดอย่างเย็นชา:“เหยโก่ว ตั้งแต่นี้ไป ผมไม่ใช่หลานชายคุณอีก คุณก็ไม่ใช่อาผมอีก!”
หวางเฉินค่อยๆลุกขึ้นมา เขาเดินออกไปจากห้องสมุดทีละก้าวๆ
ระหว่างนั้น เหยโก่วอยากจะมาประคองเขา แต่ถูกหวางเฉินปฏิเสธอย่างเย็นชา
เหยโก่วมองส้าวส้วยแวบหนึ่ง คำพูดส้าวส้วยเมื่อกี๊ ชัดเจนว่ากำลังยุให้รำตำให้รั่ว
แต่ เหยโก่วก็ไม่กล้าเข้าไปตำหนิส้าวส้วยอีก ได้แต่นิ่งเป็นใบ้จากความเสียหายที่ได้รับ แล้วกลืนคำพูดลงไป
“เฮ้อ นี่จะทำไง?”
ออกมาจากห้องสมุด อารมณ์ของเหยโก่ว ก็หดหู่สุดๆ
หวางเฉินเป็นลูกชายของเหยสงพี่ใหญ่ตัวเอง ตัวเองตบหวางเฉินจนกลายเป็นแบบนี้ ถ้าพี่ชายตัวเองเห็น จะปล่อยตัวเองไปไหม?
เหยโก่วรู้นิสัยพี่ใหญ่ของตัวเองดี
คิดๆดู เหยโก่วก็รู้สึกขนลุก
เหยโก่วกับหวางเฉินออกไปจากห้องสมุด สวีเถิงเฟยก็ถือโอกาสที่ส้าวส้วยไม่สังเกต รีบออกไปจากห้องสมุด
เวลานี้ หลี่ฝางที่หลบดูฉากเด็ดในฝูงคน ก็ค่อยๆมาตรงหน้าส้าวส้วย
“เล่นแรงเกินไปหรือเปล่า?ผมได้ยินมาว่า เหยสงนี้ ไม่ใช่นักเลงธรรมดา เหมือนกับเสือหรือห้าวหนานพวกนั้น พอเห็นเหยสง ต่างเรียกกันว่าพี่สง”
“สันนิษฐานว่า เหยสงจะไม่ใช่ตัวละครธรรมดาๆ”
“ให้น้องชายของเหยสง ตบลูกชายของเหยสงจนเป็นแบบนี้ รอเหยสงมา เขาจะต้องมาหาเรื่องคุณแน่”หลี่ฝางเตือนส้าวส้วยไปประโยคหนึ่ง
“ผมรู้”
ส้าวส้วยพยักหน้าอย่างไม่สนใจสุด พูดว่า:“ผมจงใจทำแบบนี้ จุดประสงค์ก็เพื่อให้เหยสงมาหาผม”
“ทำไม?”
มองไปที่ส้าวส้วย หลี่ฝางถามอย่างไม่เข้าใจ:“คุณกับเหยสงก็ไม่มีความแค้นต่อกัน ทำไมคุณต้องทำแบบนี้ล่ะ”
“ทำไม ได้ยินว่าเหยสงเป็นคนฝีมือดี ดังนั้น อยากเอาแบบเขา?”หลี่ฝางถาม
ส้าวส้วยส่ายหน้า มองหลี่ฝางแล้วพูด:“เพราะว่าคุณ เจ้านาย”
“เพราะว่าผม?”หลี่ฝางช้ำไปที่ตัวเอง สงสัยหน่อยๆ
“ใช่ ก็เพราะว่าคุณ”
ส้าวส้วยหัวเราะ พูด:“ผมได้ยินลุงเฉียนบอก เรื่องที่ฆ่าคุณนี้ หวางเฉินก็ร่วมด้วย ในเมื่อต้องการแก้แค้น สวีเถิงเฟยกับหวางเฉิน แค่คนเดียวก็ปล่อยไปไม่ได้”
“หวางเฉินคือลูกชายของเหยสง ถ้าคุณฆ่าหวางเฉิน ก็ต้องผ่านด่านเหยสงไปก่อน ดังนั้นไม่ช้าก็เร็วเหยสงจะต้องกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตของคุณ”
ส้าวส้วยหัวเราะ พูดว่า:“ดังนั้นก็หาโอกาส ผมช่วยคุณจัดการเหยสง ไม่เท่ากับว่าช่วยเจ้านายแก้ปัญหาใหญ่เหรอไง?”
หลี่ฝางได้ยินเสร็จ จึงหัวเราะเหอะๆออกมา:“ได้ คุณต้องช่วยผมจัดการเหยสง แล้วผมจะเลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์คุณไปทั้งชีวิต”