NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 388

ตอนที่ 388

บทที่388 หลี่ฝางคือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ?

เวลานี้ สายตาทุกคน ต่างมองไปที่หลี่ฝาง

แทบทุกคนเหมือนจะเข้าใจ นี่คือการใส่ร้าย

กระทั่งว่ามีพยาน เห็นกับตาว่าตู้เฟยแอบเอาเงินตัวเอง ยัดใส่กระเป๋าสะพายหลี่ฝางด้วยซ้ำ

ก็แค่ พวกเขาไม่กล้าพูดเท่านั้น

พูดไป ก็เท่ากับไปขัดใจหยูเถิงกับถังจิ้น

คนหนึ่งมีเงิน คนหนึ่งมีอำนาจ นักเรียนธรรมดาๆจะไปสู้ได้ไง?

เพื่อนให้ห้อง ต่างมองไปที่หลี่ฝางอย่างเห็นใจ แน่นอน ว่าไม่ได้สะใจ เตรียมดูเรื่องสนุกๆ

พวกหยูเถิงทั้งสามคนต่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย อยู่ในเหตุการณ์ มาใส่ร้ายหลี่ฝาง

คนในห้องต่างรู้ว่าใส่ร้าย แต่อาจารย์กลับไม่รู้

เพราะว่าตอนเช้ามีเรื่องเบาะแว้ง อาจารย์ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ อาจารย์ขมวดคิ้ว มองถังจิ้นแล้วถาม:“นักเรียนคนนี้ ความหมายของคุณคือ หลี่ฝางขโมยเงินตู้เฟย ใช่ไหม?”

ถังจิ้นหัวเราะ ตอบอาจารย์:“อาจารย์ ผมก็เห็นไม่ชัด แต่ว่า ตอนเที่ยงหลี่ฝาง ถือกระเป๋าอย่างลับๆล่อๆจริงๆ มาที่ตรงหน้าเก๊ะของตู้เฟย ลูบแป๊บหนึ่ง ส่วนลูบอะไรนั้น ผมเห็นไม่ชัด”

อาจารย์ไม่โง่ ก็ฟังช่องโหว่ในคำพูดออก

อย่างแรก ถ้าหลี่ฝางเป็นขโมยจริงๆ เขาจะรู้ได้ไงว่าในเก๊ะตู้เฟยมีเงิน?

อย่างที่สอง ขโมยของ จะลงมือตอนที่มีคนอยู่เหรอ?

อย่างที่สาม ถึงมีคนเห็นขโมยของ คนทั่วไปแล้ว ก็ไม่กล้าต่อว่าต่อหน้า

และถังจิ้นนี้ มองดูแล้วไม่ใช่คนมีคุณธรรมเท่าไหร่

ก็แค่อาจารย์ รู้จักหยูเถิง

ส่วนหยูเถิง ชัดเจนว่าเข้าข้างตู้เฟย

หยูเถิงหัวเราะ พูดว่า:“อาจารย์ครับ ในเมื่อมีพยานว่า เพื่อนนักเรียนหลี่ฝางขโมยเงินตู้เฟย ใส่ในกระเป๋าสะพายตัวเอง งั้นเอางี้ดีไหมครับ ให้หลี่ฝางเอากระเป๋าตัวเองออกมา เปิดดู ก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอครับ?”

หลี่ฝางสงสัยหน่อยๆ คนพวกนี้เคยค้นกระเป๋าตัวเองเหรอ?

ไม่อย่างนั้นทำไมถึงมั่นใจว่าในกระเป๋าตัวเองมีเงิน?

ไม่ถูกสิ

ถ้าค้นดู จะพูดได้ไงว่าหายไปหนึ่งล้าน

ในกระเป๋าตัวเองนี้ ใส่ไปตั้งเจ็ดแสนกว่า

หยูเถิงพูดเหลวไหลเสร็จ อาจารย์ก็ดินไปที่หน้าชั้นเรียน มาตรงหน้าหลี่ฝาง

“เพื่อนนักเรียนหลี่ฝาง ในเมื่อมีเพื่อนกล่าวหาว่าเป็นคุณ งั้นคุณก็เอากระเป๋าสะพายข้างออกมา เปิดให้พวกเราดู พิสูจน์ความบริสุทธิ์คุณหน่อย”อาจารย์พูดด้วยใบหน้าเย็นชา

ระหว่างหลี่ฝางกับหยูเถิง อาจารย์เข้าข้างหยูเถิง

นั่นเป็นถึงคุณชายแห่งตระกูลหยู

หลี่ฝางยืนขึ้นมาหัวเราะเหอะเหอะ มองอาจารย์แล้วถาม:“เรื่องอะไรล่ะครับ?”

“คุณ……”

ประโยคของหลี่ฝาง ทำให้อาจารย์หน้าแดง

เขาสอนหนังสือมาหลายปี ไม่เคยเห็นนักเรียนใหม่ที่กล้ามากขนาดนี้ กล้าเถียงย้อนต่อหน้าอาจารย์

“มีคนกล่าวหาผม ผมก็ต้องเปิดกระเป๋าตัวเองให้พวกคุณดู?เหอะเหอะ ตรรกะอะไร!”

“อาจารย์ คำพูดงี่เง่าแบบนั้น คุณก็เชื่อเหรอ?”หลี่ฝางหันหน้าไป กลอกตาใส่ถังจิ้น

“คุณว่าใครงี่เง่า!”ถังจิ้นถามอย่างตื่นเต้นหน่อยๆ

“งั้นใครรับคำพูดผมไป คนนั้นก็งี่เง่าแหละ ในเมื่อคุณรับ งั้นคุณก็เป็นคนงี่เง่า”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“ผมขอถามหน่อย ตาไหนของคุณมองเห็นผมนั่งที่นั่งตู้เฟยเหรอ?”

“ตาซ้าย ตาขวา ตาทั้งสองข้างก็เห็นหมด”ถังจิ้นพูด

“เพื่อนนักเรียนหลี่ฝาง คุณร้อนตัวเหรอ?”อาจารย์มองสายตาของหลี่ฝาง เต็มไปด้วยความสงสัย

“ร้อนตัว?เหอะเหอะ ผมแค่อยากถาม เขาพูดว่าสงสัย ผมก็ต้องเปิดกระเป๋าของผม งั้นถ้าผมสงสัยอาจารย์ คุณก็ต้องเปิดกระเป๋าเงินออกมา ให้ผมดูสิ”

“ผมไม่ได้ลับๆล่อๆที่นั่งของตู้เฟยเลย”

“ผมก็เปล่า”หลี่ฝางยิ้มบางๆ

“ช่างเถอะ ในเมื่อพวกคุณจะดูกระเป๋าผมให้ได้ งั้นผมก็จะให้พวกคุณดู”

หลี่ฝางส่ายหน้านิ่งๆ รูดซิปเปิดกระเป๋าตัวเอง

เวลานั้น ธนบัตรสีแดงทีละใบๆ ก็ปรากฏมุมออกมา

“มีเงินจริงๆเหรอ?”

“หลี่ฝาง ตอนนี้คุณเล่นลิ้นไม่ได้แล้วนะ?คุณดู นี่คืออะไร?”อาจารย์ยื่นมือไป หยิบเงินปึกหนึ่งจากกระเป๋าสะพาย พูดด้วยเสียงเย็นชา:“เงินพวกนี้ คุณขโมยของตู้เฟยมาสินะ?”

“หึ เมื่อกี๊ยังไม่ยอมรับ ตอนนี้ จับมือคนทำได้แล้ว ผมจะดูสิว่าคุณจะเล่นลิ้นยังไง”อาจารย์พูดเสียงเย็นชา

ถังจิ้นก็หัวเราะฮ่าฮ่าออกมา:“อาจารย์ ผมไม่ได้ใส่ร้ายเขาใช่ไหม”

“ทำไมเงินนี้ จะเป็นของผมไม่ได้?ทำไม ในกระเป๋าผมมีเงิน ตู้เฟยเงินหาย ก็หมายความว่าผมขโมยเงินเขา?”

“ในธนาคารมีเงิน ตู้เฟยเงินหาย งั้นก็สามารถใส่ร้ายว่าธนาคารก็ขโมยเงินเขาได้?”หลี่ฝางอธิบายตามเหตุผล

“คุณเอาเงินมาจากไหน แล้วยังเอาตัวเองเทียบกับธนาคารอีก คุณแค่คนจน ในกระเป๋าจะมีเงินหมื่นกว่าได้ไง?”

“ใช่ คุณเอาเงินมาจากไหน?”

หยูเถิงกับตู้เฟย ค่อยๆถามมาทีละคน

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ มองตู้เฟยกับหยูเถิง:“ใครว่าผมไม่มีเงิน?”

หลี่ฝางยื่นมือเข้าไปในกระเป๋าสะพาย หยิบมาอีกสองปึก:“นี่ใช่เงินไหม?”

“สองหมื่นนี้ก็ขโมยคุณมากเหรอ?”

“ทำไม ในกระเป๋าสะพายผมมีเงิน ก็หมายความว่าขโมยคุณ?ตลกหรือเปล่า”

หลี่ฝางถือกระเป๋าสะพาย เดินไปแถวแรก จากนั้นก็เอา เงินสองหมื่นยื่นให้นักเรียนแถวแรก:“ให้คุณ”

“หลี่ฝาง คุณอย่ามาล้อผมเล่น”หน้านักเรียนคนนี้ดูอึดอัด

“ไม่ได้ล้อคุณเล่น แค่เงินสองหมื่น รับไว้เถอะ”หลี่ฝางเอาเงินวางไว้ตรงหน้าเขา แล้วหยิบมาอีกสองหมื่น เดินไปที่นักเรียนอีกคน

“รับไว้ ผมให้คุณ”

“หา?นี่เงินจริงหรือเงินปลอม?”มีนักเรียนสงสัยขึ้นมา

ถ้าเงินจริง ให้ฟรีแบบนี้เลยเหรอ?

ถ้าเงินปลอม ถือเงินปลอมมากมายขนาดนี้ ผิดกฎหมายนะ?

“นี่เงินจริง ลูบก็รู้แล้วนี่?”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ

“ที่บ้านผมเปิดตลาด ผมจะลองลูบดู แค่ลูบดูก็รู้แล้วว่าจริงหรือปลอม”นักเรียนที่เปิดตลาดยื่นมือไป จะหยิบมาดูใบหนึ่ง

“ให้ ลูบดีๆล่ะ”หลี่ฝางยื่นไปให้นักเรียนที่บ้านเปิดตลาด

นักเรียนที่บ้านเปิดตลาดจับไว้ สีหน้าก็ตะลึงงัน

“น่าจะเป็นจริงหมดเลย”

ไม่กี่วินาที เขาก็ลูบไปสิบใบ และร้อยหยวนสิบใบนี้ ต่างเป็นของจริงหมด

หลี่ฝางหัวเราะ มองเขาพูด:“ของจริงก็ดี เอาให้คุณ เอาไปซื้อลูกอมกินไป”

“มา คนต่อไป”

หลี่ฝางหยิบมาอีกสองหมื่น จากกระเป๋าตัวเอง

ทีละสองหมื่นๆนี้ ส่งให้ทีละคนๆ เพื่อนในห้องที่ได้รับเงินไป ต่างดีใจจนกระโดดโลดเต้น

เงินสองหมื่น ถือเป็นเงินเดือนคนธรรมดาถึงครึ่งปีได้เลย

“หลี่ฝางเป็นใครกันแน่ เพิ่งรู้จัก เขาไม่รู้จักชื่อผมด้วยซ้ำ ก็ให้ผมสองหมื่นแล้ว?”

“และไม่ได้ให้คนเดียวนะ หลี่ฝางไม่ใช่ว่าให้ทุกคนคนละสองหมื่นเลยเหรอ?”

“นี่มันฟุ่มเฟือยไปแล้ว ให้เงินไปห้าแสนกว่า และยังไม่หยุดด้วย หลี่ฝางจะให้ทุกคนคนละสองหมื่นจริงๆเหรอ?”

การกระทำของหลี่ฝางนี้ เฉียบมาก

ไม่ใช่แค่หยูเถิง ตู้เฟยที่ตกใจ แม้แต่ใบหน้าอาจารย์ ก็เปลี่ยนไป

ทุกคนต่างกำลังสงสัย หลี่ฝางเป็นใครกันแน่

เทพเจ้าแห่งโชคลาภเหรอ?

หรือว่าลูกเศรษฐี นี่มันรวยเกินไปแล้ว?

หนึ่งนาทีถัดมา หลี่ฝางก็ตบกระเป๋า พูดว่า:“ไม่มีแล้ว ขอโทษนะ”

เดิมที นักเรียนในห้อง ทุกคนต่างได้รับแล้วคนละสองหมื่น

ยกเว้นตู้เฟย หยูเถิง แล้วก็ถังจิ้นสามคนนี้

ตอนนี้ ทุกคนต่างตะลึงไป อาจารย์ก็มองหลี่ฝาง ถามอย่างแปลกใจ:“เพื่อนนักเรียนหลี่ฝาง อาจารย์แค่จะแน่ใจเฉยๆ คุณไม่ต้องโมโหขนาดนี้ ล้อเล่นกับอาจารย์เหรอ?”

“ทุกคนต่างเอาเงินคืนหลี่ฝาง หลี่ฝางกำลังล้อพวกคุณเล่น”อาจารย์คิดว่าหลี่ฝางบ้าไปแล้ว

เพราะว่าถูกปรักปรำ ก็เลยโกรธสุดๆ

ดังนั้นจึงทำเรื่องที่บ้าคลั่งเช่นนี้ได้

ก็แค่ เงินนี้อยู่ในมือแล้ว อาจารย์ให้เอาคืนกลับไป ทุกคนก็ไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ยังอยู่บางส่วน ที่เริ่มคืนเงิน

หลี่ฝางกลับโบกมือทุกคนตอนนี้ แล้วพูดว่า:“ผมหลี่ฝางไม่ต้องการเสียหน้า บอกว่าจะให้พวกคุณ ก็ให้พวกคุณไปแล้ว ไม่มีเหตุผลที่ต้องเอาคืน”

“ถือว่าเป็นของขวัญวันพบเจอกับทุกคน”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ มองอาจารย์แล้วถาม:“อาจารย์ครับ ผมไม่ได้ล้อเล่นกับทุกคน ผมแค่อยากถาม แต่ละคนในห้องต่างมีหนึ่งหมื่นกว่า หมายความว่า ทุกคนต่างเป็นขโมย?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท