บทที่ 314 ลู่หลุ่ยใจแคบ
สีหน้าส้าวส้วยเปลี่ยนไปเล็กน้อย คล้ายหนักใจ
“หากนายไม่มั่นใจ งั้นเรียกโหจื่อมาด้วย ฉันเห็นฝีมือโหจื่อไม่เลวเลย ครั้งก่อนนายไม่มา เขากับชนะเจ้าหัวแบน” หลี่ฝางเอ่ยพลางเลิกคิ้ว
หลี่ฝางรู้ว่าโหจื่อก็มาด้วย เขากำลังคุ้มครองโจวซิงฉือ แต่ยืมตัวเขาจากข้างกายโจวซิงฉือไม่นาน น่าจะไม่ใช่เรื่องยาก
วันนี้ ดาราดังหลายคนมาถึงแล้ว
ในสถานตากอากาศ ประดับโปสเตอร์ ป้ายโฆษณาของบริษัทถู่โต้วไว้เต็มไปหมด
เมื่อคืนโจวหยางยังส่งข้อความมาว่า จำนวนการดาวน์โหลดของถู่โต้วกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่แท้โจวซิงฉือ โจวเจ๋หลุน หลี่เหลียนเจ๋และดาราดังหลายคน รวมตัวกันใช้งานถู่โต้ว
การเข้าใช้งานของพวกเขา ไม่เพียงชักจูงเหล่าแฟนคลับ ยังชักจูงความสนใจของเหล่าดาราดังเข้ามา
การเป็นที่รู้จักของถู่โต้ว จึงเพิ่มขึ้นหนึ่งเท่าตัว
เพราะคนที่มีอิทธิพลเช่นพวกเขา เกรงว่าแค่พรีเซนเตอร์ ต้องสิบล้านขึ้นไป
และซูเปอร์สตาร์เช่นโจวซิงฉือ แม้จะร่ำรวย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเชื้อเชิญมาได้
เขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อบ้าน ในปีนั้น เงินที่เขาได้รับ เกรงว่าหลายภพหลายชาติล้วนใช้ไม่หมด
…
บนหน้าของส้าวส้วย เผยความดูถูกออกมา “เถ้าแก่ ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น”
“จัดการเหยสง ถือเป็นความโชคดีของผม ทำไมต้องเรียกโหจื่อ คนไร้ความสามารถนั่นด้วย”
ทันใดนั้นหลี่ฝางถูกคำพูดของส้าวส้วย ทำให้ตะลึงงัน “นายว่าโหจื่อคือ คนไร้ความสามารถ?”
“ใช่ หากไม่ใช่ไร้ความสามารถจะเป็นอะไรได้ เรื่องในสถานตากอากาศวันนั้น ผมได้ยินทั้งหมด โหจื่อเกือบเสมอกับเขา แต่เขาว่อกแว่ก โหจื่อจึงโชคดีชนะ คิดแล้วผมยังรู้สึกอายแทน” ส้าวส้วยส่ายหน้า พร้อมเอ่ยด้วยสีหน้าผิดหวัง
หลี่ฝางกลอกตามองส้าวส้วย ก่อนเอ่ยพลางเดาะลิ้น “นายแค่ไม่กี่หมัดสินะ เสี่ยวโจวคือยอดฝีมือ นายเจอคนพวกนั้น ล้วนทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นชนะถือว่าโชคช่วย หากนายเจอเสี่ยวโจว ฉันคิดว่านายอาจจะไม่ชนะ”
“อืม ผมต่อให้เขามีสองแขนสองขา ยากที่จะชนะ” ส้าวส้วยพยักหน้า
หลี่ฝางหมดคำพูด ปกติทำไมมองไม่ออกว่าส้าวส้วยคนนี้ขี้โม้ขนาดนี้
“รอฉันเจอโหจื่อ ฉันจะเอาคำพูดเมื่อกี้ของนาย บอกเขาให้หมดทุกคำ ถึงตอนนั้น เขาต้องประลองกับนายแน่ เวลานั้นนายอย่าเสียหน้าล่ะ” หลี่ฝางกล่าวยิ้มๆ
“ไม่ต้องให้เถ้าแก่พูด วันหน้าหลังเจอโหจื่อ ผมจะด่าเขาเอง เด็กคนนี้ฝีมือตก” ส้าวส้วยเอ่ย
หลี่ฝางเอ่ยตัดบทการคุยโม้ของส้าวส้วยว่า “นายอย่าเพิ่งโม้ได้ไหม เมื่อนายคิดว่าไม่ต้องให้โหจื่อช่วย งั้นนายไปกำจัดเหยสงเถอะ ทางฉันตอนนี้ไม่จำเป็นรับการคุ้มครองจากนาย”
“เถ้าแก่ เหยสงหนีไปแล้ว” ส้าวส้วยเอ่ยอย่างจนใจ
“หนีแล้ว?”
“ใช่ เมื่อคืนเขาไปจากสถานตากอากาศแล้ว” ส้าวส้วยเอ่ย “ไม่เพียงพวกเสยหง พวกสวีเถิงเฟย และพวกหยิ่นเหล่ยล้วนหนีไปหมดแล้ว”
“แม่ง ฉันยังคิดไประบายอารมณ์กับไอ้เด็กหยิ่นเหล่ยอยู่เลย”
หลี่ฝางกัดฟันอย่างโมโห
เมื่อครู่เห็นหลี่ซ่วยซ่วยดื่มเหล้าราวกับคนโง่ จนแทบเอาชีวิตตนเป็นเดิมพัน หลี่ฝางคิดทวงความยุติธรรมให้กับเขา โดยลากหยิ่นเหล่ยและพวกสวะเหล่านั้นออกมา สั่งสอนอย่างหนักสักยก!
หยิ่นเหล่ยและพวกสวะเหล่านั้น เลวทรามถึงโคตรเหง้าจริงๆ กระทั่งทำเรื่องพรรค์นั้นต่อหน้าหลี่ซ่วยซ่วย!
แม่งมันเถอะ กลับห้องทำไม่ได้หรือไง?
ต้องทำเรื่องกระทบจิตใจหลี่ซ่วยซ่วยขนาดนั้น
“ช่างเถอะ หนีไปแล้วก็ช่างมัน ยังไงวันหน้ามีโอกาส” หลี่ฝางเอ่ยอย่างจนใจ
ส้าวส้วยอืมรับคำ ยังคิดว่าเอ่ยถึงเหยสง จึงตบอกเอ่ยรับประกันว่า “วางใจเถอะครับ เถ้าแก่ เหยสงผมจะรีบกำจัดมันให้เร็วที่สุด มันคือภัยเงียบ”
เรื่องนี้ ส้าวส้วยและหลี่ฝางต่างรู้ดี
หลี่ฝางพบเจอผู้คนมามากมาย มีความกล้าหาญ ป่าเถื่อนที่สุด คือเหยสงคนนี้
กระทั่งมู่เสี่ยวไป๋ยังต้องขอโทษหลี่ฝาง แต่เหยสง กลับดูถูกสถานะของหลี่ฝาง
นี่คือเหตุผลที่หลี่ฝางหวาดกลัว
และคือเหตุผลที่ให้ส้าวส้วยรีบร้อนกำจัดเขา
เมื่อหันกลับไปยืนตรงหน้าลู่หลุ่ย เธอเอ่ยถามอย่างอยากรู้ “เกิดอะไรขึ้น ทำไมนายต้องมีบอดี้การ์ดด้วย?”
“เขาเป็นเพื่อนฉัน ไม่ใช่บอดี้การ์ด กินเที่ยวดื่มอยู่กับฉัน เลยตามติดฉันมาด้วย” หลี่ฝางเอ่ยอย่างขอไปที จะกล้าเอ่ยความจริงกับลู่หลุ่ยอย่างไร
ความจริงสถานะของหลี่ฝาง ลู่หลุ่ยคาดเดาได้เจ็ดแปดส่วน
หลี่ฝางเองก็รู้ถึงเรื่องนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างไม่คิดเปิดเผยเท่านั้น
หลี่ฝางและลู่หลุ่ยรักกัน เป็นความรักที่ใสบริสุทธิ์ ไม่คำนึงถึงฐานะครอบครัว ไม่พูดถึงความเหมาะสมของฐานะ แตกต่างจากฉินวี่เฟย
พูดแล้ว ระหว่างทางยังเจอเข้ากับฉินวี่เฟย
ฉินวี่เฟย โก่เอ๋อ เหยนเสี่ยวน่า หญิงสาวทั้งสามรวมตัวกัน ทานอาหารว่างอยู่บนถนนสายอาหารในสถานตากอากาศ
เมื่อเห็นหลี่ฝาง เหยนเสี่ยวน่าตะโกนเรียกเขา
“เพื่อนนายเหรอ?” ลู่หลุ่ยขมวดคิ้วถามขึ้น
หลี่ฝางอืมรับคำ
“ทำไมนายมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงเยอะขนาดนี้ และแต่ละคนสวยๆ ทั้งนั้น” ลู่หลุ่ยรู้สึกถึงอันตราย
พูดตามจริง หากพูดถึงหน้าตา ลู่หลุ่ยอาจชนะฉินวี่เฟยหลายส่วน แต่เทียบกับเหยนเสี่ยวน่า ลู่หลุ่ยยังดูดีกว่าหนึ่งส่วน
แต่ลู่หลุ่ยน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะเธอเกิดในครอบครัวที่ยากจน จึงมักรู้สึกว่าแตกต่างจากเหล่าคนรวย
หลี่ฝางขบคิด แต่ยังดึงมือลู่หลุ่ยเข้าไป
เพราะพวกเหยนเสี่ยวน่า ล้วนคือเพื่อนสนิทของตน
เมื่อเขาเห็นตน ยังตะโกนเรียกชื่อตน ตนเองก็ได้ยิน แม้ตนจะตกอยู่ในสภาวะที่ลำบาก ก็ควรเข้าไปทักทาย
ไม่งั้นวันหน้ากระทั่งเพื่อนไม่มีคนคบหา
บนใบหน้าลู่หลุ่ย เห็นชัดว่าไม่พอใจ เธอหวังว่าหลี่ฝางจะไม่มีเพื่อนผู้หญิง โดยเฉพาะคนที่หน้าตาดี
เมื่อนั่งลง เหยนเสี่ยวน่าเอ่ยถามอย่างเป็นมิตร “สั่งอีกชุดไหม อร่อยมากเลยนะ”
“กำลังหิวพอดี สั่งมาสองชุด” หลี่ฝางเอ่ยทักขึ้น
“ไม่ต้อง ฉันกับเหมิงเหมิงทานมาระหว่างทางแล้ว” ลู่หลุ่ยเอ่ยเสียงเบา
“เฮ้ หลี่ฝาง ไม่แนะนำหน่อยเหรอ?” เหยนเสี่ยวน่าเลิกคิ้ว ยิ้มอย่างลับลมคมใน
“ต้องแนะนำอีกเหรอ เรียกพี่สะใภ้ก็พอ” หลี่ฝางยิ้ม ก่อนชี้ไปที่เหยนเสี่ยวน่าพลางเอ่ยว่า “เธอคือเหยนเสี่ยวน่า เป็นพี่สาวของหวางเสี่ยวโก๋ โก่เอ๋อมาจากต่างเมือง เพิ่งรู้จักกัน ฉินวี่เฟยเพิ่งเจอกันเมื่อกี้ เธอรู้จักแล้ว”
ลู่หลุ่ยเพียงยิ้มบางๆ ให้ฉินวี่เฟย ส่วนโก่เอ๋อและเหยนเสี่ยวน่า กลับไม่ใส่ใจ
โก่เอ๋อที่เดิมทีเป็นมิตร ยังคิดจับมือกับลู่หลุ่ย สุดท้ายเห็นลู่หลุ่ยก้มหน้าเล่นมือถือตนเอง พลันเผยความไม่พอใจออกมา
“ทำไมต้องทำหน้าไม่พอใจ พวกเราไม่ได้แย่งแฟนเธอสักหน่อย”
โก่เอ๋อแม้จะอายุไม่มาก แต่ความคิดความอ่านกลับเป็นผู้ใหญ่ สายตาก็ร้ายกาจ เธอมองเพียงแวบเดียวรู้ความคิดของลู่หลุ่ย
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ สีหน้าของลู่หลุ่ยพลันเปลี่ยนไปดูไม่ดี ความจริงเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบตอบโต้ โมโหอย่างมาก แค่ก้มหน้าลงเล่นมือถือ เพื่อรักษาความเงียบสงบ
แน่นอนว่านี่ค่อนข้างไม่ให้เกียรติผู้อื่น
หลี่ฝางกลับไม่โทษลู่หลุ่ย ก่อนคิดในทางกลับกัน หากลู่หลุ่ยลากตนไปแนะนำกับเพื่อนผู้ชายของเธอ
หลี่ฝางคิดว่าตนต้องโมโหแน่
เพราะคู่รัก ทั้งสองฝ่ายต่างไม่อาจทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้
หลี่ฝางหากอยู่ต่อไป ทั้งสองฝ่ายอาจไม่พอใจกันมากยิ่งขึ้น จึงรีบลุกขึ้นพลางเอ่ยว่า “พวกเธอคุยกันเถอะ พวกเราขอตัวก่อน”
ขณะลุกขึ้น หลี่ฝางถือโอกาสที่ลู่หลุ่ยไม่ทันสังเกต ประกบมือ โค้งตัวขอโทษสาวสาวทั้งสามคน
เหยนเสี่ยวน่าส่ายหน้าพลางยิ้มขมขื่น “ดูไม่ออกเลยว่า นายจะกลัวเมียขนาดนี้”
“โจ๊กเย็นและเกี๊ยว มาถึงแล้ว นายทานก่อนไปเถอะ” เหยนเสี่ยวน่าเอ่ย พร้อมลุกขึ้น
“ควรไปเป็นพวกเรามากกว่า พวกเราทานเสร็จแล้ว ควรไปสถานีต่อไปแล้ว”
โก๋เอ๋อฮึคำหนึ่ง ถลึงตามองหลี่ฝางอย่างไม่พอใจ “เห็นผู้หญิงดีกว่าเพื่อน!”
หลี่ฝางพึมพำขึ้นเสียงเบาประโยคหนึ่ง “เธอก็เหมือนกันแหละ?”
หลังทั้งสามคนจากไป ลู่หลุ่ยเงยหน้าขึ้น มองหลี่ฝางอย่างโมโห “นายไม่ช่วยลดคบเพื่อนที่เป็นผู้หญิงได้ไหม หากวันหนึ่งนายคิดอะไรกับพวกเธอขึ้นมาจะทำยังไง?”
“จะเป็นไปได้ยังไง เพื่อนก็คือเพื่อน ฉันแบ่งแยกชัดเจน”
“หากวันหนึ่งเมาขึ้นมา หรือนานไปเกิดความรู้สึกล่ะ ฉันไม่อยากกลายเป็นเหมิงเหมิงอีกคน หรือมีจุดจบแบบเพื่อนนายนะ”
หลี่ฝางลูบผมของลู่หลุ่ย ก่อนเอ่ยว่า “วางใจเถอะ ฉันไม่ทำหรอก”
ทันใดนั้น ชายหญิงคู่หนึ่งเดินออกมา
“เถ้าแก่ โจ๊กเย็นสองที่”
ลู่หลุ่ยขมวดคิ้ว พร้อมดึงแขนหลี่ฝางแล้วเอ่ยว่า “ไปกันเถอะ”
“เธอกลัวพวกเขาทำไม!” หลี่ฝางเอ่ยอย่างไม่พอใจ เอ่ยจบยังมองชายหญิงหน้าไม่อายอย่างยั่วยุ