NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 386

ตอนที่ 386

บทที่386 ใส่ร้ายหลี่ฝาง

สิ้นเสียงร้องของหลี่ฝาง ความโมโหที่หยูเถิงระงับไว้ ก็พุ่งขึ้นทันที

“ไอ้สัตว์นี่ ไม่จบใช่ไหม?”

เห็นหลี่ฝางเข้ามายั่วยุ ถังจิ้นขมวดคิ้วทันที ยื่นมือไปผลักหลี่ฝาง

เมื่อกี๊หลี่ฝางเรียกได้ว่าแยบยลมาก ถือว่ายืมมือของฉินวี่เฟย ตบเข้าหยูเถิงแรงๆไปฉาดหนึ่ง

หยูเถิงในตอนนี้ถือว่าถูกหักหน้าสุดๆ ขายขี้หน้าขายไปถึงตระกูล

ตอนนี้หลี่ฝางเดินขึ้นไปอีกครั้ง ไปที่หน้าหยูเถิง บอกว่าเขาเป็นขยะ

นี่ไม่ใช่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเหรอ?

ถ้าเป็นคนทั่วไป ก็น่าจะทนไม่ไหว แล้วนับประสาอะไรกับคุณชายแห่งตระกูลหยู?

หยูเถิงที่เพิ่งได้รับตำแหน่งหัวหน้าห้องไป เรียกได้ว่าเพิ่งเป็นหัวหน้าห้องคนใหม่ที่เห่อกันอยู่นั้น ของใหม่ที่เห่อนี้ยังไม่ทันไร ก็ถูกหลี่ฝางตบหน้า ทำลายหมด

ความสง่าผ่าเผยของห้องที่หยูเถิงเป็นนั้น ได้รับความสูญเสียอย่างมาก

ถ้าให้หลี่ฝางเหยียบย่ำอีกครั้ง งั้นหัวหน้าห้องนี้ หยูเถิงก็อย่าเป็นอีกเลย จะมีหน้าเป็นอีกได้ไง?

หยูเถิงยืนขึ้นทันที เขามองหลี่ฝาง ใบหน้าดุร้าย:“คุณคิดว่าเป็นใคร กล้าว่าผมว่าขยะเหรอ?”

“ถังจิ้น จัดการเขาให้ผม!”

หยูเถิงชี้ไปที่จมูกหลี่ฝาง สั่งถังจิ้น

ถังจิ้นพยักหน้า รีบปล่อยหมัดไปที่หลี่ฝาง

ทำให้หลี่ฝางพอการถังจิ้นไม่กล้า แต่ถ้าต่อยหลี่ฝางสักหมัด ถังจิ้นนั้นกล้า

ถังจิ้นยกหมัดเข้าไป กลับไม่คิดว่าหลี่ฝางจะปล่อยหมัดมาก่อน ยกเท้าขึ้นมา กันถังจิ้นไว้ แล้วเตะออกไป

“ห่า!”

ถังจิ้นถูกเตะ ก็ล้มลงไปที่พื้น

หมัดเท้าของหลี่ฝางนี้ ถือว่าโหดพอควร ถีบเข้าใส่ของรักของสำคัญของถังจิ้น

พวกลูกน้องกลุ่มนั้นของถังจิ้น รีบวิ่งเข้ามา ล้อมรอบหลี่ฝางไว้

ตอนนี้เอง อาจารย์ก็เข้ามา

โทรศัพท์ในมือหลี่ฝาง ไม่ได้โทรไป

“ทำอะไรเนี่ย!”

อาจารย์มองหลี่ฝางกับถังจิ้น แล้วถาม

หลี่ฝางคิดว่าถังจิ้นจะฟ้องอาจารย์ แต่ใครจะไปคิดว่า ถังจิ้นได้แต่ยืนขึ้นมา ฉีกยิ้มนิดๆให้กับอาจารย์:“อาจารย์ครับ ของผมหล่น ผมเก็บของเฉยๆ”

ใบหน้าถังจิ้น ยังคงเจ็บปวด

เขาจับเป้ากางเกง กลับไปที่นั่งตัวเอง จากนั้นก็ฟุบลงที่โต๊ะ หน้าตะแคงข้างมา จ้องหลี่ฝาง ปรากฏสายตาสุดแค้น

หลี่ฝางรู้ว่า ถังจิ้นนี้อยากทำร้ายตัวเองส่วนตัว

ถังจิ้นคือนักเลง ที่เขาพูดถึงนั้น คือกำปั้นตัวเอง

สำหรับพวกเขาแล้ว เกิดเรื่องไปแจ้งตำรวจ ฟ้องอาจารย์ คือการกระทำที่น่าละอาย

หลี่ฝางยิ้มอย่างดูถูก ยื่นนิ้วกลางให้ถังจิ้น แล้วชี้ไป

ทำเอาถังจิ้นโกรธมาก เกือบจะตีกับหลี่ฝาง ต่อหน้าอาจารย์

หลี่ฝางกลับไปที่นั่งตัวเอง หวางเสี่ยวโก๋ก็เอื้อมมาที่หูหลี่ฝาง ถามเบาๆ:“นี่คุณทำอะไร ไม่ใช่ว่าไปยั่วยุเหรอ?”

“ถ้าลูกน้องของถังจิ้นมาทำคุณ จะทำไง?”

“ห้องของเรา คนเดียวที่ช่วยคุณได้ ก็คือผม คุณคิดว่าผมจะสู้กับพวกเขาจำนวนมากขนาดนั้นไหวเหรอ?”

“ผมเหงื่อแตกเพราะคุณเลยเมื่อกี๊ ทำเอาผมตกใจแทบตาย”

เมื่อกี๊หวางเสี่ยวโก๋คิดดีแล้ว ถ้าหลี่ฝางถูกทำร้าย เขาก็จะเข้าไปโดนด้วยกัน

นี่ใช่ว่ามีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้านหรือเปล่า?

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“ผมสู้ไม่ได้ แล้วหนีไม่ได้เหรอ?แค่ผมออกจากห้องนี้ได้ พวกเขากล้าทำผมเหรอ?”

หลี่ฝางขำไปพูดไป เขาวางแผนให้ตัวเองนานแล้ว

ถ้าคนของถังจิ้นเข้ามาจัดการตัวเองพร้อมกันหมด ตัวเองก็จะหนีออกจากห้อง ไปหาส้าวส้วย

ใครจะไปคิดว่า อาจารย์มา แล้วช่วยชีวิตเขาพอดี

ตอนพักเที่ยง ส้าวส้วยมาที่หน้าห้อง

ส่วนถังจิ้น เขาพาคนวิ่งเข้ามา ล้อมรอบหลี่ฝางไว้

หลี่ฝางเห็นส้าวส้วย ความมั่นใจในใจก็มา

“ทำไม อยากทำผมเหรอ?”

หลี่ฝางยืนขึ้น ตบหน้าถังจิ้น พูดว่า:“คุณกล้าไหม?”

“ลูกพี่ ทนไว้นะ ผู้ชายหน้าประตูไม่ควรยุ่งด้วย ได้ยินว่าโหดมาก หลายวันก่อนยังทำร้ายแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจครูฝึก”

“ใช่ เขาโหดมาก คนเดียวสู้ได้ตั้งหลายคน”

“ลูกพี่ ตกอยู่ในที่นั่งลำบากก็ต้องยอม พวกเราทนไว้ก่อนดีกว่า แค่พวกเราไม่กี่คนเอง กลัวว่าพวกเราจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ชายหน้าห้องนะ”

ตอที่ฝึกทหาร ส้าวส้วยอยู่หน้าโรงอาหาร แค่คนเดียว ชนะคนตั้งหลายคน

แล้วยังสู้จนครูฝึกแพ้ตลอด

แม้แต่ตอนคาบฝึก ครูฝึกตั้งหลายคนต่างไปขอคำแนะนำจากส้าวส้วย แต่นัดสุดท้าย ต่างชนะหมด ชนะอย่างหวุดหวิด

ที่จริงคนที่มีแววหน่อยก็จะมองออก ส้าวส้วยนี้ อ่อนข้อให้

ครูฝึกทุกคนถูกต่อยจนจมูกบวมเขียวไปหมด สุดท้ายก็ชนะอย่างหวุดหวิด

ส้าวส้วยหน้าตาดีอยู่แล้ว บวกกับฝีมือเขา แป๊บเดียวจึงกลายเป็นคนมีชื่อเสียงแห่งมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่

และตอนที่เลือกเดือนของโรงเรียน ส้าวส้วยก็ยังคว้าที่หนึ่งด้วยชัยชนะที่แท้จริง

ก็แค่ส้าวส้วยเองที่ไม่รู้

ตอนนี้ ชื่อเสียงของส้าวส้วย ในสาขาเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ เป็นรองแค่ฉินวี่เฟยเท่านั้น

“เจ้านาย เกิดเรื่องอะไร คนตั้งมากมายล้อมคุณไว้”

ส้าวส้วยค่อยๆเดินเข้ามา เงยหน้าเหลือบมองถังจิ้น ถาม:“ทำไมอยากหาเรื่อง?”

สีหน้าถังจิ้นดูอึดอัด ไม่พูดอะไร

“ไสหัวไป!”ส้าวส้วยพูดด้วยเสียงเย็นชา จ้องถังจิ้นเขม็ง

ถังจิ้นขมวดคิ้ว สีหน้าบึ้งตึง:“ห่า เจ๋งมาจากไหนเหรอแม่เอ๊ย คุณรู้ไหมลุงผมคือใคร?”

“ใครเหรอ?”ส้าวส้วยถามนิ่งๆ

“ลุงผมเป็นถึงพี่ห้าวหนานที่มีชื่อเสียงแห่งยุทธภพ”ถังจิ้นหัวเราะ ใบหน้าปรากฏความพอใจ

คนพื้นเพเมืองเอก แทบจะมีไม่กี่คนที่ไม่รู้จักพี่ห้าวหนาน

ส้าวส้วยส่ายหน้า หัวเราะสบายๆ พูดว่า:“ไอ้นั่นไม่ใช่พิการไปแล้วเหรอ?”

เสียงดังแปะ ส้าวส้วยตบไปที่หน้าถังจิ้น:“เมื่อกี๊ผมให้คุณไสหัวไป คุณไม่ได้ยินเหรอ?”

“คุณ คุณกล้าตบผม?”

ถังจิ้นโกรธมาก มองส้าวส้วย:“คุณอยากตายใช่ไหม เชื่อไหมว่าผมโทรเรียกก็ยกพวกมาหลายสิบคนได้แล้ว เอาคุณให้แย่เลย?”

ถังจิ้นพูดจาคลุ้มคลั่ง:“ถึงลุงผมจะพิการ แต่เขายังไม่ตาย!”

“ดูว่าคุณจะมีความสามารถไหม”

ส้าวส้วยดูถูกมาก ฝ่ามือเมื่อกี๊ ส้าวส้วยไม่ได้ออกแรงเลย แค่ให้เขาไสหัวไป

ตบดังแปะ

ส้าวส้วยตบไปอีกครั้ง ฝ่ามือนี้ ส้าวส้วยใช้แรงไปครึ่งหนึ่ง

แต่แรงครึ่งหนึ่งนี้ ถังจิ้นถูกตบลอยไปที่พื้น

“โอเค ขู่ผมให้มันน้อยๆหน่อย อยากโทรเรียกคน ก็ทำสิ”

ส้าวส้วยหลอกตาใส่ถังจิ้นที่พื้น:“ทางที่ดีก็เรียกให้เยอะหน่อยนะ เอาให้พอที่ผมจะจัดการด้วย”

“ทำไม พวกคุณยังไม่เปิดทางให้อีก?อยากลองฝ่ามือยูไลของผมใช่ไหม?”ส้าวส้วยมองพวกลูกน้องของถังจิ้น

พวกลูกน้องถังจิ้น รีบแยกออก เปิดทางให้หลี่ฝาง

“เจ้านาย พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ”ตอนนี้เอง ส้าวส้วยพูดกับหลี่ฝาอย่างเคารพ

หลี่ฝางพยักหน้า เดินออกไปจากนอกห้องเรียน

“ห่า นี่ต่างหากที่เป็นลูกพี่!”

“ใครว่าหลี่ฝางกระจอก?ครอบครัวคนจนในห้องเรียน คุณได้ยินที่ส้าวส้วยเรียกหลี่ฝางไหม เรียกเขาว่าเจ้านาย แล้วก็ดาวโรงเรียนอย่างคุณหนูฉิน ยังขอโทษหลี่ฝาง ถ้าเขากระจอก งั้นกระจอกย่างผมก็เทียบไม่ติด”

“ใช่ หลี่ฝางทำให้คนแปลกใจจริงๆ คุณว่าเขาปิดบังตัวตนลูกคนรวยหรือเปล่า”

“ดูจากสภาพเขาแล้ว น่าจะเจ๋งจริงแต่ไม่ขี้อวด”

เวลานี้ ทุกคนต่างมองไปที่หลี่ฝางอย่างแปลกหูแปลกตา

เดิมทีหยูเถิงแล้วก็ถังจิ้นที่ดูสง่างาม ก็ตกอยู่ในมือของหลี่ฝาง ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกเยาะเย้ยทันที

ถังจิ้นคลานขึ้นมา หยิบโทรศัพท์ แล้วเริ่มเรียกพวกมา

“แม่เอ๊ย กล้าทำผม ผมจะหาคนมาจัดการเขาให้น่วมจริงๆ”ถังจิ้นโทรหาพวกแก๊งลูกน้องของห้าวหนาน

ส่วนคนพวกนั้น ยังไงก็เป็นหนี้ห้าวหนาน สำหรับการขอความช่วยเหลือของถังจิ้น จึงไม่นั่งอยู่เฉยๆแน่

“โอเค ถังจิ้น วางใจเถอะ ตอนเลิกเรียนเย็นนี้ พวกเราทำได้แน่ สักยี่สิบสามสิบคนพอใช่ไหม?วางใจเถอะ จะต้องช่วยสนับสนุนคุณแน่นอน จะทำให้คุณยืนหยัดได้ที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่”

คนที่อยู่ตรงข้ามตบหน้าอกพูดรับประกัน ได้ยินคำนี้ ในใจของถังจิ้น ก็เหมือนกับกินน้ำตาล ใบหน้าที่ถูกตบนั้น ไม่เจ็บในทันที

“ถือโอกาสที่ไม่มีคน รีบๆเถอะ”หยูเถิงหยิบเงินมาหมื่นหนึ่ง ยื่นให้ตู้เฟย ให้ตู้เฟยยัดใส่กระเป๋าในเก๊ะหนังสือของหลี่ฝาง

“ผมจะดูสิว่าครั้งนี้จะเถียงยังไง”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท