NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 305

ตอนที่ 305

บทที่ 305 ฉินวี่เฟยเข้าหากลางดึก

ยืนอยู่หน้าประตูวิลล่า ฉินวี่เฟยหยุดไปครู่หนึ่ง เธอไม่ใช่คนโง่ ก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าเมื่อเข้าไปในวิลล่าต้องเกิดอะไรขึ้น…….

“เป็นอะไรเหรอ?” หลี่ฝางมองฉินวี่เฟยแล้วถาม

“ไม่มีอะไร เปิดประตูเถอะ”

ฉินวี่เฟยกวาดสายตาไปโดยรอบ เห็นว่ารอบๆไม่มีคน ก็เลยรีบให้หลี่ฝางเปิดประตู เปิดประตูแล้วก็รีบเข้าไปในวิลล่าทันที

“เธอกลัวอะไรเหรอ” เมื่อเห็นภาพนี้ หลี่ฝางก็หัวเราะขึ้นมา

ภาพเมื่อกี้ มองแล้วน่ารักดี

“ยังจะกลัวอะไรได้ล่ะ? ก็กลัวคนอื่นเห็นไง ไม่ว่ายังไงฉันก็เป็นคุณหนูของตระกูลฉิน หากให้คนอื่นเห็นว่าฉันเข้ามาวิลล่าของนายกลางดึก นายจะให้ฉันแต่งกับใครได้อีก? นายก็ไม่แต่งงานกับฉันสักหน่อย” ขณะที่พูด ฉินวี่เฟยก็มองหลี่ฝางด้วยสายตาที่ต่อว่า

ฉินวี่เฟยถอดรองเท้าส้นสูงออก เปลี่ยนเป็นรองเท้าใส่อยู่บ้าน กล่าวอย่างตลึง: “บ้านนายหรูหราเกินไปเปล่า แม้แต่รองเท้าใส่อยู่บ้านยังเป็นlvรุ่นรุ่นลิมิเต็ดด้วย?”

“ฉันนึกว่ามันคือยี่ห้อลาเสียอีก” หลี่ฝางยิ้มอย่างอายๆ พูดจบ ก็ถูกฉินวี่เฟยพูดให้ประโยคหนึ่ง ช่างมีอารมณ์ขันจริงๆ

ในเวลานี้ หลี่ฝางก็ถูกฝ่ามือของตัวเอง เดินไปด้านหน้าของฉินวี่เฟย ยื่นมือไปรูดซิปตรงหลังของเธอลง

ฉินวี่เฟยที่นั่งอยู่บนโซฟา ร่างกายสั่นเล็กน้อย

เมื่อคืนฉินวี่เฟยใจกล้า ปล่อยตัว เป็นเพราะเธอดื่มเยอะเกินไป บวกกับหลี่ฝางก็มึนๆด้วย

วันนี้ ฉินวี่เฟยที่มีสติ ก็รู้สึกเขินอายไม่น้อย

นอกจากคุณหมอแล้ว ไม่มีใครเคยแตะต้องร่างกายของเธอมาก่อน

“แผลปริแล้วจริงๆด้วย” เมื่อเห็นเลือดบนผ้าพันแผล หลี่ฝางรู้สึกสงสาร

หลี่ฝางไปเอากล่องยามา เพื่อจะเป็นทำแผลให้ฉินวี่เฟยใหม่……

ระหว่างทำแผล มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกเนื้อต้องตัว หลี่ฝางที่รู้ตัว ยังหลับตาลง เมื่อฉินวี่เฟยเห็นเข้า ก็พูดอย่างคนใจกว้าง: “ช่างเถอะ นายก็มองเถอะ ยังไงร่างกายนี้ก็ให้นายแล้ว ไม่เป็นไร”

“ฉันไม่ใช่ว่าอายที่จะดู ฉันกลัวว่าเมื่อฉันดูแล้วจะอดใจไม่ไหว” หลี่ฝางหัวเราะกล่าว

“นายก็ไร้มนุษยธรรมไปป่ะ ฉันเป็นขนาดนี้แล้ว สมองนายยังคิดเรื่องอะไรอีก” ฉินวี่เฟยหัวเราะอยู่ลำคอ ว่ากล่าวตักเตือน

“เธอไม่เข้าใจหรอก ผู้ชายก็เหมือนกันหมด…….เธอสวยขนาดนี้ รูปร่างดีขนาดนี้ ผิวพรรณก็ผุดผ่อง ฉันที่เต็มไปด้วยเลือดของผู้ชาย เมื่อเห็นแล้วจะสามารถทนได้เหรอ?”

“มันก็ใช่ งั้นก็ไปจัดการเองที่ห้องน้ำเลย”

“เมื่อกลางวันคุณหมอก็ได้บอกแล้ว ว่าฉันไม่สามารถออกแรงได้”

หลังจากที่ทำแผลให้ฉินวี่เฟยแล้ว หลี่ฝางก็มองฉินวี่เฟยไปแวบหนึ่ง เห็นว่าในแววตาของเธอ มีความกลัวเล็กน้อย

หลี่ฝางก็หัวเราะขึ้นมา ย่อตัวลงคร่อมอยู่บนตัวของฉินวี่เฟย: “เธอกลัวฉันจะกินเธอมากขนาดนั้นเลยเหรอ”

“อืม กลัว” ฉินวี่เฟยพยักหน้า ยอมรับ

“แล้วทำไมเมื่อคืนเธอถึงใจกล้าขนาดนั้น ทำไม เจ้าหน้าที่รัฐนั้นจุดไฟเผาได้ แต่ไม่อนุญาตให้ประชาชนจุดไฟ? หลี่ฝางมองฉินวี่เฟยอย่างหื่นกาม

“นายแหละที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ฉินวี่เฟย”กลอกตาใส่หลี่ฝาง ก็หันหน้าไปอีกฝั่ง

หันหน้าไปแล้ว ใบหน้าของฉินวี่เฟย ก็แดงขึ้นมาทันที ยังรู้สึกแสบๆร้อนๆด้วย

“ฉินวี่เฟย เธอเคยได้ยินมั้ยครั้งแรกเจอกันไม่สนิทเหมือนคนแปลกหน้า ครั้งที่สองเหมือนคนสนิท?” หลี่ฝางกล่าวอย่างมีเลศนัย

หลี่ฝางในตอนนี้ ไม่ใช่หลี่ฝางคนก่อนแล้ว ใจของเขา ยิ่งอยู่ยิ่งกล้า

บวกกับฉินวี่เฟย ตามหลี่ฝางมาที่วิลล่าอย่างง่ายดาย จริงๆแล้ว ต่อให้หลี่ฝางมีอะไรกับฉินวี่เฟยจริงๆ เธอก็คงจะทำอะไรไม่ได้

“อะไรครั้งแรกเหมือนคนแปลกหน้าครั้งที่สองกลายเป็นคนสนิท นี่ไม่ใช่การคบเพื่อน หลี่ฝาง นายทำตัวดีๆหน่อยนะ ไม่อยากนั้น ฉันจะตะโกน” ฉินวี่เฟยเบ้ปากพูด

“อย่านอนที่โซฟาเลย ไปนอนที่เตียงเถอะ”

หลี่ฝางหัวเราะแฮ่ๆพร้อมกล่าว

ฉินวี่เฟยมองหลี่สายด้วยสายตาที่โกรธเคือง โกรธจนตาจะถลนออกมาแล้ว

เป็นอะไร? โกรธเหรอ? หลี่ฝางยิ้มๆ

ฉินวี่เฟยกัดฟันอย่างเคืองๆ: “ทำไมนายหน้าด้านจริงๆ”

“ไม่ใช่หน้าด้าน ฉันชอบดูเวลาที่เธอโกรธ มันน่ารักดี” หลี่ฝางหัวเราะกล่าว

ฉินวี่เฟยหมดคำพูด ลุกจากโซฟา เดินเข้าไปในห้องนอน

จากนั้นก็ดังขึ้นด้วยเสียงปิดประตู หลี่ฝางก็ไปนอนแล้ว

คิดถึงห้วงเวลาเมื่อกี้ หลี่ฝางก็นอนไม่ค่อยจะหลับ……..

หลี่ฝางทนไม่ไหวแล้ว ก็เข้าไปในห้องน้ำ ตอนที่ออกมา ก็เห็นฉินวี่เฟยยืนอยู่ด้านนอกพอดี……..

“เธอมานานหรือยัง?” หลี่ฝางหันหน้ามาเห็นหน้าฉินวี่เฟยนั้น ก็สะดุ้งตกใจ

“สักพักแล้ว……..”

ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝางด้วยสายตาที่ดูแคลนเล็กน้อย: “นายทำแบบนี้เสียสุขภาพแย่เลย นายไม่รู้เหรอ?”

“แล้วจะให้ทำยังไง เธอก็ไม่ช่วยฉัน”

“นายมีแฟนไม่ใช่เหรอ?”

“เราสองคนกำลังงอนกันอยู่ ตอนนี้แล้วยังไม่มีใครมาง้อใครเลย ฉันชวนเขามาที่รีสอร์ต เขาก็ไม่ยอมมา คิดแล้วก็กลุ้ม หลังจากหลี่ฝางพูดจบ” สภาพจิตใจดูแย่ไม่น้อย

ต่อให้ฉินวี่เฟยที่สวมชุดนอนอยู่ หลี่ฝางก็ไม่มีกะจิตกะใจจะดูแล้ว ไม่มีความปรารถนาแล้ว

กลับไปที่เตียงของตัวเอง หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ออกมา ได้ส่งข้อความไปลองใจลู่หลุ่ย ข้อความได้ถูกส่งไปแล้ว

ข้อความที่หลี่ฝางส่งคือ อยู่มั้ย ผ่านไปสักครู่ ลู่หลุ่ยตอบกลับมาว่า อยู่

จากนั้นหลี่ฝางจึงได้แชทคุยกับลู่หลุ่ย ถามเธอว่าสองสามวันนี้มัวแต่ยุ่งเรื่องอะไร ลู่หลุ่ยตอบ เพื่อนรักเหมิงเหมิงเกิดเรื่องนิดหน่อย ถูกแฟนสวมเขา จากนั้นเพื่อนในหอพัก จึงรวมตัวกันไปจับชู้

สุดท้ายยังได้ทะเลาะกับชายโฉดหญิงชั่วคู่นั้นอีกด้วย สุดท้ายเรื่องไปจบลงที่สถานีตำรวจ ยังถูกกักขังไปหนึ่งวัน

“แม่งเอ๊ย!”

ได้ฟังเรื่องนี้จบ หลี่ฝางตกใจจนลุกขึ้นมาจากเตียง: “ลู่หลุ่ย เธอก็ถูกกักขังด้วยเหรอ?”

“ยี่สิบสี่ชั่วโมง ตอนนี้ออกมาแล้ว” ลู่หลุ่ยได้ใส่อิโมจิที่น่าสงสารมาด้วย

หลี่ฝางไม่อยากจะเชื่อ: “เธอก็ตบตีกับเขาเป็นด้วยเหรอ?”

“ฉันไม่ได้ร่วม ฉันยืนอยู่ข้างๆ แต่ตอนที่ตำรวจมา ได้จับตัวพวกเราไปทั้งหมด ฝั่งผู้หญิงมีเส้นสาย จึงได้ถูกกักขังไปหนึ่งวัน คิดๆดูแล้ว มันน่าโมโหจริงๆ”

หลังจากที่หลี่ฝางฟังแล้วก็พูดปลอบใจ ยังบอกอีกว่าอีกสองสามวันจะไปแก้แค้นให้เธอ

ลู่หลุ่ยพูด: “ใช่แล้ว ยังจำบัตรที่ที่นายเคยให้ฉันก่อนหน้านั้นได้หรือเปล่า? ฉันได้เอาเงินที่ติดหนี้นาย โอนเข้าไปบัตรใบนั้นหมดแล้ว”

หลี่ฝางแกล้งถามอย่างไม่รู้เรื่อง: “เธอไปหามาจากไหน เงินมากขนาดนั้น แป๊บเดียวก็หามาได้แล้ว?”

ลู่หลุ่ยพูดตามความจริง ตอนที่ไลฟ์สดเจอมหาเศรษฐีซื่อบื้อสองคน ทะเลาะกันในห้องไลฟ์สด เธอได้เงินมามากพอ จึงได้ปิดติ๊กต๊อกออกไปแล้ว

ขณะที่กำลังคุยกันอยู่ จู่ๆ ประตูของหลี่ฝางก็เปิดออก

“เธอเข้ามาได้ยังไง?” เมื่อเห็นฉินวี่เฟย หลี่ฝางสะดุ้งตกใจ

“เข้าห้องผิดเหรอ?”

หลี่ฝางถามไปคำหนึ่ง ฉินวี่เฟยส่ายหัว แล้วกล่าว: “ไม่ผิด จะมาอยู่เป็นเพื่อนนาย”

“เป็นไร นอนคนเดียวแล้วนอนไม่หลับเหรอ” หลี่ฝางยิ้มอย่างอึดอัด

“นิดหน่อย ประเด็นสำคัญคือกลัวนายจะทนไม่ไหวอีก ถึงตอนนั้น ฉันก็สามารถที่จะช่วยนายได้” ฉินวี่เฟยชี้ไปที่เป้าของหลี่ฝาง

หลี่ฝางเลียริมฝีปากตัวอง ถามฉินวี่เฟย: “ฉินวี่เฟย เธออย่ามายั่วพี่ได้ป่ะ”

“ฉันคิดดีแล้ว ก็ไม่เป็นไร ไม่ว่ายังไงเมื่อถึงเวลาฉันก็ต้องรบกวนนายอยู่ดี ให้นายแสดงละครให้พวกคุณปู่ดู”

“ของเมื่อคืน ต่างคนต่างเมาไม่รู้เรื่อง ตอนนี้หากนายต้องการ ฉันก็ถือว่าเป็นค่าตอบแทนนาย” ฉินวี่เฟยกล่าวด้วยสีหน้าที่จริงจัง

ขณะที่ฉินวี่เฟยพูดคำพูดเหล่านี้ออกมานั้น หลี่ฝางอึ้งไปเลย

หากไม่ใช่ว่าเมื่อกี้หลี่ฝางไปห้องน้ำมา ตอนนี้หลี่ฝางคงเข้าไปกอดฉินวี่เฟยแล้ว

แต่ตอนนี้ เหมือนใจอยากแต่กายไม่พร้อม

“ถึงอย่างไร การเสียสละของนายมันก็ใหญ่อยู่ ฉันรู้ เรื่องที่ฉันกับตระกูลมู่ยกเลิกงานแต่ง ตระกูลมู่ ก็จะเสียหน้า และไม่มีทางจะปล่อยนายอย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้น นายก็จะต้องวุ่นวายอีก……..”

“ก็ถือว่าชดเชยความรู้สึกผิดในใจละกัน” ฉินวี่เฟยกล่าว

หลี่ฝางหัวเราะแฮ่ๆ: “หากเธอพูดแบบนี้ ฉันคงต้องปฏิเสธจริงๆแล้ว เธอเห็นตัวเองเป็นอะไร แล้วเห็นฉันเป็นอะไร?”

“อย่างที่เธอพูด เหมือนเราสองคนกำลังทำการแลกเปลี่ยน?” หลี่ฝางมองฉินวี่เฟย ไม่รู้จะพูดยังไงดี

ฉินวี่เฟยได้ยินคำพูดเหล่านี้ สีหน้าก็ดูแย่ไปเลย

ในเวลานี้ ลู่หลุ่ยก็ได้โทรวิดีโอคอลเข้ามา…….

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท