NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 347

ตอนที่ 347

บทที่347 เดทถูกพบเจอ

“อะไรนะ?”

สีหน้าหลี่ฝางตะลึงไป ดูไม่ค่อยเชื่อ

ในใจของหลี่ฝาง หลี่ต๋าคางนั้นเหมือนเป็นคนที่อยู่ยงคงกระพัน ส่วนท่านจวนนั้นถูกเรียกว่าเป็น‘มนุษย์วิเศษ’

คิดไม่ถึงว่าการร่วมมือของหลี่ต๋าคางกับท่านจวนจะถูกโจมตี ……

แล้วยังเป็นตอนที่ชีวิตพวกเขาอยู่บนจุดสูงสุดด้วย ……

ทันใดนั้น หลี่ฝางก็ขมวดคิ้ว มองหลี่ต๋าคางอย่างกังวลแล้วถาม:“งั้นศัตรูของพวกเราคือใคร?”

“จนตอนนี้พวกเขายังไม่ปรากฏตัว แต่ พ่อจะบีบบังคับพวกเขาให้โผล่ออกมาเหนือน้ำทีละคน”หลี่ต๋าคางพูดชิลๆ

หลี่ฝางขมวดคิ้วแน่นขึ้น

ไม่เปิดเผยก็ทำเอาท่านจวนกับหลี่ต๋าคางแพ้พ่าย ศัตรูนั่นน่ากลัวแค่ไหนกัน

หลี่ฝางไม่กล้าคิดต่อไป……

“ช่างเถอะ เสี่ยวฝาง ลูกออกไปก่อนไป เรื่องพวกนี้ไม่ต้องกังวล”หลี่ต๋าคางโบกมือ พูด

หลี่ฝางพยักหน้า ไม่พูดอะไรมาก

พลังของตัวเองน้อยมาก ถึงรู้ว่าศัตรูเป็นใคร กลัวว่าตัวเองจะช่วยอะไรไม่ได้

อย่างเดียวที่หลี่ฝางทำได้ บางทีอาจเป็นสร้างปัญหาให้พ่อตัวเองน้อยๆหน่อย

หลี่ฝางไปที่หน้าประตู จู่ๆหลี่ต๋าคางก็หัวเราะ พูด:“ไม่ต้องกดดันอะไร วางใจเถอะ พ่อกลับมาครั้งนี้ เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว อีกอย่าง พรุ่งนี้ไอดอลลูกบินไฟลท์เช้า คืนนี้ เขาจะกินข้าวกับลูก”

“จริงเหรอครับ?”หลี่ฝางดีใจมาก ตัวเองไม่เคยมีวันแบบนี้ ที่จะได้นั่งกินข้าวกับไอดอลของตัวเอง

หลี่ต๋าคางหัวเราะ:“ทำไม พ่อจะหลอกลูกเหรอไง?”

“ไม่แน่นอนครับ”

หลี่ฝางออกไปอย่างดีใจ กลับไปที่วิลล่าของตัวเอง เปลี่ยนชุดใหม่ แล้วแต่งตัวดีๆ

จะได้เจอไอดอลตัวเองแล้ว เวลานี้หลี่ฝางตื่นเต้นสุดๆ

ตอนจะออกไป หลี่ฝางมองเห็นฉินวี่เฟยที่นอนอยู่บนโซฟา

“ทำไมคุณอยู่นี่?”หลี่ฝางตะลึง มองฉินวี่เฟยแล้วพูด

“ฉันกลัวเอง เลยมาหาคุณ เมื่อกี๊ฉันเจอคนสองคน เหมือนพวกเขาพยายามจะทำอะไรไม่ดีต่อฉัน ก็บอดี้การ์ดสองคนที่อยู่ข้างกายมู่เสี่ยวไป๋”

ฉินวี่เฟยพูดด้วยใบหน้าหวาดกลัว

สองคนที่ฉินวี่เฟยพูด ก็คือหมาทิเบตันกับเสี่ยวโจวออย่างไม่ต้องสงสัย

คิดไม่ถึงว่า มู่เสี่ยวไป๋จะเข้าโรงพยาบาลแล้ว แต่พวกเขาสองคนยังอยู่ที่สถานตากอากาศ

มู่เสี่ยวไป๋เป็นลมนั่นจงใจ ที่เขาแกล้งเป็นลมนั้น เพราะกลัวจะถูกจับเข้าคุก

“นี่คุณจะไปไหน?”ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝางแต่งตัวดี ก็อดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัย:“เดท?”

“ไปเจอไอดอลผม”หลี่ฝางหัวเราะหึหึ

“พาฉันไปด้วยได้ไหม?ฉันก็อยากเจอเธอ……”ฉินวี่เฟยลุกขึ้นถาม

“คุณรู้ไหมไอดอลผมคือใคร?”

“เหอะเหอะ ในห้องนอนคุณ ติดไปด้วยโปสเตอร์หนังไอดอลคุณเต็มไปหมด อีกอย่างเสียงเรียกเข้าคุณ ก็เป็นเพลงประกอบไซอิ๋วกี่ เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน รักนี้เป็นนิรันดร์……”ฉินวี่เฟยหัวเราะเหอะๆ พูด:“ไอดอลคุณคือใคร เดายากจริงๆเลยเนอะ”

หลี่ฝางพยักหน้า รับปากไป ระหว่างทางยังจูงมือฉินวี่เฟยด้วย

หลี่ฝางคิดในใจ ยังไงซะลู่หลุ่ยก็ไม่อยู่ที่สถานตากอากาศ อีกอย่างตอนนี้ก็มืดแล้ว ตัวเองต้องกลัวอะไร

ใครจะไปรู้ ระหว่างทางเจอกับเหมิงเหมิง

เหมิงเหมิงเห็นหลี่ฝางกับฉินวี่เฟยจับมือกัน ก็วิ่งเข้ามา

“เหมิงเหมิง?”มองเห็นเหมิงเหมิง หลี่ฝางรีบปล่อยมือฉินวี่เฟย ในใจก็เต้นแรงมากขึ้น

ในมือของเหมิงเหมิงถือข้าวสองจาน เอามาจากโรงอาหารตอนดึก

มุมปากเหมิงเหมิงยิ้มเหอะเหอะอย่างเย็นชา สาวตาเต็มไปด้วยความดูถูก:“ไง พ่อคนคนเจ้าชู้ ครั้งนี้ถูกฉันจับได้แล้วสินะ?ดึกขนาดนี้ จูงมือกันออกมาเดินเล่น?เมื่อคืนฉันก็คิดว่าผิดปกติ แล้วยังบอกว่าโทรศัพท์ไม่มีแบต ทำไม ในโรงแรมไม่มีที่ชาร์จหรือว่าอะไร?ตอนนั้นฉันก็บอกแล้วว่าคุณต้องทำอะไรไม่ดีแล้วมีอะไรปิดบังกันแน่ ลู่หลุ่ยก็ยังบอกฉันว่า คุณไม่ใช่คนแบบนั้น เหอะเหอะ นี่ไม่ใช่ผีแล้ว นี่มันยัยจิ้งจอกที่อยู่ข้างกายคุณ”

หลี่ฝางก็คิดไม่ถึง ว่าจะถูกเหมิงเหมิงจับได้

“คุณพูดอะไรพูดให้น่าฟังหน่อยได้ไหม ……”หลี่ฝางจ้องเหมิงเหมิง โกรธเล็กน้อย

“ทำไม ฉันว่าเธอว่ายัยจิ้งจอกคุณก็ปวดใจเหรอ ……ยัยจิ้งจอก ยัยจิ้งจอก ฉันว่าเธอ แล้วยังไง”

ชี้ไปที่จมูกฉินวี่เฟย เหมิงเหมิงพูดอย่าเย็นชา:“ยัยจิ้งจอก ฉันว่าคุณไม่รู้เหรอหลี่ฝางมีแฟนแล้วหรือว่าทำเป็นไม่รู้น่ะ?”

“เหอะเหอะ วันนี้ฉันเห็นคุณพูดคุยหัวเราะกับลู่หลุ่ยอยู่เลย ฉันว่าคุณนี่หน้าด้านจังเลยนะ แย่งแฟนคนอื่น เป็นกิ๊กคนอื่นเหรอ?”

“หน้าตากลับดี แต่ไม่คิดว่าจะแพศยาขนาดนี้!”

เหมิงเหมิงพูดเสียงเย็นชามองฉินวี่เฟย:“พูดจริงๆนะ ฉันยังอยากตบคุณสักสองทีด้วย สั่งสอนยัยสำส่อนอย่างคุณแทนลู่หลุ่ยสักหน่อย”

ฉินวี่เฟยก้มหน้าลง ไม่กล้าพูดสักคำ

อาจเป็นเพราะความรู้สึกผิด เวลานี้ฉินวี่เฟยรู้สึกละอายใจสุดๆ

หลี่ฝางกลับใจเย็นมาก ยังไงก็ไม่ได้ข่มขืนบนเตียง ก็แค่จับมือกัน จะกำหนดอะไรได้?

หลี่ฝางคิด จัดเรียงคำพูด:“เหมิงเหมิง ผมรู้ว่าคุณกับลู่หลุ่ยคือเพื่อนรักกัน คุณด่าเพื่อเธอ ทวงคืนความยุติธรรมให้เธอ ทั้งหมดนี้สมควรทำ แต่อย่างน้อยคุณควรมีเหตุผลหน่อยไหม?ผมกับฉินวี่เฟยทำอะไร?ไม่ได้ทำอะไรสักนิด แค่จูงมือไหม?หรือว่านี่เรียกเรียกว่านอกใจ?”

“ดึกๆดื่นๆ คุณสองคนออกมาเดินเล่นจูงมือกัน หรือนี่บอกอะไรไม่ได้เลยเหรอ?”

“ทำไม ต้องนอนกันที่เตียงถึงจะเรียกว่านอกใจเหรอ?”เหมิงเหมิงพูดอย่างเย็นชา

“คุณจะไปรู้อะไร แล้วมาพูดไร้สาระที่นี่ ตอนกลางวัน ฉินวี่เฟยเกือบถูกคนขืนใจคุณรู้ไหม?มีเพื่อนคุณ เลี่ยวข่ายกับหวางเสี่ยวโก๋ พวกเขาก็ถูกทำร้าย เลี่ยวข่ายถูกต่อยจนฟันหักสองซี่ ส่วนเหยนเสี่ยวน่า เธอรู้สึกหวาดกลัว พวกเราเพิ่งให้ปากคำตำรวจกลับมา ส่วนนี่ ฉินวี่เฟยจะไปตามเดท กลัวว่าระหว่างทางเจอคนเลว ดังนั้นผมเลยไปกับเธอ”

“เมื่อครู่ฉินวี่เฟยกลัวตลอด ผมจึงจับมือเธอ ให้เธอรู้สึกปลอดภัยหน่อย”หลี่ฝางพยายามอธิบาย

พูดตรงๆ คำอธิบายหลี่ฝางนี้ ไร้น้ำหนักมาก แม้แต่ตัวเองก็ไม่เชื่อ

เหมิงเหมิงทำเสียงเย็นชา:“เธอกลัว ทำไมคุณไม่กอดเธอล่ะ?ทำไมต้องจูงมือล่ะ”

“เหอะเหอะ หรือว่าอีกเดี๋ยวจะกอดกัน จูบกัน แล้วก็นอนด้วยกัน ……แม่เอ๊ย ฉันคิดต่อไปไม่ไหวแล้ว หลี่ฝาง คุณน่าขยะแขยงมาก ลู่หลุ่ยเป็นผู้หญิงดีขนาดนั้น ลับหลังลู่หลุ่ยคุณ……”

“เหมิงเหมิง คุณคิดมากไปแล้วนะ?ผมแค่จูงมือ ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดมากขนาดนั้น”หลี่ฝางขมวดคิ้วแน่น

“ได้ คุณไม่ได้บอกเหรอว่าจะส่งยัยจิ้งจอกนี้ไปเดท?มา ฉันไปกับเธอเอง ตามไปดู ว่ายัยจิ้งจอกนี่ไปเดทกับใคร”เหมิงเหมิงพูดอย่างไม่เชื่อ

หลี่ฝางหมดหนทาง ได้แต่รับปากไป

ถ้าไม่รับปากไป มันจะยิ่งยุ่งยาก

หลี่ฝางมองเหมิงเหมิงในมือยังถือข้าว ถามไป:“ดึกขนาดนี้ คุณยังไม่กินข้าวอีกเหรอ”

“อย่ามาพูดไร้สาระ ฉันใกล้จะขยะแขยงคุณเต็มที่แล้ว”พูดไป เหมิงเหมิงก็เอาข้าวในมือ ทิ้งไปที่ถังขยะ

เหมิงเหมิงโมโหมาก หลี่ฝางก็ไม่พูดอะไร

ตอนนี้หลี่ฝางกังวลมาก เรื่องที่ตัวเองกับฉินวี่เฟยจูงมือเดินเล่น ถ้าลู่หลุ่ยรู้ หลี่ฝางก็ไม่รู้จะเป็นไง

ยังไงครั้งที่แล้วที่ตัวเองคุยกับฉินวี่เฟยก็ถูกเจอ ยัยนั่นก็หึง

เดินไปไม่กี่นาที เหมิงเหมิงอึดอัดเล็กน้อย พูดเสียงเย็นชา:“ทำไมยังไม่ถึงอีก?พวกคุณสองคนร่วมกันหลอกฉันใช่ไหม!”

“ใกล้ถึงแล้ว”

“โอเค ฉันจะเตือนคุณนะ หลี่ฝาง ถ้าคุณหลอกฉัน ตอนนี้ฉันจะโทรลู่หลุ่ย บอกเธอว่าคุณนอกใจ”เหมิงเหมิงพูดขู่

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ ไม่ค่อยพอใจนัก:“งั้นคุณโทรเถอะ คุณโทรติดได้ก็เอา ผมโทรหาลู่หลุ่ยทั้งวันแล้ว ก็ไม่มีคนรับ”

“ทำไม คุณโทรติดไหม?”หลี่ฝางมองเหมิงเหมิงแล้วถาม

ถ้าเหมิงเหมิงโทรติด หมายความว่าหลี่ฝางถูกบล็อกแล้ว

เหมิงเหมิงไม่พูด แต่ตามหลี่ฝางไปข้างหน้าต่อ

น่าจะเดินไปได้ประมาณห้านาที ก็มาถึงศาลาเล็กๆกลางทะเลสาบ

ทางเข้าศาลา มีชายชุดสูทสองคนยืนอยู่ น่าจะเป็นบอดี้การ์ด

หลี่ฝางหยิบบัตรตัวเองออกมา ยื่นให้พวกเขา พวกเขาจึงปล่อย

ตอนนี้เอง เหมิงเหมิงมองเห็นผู้ชายที่นั่งศาลาเล็กๆกลางทะเลสาบ ก็พูดเย้ยหยัน:“ทำไม นี่คือแฟนที่คุณนัดมาเหรอ ทำไมผมขาวล่ะ!”

“คุณคิดจะขายตัวเหรอ?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท