NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 316

ตอนที่ 316

บทที่ 316 โทรศัพท์จางกงหมิง

ทันใดนั้น หลี่ฝางเด้งตัวลุกขึ้น

“นายจะทำอะไร รีบนั่งลง หลิวจินหยางแรงเยอะมาก วันนั้นพวกฉันผู้หญิงสี่คนยังสู้เขาไม่ได้” ลู่หลุ่ยมองหลี่ฝางอย่างเป็นห่วง พร้อมดึงแขนเขาไว้

การเตะเมื่อครู่ หลี่ฝางก็เห็นเช่นกัน

หลิวจินหยางคนนี้ ฝีมือไม่เลวจริงๆ ตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่

แต่ยังมีส้าวส้วยไม่ใช่เหรอ?

หลี่ฝางยิ้ม พร้อมเอ่ยปลอบลู่หลุ่ย “วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นไร!”

เอ่ยจบ หลี่ฝางยกเก้าอี้ของตนไป ก่อนฟาดใส่ศีรษะของหลิวจินหยาง

“แม่งเอ้ย ไอ้คนไหนไม่มีตาฟาดฉัน!”

ใครจะรู้ว่าศีรษะของหลิวจินหยางจะแข็งขนาดนี้ ราวกับฝึกศีรษะเหล็กมาก่อน เพียงฟาดเก้าอี้ตัวนี้ลงไป ไอ้บ้านี้กลับไม่เป็นอะไร

หลิวจินหยางหันกลับไป ก่อนเห็นหลี่ฝาง

“แม่มันเถอะ เป็นแก?”

หลิวจินหยางรู้จักหลี่ฝาง สีหน้าพลันเผยความดุร้ายออกมา!

“ไอ้เด็กบ้า แกมันรนหาที่ตาย!”

หลิวจินหยางปล่อยไอ้รองทรง ก่อนเดินปรี่เข้าหาหลี่ฝาง “ถ้าฉันไม่ซีกแกเป็นชิ้นๆ ฉันจะยอมเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของแก”

หลังกัดฟันกรอด หลิวจินหยางกระโจนเข้ามา

หลิวจินหยางกำหมัดขึ้น พุ่งไปบริเวณใบหน้าของหลี่ฝาง เพียงฟาดออกไป ถือว่ารวดเร็วอย่างมาก จนหลี่ฝางตกใจทำอะไรไม่ถูก ก่อนรีบร้อนหลบหลีก

“แกโต้ตอบเร็วใช้ได้”

หลิวจินหยางไม่คิดว่าหลี่ฝางจะหลบหมัดนี้ของเขาได้ มุมปากอดเผยความชื่นชมออกมาไม่ได้

ทันใดนั้น หลิวจินหยางบิดศีรษะ มองลู่หลุ่ย “เฮอะ เฮอะ เธอก็มาเหรอ เหมิงเหมิงล่ะ เธอตายหรือยัง?”

“เธอยังมีชีวิตอยู่ เธอไม่ตายเพราะนายหรอก”

“เฮอะ เฮอะ ไม่ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายเหรอ งั้นฉันก็วางใจ ฉันกลัวจริงๆ ว่าเธอจะกลายเป็นผีมาหลอกฉัน”

หลิวจินหยางยิ้ม ก่อนหันไปมองหลี่ฝางต่อ “ไอ้เด็กน้อยโชคดีมากทีเดียว หาสาวน้อยสวยขนาดนี้เป็นเมียได้ ที่สำคัญยังบริสุทธิ์”

“อีกเดี๋ยว ฉันจะเตะของแกให้หัก ยังไงแกเก็บไว้ คงไม่ได้ใช้” หลิวจินหยางยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนกระโจนเข้าไป

ส่วนหลี่ฝาง เพียงยิ้มบาง ๆ “มาสิ”

“ครั้งนี้ ฉันจะไม่หลบ” หลี่ฝางกวักมือเรียกหลิวจินหยาง

“เป็นลูกผู้ชายดีนี่” หลิวจินหยางกระโจนเข้าไป

ระหว่างทาง ส้าวส้วยพลันบุกเข้ามา ก่อนถีบเข้าตรงบริเวณเอวของหลิวจินหยาง

เสียงปังดังขึ้น ร่างกายของหลิวจินหยางกระแทกบนผนัง จากนั้นทรุดลงบนพื้น

“แม่ง ร้ายกาจขนาดนี้?”

คนจำนวนไม่น้อยตกใจในฝีมือของส้าวส้วย

“เขาคล้ายฮีโร่รองเท้าหนังคนนั้น!”

“เขาคือฮีโร่รองเท้าหนัง หน้าตาหล่อเหลาจริงๆ”

ใช่ ที่สำคัญคือต่อสู้เป็น หากเป็นผู้หญิงของเขา ต้องปลอดภัยมากแน่เลย”

ส้าวส้วยได้ยินถึงเสียงถกเถียงเช่นนี้ สีหน้าแดงก่ำเล็กน้อย ก่อนวิ่งไปตรงหน้าหลี่ฝาง “เถ้าแก่ หากไอ้เด็กนี้หือขึ้นมาอีก ก็ตะโกนเรียกผม ผมขอตัวไปก่อน”

“ได้ ถอยไปก่อนเถอะ” หลี่ฝางพูดพลางสะบัดมือ

หลี่ฝางทรุดนั่งลง ใช้มือตบหน้าหลิวจินหยาง กล่าวพลางแสยะยิ้ม “ยังเบ่งอีกไหม?”

“แม่ง”

“ปากยังแข็งขนาดนี้…” หลี่ฝางขมวดคิ้ว ก่อนมองเห็นคนหนึ่งสวมรองเท้าแตะ

“พี่ชาย ผมขอยืมรองเท้าแตะหน่อย” หลี่ฝางเอ่ยกับชายสวมรองเท้าแตะ

ชายสวมรองเท้าแตะลังเลชั่วขณะ “ทำอะไร?”

“ผมจะตบเขา”

ชายสวมรองเท้าแตะถอดรองเท้าออกมา ก่อนโยนให้หลี่ฝาง “ตบสักสองที รองเท้าแตะฉันไม่เอาแล้ว”

หลังส่งให้หลี่ฝาง ชายสวมรองเท้าแตะเดินไป อาจเพราะกลัวจะเป็นการหาเรื่องใส่ตนเอง

หลี่ฝางหยิบรองเท้าแตะขึ้น ก่อนตบลงบนปากของหลิวจินหยาง “ทำไมปากเหม็นขนาดนี้ ยังไม่แปรงฟันใช่ไหม?”

เพียะ เพียะ เพียะ หลี่ฝางตบรองเท้าแตะลงไปสามครั้ง สีหน้าของหลิวจินหยางนั้น ดุร้ายอย่างถึงขีดสุด

เขาขยับเล็กน้อย แต่กลับรู้สึกว่ากระดูกทั่วร่างกายหัก จนขยับไม่ได้

“นายขยับสิ หากลุกขึ้นมาได้ ฉันจะเรียกพี่น้องฉันเข้ามา กระทืบแกอีกสักที” หลี่ฝางกล่าวยิ้มๆ

ประโยคเดียว ทำให้หลิวจินหยางนอนอยู่บนพื้นตกใจ นิ่งไม่ขยับราวกับซากศพ

“เชื่อฟังจริงๆ”

หลี่ฝางยิ้มอย่างพอใจ “ฉันถามแกอีกรอบ ยังจะเบ่งอีกไหม?”

หลิวจินหยางกัดฟันกรอด เขาเวลานี้ต้องอ่อนข้อให้

“ยังคิดจะเตะฉันอีกไหม ทำไม มีไว้ฉันไม่ได้ใช้ประโยชน์ ต้องเก็บไว้ให้นายใช้ใช่ไหม?” หลี่ฝางหัวเราะเฮอะเฮอะ ก่อนเอ่ยว่า “นายสินะถึงจะมีประโยชน์ และใช้ในทางที่ผิด มีไว้ทำเรื่องพรรค์นั้นกับผู้หญิงโดยเฉพาะ”

“งั้นให้ฉันเหยียบจนมันใช้การไม่ได้ดีกว่า” หลี่ฝางกล่าวพลางลุกขึ้นยืน

เมื่อได้ยินคำนี้ หลิวจินหยางเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา

หูเสี่ยวน่าววิ่งเข้ามา ชี้หลิวจินหยางพร้อมเอ่ยว่า “หลิวจินหยาง นายลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ นอนแผ่อยู่บนพื้นทำไม เป็นหมาหรือไง?”

“รีบลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ อย่าทำให้ฉันขายหน้า!” หูเสี่ยวน่าวเอ่ยอย่างโมโห

“เขาลุกไม่ไหว เธออย่าตะโกนเลย”

“ไร้สาระ เขายังไม่ตาย ไม่ใช่เพราะถูกนายเตะหรือไง แฟนฉันกระดูกแข็งจะตาย!” ขณะเอ่ย หูเสี่ยวน่าวย่อตัวลง ลากปกเสื้อตรงท้ายทอยหลิวจินหยางไว้ คิดดึงเขาขึ้นมา

“เขากระดูกแข็งมาก” หลี่ฝางค่อนแคะอีกประโยค

“ยังไงก็แข็งแกร่งกว่านาย” หูเสี่ยวน่าวพลางลาก พลางกลอกตามองหลี่ฝาง

“คงยังงั้น สเปคแรงกว่าฉันมา ผู้หญิงคล้ายมีเนื้อมีหนัง ไม่ใช่สเปคฉัน” แม้หูเสี่ยวน่าวจะไม่อ้วน แต่หลี่ฝางยังประชดอีกประโยค

ผู้หญิงไม่ต้องการฟังที่สุดมีแค่ไม่กี่ประโยค นั่นคือคนอื่นบอกว่าเธออ้วน บอกว่าเธอน่าเกลียด

เพียงพูดสองเรื่องนี้ ปกติผู้หญิงโมโหมาก ยิ่งกว่าด่าเธอชั้นต่ำ

หากพูดว่าเธอคือปีศาจ ร่าน เธอยังดีใจมากกว่า

จริงดังคิด หูเสี่ยวน่าวได้ยินหลี่ฝางบอกว่าตนอ้วน โมโหจนหน้าอกกระเพื่อม ดวงตาคล้ายกับจะกินคน

“ไอ้หมา หากยังแกล้งตายอีกฉันจะไม่สนใจแกแล้ว รีบลุกขึ้น จัดการมัน” หูเสี่ยวน่าวใช้มือข้างหนึ่งหิ้วหลิวจินหยาง อีกข้างชี้ที่หลี่ฝาง

หูเสี่ยวน่าวแม้จะโมโห แต่รู้ว่าตนเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง ต้องสู้หลี่ฝางไม่ได้แน่ ดังนั้นเธอเพียงฝากความหวังไว้ที่หลิวจินหยาง

“หลิวจินหยาง นายอยากเลิกกับฉันเหรอ?” หลิวจินหยางไม่ลูกขึ้นมา จนทำให้หูเสี่ยวน่าวตะโกนด่าอย่างโมโห

เมื่อจบเสียงนี้ หลิวจินหยางรวบรวมกำลัง ฝืนลุกขึ้นมา

“จัดการมัน” หูเสี่ยวน่าวเอ่ยบอกหลิวจินหยาง

หลิวจินหยางชูหมัดขึ้น กำลังจะลงมือ หลี่ฝางก็ตะโกนขึ้น “ส้าวส้วย…”

ส้าวส้วยทิ้งบุหรี่ในมือ รีบวิ่งไปที่ร้านโจ๊กเย็น

“ชิบหาย!”

หลิวจินหยางหน้าขรึมลง พลันนอนแผ่ลงบนพื้น ราวสุนัขนอนตายอีกครั้ง

“นายกลัวอะไร หลิวจินหยาง นายรีบลุกขึ้น หากมันกล้าทำร้ายนายอีก ฉันจะให้พี่ชายฉันจับมันเอง” หูเสี่ยวน่าวเอ่ยอย่างเย็นชา

“ฉันจะบอกพวกแกให้”

เมื่อชี้ที่หลี่ฝางและส้าวส้วย หูเสี่ยวน่าวกล่าวยิ้มๆ อย่างเย็นชา “พี่ชายฉันคือหูเฟย พวกแกกล้าแตะแฟนฉันแม้ปลายนิ้ว”

“หูเฟยสินะ?”

“งั้นก็ไม่ควรวางอำนาจรังแกคนอื่น!” หลี่ฝางลากเสียงเอ่ยถามคนในร้าน “พวกคุณว่าใช่ไหม?”

“ใช่!”

“มิน่าถึงรังแกคนอื่นขนาดนี้ ที่แท้มีคนคอยให้ท้าย”

“หูเฟยคือใคร?”

ทุกคนต่างถกเถียงกันขึ้นมา

หลี่ฝางเรียกไอ้รองทรงเข้ามา ก่อนเอ่ยว่า “พี่ชาย คนนี้ฝากพี่ด้วย คิดจะจัดการเขายังไง ทำตามใจเถอะ”

“วางใจเถอะ หากเขาไม่ยอม หรือคิดแก้แค้น ฉันให้พี่น้องฉันกระทืบมันให้ตาย”

หลี่ฝางยกนิ้วให้ส้าวส้วยที่อยู่ตรงประตูด้านหลัง ก่อนกล่าวยิ้มๆ กับไอ้รองทรง

ความจริงเมื่อครู่ไอ้รองทรง ถูกรังแกขนาดนั้น ต้องแค้นหลิวจินหยางเข้ากระดูกแน่ ใครจะรู้เขากลับส่ายหน้าอย่างคนไม่เป็นอะไร “ช่างเถอะ ควรไว้ชีวิตก็ไว้ชีวิต ฉันไม่คิดแค้นกับคนประเภทนี้หรอก”

ไอ้รองทรงหลังใช้กระดาษทิชชูเช็ดโจ๊กเย็นบนใบหน้าจนสะอาด ออกจากร้านโจ๊กเย็นไป

หลี่ฝางตกตะลึง ไอ้รองทรงคนนี้ แม่งอ่อนจริง

ไม่นาน ไอ้รองทรงวิ่งกลับมาอีกครั้ง หลี่ฝางจึงยิ้ม “ทำไม เปลี่ยนใจแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่ ลืมเอ่ยขอบคุณ คุณ”

“คุณให้เบอร์ติดต่อผมได้หรือเปล่า วันหน้าหากมีโอกาส ผมต้องทดแทนบุญคุณของคุณแน่” ไอ้รองทรงเอ่ยอย่างเอาจริงเอาจัง

หลี่ฝางเบ้ปาก พร้อมคิดในใจ คนอ่อนหัดเช่นนี้ จะสามารถช่วยอะไรตนได้?

แต่หลี่ฝางยังให้เบอร์ติดต่อกับไอ้รองทรง

“ผมซือถูเฟย คุณจำชื่อผมไว้ด้วยล่ะ” ไอ้รองทรงเอ่ยจบ เดินจากไป

ซือถูเฟย หลี่ฝางรู้สึกเพียงชื่อนี้คุ้นหูบางส่วน

ทันใดนั้น มือถือของหลี่ฝางดังขึ้น เป็นจางกงหมิงโทรเข้ามา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท