NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 380

ตอนที่ 380

บทที่380 เลิกกันอย่างเป็นทางการ

“เข้าใจภาษาปากนั้นสะดวกจริงๆ ถ้าว่าง ผมล่ะอยากเรียนรู้ภาษาปากกับคุณจริงๆ”หลี่ฝางมองส้าวส้วย พูดอย่างนับถือ

ส้าวส้วยอายุยังไม่มาก แต่ความสามารถเยอะ

อีกอย่างความสามารถพวกนี้ ก็มีประโยชน์มาก

เช่นอยู่ไกลขนาดนี้ อย่างมากหลี่ฝางก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ส้าวส้วยล่ะ กลับรู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน แล้วเมื่อกี๊ก็ยังแปลให้หลี่ฝางฟังอีก

พอหยูเถิงไป ลู่เชาก็วิ่งมาตรงหน้าหลี่ฝาง

ลู่เชาในตอนนี้ มีใบหน้ากังวลหน่อยๆ:“คุณชายหลี่ งานเลี้ยงคืนนี้ คุณไปกับผมไหม?”

“เอ๋?”

หลี่ฝางคิด แล้วพูด:“ดูสถานการณ์ก่อน ว่างจะไปด้วยกับคุณ แต่พวกเขาไม่ต้อนรับผมแน่”

“ใช่สิ เมื่อกี๊คุณทำได้ไม่เลวเลย”หลี่ฝางตบไหล่ของลู่เชา ชื่นชมไป

“ขอบคุณที่คุณชายหลี่ชม”ลู่เชาลังเลหน่อยๆ จึงพูด:“คุณชายหลี่ ผมอยากติดตามท่าน”

“หมายความว่าไง?”

“ก็ช่วยคุณทำเรื่องนั่นเรื่องนี่ ถึงแม้เป็นลูกสมุนเล็กๆก็เอา ได้ไหมครับ?”ลู่เชามองหลี่ฝางอย่างขอร้อง ถามไป

หลี่ฝางแปลกใจหน่อยๆ คิดไม่ถึงว่าลู่เชาจะมีความคิดแบบนี้

หลี่ฝางยิ้ม แล้วมองลู่เชา:“ผมแค่นักเรียนธรรมดา ไม่ต้องการลูกสมุน แต่พวกเราเป็นเพื่อนกัน มีอะไรให้ผมช่วย ก็มาหาผมได้ตลอด”

“คุณชายหลี่ ผมรู้ว่าคุณสูงส่ง แต่ไม่อยากเปิดเผยตัวตนของตัวเอง ดังนั้น ชีวิตคุณในรั้วโรงเรียน ยากที่จะเลี่ยงเจอเรื่องที่ไม่สะดวก เรื่องแบบนี้ ผมทำให้คุณได้”ลู่เชาพูดด้วยใบหน้าเด็ดเดี่ยว

“คุณพูดไม่ผิด แต่ คุณอยากติดตามผม มีความสามารถไหม?ถึงคุณจะรู้ตัวตนสูงส่งของผม แต่ก็น่าจะเข้าใจนะ เงื่อนไขที่ผมใช้คน ก็จะสูงด้วย ถ้าคุณไม่มีอะไรพิเศษ ก็ช่างเถอะ”

หลี่ฝางส่ายหน้า ไม่สนใจลู่เชา

ยังไงข้างกายตัวเอง ก็มีส้าวส้วยแล้ว

“ผม……”ลู่เชายังไม่ทันพูดจบ

เขาไม่มีความสามารถพิเศษอะไรแน่ชัด แต่ก็มีค่าพอให้คุณชายมอง

“ทำไมคุณอยากติดตามคุณชายหลี่”จู่ๆส้าวส้วยก็ถาม

“ผมอยากรวยสูงส่ง พูดตรงๆนะ ผมแค่คนจนคนหนึ่ง วันๆทำงานอยู่ข้างนอก ได้เงินไม่เท่าไหร่ เมื่อคืน ที่จริงผมก็อยู่ที่สโมสรเจียงหนาน แต่ผมไปทำงาน ไม่ได้ไปใช้เงินที่นั่น เมื่อคืนคุณชายหลี่ที่จ่ายเงินนั่น น่าจะเป็นคุณสินะ?คุณชายหลี่”

“ตอนนั้นแสงไฟส่องไปที่คุณก็มองดู ถึงตอนนั้นจะจำไม่ได้ ตอนนี้มาคิดๆดู น่าจะเป็นคุณ”

ลู่เชาหัวเราะเหอะๆออกมา:“คุณชายหลี่ ผมเข้าใจกฎ ทำงานให้คุณ ทำงานหนักมาก็ได้รับมาก”

“ดังนั้น ถ้าไม่มีอะไรให้ผมทำ ผมไม่มีทางเอาเงินจากคุณ ถึงผมจน แต่ไม่ใช่ขอทาน”

ส้าวส้วยหัวเราะ หันไปพูดกับหลี่ฝาง:“เจ้านาย รับเขาไว้เถอะ”

“จำเป็นเหรอ?”หลี่ฝางถามนิ่งๆ

หลี่ฝางรวย ส่วนลู่เชา ไม่ต้องการอะไรเกินตัว ที่จริงเลี้ยงลูกสมุนแบบนี้ไว้กับตัว ไม่มีผลกระทบมากนักต่อหลี่ฝาง

“เจ้าเด็กนี่มีแววจริงๆ”ส้าวส้วยมองลู่เชา แล้วพูด:“อีกอย่าง ที่ตัวไม่มีความอ่อนไหว”

“ไม่มีความอ่อนไหว?”

“ใช่ ที่ตัวชุนเซิงมีความอ่อนไหว แต่เขาไม่มี”ส้าวส้วยหัวเราะ:“อยู่ข้างกายคุณได้”

หลี่ฝางพยักหน้า พูดกับลู่เชา:“โอเค ตั้งแต่นี้ไป คุณคือคนของผม”

“ขอบคุณครับคุณชายหลี่ ขอบคุณคุณชายหลี่”ลู่เชาไม่หยุดซาบซึ้งใจ ดีใจหมด

ทุกคน ต่างมีโอกาสที่จะรวยครั้งสองครั้ง แค่คุณต้องใช้สมองของคุณไปเอามา

โอกาสนี้ของลู่เชา แย่งมาจากสายตาอันเฉียบคมของตัวเอง และความไร้ยางอายของตัวเอง

พอลู่เชาออกไป หลี่ฝางถามส้าวส้วยอย่างแปลกใจ:“ทำไมบอกว่าชุนเซิงมีความอ่อนไหว?”

“ประสบการณ์ต่างกัน นิสัยคนก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนกัน ชุนเซิงติดตามหวางเฉินมาหกปี หกปีนี้ ชุนเซิงเอาหวางเฉินเป็นลูกพี่ เป็นพี่น้อง เป็นคนมีพระคุณของตัวเอง แต่สุดท้ายล่ะ?สุดท้ายชุนเซิงจึงเข้าใจว่า หวางเฉินหลอกเขามาตลอด ให้เขาขายยา แต่ให้เงินเขาไม่กี่ร้อย ให้เขาไปฆ่าคน แต่สุดท้ายกลับเอาเงินก้อนสำคัญของตัวเองไป คุณลองคิดดู ความไว้ใจคนๆหนึ่งหกปีถูกทำลาย คนๆนี้ จะเชื่อคนอื่นไหม?”

“ถ้าชุนเซิงรู้ความจริง โกรธจนฆ่าลูกคนรวยจำนวนมาก ……คนแบบนี้ ที่จริงน่ากลัวมาก”

“ชีวิตของย่าชุนเซิงอยู่ไม่ได้นานแล้ว ตอนนี้ย่าเขาอยู่ในมือพวกเรา ดังนั้น เขาจึงขายชีวิตให้พวกเรา ถ้าย่าเขาตาย ที่ตัวชุนเซิง ก็ไม่มีจุดอ่อนอะไรอีก เขาหักหลังพวกเราได้ตลอด”

“เขาถูกหวางเฉินทำร้ายอย่างเจ็บลึก เขาไม่เชื่อคนอื่นอีกแล้ว ไม่ว่าคุณดีกับเขาแค่ไหน ในใจเขาก็คิดว่าคุณกกำลังหลอกใช้เขาอยู่ทั้งนั้น”

“แน่นอน พวกเรากำลังหลอกใช้เขา”

ส้าวส้วยพูดจบ ลู่หลุ่ยก็เดินเข้ามา

เดิมทีหลี่ฝางอ้อม หลีกเลี่ยงจากลู่หลุ่ย ใครจะไปรู้ ลู่หลุ่ยกลับเรียกไว้:“หลี่ฝาง เดี๋ยวก่อน”

เพิ่งเลิกกับลู่หลุ่ย หลี่ฝางไม่สามารถเผชิญหน้ากับเธอได้เท่าไหร่นัก

พูดตรงๆแล้ว หลี่ฝางไม่โกรธลู่หลุ่ยแล้ว ความโกรธที่ควรระบาย ก็ระบายมาหมดแล้ว

“คุณออกจากโรงพยาบาลได้ไง?แขนของคุณดีแล้ว?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว น้ำเสียงต่อว่าหน่อยๆ

“กระสุนแค่เฉียดๆ ไม่ได้ยิงเข้าร่างกายฉัน ดังนั้นฉันไม่ได้เป็นอะไรอันตราย แค่ไปฆ่าเชื้อที่โรงพยาบาลประจำ เปลี่ยนผ้าก๊อซก็พอแล้ว”

ลู่หลุ่ยยิ้มบางๆ:“ห้องเดี่ยวดีๆอย่างนั้น ฉันพักไม่ไหวหรอก”

ในใจหลี่ฝางก็หดหู่ขึ้นมา:“ไม่ได้ให้คุณออกเงินสักหน่อย ทำไมต้องพักไหวพักไม่ไหวด้วย?”

ลู่หลุ่ยหัวเราะ ไม่พูดอะไร แค่เอากระเป๋าสะพายใบหนึ่งยื่นให้หลี่ฝาง:“นี่เงินคุณ ฉันเอามันมาคืน”

“หมายความว่าไง?”

“ครั้งที่แล้วฉันกับเฉียนเฟิงสู้เพื่อของขวัญในห้องถ่ายทอดสดนั้น ฉันทำเงินได้มาได้หนี่งล้านในพริบตา คืนที่เป็นหนี้คุณ ก็ยังเหลืออีกตั้งเจ็ดแสน”

“ให้คุณหมดเลย”

“แบบนี้ ฉันก็ไม่ติดอะไรคุณแล้ว”ลู่หลุ่ยเดินหน้าเข้าไป เอากระเป๋าสะพายข้างไปไว้ที่มือหลี่ฝาง

จากนั้น สองมือของลู่หลุ่ยก็กอดหลี่ฝางไว้แน่น ทำให้หลี่ฝางทำตัวไม่ถูกหน่อยๆ

“ผมไปสูบบุหรี่ก่อน”

เห็นฉากนี้ ส้าวส้วยก็ออกไปอย่างตระหนักได้

หลี่ฝางใจเต้นแรง คบกับลู่หลุ่ยมาตั้งนาน ที่จริงหลี่ฝางไม่เคยสัมผัสใกล้ชิดสนิทสนมกับลู่หลุ่ยเลย

นี่คือครั้งแรก

กลัวว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายด้วย

หลี่ฝางต้องยอมรับว่า ครั้งนี้เขาใจเต้นแล้ว ใจอ่อนด้วย จู่ๆเขาก็ไม่อยากเลิกกัน แต่หลี่ฝางจะพูดนั้นเอง ลู่หลุ่ยกลับชิงพูดก่อน:“เลิกกันแล้ว”

“ฉันอยากมีวิธีเลิกกันที่ดีขึ้นมาหน่อย เลิกราด้วยอ้อมกอด อบอุ่นกว่าเลิกกันที่โรงพยาบาลตั้งเยอะ”ลู่หลุ่ยปล่อยหลี่ฝาง สูดหายใจลึกๆ จากนั้นก็เงยหน้ามองพระอาทิตย์ รับแสงของอาทิตย์

น้ำตาแต่ละหยด คลอที่เบ้าตาลู่หลุ่ย เพราะเงยหน้าไว้ กลับไม่ไหลลงมาสักหยด

“หลี่ฝาง พระอาทิตย์วันนี้ดีจัง”ลู่หลุ่ยปรากฏรอยยิ้มที่สดใส

หลี่ฝางเม้มปาก ไม่รู้ควรพูดอย่างไร

จากสภาพของลู่หลุ่ย หลี่ฝางคิดว่า ผู้หญิงคนนี้ ลืมตัวเองลงแล้ว

จู่ๆหลี่ฝางก็อยากร้องไห้ ตัวเองขอเลิกไม่ผิด แต่ลู่หลุ่ยทำไมไม่รักได้แล้ว?

“ลู่หลุ่ย……”

หลี่ฝางเรียกลู่หลุ่ยไป ลู่หลุ่ยกลับชิงพูดก่อน:“ใช่สิ ฉันติดของคุณเหมือนกัน”

“นี่พ่อคุณให้ฉัน”

มือข้างหนึ่งของลู่หลุ่ยถอดจี้หยกเขียวมรกตที่คอ ยื่นให้หลี่ฝาง:“เฉียนเฟิงบอกฉันว่า จี้หยกนี้ราคาหลายสิบล้าน”

“ตอนแรกฉันไม่เชื่อ เขาพาฉันไปตรวจดู เหอะเหอะ ของดี คุณลุงใจกว้างมาก เจอกันก็ให้ของขวัญราคาแพงเลย”

“คอของฉันแทบจะเบี้ยวแล้ว ตั้งหลายสิบล้าน พระเจ้า หลายสิบล้านแขวนที่คอฉัน แขวนไว้ตั้งหลายเดือน”

“ดีที่ฉันไม่ได้ทำมันหาย หรือทำมันพัง”ลู่หลุ่ยพูดอย่างกลัวๆ

“แต่ผมทำคุณหายไปแล้ว”หลี่ฝางพูดด้วยเสียงเบา ไม่รู้ว่าลู่หลุ่ยได้ยินหรือไม่

จากนั้น หลี่ฝางส่ายหน้าให้ลู่หลุ่ย:“นี่คือสิ่งที่พ่อผมให้คุณ คุณจะคืน ก็คืนเขา”

“คุณช่วยฉันไม่ได้เหรอ?”ลู่หลุ่ยเบะปาก

“ไม่ได้”หลี่ฝางกลั้นน้ำตา พูดเสียงดังดุดัน

หลี่ฝางก็ไม่รู้ ทำไมตัวเองโมโหอย่างห้ามไม่อยู่

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท