บทที่ 370 ใช่แล้วเป็นฉันที่ผิด
ครั้งนี้ที่หลี่ฝางออกมา ลู่หลุ่ยไม่ได้วิ่งตามออกมาเหมือนครั้งที่แล้ว
เมื่อลู่หลุ่ยมองเงาหลังของหลี่ฝาง น้ำตาก็ไหลออกมา แต่บนหน้าของเธอ กลับนิ่งมากๆ
สิ่งที่ควรจะอธิบาย เธอก็อธิบายไปหมดแล้ว ส่วนที่หลี่ฝางตัดสินใจ เธอก็ทำอะไรไม่ได้
“ฉันผิดด้วยเหรอ? ฉันผิดจริงๆ เหรอ?”
น้ำตาแต่ละหยดๆ หยดลงบนผ้าปูที่นอน ลู่หลุ่ยเอาแต่ตั้งคำถามกับตัวเอง
“ฉันทำผิดอะไร?” ผ่านไปสักพัก ลู่หลุ่ยก็ร้องโฮออกมา
ในใจของลู่หลุ่ย รับไม่ได้เล็กน้อย เธอเคยเห็นหลี่ฝางอยู่กับหลินชิงชิงตั้งหลายที แม้แต่วันนี้หลินชิงชิงก็ชี้หน้าลู่หลุ่ย แล้วบอกว่าเธอไม่คู่ควร และถูกหลี่ฝางโอบ ลู่หลุ่ยก็สังเกตเห็นเช่นกัน……
หลี่ฝางกับหลินชิงชิง ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่พี่หญิงกับน้องชาย
แต่ว่า ลู่หลุ่ยก็ไม่ได้พูดอะไร และก็ไม่เคยตั้งคำถามกับหลี่ฝาง และก็ไม่เคยบอกให้หลี่ฝางออกอย่างจากหลินชิงชิง……
ในตอนนี้ เฉินเสี้ยวก็โทรมาไม่หยุด สุดท้าย ลู่หลุ่ยก็กดรับสาย และพูด: “เฉินเสี้ยว ฉันไม่เป็นไร”
“จากนี้นายไม่ต้องโทรมาหาฉันแล้วนะ ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย มีความสัมพันธ์ที่ใสใสแบบเพื่อนที่ไหนกัน” ลู่หลุ่ยหัวเราะเหอะๆ และวางสายไป
จากนั้นก็กดบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของเฉินเสี้ยว
เฉินเสี้ยวอีกฝ่าย ก็งง ใบหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวัง
หลังจากหลี่ฝางออกมาจากโรงพยาบาล และขึ้นไปบนรถ ก็ตบไปที่พวงมาลัยอย่างแรงหนึ่งที
“เลิกกันแล้ว?” หลินชิงชิงพูดหยั่งเชิงเสียงเบา
“พี่รู้ได้ไง?” หลี่ฝางเอียงหน้าไปมองหลินชิงชิง
หลินชิงชิงหัวเราะเหอะๆ : “ถ้าไม่เลิกกัน ทำไมนายจะต้องตบพวงมาลัยด้วยล่ะ? หล่อนอธิบายกับนายว่าไง?”
“ตอนที่พ่อของลู่หลุ่ยไม่สบาย ผมเป็นคนออกค่ายาให้ ตระกูลเธอติดหนี้อยู่ก้อน ผมก็ช่วยเธอใช้หนี้……เพราะงั้น เพื่อที่จะคืนเงินผม เธอจึงไปไลฟ์สด แล้วไอ้เฉียนเฟิง ก็คือคนที่เข้ามาดูเธอไลฟ์และกดให้ของขวัญ มันกดของขวัญให้ลู่หลุ่ยเป็นล้าน ลู่หลุ่ยจึงตกลงส่วนตัวกับมัน ว่าจะไปเดทกับมันสองวัน แน่นอนว่า ในสองวันนี้ ทั้งสองจะไม่ถูกเนื้อต้องตัวกัน”
“ลู่หลุ่ยก็ยังป้องกันตัวจากเฉียนเฟิง ในกระเป๋ามีสเปรย์พริกไทย รอบข้างก็เรียกเพื่อนมา เผื่อฉุกเฉิน” หลี่ฝางพูดกับหลินชิงชิง
“ที่น่าโมโหสุดๆ ก็คือ เพื่อนที่ลู่หลุ่ยเรียกมา คือคนที่เคยจีบเธอ ผมยังเคยทะเลาะกับไอ้หมอนั่น จนหัวแตกด้วย” หลี่ฝางพูด พลางแสดงให้เห็นถึงสีหน้าโมโห
หลังจากที่หลินชิงชิงได้ฟัง ก็หัวเราะ: “ที่จริงแล้วฉันว่า เรื่องนี้ ไม่จำเป็นจะต้องเลิกกันเลยนี่น่า”
“อย่างแรก ลู่หลุ่ยผิดอะไร? เธอก็แค่ไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่นสองวันไม่ใช่เหรอ? ฉันรู้ ว่ามันเกินไป ผู้ชายตรงๆ แบบนาย ต้องรับไม่ได้แน่ๆ แต่ว่า นายเคยคิดมั้ย? ว่าทำไมเธอถึงต้องทำแบบนี้ นั่นก็เพราะว่าเธออยากคืนเงินนายไม่ใช่หรือไง?”
“ฉันได้ยินนายพูด ที่บ้านของลู่หลุ่ยค่อนข้างยากจน และคนที่เกิดในสภาพแวดล้อมอย่างนั้น ส่วนมากจะน้อยเนื้อต่ำใจ นายมีเงินเยอะ เป็นถึงคุณชายตระกูลหลี่ เงินไม่กี่แสนหรือแม้แต่เงินเป็นล้านๆ สำหรับนายแล้ว ก็แค่เศษเงิน แต่สำหรับคนฐานะอย่างลู่หลุ่ยล่ะ นั้นคือเงินที่ทั้งชีวิตนี้ยากที่จะหามาได้นะ”
“หล่อนอยากจะคืนเงินนาย ไม่ผิด แค่วิธีหาเงิน นายรับไม่ได้แค่นั้น”
“ถือว่าโกหกแต่เจตนาดี ถึงแม้หล่อนจะโกหกนาย แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายนาย” หลินชิงชิงพูด
“ยังไม่ถือว่าทำร้าย? หล่อนไปกินเหล้ากับผู้ชายคนอื่นนะ!” หลี่ฝางพูดพลางขมวดคิ้ว
“กินเหล้าแล้วยังไง? พวกคนที่วิ่งขายของ ไม่ดื่มเหล้าเป็นเพื่อนแขก? แถมยังขึ้นเตียงเป็นเพื่อนแขกด้วยนะ ขอแค่ลู่หลุ่ยไร้มลทิน ไม่ได้ทำอะไรเกินเลย งั้นเธอก็ไม่ได้ทำอะไรผิดต่อนายนี่”
หลี่ฝางพูดอย่างโกรธๆ เล็กน้อย: “ถ้าตามที่พี่พูด งั้นผมก็ควรจะขอโทษหล่อนสินะ?”
“ขอโทษนั่นไม่จำเป็นหรอก แค่แต่ละคนก็มีมุมที่ยากลำบากของตัวเองเหมือนกัน ลู่หลุ่ยผู้หญิงคนนี้ พูดตามตรง ก็ถือว่าเป็นคนดีนะ เธอไม่ได้เห็นแก่เงินของนาย นั่นก็แสดงว่าจิตใจของเธอยังใสซื่อ และดีอยู่”
“เธอดึงดันจะคืนเงินนาย เพราะไม่อยากติดหนี้นาย เธอน้อยเนื้อต่ำใจ รู้สึกว่าติดเงินนาย หลังจากนี้ต่อหน้านายไม่ว่าจะทำอะไร ก็ไม่กล้าสู้หน้า ไม่ต้องพูดถึงหลังจากนี้ถ้าพวกนายทะเลาะกัน บอกเลิกนายก็คงจะยาก”
“พูดไปพูดมา จะคบใครก็คบคนที่ฐานะใกล้เคียงกันดีกว่า”
“ไม่งั้นนะ ปัญหาเยอะ”
หลินชิงชิงพูดจบ ก็ยังพูดอย่างพูดอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย: “มีเวลาฉันก็น่าจะไปขอโทษหล่อนหน่อย ที่สโมสรเจียงหนานฉันไม่ควรว่าหล่อนแบบนั้น”
“พี่ ทำไมพี่ต้องพูดแทนเธอด้วยเหนี่ย? ผมเป็นน้องพี่นะ ตอนนี้น้องชายลำบากใจ น้อยใจจะตายแล้วเหนี่ย พี่กลับพูดแทนหล่อน แฟนของผม แอบไปเดทกับผู้ชายลับหลังผม เธอทำถูกเหรอ?” หลี่ฝางยอมใจ
“พวกนายไม่ผิด ที่นายโกรธมันก็ควรแล้ว อีกอย่างนายก็มีสิทธิ์ที่จะโกรธ ก็เหมือนกับครอบครัว ภรรยาออกไปวิ่งขายของ ถูกคนอื่นยัดเยียดเหล้าให้กิน ก็ทำได้แค่กดกลั้นความโกรธไว้ไม่ใช่หรือไง? ผู้ชายพวกนั้น ก็น้อยใจ และก็โมโห เขาแค่ไม่สามารถแสดงออกมาได้”
“เสี่ยวฝาง นายกับพวกเรา อยู่กันคนละโลก”
“นายคือคุณชาย ส่วนฉันกับลู่หลุ่ย ก็แค่คนธรรมดา” หลินชิงชิงมองหลี่ฝาง และพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
หลี่ฝางทำปากยุ่ย ไม่พูดไม่จา
หรือจะพูด หลี่ฝางก็พูดไม่ออก
หลี่ฝางรู้แค่ว่าโกรธ รู้แค่โมโห แต่ว่า บนร่างของลู่หลุ่ย ทำหายนะอะไรเอาไว้?
กลับกัน ถ้าพูดถึงการหักหลัง เป็นตนเองที่หักหลัง?
หลี่ฝางเขย่าหัว พยายามไม่คิดเรื่องนี้: “พี่ ไปดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยได้มั้ย?”
“ในหัวผมยุ่งเหยิงไปหมด อยากจะดื่มให้เมา จากนั้นอะไรก็ไม่ต้องคิดแล้ว” หลี่ฝางมองหลินชิงชิงอย่างอ้อนวอน
หลินชิงชิงพยักหน้า: “ไม่มีปัญหา ก็แค่ ลู่หลุ่ยเป็นเด็กดี ฉันหวังว่านายจะดูแลเธอให้ดี”
“จะให้พูด เมื่อกี้ผมเพิ่งบอกเลิกกับเธอไป จะให้ผมวิ่งลงรถไป แล้วพูดกับเธอว่า ผมผิดไปแล้ว ผมขอถอนคำพูด ไม่เลิกแล้ว……นั่นก็ขายหน้าไปหน่อยมั้ย?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว แบบทำไม่ได้
“ผู้ร้ายกลับใจ นายเคยได้ยินคำนี้มั้ย?”
“แล้วก็นะ ต่อหน้าผู้หญิงที่ตัวเองรัก จะต้องวางท่าเพื่อ? นายไม่เห็นในโซเชี่ยลเหรอ ตอนนี้ผู้ชายตั้งหลายคนคุกเข่าบนคีย์บอร์ด คุกเข่าบนกระดานซักผ้า คุกเข่าบนเปลือกทุเรียน นายว่า พวกเขาน่าขายหน้าเหรอ?” หลินชิงชิงมองบนใส่หลี่ฝาง
หลี่ฝางอยากพูด
แต่หลี่ฝางไม่ได้พูด
หลี่ฝางไม่อยากต่อปากต่อคำกับหลินชิงชิง เขาเหยียบคันเร่ง และไปที่ร้านอาหารแห่งนึง แล้วเดินเข้าร้านไป
เมื่อเข้ามา หลี่ฝางก็เอ่ยปาก: “เถ้าแก่ ขอเบียร์สี่ลัง”
“มากันกี่คนครับ?”
หลี่ฝางพูดอย่างไม่สบอารมณ์: “นับไม่เป็นเหรอ?”
“พวกเธอแค่สองคนเหรอ? พวกเธอสองคนจะดื่มเบียร์เยอะขนาดนั้นหมดเหรอ?” เจ้าของร้านหัวเราะ
หลินชิงชิงเดินเข้าไป และควักเงินก้อนนึงออกมา วางลงบนเคาน์เตอร์: “เถ้าแก่ รีบเอามาเถอะ ดื่มไม่หมด พวกเราก็ไม่คืนหรอก”
“ดีนี่”
เจ้าของร้านฉีกยิ้ม: “งั้นพวกเธอจะสั่งอะไรทานกันดี?”
“เธอสั่งเถอะ”
หลี่ฝางพูดกับหลินชิงชิงจบ ตนก็ไปหาที่นั่ง
หลินชิงชิงสั่งอาหาร หลี่ฝางก็ดื่มหมดไปสองขวดแล้ว หลี่ฝางขมวดคิ้ว ท้องรู้สึกไม่ค่อยสบาย: “พี่ ดื่มเหล้าขาวมั้ย?”
“ฉันยังไงก็ได้ ตามใจนาย” หลินชิงชิงพูดอย่างไม่สนใจ
หลี่ฝางพูดกับเจ้าของร้าน ว่าขอเหล้าขาวสองขวด
“แม่งเอ๊ย เข้มจริงๆ”
ดื่มไปหนึ่งอึก หัวของหลี่ฝางก็เริ่มหมุน: “เบียร์ขมเกินไป จิตใจผมนี่ ขมขื่นมาตั้งแต่แรกแล้ว รับอะไรขมๆ ไม่ไหวแล้ว”
“เหล้าขาวดีกว่าเยอะ”
หลี่ฝางดื่มเข้าไปอีกอึก ร้อนผ่าวจนน้ำตาเขาไหลออกมาเลย
ที่จริงแล้ว หลี่ฝางก็แยกไม่ออก ว่าน้ำตาที่ไหลออกมา มันไหลเพราะเหล้าเข้ม หรือว่าในใจนั้นเจ็บปวด ถึงได้ไหลออกมา
“เห้อ” หลินชิงชิงถอนหายใจ แล้วยิ้มอ่อน: “ไหนพูดสิคนอกหักอย่างพวกนาย ทำไมถึงชอบดื่มเหล้าจนเสียสติกันนักนะ”
“ผมก็แค่อยากกินเหล้าแค่นั้น ไม่ได้เสียสติสักหน่อย” หลี่ฝางพูดแก้
“ไม่เหมือนกันเหรอ? ดื่มเหล้าเมา แล้วก็เสียสติ” หลินชิงชิงหัวเราะ
“พี่ พี่เคยอกหักมั้ย?” หลังจากที่หลี่ฝางดื่มเข้าไปอีกหนึ่งอึกใหญ่ๆ เขาก็ถามอย่างมึนๆ
“ไม่เคย ผู้หญิงสวยอย่างพี่ ผู้ชายคนไหนจะทิ้งลง” หลินชิงชิงหัวเราะ แล้วก็แอบเติมน้ำเปล่า ลงไปในแก้วของหลี่ฝาง
และในตอนนั้น ด้านนอกร้านก็มีเสียงรถสปอร์ตดังขึ้น
“ที่ซอมซ่อแบบนี้ ยังมีรถหรูแบบนี้ด้วยเหรอ?” หลินชิงชิงยิ้ม