NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 375

ตอนที่ 375

บทที่375 เป็นแฟนผมเถอะ?

“เสี่ยวฝาง ทำให้ผมเถอะนะ”เสี่ยวโจวมองหลี่ฝางอย่างมีความหวัง

“ผมอยากหลุดพ้น ชีวิตในคุกถึงจะขมขื่น แต่จากฝีมือผม ได้เป็นลูกพี่ก็ไม่มีปัญหา”

“ดีจะตาย แบบนี้ ผมก็ไม่ต้องเป็นขี้ข้าให้ตระกูลมู่ ไม่ต้องฟังคำสั่งของมู่เสี่ยวไป๋”

“ที่จริง นี่ก็เป็นบันไดที่มู่เสี่ยวไป๋ให้คุณลง”

เสี่ยวโจวพูดเป็นชุด:“เสี่ยวฝาง คุณคิดดีๆเถอะ ถ้าคุณไม่ยอม มู่เสี่ยวไป๋ต้องลงมือจางกงหมิงแน่”

“ข้างกายมู่เสี่ยวไป๋ก็เหลือไม่เยอะแล้ว”หลี่ฝางไม่คิดว่ามู่เสี่ยวไป๋จะลงมือกับจางกงหมิง

เสือพิการแล้ว ตอนนี้คนที่มู่เสี่ยวไป๋ใช้ได้อยู่คนเดียว ก็เหลือแค่จางกงหมิงเอง

ถ้าเขาฆ่าจางกงหมิงตาย ยุทธภพถิ่นของเขา ใครจะไปดูแล?

หมาทิเบตันเหรอ?

ชัดเจนว่าหมาทิเบตันไม่ใช่คนที่มู่เสี่ยวไป๋ควบคุมได้

อีกอย่างตัวตนของหมาทิเบตัน จะไปเป็นนักเลงตัวเล็กๆได้ไง?

“กระต่ายเมื่อถึงตาจนยังรู้กัดคน ใจคุณต้องส่งมู่เสี่ยวไป๋ไปยังบัญชี แล้วมู่เสี่ยวไป๋จะยังสนใจยุทธภพของตัวเองที่ไหนกัน?คุณว่าไหม เสี่ยวฝาง”เสี่ยวโจวยื่นมือข้างหนึ่งไป จะหยิบบุหรี่หลี่ฝาง

ทันใดนั้น ลูกเหล็กกลมอันหนึ่งก็ลอยไปจากมือส้าวส้วย ชนไปที่กระจกรถ ลูกเหล็กกลมเฉียดหูของเสี่ยวโจวไป

เสี่ยวโจวเก็บมือไป ไม่กล้าเข้าใกล้หลี่ฝาง:“บอดี้การ์ดคุณเจ๋งมาก”

“ผมแค่จะเอาบุหรี่”เสี่ยวโจวอึดอัดใจเล็กน้อย

หลี่ฝางมองส้าวส้วยแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร

ส้าวส้วยก็ทำเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ก็แค่ระแวงมากจนประสาทเสียไปเท่านั้น

“คุณตัดสินใจแล้วจริงๆเหรอ?”หลี่ฝางพ่นบุหรี่ออก ใบหน้าไม่ค่อยโอเคนัก

ให้เสี่ยวโจวไปรับผิดแทนมู่เสี่ยวไป๋ นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่หลี่ฝางต้องการ

แต่ถ้าพูดถึงในระดับหนึ่งแล้ว กลับไม่ใช่เรื่องแย่อะไร

อย่างน้อยแบบนี้ เสี่ยวโจวก็ไม่ต้องทำอะไรให้ตระกูลมู่อีก

ก่อนหน้านี้เรื่องที่เป็นห่วงว่าเสี่ยวโจวกลายเป็นศัตรูมากที่สุด ก็จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว

“ได้ กลับไปบอกมู่เสี่ยวไป๋ ผมรับปาก”หลี่ฝางพูด

ได้ยินคำนี้ เสี่ยวโจวก็เหมือนโล่งอก ยิ้มออกมาทันที

“ขายชีวิตมาเพื่อตระกูลมู่ตั้งหลายปี ที่จริงช่วงเวลาที่ผมมีความสุขที่ดี ก็คือช่วงวันเวลาเหล่านั้นกับพี่ชิงชิง แต่ไหนแต่ไรมาพี่ชิงชิงไม่เคยเห็นผมเป็นลูกน้อง เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ดี รักษาไว้ให้ดี เสี่ยวฝาง”เสี่ยวโจวอยากตบไหล่ของหลี่ฝาง แต่พอยื่นมือไป กลับหดกลับมาทันทีด้วยความตกใจ

“แน่นอน”

หลี่ฝางพยักหน้าพูด:“ผมจะไม่ทำให้เธอเสียใจ”

ถ้าหลินชิงชิงยอมล่ะก็ หลี่ฝางจะตกลงคบกับเธอ

ลงจากรถ หลี่ฝางส่งเสี่ยวโจวออกไปเสร็จด้วยสายตา ส้าวส้วยก็เดินเข้ามา

“นี่จะปล่อยมู่เสี่ยวไป๋ไปได้ไง?”ส้าวส้วยถาม

หลี่ฝางตกใจ มองส้าวส้วยอย่างแปลกใจถามว่า:“คุณรู้ได้ไง?”

“ผมอ่านปาก ทุกคำที่พวกคุณพูดเมื่อกี๊ ถือว่าผมได้ยินหมด ที่จริงการตัดสินใจนี้สำหรับเขาแล้วไม่เลว เป็นศัตรูกับเรา มีแต่ทางตาย”

ส้าวส้วยพูดอย่างดูถูก:“ก็แค่เสียดายความพยายามของพวกเราก่อนหน้านี้ ทำไปฟรีๆ”

หลี่ฝางถอนหายใจ หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาเหยนเสี่ยวน่า

เหยนเสี่ยวน่าได้ยินโทรศัพท์นี้ ในใจก็ดีใจสุดๆ ไม่พูดว่าดีใจสิ สรุปก็คือ โล่งออก

ยังไงอำนาจของตระกูลมู่ในเมืองเอก ไม่ควรประมาทเลย ตระกูลธรรมดาๆ ใครจะกล้าขัดใจ?

ครึ่งชั่วโมงถัดมา เสี่ยวโจวก็ไปมอบตัว บุกเข้าห้องคนอื่น ทำร้ายคนอื่น

ก่อนมอบตัว เสี่ยวโจวก็โทรหาหลี่ฝาง

“เสี่ยวฝาง คุณระวังมู่เสี่ยวไป๋หน่อย ตอนผมกลับไปเจอมู่เสี่ยวไป๋ รู้สึกว่าอารมณ์เขาผิดปกติ ปกติเขาไม่ใช่แบบนี้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไร จู่ๆ ก็เงียบไปมาก ทำให้รู้สึกไม่ดีเลย”

“คุณต้องรู้ว่า คนเราพอตะโกนออกมา เขี้ยวจะต้องเผยออกมาแน่นอน คุณจึงต้องป้องกัน แต่ตอนนี้มู่เสี่ยวไป๋เงียบจนน่ากลัว ไม่แน่ในใจกำลังคิดหาทางเอาคืนคุณอยู่ก็ได้ คุณต้องระวังตัวอย่างรอบคอบนะ”

หลี่ฝางพยักหน้า ตอบอืมไป:“วางใจเถอะ เจ้าหัวแบน ผมจะหาเวลาไปเยี่ยมคุณ”

“อย่ามาเยี่ยมผม อย่ามาเยี่ยมผมเด็ดขาด ผมไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรกับคุณอีก ตอนนี้พวกเราคือคนละแก๊ง คุณมาเยี่ยมผม แม่ผมก็จะแย่ คุณเข้าใจความหมายนี้ไหม?ความหวังดีของคุณผมรับรู้แต่ไม่ต้องหรอก ร่างกายแม่ผมแย่ลงทุกวันๆ ถ้าวันหนึ่งแม่ผม……ไม่อยู่แล้วจริงๆ ผมจะไปเอาคืนตระกูลมู่กับคุณ”

“ไม่ใช่ว่าผมแช่งให้แม่ต้องตาย ก็แค่ ยาที่มู่เจิ้งถังปรุง ผลของยาแต่ละครั้งสู้กันไม่ได้เลย ก็ไม่รู้ว่ามู่เจิ้งถังทำบ้าอะไร”

“ช่างเถอะ ไม่พูดแล้ว ผมต้องเข้าไปแล้ว ผมทิ้งโทรศัพท์แล้วนะ”

เสี่ยวโจววางสาย เอาโทรศัพท์หักเป็นสองท่อน แล้วเอาโทรศัพท์ทิ้งลงถังขยะ

ตอนที่เสี่ยวโจวเข้าไปในโรงพักเพื่อมอบตัว ใบหน้ามีรอยยิ้ม โล่งอกมากๆ

จากที่วันๆติดตามมู่เสี่ยวไป๋กินแต่อาหารดีๆ ออกไปไหนก็ต้องนั่งรถหรู แต่ทุกเรื่องที่ทำ ต่างเป็นเสี่ยวโจวไม่อยากทำทั้งนั้น

ดังนั้น สำหรับเสี่ยวโจวแล้ว ชีวิตในคุกถึงจะลำบากหน่อย แต่อย่างน้อยก็อยู่อย่างอิสระ

กลับไปในห้องที่โรงแรม หลินชิงชิงถาม:“เสี่ยวโจวมาหาคุณมีอะไร?”

“พี่ เขาไปมอบตัวแล้ว”หลี่ฝางคิดๆดู แล้วจึงเอาเรื่องนี้บอกหลินชิงชิง

“มอบตัว?”

“ใช่ เขารับผิดแทนมู่เสี่ยวไป๋”หลี่ฝางพูดด้วยเสียงเบา

“เหอะเหอะ ดีมาก ก่อนหน้านี้ เสี่ยวโจวก็ไม่อยากทำงานให้ตระกูลมู่ แบบนี้ ก็ถือว่าหลุดพ้นแล้ว”หลินชิงชิงถือว่ามองออก

“คุณไม่ปวดใจ?”หลี่ฝางแปลกใจหน่อยๆ

“มีอะไรให้เสียใจ ไม่ใช่ความผิดใหญ่โตอะไร อย่างมากก็ถูกตัดสินปีครึ่ง แค่เสี่ยวโจวอยากออกมา ก็หากิจกรรมสร้างสัมพันธ์ให้เขา แค่สามถึงห้าเดือน เขาก็น่าจะออกมาได้แล้ว”

“พูดตรงๆ นี่ก็คือทางเลือกของตัวเสี่ยวโจวเอง ตอนแรกที่เขาไปจากฉัน ก็ยุ่งเหยิงมาก เขาบอกว่า จะไปอยู่กับมู่เสี่ยวไป๋ ต้องไปทำเรื่องไม่ดี”

หลี่ฝางพยักหน้า จากนั้นก็เงยมองหลินชิงชิงสักพัก:“พี่ สุดท้ายเสี่ยวโจวบอกผมว่า พี่คือเด็กผู้หญิงที่ดี ให้ผมรักษาพี่ไว้ดีๆ ……”

หลินชิงชิงได้ยินประโยคนี้ หน้าแดงทันที

“พี่โตขนาดนี้ เป็นเด็กผู้หญิงอะไรกัน”

หลินชิงชิงพูดอย่างอายๆ:“พวกเพื่อนๆของฉัน ต่างมีลูกกันหมดแล้ว”

“เหอะเหอะ พี่อยากได้ไหม อยากได้ผมช่วยได้นะ?”หลี่ฝางพูดเยาะเย้ย

“ช่างเถอะ ไม่เถียงกับพี่แล้ว คุยกับพี่เรื่องจริงจังเรื่องหนึ่ง พี่ พี่โสด ผมก็โสด พวกเรามาคบกันไหม?”หลี่ฝางมองหลินชิงชิงอย่างจริงจัง ถามว่า

“คบอะไร?”หลินชิงชิงไม่รู้ว่าไม่เข้าใจ หรือว่าทำเป็นโง่

“ระหว่างชายหญิงจะคบอะไรกันได้?ก็คบเป็นแฟนไง”หลี่ฝางถามอีกครั้ง:“คบกันไหม พี่”

“ไม่คบ คุณเพิ่งอกหัก ในใจยังเรียกหาเด็กสาวลู่หลุ่ยอยู่เลย รอเมื่อไหร่ที่คุณลืมได้ ค่อยมาถามฉันเถอะ”หลินชิงชิงหัวเราะเหอะๆ พูด

ใบหน้าของหลินชิงชิง ไม่ค่อยมีอาการเท่าไหร่

จากใบหน้าเธอ หลี่ฝางรู้สึกว่าหลินชิงชิงไม่ค่อยแคร์อะไรกับเขาเองเท่าไหร่นัก ทำให้ในใจหลี่ฝางอึดอัดหน่อยๆ

“งั้นเราสองคนแบบนี้ ถือว่าเป็นอะไรกัน?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว ถามอย่างโกรธๆ

นี่ไม่ใช่แฟนกัน แต่เคยมีอะไรกันหลายครั้ง?

นี่มันกลายเป็นอะไรกัน

“ฉันก็ไม่รู้ ถือว่าเป็นคู่นอน?ก็ถือซะว่าร่างกายฉันมีฮอร์โมน ต้องการให้คุณช่วยจัดการให้”หลินชิงชิงดูเหมือนพูดไม่แคร์นัก

หลี่ฝางส่ายหน้า ตอนที่หลินชิงชิงมีอะไรกับตัวเอง ก็ยังเก็บไว้ครั้งแรกให้

ถ้าแบบนี้ไม่รับผิดชอบ ในใจหลี่ฝางก็มักรู้สึกผิดปกติ

“อีกสักพักค่อยว่ากันเถอะ”

แต่หลี่ฝางก็คิดว่าหลินชิงชิงพูดมีเหตุผล ตัวเองเพิ่งเลิกกับลู่หลุ่ย ก็มาขอคบกับหลินชิงชิง ไม่เหมาะสมจริงๆ

แบบนี้ ก็เท่ากับว่าหลินชิงชิงเป็นตัวสำรองของตัวเอง

อีกอย่าง เพิ่งเลิกกันก็มีแฟนแล้ว ถ้าลู่หลุ่ยรู้ ลู่หลุ่ยจะคิดอย่างไร?

หลี่ฝางก็ไม่รู้ทำไม เลิกกันแล้ว ในใจยังแคร์ความรู้สึกของลู่หลุ่ย

“อือ งั้นอีกสักพักค่อยคุยละกัน อีกอย่าง พี่ไม่ชอบเด็กเมื่อวานซืน”หลินชิงชิงลูบหน้าหลี่ฝาง พูดยิ้มๆ

“โอเค คืนนี้เราต่างคนต่างนอนละกัน หลับเฉยๆ ห้ามแตะต้องกัน”

หลี่ฝางได้ยิน ในใจก็โมโห

พอมาในผ้าห่ม หลี่ฝางเอาหมอนสองใบ วางไว้ตรงกลาง กั้นกับหลินชิงชิงไว้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท