บทที่ 305 ฉินวี่เฟยเข้าหากลางดึก
ยืนอยู่หน้าประตูวิลล่า ฉินวี่เฟยหยุดไปครู่หนึ่ง เธอไม่ใช่คนโง่ ก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าเมื่อเข้าไปในวิลล่าต้องเกิดอะไรขึ้น…….
“เป็นอะไรเหรอ?” หลี่ฝางมองฉินวี่เฟยแล้วถาม
“ไม่มีอะไร เปิดประตูเถอะ”
ฉินวี่เฟยกวาดสายตาไปโดยรอบ เห็นว่ารอบๆไม่มีคน ก็เลยรีบให้หลี่ฝางเปิดประตู เปิดประตูแล้วก็รีบเข้าไปในวิลล่าทันที
“เธอกลัวอะไรเหรอ” เมื่อเห็นภาพนี้ หลี่ฝางก็หัวเราะขึ้นมา
ภาพเมื่อกี้ มองแล้วน่ารักดี
“ยังจะกลัวอะไรได้ล่ะ? ก็กลัวคนอื่นเห็นไง ไม่ว่ายังไงฉันก็เป็นคุณหนูของตระกูลฉิน หากให้คนอื่นเห็นว่าฉันเข้ามาวิลล่าของนายกลางดึก นายจะให้ฉันแต่งกับใครได้อีก? นายก็ไม่แต่งงานกับฉันสักหน่อย” ขณะที่พูด ฉินวี่เฟยก็มองหลี่ฝางด้วยสายตาที่ต่อว่า
ฉินวี่เฟยถอดรองเท้าส้นสูงออก เปลี่ยนเป็นรองเท้าใส่อยู่บ้าน กล่าวอย่างตลึง: “บ้านนายหรูหราเกินไปเปล่า แม้แต่รองเท้าใส่อยู่บ้านยังเป็นlvรุ่นรุ่นลิมิเต็ดด้วย?”
“ฉันนึกว่ามันคือยี่ห้อลาเสียอีก” หลี่ฝางยิ้มอย่างอายๆ พูดจบ ก็ถูกฉินวี่เฟยพูดให้ประโยคหนึ่ง ช่างมีอารมณ์ขันจริงๆ
ในเวลานี้ หลี่ฝางก็ถูกฝ่ามือของตัวเอง เดินไปด้านหน้าของฉินวี่เฟย ยื่นมือไปรูดซิปตรงหลังของเธอลง
ฉินวี่เฟยที่นั่งอยู่บนโซฟา ร่างกายสั่นเล็กน้อย
เมื่อคืนฉินวี่เฟยใจกล้า ปล่อยตัว เป็นเพราะเธอดื่มเยอะเกินไป บวกกับหลี่ฝางก็มึนๆด้วย
วันนี้ ฉินวี่เฟยที่มีสติ ก็รู้สึกเขินอายไม่น้อย
นอกจากคุณหมอแล้ว ไม่มีใครเคยแตะต้องร่างกายของเธอมาก่อน
“แผลปริแล้วจริงๆด้วย” เมื่อเห็นเลือดบนผ้าพันแผล หลี่ฝางรู้สึกสงสาร
หลี่ฝางไปเอากล่องยามา เพื่อจะเป็นทำแผลให้ฉินวี่เฟยใหม่……
ระหว่างทำแผล มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกเนื้อต้องตัว หลี่ฝางที่รู้ตัว ยังหลับตาลง เมื่อฉินวี่เฟยเห็นเข้า ก็พูดอย่างคนใจกว้าง: “ช่างเถอะ นายก็มองเถอะ ยังไงร่างกายนี้ก็ให้นายแล้ว ไม่เป็นไร”
“ฉันไม่ใช่ว่าอายที่จะดู ฉันกลัวว่าเมื่อฉันดูแล้วจะอดใจไม่ไหว” หลี่ฝางหัวเราะกล่าว
“นายก็ไร้มนุษยธรรมไปป่ะ ฉันเป็นขนาดนี้แล้ว สมองนายยังคิดเรื่องอะไรอีก” ฉินวี่เฟยหัวเราะอยู่ลำคอ ว่ากล่าวตักเตือน
“เธอไม่เข้าใจหรอก ผู้ชายก็เหมือนกันหมด…….เธอสวยขนาดนี้ รูปร่างดีขนาดนี้ ผิวพรรณก็ผุดผ่อง ฉันที่เต็มไปด้วยเลือดของผู้ชาย เมื่อเห็นแล้วจะสามารถทนได้เหรอ?”
“มันก็ใช่ งั้นก็ไปจัดการเองที่ห้องน้ำเลย”
“เมื่อกลางวันคุณหมอก็ได้บอกแล้ว ว่าฉันไม่สามารถออกแรงได้”
หลังจากที่ทำแผลให้ฉินวี่เฟยแล้ว หลี่ฝางก็มองฉินวี่เฟยไปแวบหนึ่ง เห็นว่าในแววตาของเธอ มีความกลัวเล็กน้อย
หลี่ฝางก็หัวเราะขึ้นมา ย่อตัวลงคร่อมอยู่บนตัวของฉินวี่เฟย: “เธอกลัวฉันจะกินเธอมากขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อืม กลัว” ฉินวี่เฟยพยักหน้า ยอมรับ
“แล้วทำไมเมื่อคืนเธอถึงใจกล้าขนาดนั้น ทำไม เจ้าหน้าที่รัฐนั้นจุดไฟเผาได้ แต่ไม่อนุญาตให้ประชาชนจุดไฟ? หลี่ฝางมองฉินวี่เฟยอย่างหื่นกาม
“นายแหละที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ฉินวี่เฟย”กลอกตาใส่หลี่ฝาง ก็หันหน้าไปอีกฝั่ง
หันหน้าไปแล้ว ใบหน้าของฉินวี่เฟย ก็แดงขึ้นมาทันที ยังรู้สึกแสบๆร้อนๆด้วย
“ฉินวี่เฟย เธอเคยได้ยินมั้ยครั้งแรกเจอกันไม่สนิทเหมือนคนแปลกหน้า ครั้งที่สองเหมือนคนสนิท?” หลี่ฝางกล่าวอย่างมีเลศนัย
หลี่ฝางในตอนนี้ ไม่ใช่หลี่ฝางคนก่อนแล้ว ใจของเขา ยิ่งอยู่ยิ่งกล้า
บวกกับฉินวี่เฟย ตามหลี่ฝางมาที่วิลล่าอย่างง่ายดาย จริงๆแล้ว ต่อให้หลี่ฝางมีอะไรกับฉินวี่เฟยจริงๆ เธอก็คงจะทำอะไรไม่ได้
“อะไรครั้งแรกเหมือนคนแปลกหน้าครั้งที่สองกลายเป็นคนสนิท นี่ไม่ใช่การคบเพื่อน หลี่ฝาง นายทำตัวดีๆหน่อยนะ ไม่อยากนั้น ฉันจะตะโกน” ฉินวี่เฟยเบ้ปากพูด
“อย่านอนที่โซฟาเลย ไปนอนที่เตียงเถอะ”
หลี่ฝางหัวเราะแฮ่ๆพร้อมกล่าว
ฉินวี่เฟยมองหลี่สายด้วยสายตาที่โกรธเคือง โกรธจนตาจะถลนออกมาแล้ว
เป็นอะไร? โกรธเหรอ? หลี่ฝางยิ้มๆ
ฉินวี่เฟยกัดฟันอย่างเคืองๆ: “ทำไมนายหน้าด้านจริงๆ”
“ไม่ใช่หน้าด้าน ฉันชอบดูเวลาที่เธอโกรธ มันน่ารักดี” หลี่ฝางหัวเราะกล่าว
ฉินวี่เฟยหมดคำพูด ลุกจากโซฟา เดินเข้าไปในห้องนอน
จากนั้นก็ดังขึ้นด้วยเสียงปิดประตู หลี่ฝางก็ไปนอนแล้ว
คิดถึงห้วงเวลาเมื่อกี้ หลี่ฝางก็นอนไม่ค่อยจะหลับ……..
หลี่ฝางทนไม่ไหวแล้ว ก็เข้าไปในห้องน้ำ ตอนที่ออกมา ก็เห็นฉินวี่เฟยยืนอยู่ด้านนอกพอดี……..
“เธอมานานหรือยัง?” หลี่ฝางหันหน้ามาเห็นหน้าฉินวี่เฟยนั้น ก็สะดุ้งตกใจ
“สักพักแล้ว……..”
ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝางด้วยสายตาที่ดูแคลนเล็กน้อย: “นายทำแบบนี้เสียสุขภาพแย่เลย นายไม่รู้เหรอ?”
“แล้วจะให้ทำยังไง เธอก็ไม่ช่วยฉัน”
“นายมีแฟนไม่ใช่เหรอ?”
“เราสองคนกำลังงอนกันอยู่ ตอนนี้แล้วยังไม่มีใครมาง้อใครเลย ฉันชวนเขามาที่รีสอร์ต เขาก็ไม่ยอมมา คิดแล้วก็กลุ้ม หลังจากหลี่ฝางพูดจบ” สภาพจิตใจดูแย่ไม่น้อย
ต่อให้ฉินวี่เฟยที่สวมชุดนอนอยู่ หลี่ฝางก็ไม่มีกะจิตกะใจจะดูแล้ว ไม่มีความปรารถนาแล้ว
กลับไปที่เตียงของตัวเอง หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ออกมา ได้ส่งข้อความไปลองใจลู่หลุ่ย ข้อความได้ถูกส่งไปแล้ว
ข้อความที่หลี่ฝางส่งคือ อยู่มั้ย ผ่านไปสักครู่ ลู่หลุ่ยตอบกลับมาว่า อยู่
จากนั้นหลี่ฝางจึงได้แชทคุยกับลู่หลุ่ย ถามเธอว่าสองสามวันนี้มัวแต่ยุ่งเรื่องอะไร ลู่หลุ่ยตอบ เพื่อนรักเหมิงเหมิงเกิดเรื่องนิดหน่อย ถูกแฟนสวมเขา จากนั้นเพื่อนในหอพัก จึงรวมตัวกันไปจับชู้
สุดท้ายยังได้ทะเลาะกับชายโฉดหญิงชั่วคู่นั้นอีกด้วย สุดท้ายเรื่องไปจบลงที่สถานีตำรวจ ยังถูกกักขังไปหนึ่งวัน
“แม่งเอ๊ย!”
ได้ฟังเรื่องนี้จบ หลี่ฝางตกใจจนลุกขึ้นมาจากเตียง: “ลู่หลุ่ย เธอก็ถูกกักขังด้วยเหรอ?”
“ยี่สิบสี่ชั่วโมง ตอนนี้ออกมาแล้ว” ลู่หลุ่ยได้ใส่อิโมจิที่น่าสงสารมาด้วย
หลี่ฝางไม่อยากจะเชื่อ: “เธอก็ตบตีกับเขาเป็นด้วยเหรอ?”
“ฉันไม่ได้ร่วม ฉันยืนอยู่ข้างๆ แต่ตอนที่ตำรวจมา ได้จับตัวพวกเราไปทั้งหมด ฝั่งผู้หญิงมีเส้นสาย จึงได้ถูกกักขังไปหนึ่งวัน คิดๆดูแล้ว มันน่าโมโหจริงๆ”
หลังจากที่หลี่ฝางฟังแล้วก็พูดปลอบใจ ยังบอกอีกว่าอีกสองสามวันจะไปแก้แค้นให้เธอ
ลู่หลุ่ยพูด: “ใช่แล้ว ยังจำบัตรที่ที่นายเคยให้ฉันก่อนหน้านั้นได้หรือเปล่า? ฉันได้เอาเงินที่ติดหนี้นาย โอนเข้าไปบัตรใบนั้นหมดแล้ว”
หลี่ฝางแกล้งถามอย่างไม่รู้เรื่อง: “เธอไปหามาจากไหน เงินมากขนาดนั้น แป๊บเดียวก็หามาได้แล้ว?”
ลู่หลุ่ยพูดตามความจริง ตอนที่ไลฟ์สดเจอมหาเศรษฐีซื่อบื้อสองคน ทะเลาะกันในห้องไลฟ์สด เธอได้เงินมามากพอ จึงได้ปิดติ๊กต๊อกออกไปแล้ว
ขณะที่กำลังคุยกันอยู่ จู่ๆ ประตูของหลี่ฝางก็เปิดออก
“เธอเข้ามาได้ยังไง?” เมื่อเห็นฉินวี่เฟย หลี่ฝางสะดุ้งตกใจ
“เข้าห้องผิดเหรอ?”
หลี่ฝางถามไปคำหนึ่ง ฉินวี่เฟยส่ายหัว แล้วกล่าว: “ไม่ผิด จะมาอยู่เป็นเพื่อนนาย”
“เป็นไร นอนคนเดียวแล้วนอนไม่หลับเหรอ” หลี่ฝางยิ้มอย่างอึดอัด
“นิดหน่อย ประเด็นสำคัญคือกลัวนายจะทนไม่ไหวอีก ถึงตอนนั้น ฉันก็สามารถที่จะช่วยนายได้” ฉินวี่เฟยชี้ไปที่เป้าของหลี่ฝาง
หลี่ฝางเลียริมฝีปากตัวอง ถามฉินวี่เฟย: “ฉินวี่เฟย เธออย่ามายั่วพี่ได้ป่ะ”
“ฉันคิดดีแล้ว ก็ไม่เป็นไร ไม่ว่ายังไงเมื่อถึงเวลาฉันก็ต้องรบกวนนายอยู่ดี ให้นายแสดงละครให้พวกคุณปู่ดู”
“ของเมื่อคืน ต่างคนต่างเมาไม่รู้เรื่อง ตอนนี้หากนายต้องการ ฉันก็ถือว่าเป็นค่าตอบแทนนาย” ฉินวี่เฟยกล่าวด้วยสีหน้าที่จริงจัง
ขณะที่ฉินวี่เฟยพูดคำพูดเหล่านี้ออกมานั้น หลี่ฝางอึ้งไปเลย
หากไม่ใช่ว่าเมื่อกี้หลี่ฝางไปห้องน้ำมา ตอนนี้หลี่ฝางคงเข้าไปกอดฉินวี่เฟยแล้ว
แต่ตอนนี้ เหมือนใจอยากแต่กายไม่พร้อม
“ถึงอย่างไร การเสียสละของนายมันก็ใหญ่อยู่ ฉันรู้ เรื่องที่ฉันกับตระกูลมู่ยกเลิกงานแต่ง ตระกูลมู่ ก็จะเสียหน้า และไม่มีทางจะปล่อยนายอย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้น นายก็จะต้องวุ่นวายอีก……..”
“ก็ถือว่าชดเชยความรู้สึกผิดในใจละกัน” ฉินวี่เฟยกล่าว
หลี่ฝางหัวเราะแฮ่ๆ: “หากเธอพูดแบบนี้ ฉันคงต้องปฏิเสธจริงๆแล้ว เธอเห็นตัวเองเป็นอะไร แล้วเห็นฉันเป็นอะไร?”
“อย่างที่เธอพูด เหมือนเราสองคนกำลังทำการแลกเปลี่ยน?” หลี่ฝางมองฉินวี่เฟย ไม่รู้จะพูดยังไงดี
ฉินวี่เฟยได้ยินคำพูดเหล่านี้ สีหน้าก็ดูแย่ไปเลย
ในเวลานี้ ลู่หลุ่ยก็ได้โทรวิดีโอคอลเข้ามา…….