NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 349

ตอนที่ 349

บทที่349 คนน่าสงสารถูกบีบบังคับจนร้อนใจ

ในใจของหลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ถ้าตัวเองจน งั้นโลกใบนี้จะยังมีผู้ชายที่สูงรวยหล่ออยู่อีกไหม?

สูงหล่อไม่แน่ แต่อย่างน้อยก็ไม่มีคนรวยแล้ว

“ใช่สิ บอกคุณให้นะ ประวัติของยัยสำส่อนนั่นไม่ธรรมดา พี่ชายเธอคือหัวหน้าตำรวจ แล้วเธอก็รู้จักพวกนักเลงเยอะมาก ครั้งที่แล้วฉันไม่ได้เสียหายจากเงื้อมมือเธอ ฉันเสียหายในเงื้อมมือพี่มือชายด้วย”

พูดไป เหมิงเหมิงถอนหายใจ:“ดีที่พี่ชายเอไม่เลวเท่าไหร่ ขังพวกเราแค่วันเดียว”

“คุณหมายถึงหูเฟยเหรอ?”หลี่ฝางถาม

“ใช่ เขาก็คือพี่ชายของหูเสี่ยวน่าว”เหมิงเหมิงพยักหน้า

หลี่ฝางได้ยินก็แปลกใจ หูเฟยนี่ ไม่ใช่ข้าราชการที่ซื่อสัตย์เหรอ?

กินข้าวเสร็จ หลี่ฝางก็ตามเหมิงเหมิงมาดูหลี่ซ่วยซ่วยด้วยกัน ยืนอยู่ข้างหน้าหลี่ซ่วยซ่วย หลี่ฝางถอนหายใจ ถามว่า:“ยังไม่ฟื้นอีกเหรอ?”

“น่าจะกำลังฝันดีอยู่มั้ง เอาแต่เรียกไห่เย่น ฉันนับให้เขา เรียกไปแล้วสี่สิบกว่าคำ”เหมิงเหมิงเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม:“แม่เอ๊ย บนโลกนี้ยังมีความรักแบบนี้ด้วย”

“ผมอยู่ดูเขาเอง คุณไปนอนที่โซฟาเถอะ”หลี่ฝางนั่งลงพูด

“ไปเถอะ ฉันพูดอะไรก็ทำตามนั้น ไม่เคยพูดโม้ ในเมื่อฉันบอกจะดูแลหลี่ซ่วยซ่วย ก็จะดูแลจนเธอฟื้นมา”เหมิงเหมิงพูดอย่างเด็ดเดี่ยว

เห็นเหมิงเหมิงยืนหยัด หลี่ฝางก็ไม่พูดอะไรมาก พูดแค่ว่า:“งั้นผมไปละ”

หลี่ฝางเพิ่งไปไม่นาน เหมิงเหมิงก็ค่อยๆตามไป

จนหลี่ฝางเคาะประตูของฉินจื่อยี่ เหมิงเหมิงเห็นฉินจื่อยี่ออกมา เธอจึงพยักหน้าอย่างพอใจ กลับไปที่หน้าของหลี่ซ่วยซ่วย

“ไห่เย่น……ไห่เย่น……คุณอย่าไป!”

มองหลี่ซ่วยซ่วยที่เต็มไปด้วยคำพูดพล่อยๆ เหมิงเหมิงส่ายหน้า ถอนหายใจ:“ถ้าไอ้ระยำนั่นรักฉันได้เท่านี้ก็คงดี”

คิดถึงทุกอย่างในหลายปีนี้ที่ทำเพื่อหลิวจินหยาง เหมิงเหมิงก็รู้สึกไม่คุ้มค่า

เวลานี้ ในห้องของฉินจื่อยี่

“หลี่ฝาง ผมกำลังอยากหาคุณพอดี ได้ยินว่าน้องสาวผมเกิดเรื่องเหรอ?”

ฉินวี่เฟยเกิดเรื่องตอนนั้น ฉินจื่อยี่กับฉินหยีหรันต่างไปที่งานเลี้ยง ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

จนงานเลี้ยงจบ ฉินจื่อยี่จึงไปสอบถามดู ถึงได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้น

หลี่ฝางเอาเรื่องที่เกิด เล่าให้ฉินจื่อยี่ฟังไปรอบหนึ่ง ฉินจื่อยี่ฟังจบ ก็กัดฟันแน่น:“มู่เสี่ยวไป๋ไอ้ระยำนี่ รอเขาออกจากโรงพยาบาลก่อน ผมจะสั่งสอนเขาแรงๆสักหน่อย”

“เกรงว่าคุณจะไม่มีโอกาสแล้ว”หลี่ฝางส่ายหน้า:“รอวันที่มู่เสี่ยวไป๋ออกจากโรงพยาบาล ผมจะต้องเอาเขาติดคุกหัวโตให้ได้ ถึงตอนนั้นอยากทำร้ายเขา ก็ได้แต่ไปทำในคุก”

“เหรอ?คุณจะเอาเขาเข้าคุกจริงๆเหรอ?”ฉินจื่อยี่สงสัยหน่อยๆ:“ตอนนี้เขาคือทายาทของตระกูลมู่ ถ้าคุณเอาเขาเข้าคุกได้ คุณก็จะดัง รู้ไหม?”

“ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์”

“ในมือผมมีหลักฐาน และก็มีพยาน มู่เสี่ยวไป๋ทำเป็นว่าตัวเองป่วย หลบอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเต่าหัวหด แต่เขาไม่สามารถหลบอยู่แต่ในโรงพยาบาลได้ตลอด”หลี่ฝางพูด

ฉินจื่อยี่หัวเราะ:“มู่เสี่ยวไป๋ไม่ง่ายอย่างที่คุณคิด พูดตรงๆ ตระกูลฉินของพวกเรากับตระกูลมู่ เป็นทั้งพันธมิตร และก็เป็นทั้งศัตรู ……โดยส่วนตัวแล้ว ผมกับมู่เสี่ยวไป๋งัดข้อกันหลายครั้ง ก็แพ้เขาหมด”

“แต่ตอนนี้ดีขึ้นเยอะ เสือที่อยู่ในเงื้อมมือเขา ถูกคนจัดการไปแล้ว สำหรับผมแล้ว คือเรื่องดี”ฉินจื่อยี่หัวเราะ

“เป็นพวกเรา”หลี่ฝางแก้ไขให้

“ใช่ เป็นพวกเรา ตั้งแต่นี้ไป มู่เสี่ยวไป๋คือศัตรูของผมฉินจื่อยี่ หลี่ฝาง ต้องการอะไร คุณพูดได้เลย”

“แล้วก็ ปู่ผมเพิ่งโทรมา เขารู้เรื่องของคุณกับน้องสาวผมแล้ว ……”ฉินจื่อยี่มองหลี่ฝางถาม:“คุณดูว่าว่างเมื่อไหร่ ไปบ้านผมหน่อย?”

“เร็วขนาดนี้เชียว?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว

“พี่สาวผมบอกปู่ เมื่อกี๊ ปู่โกรธมากในสาย ถามตระกูลมู่ทำไมต้องยกเลิกงานแต่ง ……ตอนนั้นพี่สาวผมเลยพูดความจริง พูดเรื่องของพวกคุณ พอปู่ผมได้ยินตัวตนของคุณ ก็ไม่โกรธเลย เหอะเหอะ คนอย่างปู่ผม พ่อค้าหน้าเลือดเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว”

“ใกล้จะเข้าโรงอยู่แล้ว ยังจะเป็นพ่อค้าหน้าเลือดผู้เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวอีก”ฉินจื่อยี่หัวเราะเหอะเหอะ น้ำเสียงดูถูกหน่อยๆ

หลี่ฝางคิด แล้วพูด:“อีกสองสามวันละกัน สองสามวันนี้เรื่องราวมากมาย”

“โอเค กลับไปผมจะบอกปู่”

เมื่อคืนที่รวมตัวกับฉินจื่อยี่ เช้าวันถัดมา หลี่ฝางจึงไปจากสถานตากอากาศ

มาที่โรงพยาบาลเอกชน ชุนเซิงก็ถอดชุดคนไข้ ที่ตัวสวมเสื้อผ้าเก่าๆขาดๆ

“ทำไมรีบขนาดนี้?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองชุนเซิงแล้วถาม

จากบาดแผลที่ตัวของชุนเซิง อย่างน้อยก็ต้องอาทิตย์หนึ่งถึงจะลงจากเตียงได้ แต่นี่แค่สองวัน เขาก็ขอย้ายออกแล้ว

ดังนั้นหลี่ฝางจึงรีบขับรถไป อยากถามว่าเกิดอะไรขึ้น

“เจ้านาย ไม่รู้เหรอ ความสงสัยของหวางเฉินนั้นมาก ถ้าผมกลับไปอย่างดี เขาจะต้องถามนั่นถามนี่แน่ ผมพูดไม่เก่งอยู่แล้ว โกหกไม่เก่ง ถ้าถูกหวางเฉินจับได้ งั้นหน้าที่ที่คุณให้ผมทำ ได้จบแน่”

“ผมเอาบาดแผลกลับไปแบบนี้ หวางเฉินก็ไม่สงสัยแล้ว”

“พอดีเลย ผมได้ข่าวมา คืนนี้สโมสรฉังเจียงมีสาวฝรั่งหลายคน ส่วนสวีเถิงเฟยกับหวางเฉินคืนนี้ก็จะไปสโมสรฉังเจียง เสพยา สนุกกับสาวฝรั่ง”

หลี่ฝางได้ยินตรงนี้ ก็ขมวดคิ้ว:“คุณจะทำอะไร?”

“ผมอยากใช้โอกาสครั้งนี้ ช่วยคุณจัดการหวางเฉินกับสวีเถิงเฟยสองคนนั้นให้ตาย วางใจเถอะ เจ้านาย เงินผมไม่เอามากหรอก เอาตามตัวเลขเดิมได้เลย”ชุนเซิงหัวเราะไปที่หลี่ฝาง

หลี่ฝางขมวดคิ้วมองชุนเซิง:“นี่เรื่องเงินเหรอ?ท่าทางคุณ เคลื่อนไหวยังลำบาก แล้วคุณไปฆ่าคนแบบนี้ แน่ใจว่าจะไม่ถูกฆ่ากลับมาเอง?”

“ผมอยากฆ่าสวีเถิงเฟยกับหวางเฉิน แต่ไม่อยากส่งลาคุณ”หลี่ฝางกลอกตาใส่ชุนเซิงพูดว่า:“โอเค คุณอยู่ดูแลแผลที่นี่เถอะ รอเมื่อไหร่แผลดีแล้ว พวกเราค่อยหาโอกาส ให้ไอ้ระยำสองคนนั่นอยู่ต่ออีกสักวันสองวัน ไม่รีบร้อน”

ชุนเซิงส่ายหน้าพูด:“เจ้านาย ไม่ได้ ผมเพิ่งโทรหาหวางเฉิน บอกว่าอีกหนึ่งชั่วโมง จะไปหาเขา”

“แผลของผมต้องหนึ่งอาทิตย์ถึงจะดี ถึงตอนนั้นหวางเฉินก็ไม่เชื่อผมแล้ว”

“วันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุด”

ชุนเซิงมองหลี่ฝาง พูดอย่างมีหวัง:“เจ้านาย คุณให้ผมไปเถอะ”

“คุณมีแผนไหม?อาการของคุณตอนนี้ แม้แต่สวีเถิงเฟยก็ยังสู้ไม่ได้ มากไปกว่านั้นหวางเฉินก็ยังพอมีฝีมือ”หลี่ฝางขมวดคิ้ว ถามชุนเซิง

“มีครับ ผมเคยเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เข้าใจการผลิตเคมี ตอนที่พวกเขาเสพยา ผมจะใส่อะไรเพิ่มไปหน่อย ถึงตอนนั้น พวกเขาต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”ชุนเซิงพูด

“คุณแน่ใจว่าจะไม่ถูกจับได้?”หลี่ฝางยังคงไม่วางใจ

“วางใจเถอะ เจ้านาย ทุกครั้งที่ไปเอายา ก็ผมเอาทั้งนั้น หวางเฉินไม่ใช่คนที่เชื่อคนอื่นนัก แต่เชื่อผม”ใบหน้าชุนเซิงเต็มไปด้วยความมั่นใจ

“โอเค ในเมื่อคุณโทรคุยกับหวางเฉินแล้ว งั้นผมก็ยอมให้คุณไป แต่คุณจำไว้ว่า อย่าทำอะไรมั่วๆ รักษาชีวิตตัวเองดีๆ ถ้าถูกจับได้ รีบหนีออกมา”

หลี่ฝางตบไหล่ของชุนเซิง:“คุณมันคนน่าสงสาร”

“เจ้านาย คุณอย่าลืมล่ะ หลายวันก่อนผมยังอยากฆ่าคุณ อีกอย่างก็ยังมีมีดแทงไปที่แฟนคุณด้วย”ชุนเซิงเลียริมฝีปาก พูดอย่างรู้สึกขอโทษ

“คุณทำเพื่อช่วยย่าคุณนี่ ผมก็เคยจน เข้าใจความรู้สึกตอนนั้นของคุณดี ตอนที่คนเราหมดหวัง ถึงแม้ต้องเดินทางผิด ก็ต้องถูกบังคับ”

หลี่ฝางไอแห้ง หัวเราะออกมา:“พอคิดดูว่าคุณฆ่าคนเพื่อสามแสน ก็น่าตลกมาก”

“ห่าคนต้องถูกยิงเป้า คุณโง่มาก มูลค่าของคนๆหนึ่ง เทียบกับสามแสนได้ยังไง”หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ พูด

“ตอนนั้นไม่คิดอะไรมาก ถูกพวกมันหลอก”

ชุนเซิงหัวเราะเหอะเหอะอย่างเยือกเย็น:“บอกตรงๆนะ เจ้านาย ที่จริงผมไม่ใช่คนทรยศ หลายปีนี้ ถึงหวางเฉินจะดูแลผม แต่ผมคิดไม่ถึงว่า ในวินาทีสุดท้าย เขาจะขายผม”

“สวีเถิงเฟยรับปากว่าจะให้ผมสามแสน ตอนนี้ตกอยู่ในกระเป๋าของหวางเฉินแล้ว”

“นั่นมันเงินช่วยชีวิตของย่าผมเชียว เงินนี้เขาก็ยังโลภอีก ไอ้ชิงหมาเกิดนี่”ชุนเซิงพูดไป ใบหน้าก็ปรากฏความดุดัน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท