บทที่ 300 ลุงเฉียนก็เป็นคนมีอารมณ์ฉุนเฉียวได้
บุคคลที่พูดนี้มีชื่อว่าจางเฉียงแม้ว่าครอบครัวของจางเฉียงจะไม่ได้ทำธุรกิจใหญ่โต แต่ปู่ของเขา เป็นผู้นำคนเก่าแก่ที่เกษียณอายุ
แม้ว่าจะเกษียณอายุไปแล้ว แต่ก็มีความกว้างขวาง
อย่าว่าแต่หูเฟย แม้จะเป็นเจ้านายของหูเฟยมา ก็ไม่กล้าทำอะไรจางเฉียง
ในเมื่อ จางเฉียงไม่ได้สร้างปัญหาใหญ่
ก็แค่ตีสวีเถิงเฟยเอง?
ไม่ใช่แค่จางเฉียง คนเดียวที่ตี ยังมีส้งเคอ หวงเจ๋ เฝิงจื่อหลินและคนอีกมากมาย ที่ได้ลงมือตีสวีเถิงเฟย…
หรือว่าคุณจะจับพวกเขาให้หมดเหรอ?
ล้อเล่นหรือเปล่า!
นี่เป็นเรื่องของเด็กๆตีกัน ถ้าสวีจื่อเม่ยได้โทรหาสามีของตัวเอง เรียกหูเฟยมาจับ ผลของมัน ก็คงจะร้ายแรง
นั่นหมายความว่าในเวลาเดียวกันได้ทำให้ตระกูลส้ง ตระกูลหวง ตระกูลเฝิงตระกูลจาง… …และอีกหลายตระกูลขุ่นเคือง
พูดตรงไปตรงมา ตระกูลสวียังไม่กล้าที่จะรุกราน
อย่าว่าแต่ตระกูลสวี แม้แต่ตระกูลมู่ ก็ไม่กล้าที่จะมารุกรานตระกูลเหล่านี้ในเวลาเดียวกัน
สวีจื่อเม่ยขมวดคิ้ว เมื่อเห็นรปภ.ของสถานตากอากาศ และอยากเรียกพวกเขามาหา
“ที่นี่มีคนตีกัน สถานตากอากาศของพวกคนายไม่สนใจเลยเหรอ?” ขณะที่สวีจื่อเม่ยเดินเข้าไป ก็ตะโกนเสียงดัง
รปภ.คนนั้นก็ฉลาด เขารู้ว่า เรื่องนี้ ตัวเองเข้าไปวุ่นวายไม่ได้
ดังนั้นก่อนที่สวีจื่อเม่ยจะมาถึง รปภ.คนนั้นก็วิ่งหนีไปก่อน วิ่งเข้าไปในห้องน้ำของผู้ชาย โดยอ้างว่าปวดท้อง
สวีจื่อเม่ยโมโหมาก รปภ.เหล่านี้ โดนยาพิษหรือ?
ทำไมเดินไปเรียกใคร คนนั้นก็ปวดท้อง!
สวีจื่อเม่ยก็ไม่ยอมแพ้ เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และโทรหาซุนจิ้นหลายครั้ง หลังจากนั้นไม่นานสวีจื่อเม่ยก็พบว่าซุนจิ้นได้บล็อคตัวเองแล้ว
ทำให้สวีจื่อเม่ยโมโหมาก โกรธจนแทบจะกัดฟันจนหัก
หลายปีมานี้ ตระกูลสวีของตัวเอง ยังไม่เคยโมโหขนาดนี้มาก่อน!
“ซุนจิ้นไอ้สารเลวคนนี้ เขาไปทำบ้าบอที่ไหน? ไม่ใช่ตายแล้วเหรอ!” สวีจื่อเม่ยบ่นด่ากับตัวเอง และกลับไป
หาน้องชายของเธอ
ส้งเคอหวงเจ๋และคนอื่นๆ ตีจนหมดเรี่ยวแรง แล้วจึงหยุด
หลายคนล้มลงบนโซฟา และหันไปทิศทางที่หลี่ฝางอยู่ พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
หลี่ฝางเห็นฉากนี้ ก็พอใจมาก
ในเวลานี้ ชายสุภาพอ่อนโยนวิ่งมาอย่างลุกลี้ลุกลน โดยมีรปภ.สองสามคนอยู่ข้างหลังเขา
“คุณชายสวี คุณชายสวีคุณเป็นไรไหม?” ชายสุภาพอ่อนโยนมองไปที่สวีเถิงเฟย แสร้งทำเป็นเป็นห่วงและถาม
ในเวลานี้สวีเถิงเฟย รู้สึกแย่มาก
ไม่เพียงแต่จะมีรอยรองเท้าอยู่ทั่วร่างกาย แม้แต่บนใบหน้า ยังมีรอยรองเท้าหลายแห่งอีกด้วย
แต่ว่าสวีเถิงเฟยจะถูกตีจนจมูกฟกช้ำและใบหน้าบวม ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของสวีเถิงเฟย หรงหรงที่อยู่ข้างๆ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม คิดในใจ สมน้ำหน้า ใครให้นายมาแต๊ะอั๋งฉัน!
พูดตามตรง สำหรับทายาทเศรษฐีรุ่นที่สองเช่นนี้หรงหรงเห็นมาเยอะ
ไม่อยากเสียเงินแม่ง(ก็อยากมีดาราไว้ครอบครอง) มันน่าขยะแขยงที่สุด
นักแสดงหญิงที่อยู่บนหน้าจอทีวี ราคาเริ่มต้นก็หนึ่งหมื่นบาท ยิ่งกว่านั้น ตัวเองก็เพิ่งได้รับความนิยมอย่างมากจากละครออนไลน์?
ไม่ทุ่มเงินสักสามหมื่นห้าหมื่นหรือแสน ก็ยังอยากมีความสัมพันธ์กับตัวเอง คิดว่าตัวเองเป็นผู้กำกับหรือ หรือผู้อำนวยการสร้าง?
หลังจากที่หรงหรงทตาเหลือกให้สวีเถิงเฟย จากนั้นสายตาก็จับจ้องไปที่ร่างของหวงเจ๋
บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ต้ามู่ แม้ว่าจะไม่ใช่บริษัทภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็สร้างละครออนไลน์ยอดนิยมสองเรื่อง… …
“คุณชายหวง เมื่อกี้ท่านเท่ห์มาก”
เอาสะโพกนั่งลงข้างๆหวงเจ๋ หรงหรงก็เริ่มยั่วหวงเจ๋
เธอจงใจดึงอกเสื้อลงมา และจงใจก้มต่ำ หวงเจ๋ที่อยู่วงการมานาน ก็ย่อมจะเข้าใจความหมาย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หวงเจ๋ไม่สนใจดาราเล็กเหล่านี้ที่มายั่ว และไม่มีอารมณ์ หลังจากพูดเอาตัวรอดไม่กี่คำ ก็เพิกเฉยต่อพวกเธอ
เป็นนานกว่าสวีเถิงเฟยจะลุกขึ้นนั่ง เขาเหลือบมองไปที่ชายสุภาพอ่อนโยน มีแสงเย็นชาแวบเข้ามาในดวงตาของเขา “ตอนที่กูโดนตี พวกแกไปอยู่ไหน?”
“ตอนนี้พวกมันตีเสร็จแล้ว แกวิ่งมาถามว่าเป็นไรไหม? แม่งเอ้ย!” สวีเถิงเฟยโมโหมากและตะโกนใส่ชายสุภาพอ่อนโยนโดยตรง
ชายสุภาพอ่อนโยนยังอารมณ์ดี แม้ว่าจะถูกดุ เขาก็ไม่ได้มีความโกรธแม้แต่น้อย แต่ถามอย่างใจเย็น “คุณชายสวี ต้องการส่งคุณไปห้องพยาบาลหรือไม่?”
“ฉันคิดว่านายควรส่งฉันไปนอนบนเตียงของภรรยานายจะดีกว่า!” ใบหน้าของสวีเถิงเฟยเย็นชา และพูดคำหยาบออกมา
คนที่อยู่ใกล้ๆได้ยิน ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“คุณชายตระกูลสวี ทำไมถึงมีคุณภาพต่ำขนาดนี้!”
“อ้าปากก็แม่ง คนเช่นนี้ สมควรถูกตี” ฝูงชนต่างบ่นพึมพำใส่สวีเถิงเฟย
สวีจื่อเม่ยยิ่งบ้าอำนาจ เธอสวมรองเท้าส้นสูง และเดินไม่กี่ก้าวก็มาถึงตรงหน้าชายสุภาพอ่อนโยน และตบไปหนึ่งที ตบบนใบหน้าของชายสุภาพอ่อนโยนโดยตรง
“แกมัวไปทำอะไรมา? ตอนที่น้องชายของฉันถูกตี นายไปทำอะไร?”
ยังมีพวกแก… …แต่ละคน วิ่งหนีเร็วมาก กลั่นแกล้งฉันคิดว่าฉันไม่กล้าเข้าห้องน้ำผู้ชายใช่ไหม?”
ชี้ที่รปภ.ที่อยู่ด้านหลังของชายสุภาพอ่อนโยน ดุด่าอย่างแรง
อันที่จริง ชายสุภาพอ่อนโยนเห็นตั้งแต่แรกแล้ว และอยากจะเข้ามาห้าม แต่พ่อบ้านเฉียนไม่ให้มา เขาจะทำอย่างไรได้?
ตอนนี้ถูกตบ ชายสุภาพอ่อนโยนจึงได้แต่อดกลั้นไว้
“คนที่รับผิดชอบ! ออกมาให้หมด!”
“คนที่มีนามสกุลเฉียนอยู่ที่ไหน?”
สวีจื่อเม่ยเห็นสวีจื่อเฟยโดนตีขนาดนี้ รู้สึกเจ็บปวดใจ
ในขณะนี้ เธอไม่สนใจว่าตระกูลหลี่แข็งแกร่งเพียงใด อาละวาดขึ้นมาทันที
“คุณหนูสวี คุณเรียกหาฉันเหรอ” ลุงเฉียนยืนอยู่ตรงหน้าหลี่ฝาง เมื่อได้ยินเสียงเรียก ก็รีบเดินมาทันที
“พ่อบ้านเฉียน นี่คือท่าทีของสถานตากอากาศของคุณหรือ? เฝ้าดูน้องชายของฉันถูกทุบตี ไม่ยอมถามไถ่ พวกคุณหมายความว่าอย่างไร?”
“ยังมีอีก น้องชายของฉันถูกทุบตีเช่นนี้ ตระกูลหลี่ ควรให้คำอธิบายกับตระกูลสวีของเรา?”
สวีจื่อเม่ยมองลุงเฉียนอย่างเย็นชา และถามไถ่
“ฉันรู้ว่าตระกูลหลี่ของคุณไม่ได้ขาดแคลนเรื่องเงิน แต่ว่า ตระกูลสวีของเราไม่ใช่จะถูกรังแกได้ง่ายๆ” สวีจื่อเม่ยไม่ใช่คนโง่ รปภ. ที่นี่ จงใจหลบเขาอย่างเห็นได้ชัด
เห็นได้ชัดว่าต้องมีปัญหาอะไรแน่
และปัญหานี้ ก็เกี่ยวข้องกับเจ้าของที่นี่
ถ้าไม่ใช่ทำตามคำแนะของพ่อบ้านเฉียน รปภ.เหล่านี้ จะหนีไปหรือ?
ต้องขอบอกเลยว่า สมองของสวีจื่อเม่ย ค่อนข้างฉลาด ในช่วงเวลาสั้นๆ ก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
ลุงเฉียนยิ้มอย่างเหยียดหยาม “คุณหนูสวี คุณกำลังข่มขู่ฉันหรือเปล่า?”
“คุณโทรไปถามคุณปู่ของคุณ คุณมาหาเรื่องก่อกวนที่นี่ ได้รับอนุญาตจากเขาหรือยัง?”
“ทำไม ตระกูลสวีของพวกคุณไม่ใช่จะรังแกได้ง่ายๆ แล้วตระกูลหลี่ของพวกเรารังแกได้ง่ายๆใช่ไหม?”
“ถามน้องชายของคุณ ว่าเขาทำสิ่งที่น่าเกลียดอะไรไว้ ทำไมเขาถึงถูกตี ให้เขาหาเหตุผลด้วยตัวเอง”
“ยังมีอีก สถานตากอากาศของเรา ไม่ได้เรียกเก็บเงินแม้แต่บาทเดียวจากตระกูลสวีของคุณ ดังนั้น จึงไม่มีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องคุณๆๆใดๆ น้องชายของคุณทำให้เกิดปัญหา และถูกทุบตี นี่เป็นปัญหาส่วนตัว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับสถานตากอากาศของเรา ได้ยินชัดเจนและเข้าใจหรือยัง?”
หลังจากที่ลุงเฉียนพูดจบ เขาก็ยกแขนขึ้น และตบที่ใบหน้าของสวีจื่อเม่ย
สวีจื่อเม่ยถูกตบจนอึ้ง
ทุกคนในเหตุการณ์ ต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน
นี่คือคุณหนูใหญ่ของตระกูลสวี และถูกพ่อบ้านตบต่อหน้าสาธารณะ
การตบครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ตบบนใบหน้าของสวีจื่อเม่ยเท่านั้น เหมือนตบหน้าตระกูลสวีทั้งหมดด้วย
การตบหน้าครั้งนี้ หมายความว่า ตระกูลหลี่และตระกูลสวี กลายเป็นศัตรูกัน
สวีจื่อเม่ยเบิกตากว้าง มองลุงเฉียน “แก… …แกกล้าตบฉันหรือ?”
“แกไอ้แก่ แกกล้าตีพี่สาวของกู กูขอสู้ตาย” สวีเถิงเฟยเห็นพี่สาวของตัวเองถูตบ รีบลุกขึ้นมา ไปหาลุงเฉียน และพุ่งเข้าไป
แต่ระหว่างนั้น โดนลูกน้องของชายสุภาพอ่อนโยนจับเอาไว้
“ทำไมจะไม่กล้า?”
ลุงเฉียนยิ้มอย่างเหยียดหยาม “คุณกล้าตบคนของฉันในเขตของฉัน ฉันก็กล้าตบปากคุณ”
“พวกเขาเป็นพนักงานที่ฉันเชิญมาก็จริง แต่พนักงาน ก็มีสิทธิมนุษยชนเช่นกัน คุณพูดจาดูหมิ่น ก็แล้วไป แต่นี่คุณยังกล้าลงไม้ลงมืออีก คงคิดว่าตระกูลสวีของคุณยอดเยี่ยมจริงๆใช่ไหม
“ดูให้ดี ตรงนี่คือสถานตากอากาศ ไม่ใช่ตระกูลสวีของคุณ ถ้าอยากหาเรื่อง ไปหาเรื่องที่ตระกูลสวีคุณของคุณ” ลุงเฉียนมองสวีจื่อเม่ยด้วยสายตาเย็นชาและพูด
สวีจื่อเม่ยเอามือปิดใบหน้าของเธอ ในใจของเธอโกรธมาก
เธอกัดฟันและมองไปที่ลุงเฉียน และพูดว่า “โอเค แค้นนี้ ฉันจะจำไว้”
“น้อง ไปกันเถอะ!” หันไปและดึงแขนของสวีเถิงเฟยย สวีจื่อเม่ยลากเขาเดินออกไป
สวีจื่อเม่ยรู้ดีว่า นี่คือเขตของตระกูลหลี่ ถ้ายังวุ่นวายต่อไป ก็คงไม่ได้เปรียบแม้แต่น้อย
ทางที่ดีกลับไปที่ตระกูลสวีดีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ทั้งหมด เล่าให้คุณปู่ของตัวเองฟัง
“เดี๋ยวก่อน พี่สาว!”
ในเวลานี้สวีเถิงเฟยได้พูดขึ้นมา “ฉันอยากถามพวกส้งเคอ พวกเขาตีผมทำไม