NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 373

ตอนที่ 373

บทที่373 ความสงสัยของหลินชิงชิง

มองLamborghiniที่ระเบิดอยู่ที่เดิม คนที่อยู่ในห้อง ต่างช็อกสุดขีด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบหน้าของหูเสี่ยวน่าวกับหลิวจินหยาง เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ส่วนไอ้รองทรงและคนอื่นๆ ที่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความสุขบนความทุกข์คนอื่น

หลิวจินหยางตะโกนอย่างสุดกำลังไป ก็ดิ้นรนอย่างสุดกำลังไปด้วย

ต้องพูดว่า แรงของหลิวจินหยางนี้ เยอะมากจริงๆ สามคนกดเขาไว้ ก็เกือบทำให้เขาพลิกตัวขึ้นมาได้

“กดไว้แน่นๆให้ผม!”ไอ้รองทรงพูดอย่างเย็นชา

จากนั้น ทั้งสามก็เพิ่มแรงไป สองคนจับแขน อีกคนนั่งบนขาของหลิวจินหยาง

ส้าวส้วยแสยะยิ้ม มองไอ้รองทรง:“ทำไม ยังไม่ลงมืออีกเหรอ?หรือจะให้ผมใช้หูของคุณ สาธิตให้คุณดูสักครั้ง?”

ไอ้รองทรงส่ายหน้าแรงๆ:“พี่ใหญ่ เมื่อก่อนผมเคยฆ่าหมู ตัดหูสำหรับผมแล้ว เป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องสอน หึหึ”

ที่หัวของไอ้รองทรง ตอนนี้โล้นเรียบ

เมื่อกี๊ไอ้รองทรงลูบดู เกือบจะตกใจแทบตาย

นี่มันเป็นการใช้มีดอย่างไรกัน แค่ทำลายผม แต่กลับไม่ได้สร้างความรุนแรงอะไรสักนิดต่อตัวเอง

ไอ้รองทรงรู้ว่า ส้าวส้วยตรงหน้านี้ จะต้องเป็นคนที่ใช้มีดได้ชำนาญแน่นอน

และยังเป็นคนโหดเหี้ยมในยุทธภพคนหนึ่ง

เผชิญหน้ากับคนโหดเหี้ยมเช่นนี้ ไอ้รองทรง ได้แต่ทำตามที่เขาพูดอย่างเชื่อฟัง。

ถ้าคนโหดโกรธขึ้นมา งั้นผลลัพธ์ ……

ไอ้รองทรงไม่อยากจะคิดต่อป……

“ภรรยา ภรรยา”หลิวจินหยางตะโกนไปที่หูเสี่ยวน่าว:“ช่วยผมด้วย ภรรยา”

หลิวจินหยางในตอนนี้ น่าสงสารมาก

หูเสี่ยวน่าวปวดใจทันที เธอพูดกับไอ้รองทรง:“พี่เลี่ยง พี่อย่าทำอะไรมั่วๆสิ ถ้าพี่กล้าทำอะไรมั่วๆ ฉันจะ ……”

“ฉันจะโทรหาพี่ชายฉัน”หูเสี่ยวน่าวใช้ท่าไม้ตายของตัวเองออกมา

“เสี่ยวน่าว หมายความว่าไง หลายปีมานี้ ผมตามล้างตามเช็ดให้คุณตั้งมากมาย ตอนนี้คุณกลับจะให้พี่ชายคุณมาจัดการผมเหรอ?เหอะเหอะ ได้ โทรหาเขาสิ ผมจะได้บอกเขาด้วย หลายปีมานี้น้องสาวของเขา ทำเรื่องร้ายแรงอำมหิตตั้งมากมาย”

“หูเสี่ยวน่าว พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ถ้าผมถูกพี่ชายคุณจับ คุณก็ต้องตามเข้าไปด้วย”ไอ้รองทรงหัวเราะอย่างเย็นชา พูดอย่างดูถูก

หูเสี่ยวน่าว จู่ๆก็ตกใจไม่กล้าพูดอีก

เดิมที ไอ้รองทรงทำงานที่โรงฆ่าสัตว์ เป็นคนขายเนื้อธรรมดาๆ

แค่โอกาสบังเอิญครั้งหนึ่ง ไอ้รองทรงรู้จักหูเสี่ยวน่าว แล้วก็มีอะไรกัน

จากนั้น ไอ้รองทรงก็พึ่งพาหูเสี่ยวน่าว จึงรู้จักคอนเนคชั่นมากมาย

ในคุก ต่างมีการค้าขายพวกเนื้อ และเนื้อในตลาด สูงถึงห้าร้อยกรัมละเจ็ดแปดหยวน แต่ไอ้รองทรง กลับเสนอให้พวกเขาห้าร้อยกรัมสามถึงสี่หยวน

หนึ่งในนั้น ในทุกห้าร้อยกรัม ไอ้รองทรงก็ยังหาเงินได้ไม่น้อย

หูเสี่ยวน่าวใช้สถานะของพี่ชายเธอ ไปแอบอ้างต้มตุ๋นข้างนอกกับไอ้รองทรง ก็ทำเงินได้ไม่น้อย

ไอ้รองทรงใช้สมอง หูเสี่ยวน่าวใช้อิทธิพล ร่วมมือกันไปโดยปริยาย

จนกระทั่งว่า หลายปีนี้ ไอ้รองทรงทำเรื่องยา ส่วนหูเสี่ยวน่าว ก็ช่วยเรื่องขนส่ง

เรื่องอื่นๆต่างเป็นเรื่องเล็ก แต่เรื่องนี้ถ้าเผยออกมา งั้นหูเสี่ยวน่าว ก็เกรงว่าจะเกิดปัญหาใหญ่โต

ถึงพี่ชายเธอหูเฟยก็ช่วยเธอไม่ได้

เขาสองคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว หูเสี่ยวน่าวจะไปกล้าฟ้องไอ้รองทรงได้ไง?

มองหูเสี่ยวน่าว ไอ้รองทรงก็หัวเราะเหอะๆ:“ทำไม หรือว่าลืมเบอร์โทรพี่ชายคุณแล้ว?ให้ผมส่งให้คุณไหมล่ะ?”

“เมื่อก่อนตอนที่พวกเราคบกัน พวกเราทิ้งช่องทางติดต่อไว้”

ได้ยินคำนี้ สีหน้าหลิวจินหยางที่นอนอยู่ที่พื้นก็หม่นลง:“พวกคุณ……แม่เอ๊ย หูเสี่ยวน่าว คุณไม่ได้บอกเหรอพี่เลี่ยงเป็นพี่บุญธรรมคุณน่ะ?”

“นั่นเป็นเรื่องเมื่อหลายปีแล้ว คุณยังจะพูดถึงอีกเหรอ”หูเสี่ยวน่าวกลอกตาใส่ไอ้รองทรงอย่างเย็นชา โกรธจนกระทืบเท้า

ไอ้รองทรงยิ้มอย่างร้ายกาจ พอเขามีเงิน ก็ไม่สนหูเสี่ยวน่าวอีก จากนั้นทั้งสองก็เลิกกันด้วยดี หาเงินร่วมกันและแบ่งกัน

แต่บางครั้ง ไอ้รองทรงเหงา ก็จะระบายใส่หูเสี่ยวน่าว

ก็เหมือนกับเมื่อหลายวันก่อนที่แบ่งเงิน ทั้งสองก็ทำไปรอบหนึ่ง

“เมื่อก่อนคุณสองคนเป็นคู่รักกันนี่เอง ถึงว่าวันนั้นคุณสองคนอยู่ในห้อง ไม่ออกมาตั้งนาน ……ห่าเอ๊ย คุณสองคน ……”หลิวจินหยางเข้าใจทันที จากนั้นสีหน้าก็ดูดุร้ายขึ้นมา

“ใช่ พวกเราสองคนทำกัน”

ไอ้รองทรงตบหน้าหลิวจินหยาง พูดว่า:“คุณคิดว่าเธอรักคุณจริงเหรอ”

“เสี่ยวน่าวก็แค่รู้สึกโลภที่คุณมีLamborghini ตอนนี้Lamborghiniก็ระเบิดแล้ว คุณจะเหลืออะไรอีก?ใบหน้าคุณนี้ คุณคิดว่าหล่อมากเหรอ”

“ใช่ แต่หล่อกว่าผมเล็กน้อย แต่แป๊บเดียว คุณก็จะหล่อน้อยกว่าผมแล้ว”

ไอ้รองทรงหัวเราะอย่างร้ายกาจ:“ไม่มีLamborghini สำหรับผมในที่นี้แล้ว คุณก็ไม่มีประโยชน์อีก”

พูดจบ ไอ้รองทรงลูบไปที่ใบหน้าของหลิวจินหยาง

“คุณ ไอ้สารเลว!”หลิวจินหยางจ้องไอ้รองทรงเขม็ง:“คุณ……”

“คุณนี่มันยังไงกัน?แม่เอ๊ย ถึงผมกับเสี่ยวน่าวเลิกกันแล้ว ก็ไม่ถึงมือคนกระจอกอย่างคุณหรอกที่จะมารับช่วงต่อ”ไอ้รองทรงพูดอย่างดูถูก:“คุณคิดว่าคุณเป็นใคร แค่มีLamborghini ก็คิดว่าตัวเองเป็นคุณชาย?”

“พอแล้วน่า อย่าเหลวไหลให้มากนัก ตำรวจจะมาอยู่แล้ว รีบลงมือ”ส้าวส้วยเร่งอยู่ข้างๆ

“ครับ พี่ใหญ่”ไอ้รองทรงพยักหน้า จากนั้นเอามีดหั่นลงไป

หลิวจินหยางก็ร้องอย่างสุดชีวิต

เขาเจ็บเจียนตาย

“พี่ใหญ่ คุณจะกินยำหูจริงๆเหรอ?”ในมือไอ้รองทรงถือหูของหลิวจินหยาง แล้วถาม

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะๆ:“คุณว่าไง?”

จากนั้น ส้าวส้วยหันหน้าไป กอดหลี่ฝางในอ้อมแขน

“โอเค เสียงระเบิดเดี๋ยวก็จะเรียกตำรวจมา ร้านอาหารผิดก่อนละกัน”ส้าวส้วยพูดไป ก็เอาบัตรออกมาจากกระเป๋า:“ในนี้มีเงินสองหมื่น ถือว่าเป็นรายได้ของร้านคืนนี้”

“จำไว้ว่า อย่าคิดอุบายกับเงินนี้ เข้าใจไหม?”ส้าวส้วยเตือนไอ้รองทรง

ไอ้รองทรงพยักหน้า มองส้าวส้วย:“พี่ใหญ่ เงินของคุณ ผมจะกล้าแตะต้องได้ไง”

“ร้านนี้ จำไว้ว่าลบกล้องวงจรปิดซะ คุณก็ไม่อยากให้เกิดปัญหา ใช่ไหม?”ส้าวส้วยมองเจ้าของร้าน

“ใช่ใช่ใช่”เจ้าของร้านเอาบัตรเอทีเอ็มไว้ในมือ:“รหัส?”

“ด้านหลังเขียนอยู่น่ะ”ส้าวส้วยพูดจบ ก็ออกไปจากร้านอาหาร

“แม่เอ๊ย ถือว่าคุณโชคดี คืนนี้ได้ตั้งสามหมื่น เดือนหนึ่งเกรงว่าคุณยังได้ไม่ถึงเท่านี้เลยมั้ง!”ไอ้รองทรงมองเจ้าของร้านอย่างอิจฉา

“หึหึ”เจ้าของร้านหัวเราะออกมาอย่างโง่เง่า

“โอเค ไม่ต้องหัวเราะแล้ว ไปหลังครัวทำอาหารดีๆมาให้ผมหน่อย จากนั้นก็ให้ภรรยาคุณ พันแผลให้เจ้าเด็กนี่”ไอ้รองทรงพูดกับเจ้าของร้านเสร็จ ก็ลุกขึ้นล็อกประตูร้านอาหารจากด้านใน

“อีกเดี๋ยว ใครเรียกก็อย่าเปิดล่ะ”ไอ้รองทรงพูด

หูเสี่ยวน่าวสงสารหลิวจินหยาง ไอ้รองทรงจ้องสายตาของหูเสี่ยวน่าว:“ทำไม ดูสายตาคุณแล้ว คงไม่รักไอ้เด็กนี่หรอกใช่ไหม?”

“เขาดีต่อฉันมาก”หูเสี่ยวน่าวเบะปากพูด:“อย่างน้อย ก็ดีกว่าที่คุณปฏิบัติต่อฉัน”

“ทำไม เขาพาคุณไปหาเงินได้เหรอ?เขาดีต่อคุณมากกว่าผม เหลวไหล ถ้าไม่ใช่ผม วันๆคุณจะแต่งตัวแบนด์เนมได้เหรอ?ถือกระเป๋าแบนด์เนม เที่ยวกลางคืนทุกวันได้หรือไง?บ้านสองหลัง ก็เป็นชื่อคุณ ต่างไม่ใช่ผมช่วยคุณหาเงินเหรอ?”

“รู้ไหมทำไมผมข่วนหน้าเขาไป?เพราะว่าคุณเพิ่งขู่ผม”

“แม่เอ๊ย เพื่อไอ้หมอนี่ คุณมาขู่ผมเหรอ”ไอ้รองทรงทำเสียงฮึดฮัดอย่างไม่แสดงท่าทีใดๆ

ส้าวส้วยขับรถ พาหลินชิงชิงกับหลี่ฝางออกไป

ข้างมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ ส้าวส้วยหาโรงแรมแห่งหนึ่ง แล้วจอดที่นี่

“คืนนี้คุณว่างไหม?ถ้าว่าง คุณก็ช่วยผมดูแลเจ้านายผมหน่อย คืนนี้เขาดื่มไปเยอะเลย”ส้าวส้วยมองหลินชิงชิงแล้วพูด

หลินชิงชิงพยักหน้า:“ได้ แต่ฉันอยากถามคุณอย่างหนึ่ง”

“คุณอยากถามอะไร?”ส้าวส้วยมีใบหน้านิ่งเฉย

“ฉันรู้ว่าพ่อของฉัน มีปัญหากับที่ผับพวกคุณ ดังนั้นฉันจึงอยากถามคุณ เรื่องครั้งนี้ คุณแอบมีลับลมคมในอยู่เบื้องหลังใช่ไหม?”

หลินชิงชิงมองส้าวส้วย สายตาเด็ดเดี่ยว

“เหอะๆ ทำไมสงสัยผมล่ะ?”ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ

“เซ้นส์ของผู้หญิงน่ะ”

หลินชิงชิงมองส้าวส้วย พูดว่า:“ดูเหมือนฉันจะเดาถูกนะ พวกคุณมีลับลมคมในจริงๆด้วย”

ส้าวส้วยหัวเราะ:“โอเค ลงจากรถเถอะ”

“อย่าทำร้ายชีวิตพ่อฉันได้ไหม ที่ตัวเขามีเงิน ก็ให้เขาใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุขหมดห่วงแบบนี้ก็ดีแล้ว”หลินชิงชิงพูด

“ผมก็คิดแบบนี้”

ส้าวส้วยพยักหน้า ตอนที่หลินชิงชิงประคองหลี่ฝางลงจากรถ จู่ๆส้าวส้วยก็เรียกหลินชิงชิงไว้ แล้วพูด:“อยากรู้ว่าพ่อคุณอยู่ไหนล่ะก็ ถามผมได้”

“ผมว่า เขาคิดถึงคุณมาก”ส้าวส้วยหัวเราะไปพูดไป

หลินชิงชิงมองส้าวส้วยอย่างหวาดกลัว เธอคิดไม่ถึงว่า แม้แต่ที่ซ่อนตัวของพ่อตัวเองส้าวส้วยก็จะรู้

ประคองหลี่ฝางเข้าไปในโรงแรม เปิดห้องให้ แล้วก็เพิ่งเข้ามาในห้อง

โทรศัพท์ของหลี่ฝางดัง เป็นเจ้าหัวแบนโทรมา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท