NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 306

ตอนที่ 306

บทที่ 306 ฉินวี่เฟย ใจเธอมีฉันหรือเปล่า

หลี่ฝางเห็นวิดีโอที่ลู่หลุ่ยโทรเข้ามา ตกใจจนหน้าซีด

ฉินวี่เฟยกำลังนั่งอยู่ข้างๆของตัวเอง ตัวเองจะกล้ารับสายได้อย่างไร

หากลู่หลุ่ยเห็นฉินวี่เฟยอยู่ตรงนี้ ตัวเองก็จบเห่อย่างแน่นอน

ดึกๆดื่นๆ ชายหญิงอยู่ด้วยกัน ต่อให้หลี่ฝางอธิบายจนปากแฉะ ลู่หลุ่ยก็ไม่มีทางเชื่อตัวเอง

“ใครเหรอ? ฉินวี่เฟยถามมาหนึ่งคำ ทำไม่ดึกๆดื่นๆยังมีคนโทรวิดีโอคอลมาหานายละ?”

หลี่ฝางกล่าวอย่างละอายใจ: “แฟนที่จะขอเลิกของฉันโทรมา เพิ่งจะดีกันเอง”

“ห๊า? งั้นฉันต้องหลบไปก่อนมั้ย สีหน้าของฉินวี่เฟยเปลี่ยนทันที” ขณะนั้นหันหน้าจะเดินออกไป

และในตอนนี้ ลู่หลุ่ยได้วางสายไปแล้ว

หลี่ฝางก้มหน้ามอง ที่แท้เป็นเพราะเมื่อกี้ที่เขากำลังคุยกับฉินวี่เฟยนั้น ลู่หลุ่ยได้ส่งข้อความมาสิบกว่าข้อความ แต่ตัวเองไม่ได้ตอบเลยแม้แต่ข้อความเดียว

ใจร้อน ลู่หลุ่ยก็เลยวิดีโอคอลมา……..

เห็นข้อความที่ยาวเหยียด หลี่ฝางรีบปิดเครื่อง เตรียมตัวไว้ว่าพรุ่งนี้ค่อยอธิบายกับลู่หลุ่ย บอกว่าตัวเองแบตหมด

“อย่าเพิ่งไปเลย เราคุยกันก่อน” หลี่ฝางเรียกฉินวี่เฟยกลับมา

“แล้วแฟนนายล่ะจะทำยังไง?” ฉินวี่เฟยหันหน้ามาถาม

“ฉันปิดเครื่องไปแล้ว เมื่อกี้เธอส่งข้อความมาหลายข้อความ ฉันไม่ได้ตอบ ทำได้เพียงปิดเครื่องก่อนพรุ่งนี้ค่อยอธิบายกับเธอว่าแบตหมด…….” หลี่ฝางยักไหล่ กล่าวอย่างหมดหนทาง

“ห๊า ผู้ชาย” ฉินวี่เฟยทำเสียงดูถูก

“เมื่อกี้นายพูดเองว่านายกับแฟนกำลังงอนกันอยู่ งอแงจะเลิกกัน? ผู้ชายเลว!”

“ผู้ชายที่มีชู้แอบกินนอกบ้าน ส่วนใหญ่จะบอกว่าชีวิตการแต่งงานของตัวเองไม่มีความสุข หมดเยื่อใยกับภรรยาแล้ว กำลังจะหย่า จากนั้นก็แกล้งทำเป็นน่าสงสาร แสดงท่าทางที่เจ็บปวด แล้วก็หว่านไปเรื่อย ฉันดูแล้ว นายแต่งงานแล้ว ก็จะเป็นผู้ชายแบบนั้น” ฉินวี่เฟยย่นจมูก แล้วกล่าว

ตอนนี้ ภาพลักษณ์ของหลี่ฝางที่อยู่ในใจของฉินวี่เฟย ถือว่าไม่ดีแล้ว

หลี่ฝางก็กล่าวขึ้น: “ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าจู่ๆเธอจะเปิดประตูเข้ามา?”

“กลางคืนเวลานอนนายไม่ล็อกประตูเหรอ?” ฉินวี่เฟยถามกลับไป

“ฉันที่เป็นผู้ชายแมนๆคนหนึ่ง ทำไมต้องล็อกประตู? ยังไง ฉันยังต้องกลัวเธอมาหาฉันเหรอ? ฉันอยากจนตัวสั่น” หลี่ฝางพูดอย่างหน้าด้านๆ

“พูดเพ้อเจ้ออะไรกัน……อยากพูดเหมือนว่าตัวเองนั้นน่ากินมากจะได้มั้ย น่าขยะแขยง” ฉินวี่เฟยมองบน กล่าวอย่างรังเกียจ

ฉินวี่เฟยเดินไปข้างหน้าสองก้าว แล้วนั่งลงบนเตียง

“หลี่ฝาง พูดจริงๆนะ ขอเพียงนายสามารถช่วยฉันยกเลิกงานแต่งงานของฉันกับมู่เสี่ยวไป๋ ฉันฉินวี่เฟย ก็จะติดหนี้บุญคุณนาย จริงๆก่อนหน้านี้ ฉันเคยคิดอยากจะตายด้วยซ้ำ ฉันยินดีที่จะตาย ก็ไม่อยากที่แต่งงานกับไอ้มู่เสี่ยวไป๋คนสารเลว แต่ฉันก็เห็นตัวอย่างของพี่สาวที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาฉัน นอกจากตาย ก็คือให้นายช่วยฉัน เธอว่าฉันควรจะทำยังไง?”

“ฉันทำได้เพียงเลือกนาย” ฉินวี่เฟยกล่าวอย่างไม่มีทางเลือก

“อยากพูดถึงพี่สาวเธอให้ฉันได้ยิน ยัยผู้หญิงเฉิ่มที่มองคนอื่นต่ำต้อย” หลี่ฝางแค่คิดถึงผู้หญิงอย่างฉินหยีหรันในใจก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที

“ฉันจะบอกเธอนะ งานปาร์ตี้ในคืนนี้ หากฉันไม่เห็นแก่หน้าของเธอ ฉันจัดการหล่อนไปนานแล้ว” หลี่พูดอย่างขยะแขยง

“นายอย่าโทษพี่ฉันเลย พี่ฉันไม่ใช่คนอย่างที่นายคิด หล่อนปฏิบัติต่ออื่น ดีมากทีเดียว” ฉินวี่เฟยรีบแก้ต่างให้พี่สาวตัวเอง

สายสัมพันธ์ของพี่น้อง เห็นได้ชัดว่าคำพูดของฉินวี่เฟยนั้นเข้าข้างฉินหยีหรัน

“ฟังความหมายของเธอ เหมือนพี่สาวเธอทำกับฉันแค่คนเดียว เห็นฉันขัดหูขัดตาเหรอ?” หลี่ฝางยิ่งฟันยิ่งโมโห

“เอาละ ฉันจะเล่าให้นายฟังละกันว่าทำไมพี่สาวฉันถึงเจาะจงไม่ชอบนาย จริงๆแล้ว พี่สาวฉันเห็นว่านายเป็นแฟนของฉัน…….ยังไงก็แล้วแต่ ก่อนหน้านี้พี่สาวฉันเคยมีแฟนที่จนคนหนึ่ง พี่สาวฉันเห็นการแต่งตัวของนาย ดูการพูดจาของนาย รู้สึกว่านายไม่เหมือนไฮโซ พี่สาวฉันน่ะ รู้สึกว่านายเหมือนกับแฟนเก่าของเขา”

“แล้วไง เขาเกลียดแฟนเก่าตัวเองเหรอ? ตอนแรกไม่ใช่เพราะพี่สาวเธอทิ้งผู้ชายไปหรอกเหรอ?” หลี่ฝางจี้ถามไปหนึ่งประโยค

“แม้ว่าพี่สาวฉันจะเป็นคนปล่อยมือก่อน แต่พี่สาวฉันไม่ทางเลือก อีกอย่าง ตอนที่พี่สาวฉันแต่งงาน ยังเคยหาไอ้หมอนั่น ยังได้มีความสัมพันธ์กับไอ้หมอนั่นด้วย……ตอนนั้นฉันเฝ้าอยู่ด้านนอกประตู ได้ยินเสียง”

“เหมือนว่า คืนนั้นพี่สาวฉัน ได้ให้คำสัญญากับไอ้หมอนั่นไว้ไม่น้อยเลย รวมทั้ง ต่อให้เธอต้องแต่งไปตระกูลมู่หรง ก็ไม่มีทางที่จะมีลูกกับมู่หรงฉางเฟิง ยังบอกอีกว่าหากเป็นไปได้ จะหย่ากับมู่หรงฉางเฟิง…….เมื่อถึงเวลานั้น ก็จะไปหาเขา”

“แต่ว่าก่อนแต่งงานไม่กี่วัน ไอ้หมอนั่น ก็ไม่รู้ว่ารับเงินของตระกูลสวีหรือตระกูลมู่หรงที่ส่งไป อีกอย่างยังได้แต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ผู้หญิงคนนั้น เหมือนจะเป็นคนที่ตระกูลสวีหรือตระกูลมู่หรงจัดให้ หน้าตาสวยงามทีเดียว……ก็เท่ากับว่า ความจริงแล้ว เป็นผู้ชายคนนั้น ที่หักหลังพี่สาวของฉัน”

“ดังนั้น พี่สาวฉันที่กลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิม ก็รู้สึกว่า นายกับไอ้หมอนั่น ต้องเป็นคนประเภทเดียวกัน” ฉินวี่เฟยกล่าว

“ไม่อย่างนั้น พี่สาวฉันไม่มีทางที่จะว่านายแบบนั้น ปกติ พี่สาวฉันเป็นคนที่จิตใจดีมีเมตตา ทุกปีเธอจะไปยังถิ่นทุรกันดารเพื่อไปให้ความช่วยเหลือกับเด็กๆ นำเสื้อผ้า อาหาร และเงินไปให้”

“จริงๆแล้ว พี่สาวฉันเป็นคนที่ดีมากคนหนึ่งเลยล่ะ”

หลี่ฝางก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ฉินวี่เฟยพูดนั้นเป็นความจริงหรือเปล่า แต่ว่าความตั้งใจฉินวี่เฟย หลี่ฝางนั้นเข้าใจ

ฉินวี่เฟยเพียงแค่ไม่อยากให้ตัวเองเข้าใจฉินหยีหรันผิด หลี่ฝางยิ้มเล็กน้อย แล้วกล่าว: “เอาล่ะ พี่สาวเธอเป็นคนดี พอใจยัง?”

“งั้นต่อไปหากเธอได้เจอกับพี่สาว ก็บอกเธอให้พูดจากับฉันดีๆหน่อย หรือไม่ ก็บอกเธอ ฉันนั้นเป็นคุณชายของรีสอร์ต เป็นหลานของหลี่เจียเฉิน ไม่ใช่คนจนที่ไหน อย่างนี้ เขาก็คงจะไม่เจาะจงเล่นงานฉันแล้วมั้ง?”

หลี่ฝางเม้มปาก แล้วกล่าว

หลายปีมานี้ หลี่ฝางที่ทนกับสายตาที่ดูถูกและเชิดใส่ นั้นมีมากมายเหลือเกิน

จนกระทั่งตอนนี้หากมีใครดูถูกหลี่ฝาง หลี่ฝางก็อยากที่จะตบบ้องหูเขาทันที

ฉินวี่เฟยตอบพร้อมกับพยักหน้ารับ กล่าวกับหลี่ฝางอย่างอารมณ์ดี งั้นต่อไปหากพวกนายเจอกัน ฉันจะแนะนำเธอให้รู้จักกับนายอย่างเป็นทางการ ขณะที่ฉินวี่เฟยพูด มุมปากก็ได้ยิ้มขึ้น

หลี่ฝางที่จ้องมองฉินวี่เฟย รู้สึกว่ารอยยิ้มของเธอ แฝงด้วยความเจ้าเล่ห์

“เธอจะแนะนำฉันยังไง?” หลี่ฝางถามไปคำหนึ่ง

“ก็จะบอกว่านายคือคุณชายของตระกูลหลี่ แฟนที่ฉันเลือกแล้ว” ฉินวี่เฟยกอดไปที่แขนของหลี่ฝางทันที แล้วกล่าว แบบนี้ได้มั้ย?

ฉินวี่เฟยที่กอดแขนของหลี่ฝางเอาไว้ ก็แกว่งแขนไปมา

การแกว่งนี้ ก็ทำให้ใจของหลี่ฝาง หวั่นไหวขึ้นมาทันที

เมื่ออยู่กับหลินชิงชิง หลี่ฝางมีความรู้สึกรัก ความรักที่หลี่ฝางมีต่อหลินชิงชิง ไม่ได้น้อยไปกว่าลู่หลุ่ยเท่าไรนัก

แต่กลับฉินวี่เฟย หลี่ฝางไม่ได้มีความรู้สึกรักใคร่ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หลี่ฝางไม่สามารถที่จะต้านทานการยั่วยวนของฉินวี่เฟยได้เลย บางทีอาจจะเป็นเพราะฉินวี่เฟยมีรูปร่างหน้าตาที่งดงาม

ในเวลานี้ หลี่ฝางมองฉินวี่เฟย ได้ดึงร่างของเธอเข้ามาใกล้กับตัวเอง: “ฉันถามเธอนะ วันนี้ตอนที่เธอรับมีดแทนฉัน สมองของเธอไม่ได้คิดอะไรจริงๆเหรอ?”

“ฉันลืมแล้ว” ฉินวี่เฟยส่ายหัว

หลี่ฝางรู้สึกว่า การที่สามารถรับมีดแทนใครสักคน อย่างน้อยคนคนนี้ที่อยู่ในใจของอีกฝ่าย ก็ต้องสำคัญไม่น้อย

หากในใจฉินวี่เฟยไม่ได้ชอบตัวเอง เพียงแค่ต้องการให้เรื่องนี้ เป็นเพียงข้อแลกเปลี่ยน เป็นการตอบแทนชนิดหนึ่ง ในใจหลี่ฝาง ก็พอจะเข้าใจบ้าง

ถ้าหากฉินวี่เฟยชอบตัวเองนิดหน่อย งั้นหลี่ฝางก็รู้สึกว่ามันน่าสนุกแล้ว

ขณะที่คิด หลี่ฝางตัดสินใจลองใจฉินวี่เฟย

และฉินวี่เฟยก็ไม่ได้ต่อต้าน…..

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท