NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 361

ตอนที่ 361

บทที่ 361 ถ้าหากฉันคือคุณชายตระกูลหลี่ล่ะ?

“คุณชายหลี่ รอสักครู่ ไว้ฉันจัดการเสร็จแล้วจะโทรไปหา”

เมื่อซือถูเฟยพูดจบ ก็กดวางสายไป

ที่ร้านเกิดเรื่องเหรอ?

หลี่ฝางเบิกตากว้าง และนึกถึงชุนเซิงทันที

หลี่ฝางมองส้าวส้วย แล้วพูด: “ฝั่งชุนเซิงน่าจะเกิดเรื่องแล้ว ไป เข้าได้ดูสิ”

หลี่ฝางตื่นตระหนก แล้วรีบก้าวเท้า วิ่งไปทางสโมสรเจียงหนาน

พนักงานหุ่นล่ำที่ทำหน้าที่ตรวจตั๋วมองหลี่ฝาง: “ช่างเถอะ เข้าไปเถอะ นายก็เป็นคนที่น่าสงสารคนนึง”

หลี่ฝางชะงักอยู่ครู่ เพราะไม่เข้าใจความหมายที่ชายหุ่นล่ำต้องการจะสื่อ

ทำไมตนถึงกลายเป็นคนน่าสงสารล่ะ?

แต่ว่าหลี่ฝางก็ไม่ได้ได้คิดอะไรมาก จึงวิ่งเข้าไปในสโมสร

เมื่อมาถึงด้านบน หลี่ฝางก็ขมวดคิ้ว ชุนเซิงเกิดเรื่องขึ้นในห้องนี้อย่างที่คิด

ด้านหน้าห้อง มีคนยื่นอยู่หลายคน

หลี่ฝางเดินเข้าไป เมื่อกำลังจะผลักประตูเข้าไป ก็ถูกห้ามไว้ก่อน

“คุณชายหลี่ กรุณารอด้านนอกดีกว่าครับ”

ขณะนั้น ส้าวส้วยกับเฉินฝูเซิงก็วิ่งเข้ามา

“ถ้าหากฉันดึงดันจะเข้าไปล่ะ?” หลี่ฝางพูดเสียงเย็นชา

ชุนเซิงอยู่ด้านในนั้น ถึงยังไงหลี่ฝางก็จะต้องเข้าไปดูให้เห็นกับตา

“คงต้องรบกวนคุณชายกรุณารออยู่ด้านนอกสักครู่ รอให้คุณชายของพวกเราทำธุระเสร็จ คุณชายจะต้องไปหาท่านอย่างแน่นอนครับ” คนที่ยืนอยู่หน้าประตูพูดต่อ

หลี่ฝางส่งสายตาให้ส้าวส้วย ส่วนส้าวส้วยก็ตบไปที่บ่าของเฉินฝูเซิง

“พี่ชาย เจ้าสองคนนี้ ไม่ต้องเหลือถึงผมนะ”

เฉินฝูเซิงหัวเราะฮี่ๆ แล้วพุ่งเข้าไปปะทะกับ คนที่ยื่นอยู่หน้าประตูสองคนนั้นทันที

เฉินฝูเซิงราวกับลูกวัวแรกเกิด คึกซะไม่มี

ถึงแม้จะไม่ชนะ แต่ก็จับสองคนนั้นมัดไว้ได้

ส้าวส้วยเดินเข้ามา แล้วถีบประตูห้องให้เปิดออก

ในห้องส่วนตัวเวลานี้ บนแขนของสวีเถิงเฟย ถูกแทงด้วยมีด และเลือดกำลังค่อยๆ ไหลลงมา

ส่วนหวางเฉินไม่ได้เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย

หลี่ฝางรีบมองไปรอบห้อง ก็พบว่าที่มุมห้อง มีชุนเซิงนอน หายใจรวยรินอยู่

ซือถูเฟยยืนอยู่ที่เดิม และขมวดคิ้วเข้ม

“หลี่ฝาง? นายมาได้ไง?” เมื่อหวางเฉินเห็นหลี่ฝาง นัยน์ตาก็แสดงถึงความอาฆาต

หลี่ฝางไม่ได้สนใจหวางเฉิน และวิ่งเข้าไปดูชุนเซิงทันที แล้วถามว่า: “ไม่เป็นไรนะ?”

ชุนเซิงลืมตาขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง และค่อยๆ พูดขึ้น: “เจ้านาย ผมขอโทษ”

“เจ้านาย? ที่แท้เป็นนายที่อยู่เบื้องหลังสั่งให้ชุนเซิง ลอบฆ่าคุณชายสวี!”

หวางเฉินลุกขึ้นยืนทันที แล้วเดินไปทางหลี่ฝาง: “คิดไม่ถึงว่านายจะกล้าขนาดนี้ แม้แต่คุณชายสวียังกล้าฆ่า!”

“และยิ่งคิดไม่ถึงว่านายจะโง่ ที่ออกมารับผิดเอง ฮ่าฮ่า ถ้านายไม่เสนอหน้าออกมา เกรงว่าถึงชีวิตนี้ฉันคงไม่มีวันสงสัยนาย”

หวางเฉินมองชุนเซิง และทำสีหน้าเย็นชา: “ชุนเซิง นายติดตามฉันมาตั้งหลายปี ฉันทำอะไรผิดต่อนายเหรอ? หากไม่มีฉัน นายจะมีวันนี้มั้ย?”

“เหอะ นายไม่รู้จักบุญคุณก็ช่าง แต่ยังจะคิดทำร้ายฉัน แอบเล่นตุกติก ใส่อะไรลงไปในยาฉัน ถ้าฉันไม่ไหวตัวทัน เกรงว่าชีวิตฉันกับคุณชายสวี คงถูกนายเอาไปแล้วสินะ?”

“หลี่ฝาง ฉันล่ะอยากจะถามนายจริงๆ ว่าสรุปแล้วนายใช้วิธีไหน ถึงทำให้ชุนเซิงไม่ยอมปริปากเลยแม้แต่น้อย เมื่อกี้ฉันอัดมันจนเกือบตาย มันก็ไม่ยอมเอ่ยปากพูดเลยว่าใครส่งมันมา ชุนเซิงคนนี้ ซื่อสัตย์กับนายจริงๆ เลยนะ!”

“ฉันล่ะยอมใจจริงๆ ฉันเลี้ยงหมาตัวนี้มาตั้งหลายปี แต่ไม่กี่วันก็กลับโดนซื้อไปซะได้”

“แม่งเอ๊ย ตายซะเถอะ!”

หวางเฉินพูด พลางเปลี่ยนสีหน้า เป็นโหดเหี้ยมทันที

หวางเฉินยกขาขึ้น แล้วเตะอัดเข้าไปที่ท้องน้อยของชุนเซิง

ส่วนชุนเซิงที่หายใจรวยรินอยู่ก่อนหน้านี้ เขารับความเจ็บปวดไม่ไหวอีกแล้ว

หวางเฉินก็นับว่าเป็นคนที่มีทักษะ ลูกเตะของเขา มันหนักมากๆ อยู่แล้ว หากชุนเซิงโดนลูกเตะนี้ โอกาสที่จะทำให้เขาตายมีแปดส่วนเลยทีเดียว

หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วรีบขยับตัวเข้าไป บังชุนเซิงทันที

“ฮ่าฮ่า เคยได้ยินแต่หมาปกป้องเจ้าของ ไม่เคยได้ยินว่าเจ้าของปกป้องหมานะ หลี่ฝาง นายนี่มีความเมตตาจริงๆ นะ” หวางเฉินยิ้มอย่างน่ากลัว: “ถ้างั้น นายรับแทนไอ้ชุนเซิงอีกสักทีสองทีเป็นไง?”

หวางเฉินพูด พลางยกเท้าขึ้นมา แล้วเตะไปทาง หลังของหลี่ฝาง

วินาทีนั้น ส้าวส้วยที่อยู่ตรงหน้าประตู ก็เคลื่อนไหวทันที

ต่อมาก็เกิดเสียงดังโครมคราม

ร่างของหวางเฉิน ถูกส้าวส้วยเตะจนกระแทกกำแพง และลงไปกองกับพื้น

ลูกเตะของหวางเฉินเมื่อกี้ เตะไปทางชุนเซิง เพราะงั้นส้าวส้วยเลยไม่สนใจ

สำหรับส้าวส้วยแล้ว การที่ชุนเซิงตาย มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา ถึงยังไง เขาก็เคยคิดจะฆ่าหลี่ฝาง

อีกอย่าง ชุนเซิงตอนนี้ โอกาสที่จะช่วยให้รอดน้อยมาก

ถ้าหากถูกหวางเฉินซ้อมจนตาย ถึงแม้ส้าวส้วยจะไม่ลงมือ หวางเฉินคนนี้ ก็ต้องเจอปัญหาใหญ่แน่ๆ

แม้แต่พ่อของเขาเหยสง ก็ต้องถูกลากเข้าไปเกี่ยวด้วย

ไม่ได้หมายถึงในด้านกฎหมาย แต่หมายถึงฝั่งสโมสรเจียงหนาน

ฆ่าคนตายในสโมสรเจียงหนาน เป็นข้อห้ามใหญ่ เบื้องหลังสโมสรเจียงหนานคือตระกูลซือมู่ จะปล่อยหวางเฉินไปง่ายๆ ได้ไง?

แน่นอนว่าต้องจัดการขั้นเด็ดขาดกับหวางเฉินแน่ๆ ให้เขาชดใช้อย่างสาสม

ส้าวส้วยแค่คิดไม่ถึง ว่าหลี่ฝางจะเข้าไปรับลูกเตะแทนชุนเซิง

หลี่ฝางหันกลับไป พูดกับส้าวส้วย: “โทรไปเรียกรถพยาบาลจากโรงพยาบาลเรามาเถอะ”

ส้าวส้วยตอบรับ

ในตอนนั้น สวีเถิงเฟยก็ลุกขึ้นจากโซฟา แล้วเดินมาทางหลี่ฝาง

หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วมองสวีเถิงเฟยอย่างเย็นชา แล้วคิดว่าสวีเถิงเฟยจะทำอะไร

ใครจะรู้ เมื่อสวีเถิงเฟยเดินเข้ามา ก็คุกเข่าลงต่อหน้าหลี่ฝาง

“หลี่ฝาง ขอร้องปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันแค่หน้ามืดตามัวไปชั่วขณะ เลยทำเรื่องโง่ๆ แบบนั้นลงไป”

“ฉันไม่เคยคิดจะส่งคนไปฆ่านายเลยจริงๆ นะ ทั้งหมดเป็นเพราะฉันแค่เล่นตลกกับชุนเซิงแค่นั้น ฉันก็คิดไม่ถึง ว่าชุนเซิงจะไปฆ่านายจริงๆ”

สวีเถิงเฟยคุกเข่าต่อหน้าหลี่ฝาง แล้วพูดขอความเมตตา

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ พลางมองสวีเถิงเฟย แล้วส่ายหัว: “สวีเถิงเฟย นายคิดว่าที่นายพูดมาทั้งหมดนี้ ฉันจะเชื่อเหรอ?”

“เห็นฉันเป็นเด็กสามขวบหรือไง!” หัวคิ้วของหลี่ฝาง เลิกขึ้น

เมื่อเห็นสวีเถิงเฟยคุกเข่าให้หลี่ฝางแล้ว หวางเฉินก็ถึงกับช็อก

หวางเฉินขยี้ตาตัวเอง เพราะคิดว่าตัวเองมองผิดไป

“บ้าน่า น่ามันอะไรกันเหนี่ย? ฉันฝันไปเหรอ? ฉันยังไม่ได้หลับเลย ทำไมถึงฝันได้ล่ะ!”

หวางเฉินถามเองตอบเองอย่างงงๆ

เสียงดังเพี๊ยะ หวางเฉินตบไปที่หน้า ของตัวเองหนึ่งที

หลังจากที่หวางเฉินรู้สึกถึงความเจ็บ สีหน้าก็ช็อกมากขึ้นไปอีก เขาคลานขึ้นมา แล้วเดินไปทางสวีเถิงเฟย: “สวีเถิงเฟย นายบ้ากินยาผิดไปหรือไง นายจะไปคุกเข่าให้ไอ้โง่นี่ทำไม!”

“เชี่ย ไม่ใช่แค่คุกเข่า แถมยังขอโทษ ยอมใจเลยจริงๆ นายไปกลัวอะไรมันห้ะ!” หวางเฉินพูดอย่างหมดคำจะพูด

หวางเฉินพูดจบ ก็ลากสวีเถิงเฟยขึ้นมา: “รีบลุกขึ้นมา อย่าทำตัวขายขี้หน้าที่นี่”

“ฉันละสงสัยจริงๆ นายนี่แอบไปเล่นยามาหรือไง ถึงได้ไปคุกเข่าให้มันแบบนี้?” หวางเฉินเงยหน้ามองหลี่ฝาง แล้วพูดอย่างดูถูก

สวีเถิงเฟยปัดมือของหวางเฉินออก แล้วผลักเขาออกไปอีกทาง

ปั้กปั้กปั้ก!

สวีเถิงเฟยรีบโขกหัวไปทางหลี่ฝางทันที แล้วพูด: “หลี่ฝาง นายปล่อยฉันไปเถอะนะ เป็นหวางเฉินที่เสนอความคิดให้ฉัน”

เมื่อเห็นสีหน้าของหลี่ฝางไม่เปลี่ยน ในใจของสวีเถิงเฟย ก็รู้สึกหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม

ถึงแม้ฐานะของตระกูลสวีในเมืองเอกจะฝังลึก แต่ก็ห่างไกลจากตระกูลมู่

ตัวของสวีเถิงเฟย เทียบไม่ได้กับมู่เสี่ยวไป๋แม้แต่เสี้ยวเดียว

แต่ว่า จากข่าวที่สวีเถิงเฟยได้รับ หัวหน้าตระกูลมู่มู่เจิ้งถัง ไม่ใช่แค่ถูกตระกูลหลี่ยึดเงินไปห้าร้อยล้าน ยังถูกเหยียดหยามที่บ้านพักตากอากาศด้วย

ส่วนมู่เสี่ยวไป๋ นั้นก็หนักยิ่งกว่า ถูกทำจนเข้าไปหลบอยู่ในโรงพยาบาล จนไม่กล้าออกจากโรงพยาบาลเลย

แม้แต่ตระกูลมู่ ยังแพ้ให้ตระกูลหลี่จนย่ำแย่แบบนี้

งั้นตระกูลสวีของตนล่ะ?

สวีเถิงเฟยไม่กล้าจะนึกถึง!

เกรงว่าสิ่งที่คุณปู่สร้างขึ้นมา จะโดนทำให้สลายหายไปเลยน่ะสิ?

สวีเถิงเฟยอยากจะไปขอโทษหลี่ฝางตั้งนานแล้ว คิดไม่ถึง ว่าจะมาเจอที่สโมสรเจียงหนาน

เมื่อตอนที่ชุนเซิงจะฆ่าสวีเถิงเฟย สวีเถิงเฟยก็เข้าใจแล้วว่า หลี่ฝางจะต้องรู้ความจริงทั้งหมดแล้วแน่ๆ รวมไปถึงเรื่องที่ตนว่าจ้างนักฆ่าไปฆ่าเขา

“เป็นเพราะเขาทั้งหมด หลี่ฝาง เป็นเพราะเขายุยงฉัน” สวีเถิงเฟยชี้ไปทางหวางเฉิน

หวางเฉินเดินเข้ามา แล้วถีบสวีเถิงเฟยลงไปกองกับพื้น: “แม่นายสิ เป็นนายที่อยากจะฆ่าคน ตอนนี้เรื่องแดงแล้ว ทำไมโยนมาให้ฉัน”

“จะให้พูด นายจะกลัวอะไร พวกมันไม่มีหลักฐานอะไรสักหน่อย พี่เขยนายก็เป็นถึงผู้บัญชาการกองตำรวจ”

“ไหนนายบอกสิ นายจะไปกลัวมันทำไม?”

หวางเฉินมองสวีเถิงเฟย แล้วพูดด้วยท่าทีรังเกียจ

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ พลางมองหวางเฉิน: “ถ้าหากฉันเป็นแค่คนธรรมดา สวีเถิงเฟยคงไม่กลัวฉันหรอก”

“แต่ถ้าฉันบอกว่าฉันคือคุณชายของบ้านพักตากอากาศล่ะ?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท