NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 291

ตอนที่ 291

บทที่ 291 คุณชายสองท่าน

ไห่เย่นโดนตบหนึ่งที ก็อึ้งอยู่กับที่

หยิ่นเหล่ยที่อยู่บนพื้น เมื่อเห็นฉากนี้ ก็โมโหขึ้นมาทันที

ไม่ว่ายังไง ไห่เย่นก็เป็นแฟนสาวของเขา

แฟนสาวของตัวเอง อยู่ต่อหน้าตัวเอง โดนคนอื่นตบ?

นี่มันเกินไปหรือเปล่า?

หยิ่นเหล่ยลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว และดึงคอเสื้อของหลี่ฝาง “นายกล้าตบแฟนสาวของฉันเหรอ?”

“ตบแฟนสาวนายแล้วทำไม?”

ขณะพูด หลี่ฝางก็ดึงผมของหยิ่นเหล่ย จากนั้นยกเท้าขึ้น ใช้เข่าข้างหนึ่งกดลงท้องของไห่เย่น

“ถ้าฉันจะตีนายด้วย แล้วจะทำไม?”

หยิ่นเหล่ยไว้ผมยาว เพื่อที่จะมาร่วมงานปาร์ตี้ ยังจัดแต่งทรงผมเป็นพิเศษ

เพียงแต่ว่า โดนหลี่ฝางดึงเช่นนี้ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงไปหมด

หลี่ฝางดึงผมของหยิ่นเหล่ย อย่างดุเดือด ตีเข่าติดต่อกันหลายครั้ง

หยิ่นเหล่ยไม่คาดคิดมาก่อน หลี่ฝางและคนอื่นๆจะฮึกเหิมขนาดนี้ กล้าทุบตีผู้คนในงานปาร์ตี้ของสถานตากอากาศ!

เมื่อเห็นคนตีกัน มีคุณชายหลายคน ต่างเข้ามาล้อมอยู่รอบๆ

“นั่นคือคุณชายเหล่ยไม่ใช่เหรอ?”

“คุณชายเหล่ย?” มีคนไม่รู้จักเขา จึงถามว่า “คุณชายเหล่ยคือใคร?”

“เขาเป็นคุณชายของต้าหัวกรุ๊ป แม้ว่าอุตสาหกรรมของตระกูลพวกเขา ไม่อยู่ในเมืองเอก แต่เครื่องสำอางของตระกูลเขา มีชื่อเสียงมาก คุณเคยได้ยินชื่อโอย่าไหม? ตระกูลพวกเขาเป็นผู้ผลิต”

“โอย่า?”

แบรนด์โอย่านี้ ถ้าจะบอกว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่มาก ถ้าจะบอกว่าเล็ก มันก็ไม่เล็ก

แม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับแบรนด์ต่างประเทศที่ดังๆ แต่อยู่ภายในประเทศ ก็เป็นที่นิยมอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาธุรกิจออนไลน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โอย่าได้คัดเลือกคนมาเป็นตัวแทนธุรกิจออนไลน์และทำเงินได้มากมาย

อาศัยโอย่า ต้าหัวกรุ๊ป กลายเป็นกลุ่มชั้นนำโดยตรงในเป่ยไห่

“ที่แท้ก็เป็นหยิ่นเหล่ยแห่งต้าหัวกรุ๊ป… … ว้าว ถ้างั้นคนที่ต่อยเขาเป็นใคร? ทำไมฉันไม่เคยเห็นเขามาก่อน?”

“คนนั้นเหรอ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

เมื่อมองไปที่หลี่ฝาง หลายคนก็ส่ายหัว รู้สึกแปลกหน้ามาก

แต่ว่า ก็มีหลายคนที่จำหลี่ฝางได้

เขาเป็นคนที่ครั้งก่อนที่ต่อยมู่เสี่ยวไป๋หรือเปล่า?”

“ดูเหมือนว่าจะเป็นเขาจริงๆ ไม่คาดคิด เขาต่อยคุณชายใหญ่ตระกูลมู่แล้ว… …ยังปลอดภัยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น? ฉันคิดว่าหนุ่มคนนี้ คงจะนอนอยู่ในโรงพยาบาล และพิการไปแล้ว”

“แม้จะไม่รู้ที่มาของหนุ่มคนนี้ แต่ฉันคิดว่า สามารถหลบหนีจากการไล่ฆ่าของมู่เสี่ยวไป๋ เบื้องหลังนั้นไม่ธรรมดาแน่นอน”

… …

งานปาร์ตี้แบบนี้เดิมเป็นการพบปะของชนชั้นสูง

โดยทั่วไป จะไม่มีการทะเลาะวิวาทชกต่อยกัน

คนที่มาที่นี่ ส่วนใหญ่ต้องทำให้ตัวเองมีคุณภาพ และมีความอ่อนโยนสง่างาม… …

แน่นอนว่า แม้ลับหลังพวกเขาจะเป็นคนที่ใจสกปรก หยาบคาย และน่ารังเกียจแค่ไหน ก็ไม่มีใครสามารถรับรู้ได้

พวกเขาอยู่ในสถานที่แบบนี้ จะพยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้ฉุนเฉียว เพื่อไม่ให้กระทบต่อชื่อเสียงของตัวเอง… …

จะไม่ทำให้ตัวเองและตระกูล ธุรกิจ มีผลกระทบทางลบ

แต่หลี่ฝางไม่แคร์

แม้ว่าหลี่ฝางจะเป็นคนในแวดวงชนชั้นสูง แต่อยู่ในแวดวงนี้ เขาไม่มีความสนใจเลยสักนิด

หลังจากถูกตีเข่าแล้วหลายครั้ง หลี่ฝางผลักหยิ่นเหล่ยออกไป และด่าไปคำหนึ่ง “สำหรับฉัน นายก็คือสวะ”

ในขณะนี้หยิ่นเหล่ยรู้สึกเจ็บปวด ก้มตัวและมีอาการอยากอาเจียน

สีหน้าของเขา เจ็บปวดมาก

หลังจากนั้นไม่นาน หยิ่นเหล่ยก็เงยหน้าขึ้น และจ้องมองหลี่ฝางโดยความแค้น

“ฉันจะไม่ปล่อยนายไปแน่”

หยิ่นเหล่ยกัดฟันพูด

เขาไม่พูดคำนี้ยังดีหน่อย แต่ทันที่เขาพูดจบ หลี่ฝางก็ลงมืออีก

หลี่ฝางเรียนท่านี้มาจากซุนจิ้น วิ่งตรงมา และเมื่อเข้าใกล้หยิ่นเหล่ย เขาก็กระโดดขึ้นตรงๆ ตีเข่าที่คางของหยิ่นเหล่ย

แน่นอนว่า การเตะของซุนจิ้น คือหน้าอกของหลี่ฝาง

ปากของหยิ่นเหล่ย ส่งเสียงกรีดร้องออกมา แล้วรีบถอยหลังหลายก้าว และล้มลงกับพื้นทันที

หยิ่นเหล่ยล้มลงกับพื้น เจ็บจนหายใจแผ่วเบา

ในฝูงชน มีหลายคนวิ่งออกมาหลายคน มาอยู่ต่อหน้าหยิ่นเหล่ยอย่างรวดเร็ว

“คุณชายเหล่ย คุณเป็นยังไงบ้าง?”

“คุณชายเหล่ย ผมพยุงคุณขึ้นมา”

หลังจากพยุงหยิ่นเหล่ย กลุ่มคนเหล่านี้ก็มองไปที่หลี่ฝางอย่างเย็นชา และถามอย่างไม่เกรงใจ “นายเป็นใคร?”

“ทำไมต้องต่อยคุณชายเหล่ย?”

หลี่ฝางไม่พูดอะไรสักคำ

“มันไร้เหตุผลจริงๆ!”

“รปภ. รปภ. รปภ.ของสถานตากอากาศนี้อยู่ที่ไหน?”

เพื่อนของหยิ่นเหล่ยหลายคน ตะโกนออกมาอย่างรวดเร็ว

และหันหัวไปมองหลี่ซ่วยซ่วย สีหน้าของหลี่ซ่วยซ่วยนั้น หวาดกลัวมาก

“หลี่ฝาง พวกเราก่อเรื่องแล้วใช่ไหม?” หลี่ซ่วยซ่วยถามด้วยความกังวล

หลี่ฝางพูดอย่างไม่แยแส “ผมเคยบอกนายแล้วไง? ผมเป็นเจ้าของสถานตากอากาศแห่งนี้”

หลี่ซ่วยซ่วยไม่พูดอะไรสักคำ คิดในใจ แม้จะเป็นเจ้าของ ก็ไม่สมควรตีแขกตามอำเภอใจเช่นนี้มั้ง?”

นอกจากนี้ ไม่ได้หมายความว่า นายเป็นเจ้าของ นายก็จะใหญ่ที่สุด

ภูมิหลังของแขกหลายคน ยิ่งใหญ่กว่าเจ้านายไม่ใช่เหรอ?

ในใจของหลี่ซ่วยซ่วย เต็มไปด้วยความกังวล

กลัวจะทำให้หลี่ฝางเดือดร้อน

ในตอนนี้หลี่ซ่วยซ่วย พูดด้วยใบหน้าตำหนิตัวเอง “ถ้ารู้แต่แรก ฉันจะไม่มา ดูสิเพราะฉันก่อเรื่อง เป็นงานเลี้ยงที่ดี เพราะฉัน ทำให้มันวุ่นวายไปหมด!”

“นายพูดผิด ไม่ใช่เพราะนายหรอก ที่ทำให้งานเลี้ยงวุ่นวาย แต่เป็นเพราะคนเหล่านั้นไม่มีคุณภาพ ชอบดูถูกคน เลยทำให้เกิดความวุ่นวาย” หลี่ฝางพูดแก้ไข

ในเวลานี้ รปภ.ก็มาถึง

และคนที่เป็นผู้นำ ไม่ใช่เสี่ยวจาง เสี่ยวจางนอกจากรับผิดชอบวิลล่า ห้องพักวีไอพีของแขก ที่พัก อาหาร… …ทางด้านนี้

ภายในวิลล่า ก็มีคนอื่นรับผิดชอบ

หลี่ฝางไม่รู้จักคนๆนี้ เห็นเขาสวมแว่นตาขอบทอง ดูอ่อนโยนสุภาพเรียบร้อย รูปร่างสูงโปร่ง เป็นคนเก่งมีพรสวรรค์

เขาเข้ามาและกวาดสายตามองไปรอบๆ เห็นเลือดที่มุมปากของหยิ่นเหล่ย ทั้งตัวดูน่าสมเพช สีหน้า แสดงความตื่นตระหนกทันที

“คุณชาย… …”

เขารีบวิ่งไปหาหยิ่นเหล่ย และถามอย่างเป็นกังวล “คุณชาย เกิดเรื่องอะไร?”

มีเสียงตบทีหนึ่ง หยิ่นเหล่ยยื่นแขนออกไป ตบไปที่ใบหน้าของชายสุภาพอ่อนโยนคนนี้อย่างแรง

“ทำไมแกพึ่งจะมา?”

“กูถูกต่อย แกพึ่งจะมา แม่งเอ้ยมัวไปทำอะไร?”

“ไอ้คนไร้ประโยชน์ ไอ้สวะ!”

หยิ่นเหล่ยจ้องมองชายสุภาพอ่อนโยนคนนี้ และดุด่าเยาะเย้ย

สีหน้าของชายสุภาพอ่อนโยนคนนี้ ขรึมขึ้นมาทันที ไม่แสดงอาการโกรธเลย

แม้จะอยู่ต่อหน้าคนมากมาย โดนหยิ่นเหล่ยตบหน้าแรงๆทีหนึ่ง

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? รปภ.ตรงนี้ ทำไมเรียกเขาว่าคุณชาย?”

“ใช่สิ นี่มันเรื่องอะไร” หวางเสี่ยวโก๋ถามออกมาด้วยความแปลกใจ

เมื่อเห็นฉากนี้ ไม่ว่าจะเป็นหวางเสี่ยวโก๋ หรือเลี่ยวข่าย ใบหน้าต่างตื่นตระหนก

หรือเป็นเพราะว่าได้ตีคนใหญ่คนโต

“หลี่ฝาง ไหนนายบอกว่ารู้จักคุณชายสถานตากอากาศตรงนี้? หยิ่นเหล่ยคนนี้ คงไม่ใช่คุณชายสถานตากอากาศแห่งนี้” หวางเสี่ยวโก๋ถามอย่างหวาดกลัว

ถึงอย่างไร หวางเสี่ยวโก๋และคนอื่นๆ ไม่มีภูมิหลังอะไรเลย

ถ้าทำให้ผู้มีอำนาจขุ่นเคือง ทุกอย่างก็แย่

โดนทำร้ายอย่างรุนแรง เป็นเรื่องเล็ก ถ้ากระทบกระเทือนต่อคนในครอบครัว มันจะเป็นเรื่องใหญ่ทันที

พูดตามตรง หลี่ฝางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ทำไมรปภ.สถานตากอากาศ ถึงเรียกหยิ่นเหล่ยว่าคุณชาย!”

คุณชายควรเป็นตนเองไม่ใช่หรือ?

ไหเย่นที่อยู่ด้านข้าง มือกอดอก มองหลี่ฝางและคนอื่นๆด้วยสายตาเหยียดหยาม และพูดว่า “ขอบอกพวกนาย พวกนายตายแน่นอน รปภ.บริษัทรักษาความปลอดภัยของสถานตากอากาศแห่งนี้ มากกว่าครึ่งหนึ่ง เป็นคนของต้าหัวกรุ๊ป”

“พวกนายตีคุณชายเหล่ย ก็รอตายได้เลย!”

หลังจากที่ไห่เย่นพูดจบ ก็เดินไปที่ด้านข้างของหยิ่นเหล่ย

แต่หลี่ฝาง หลังจากรู้ความจริง ก็หัวเราะเบาๆ

“ก็เป็นแค่บริษัทรักษาความปลอดภัย? มีอะไรน่าอวด?” หลี่ฝางมองไปที่หยิ่นเหล่ย และส่ายหัวด้วยความเหยียดหยาม

พูดตามตรง พวกเขาก็แค่มาทำงานให้สถานตากอากาศแห่งนี้?

ชายสุภาพอ่อนโยนและคนอื่นๆ มาทำงานรักษาความปลอดภัยให้กับสถานตากอากาศ พูดตามหลัก ก็เหมือนมาทำงานให้กับหลี่ฝาง

ในขณะนี้ หลี่ฝางนั้นแหละที่เป็นเจ้านายของพวกเขา

ดังนั้น ทำไมหลี่ฝางต้องกลัวพวกเขา?

หลังจากดุด่าชายสุภาพอ่อนโยนคนนั้นแล้ว ชายสุภาพอ่อนโยนก็เริ่มอธิบายว่า “คุณชาย ขอโทษจริงๆ เมื่อกี้ประธานโจวมา เพื่อช่วยประธานโจวเคลียร์คนในพื้นที่ ก็เลยไม่อยู่ตรงนี้”

“ประธานโจว? ใครคือประธานโจว? ทำไม เขาสำคัญกว่าฉันเหรอ?”หยิ่นเหล่ยถามอย่างเย็นชา

“ประธานโจว? เป็นไปได้ไหมที่เป็นโจวเจ๋หลุนมาอยู่ที่นี่… …ฮ่าฮ่า” โกเอ๋อกำกำปั้นเล็กๆของตัวเอง และกระโดดขึ้นด้วยความตื่นเต้น

“คือโจวเจ๋หลุน ซูเปอร์สตาร์นักดนตรีคนนั้น”

“พอแล้ว ฉันไม่สนว่าเขาจะเป็นซูเปอร์สตาร์อะไร นายรีบไปหาไอ้หนุ่มคนนั้น ต่อยมันให้หนัก จากนั้นก็โยนมันออกไปจากสถานตากอากาศแห่งนี้” ชี้ไปที่หลี่ฝาง หยิ่นเหล่ยพูดอย่างเย็นชา

“ไม่ใช่ ต้องพวกเขาทุกคน ชกต่อยทั้งหมด และโยนออกไป” หยิ่นเหล่ยพูดเสริม

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท