NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 392

ตอนที่ 392

บทที่392 พี่ใหญ่ สูบบุหรี่สิ

อาการของซินปา เหมือนกับเห็นผี

ตู้เฟยถามว่า:“พี่ซินปา คุณเป็นอะไรไป?”

ซินปากลืนน้ำลาย สายตามีความหวาดกลัว ถามตู้เฟย:“พวกคุณว่าไอ้หมอนั่นที่ทำร้ายครูฝึก คงไม่ใช่เขาใช่ไหม?”

“ใช่สิ เขานั่นแหละ”ชี้ไปส้าวส้วย ตู้เฟยพยักหน้า

จากนั้น ตู้เฟยก็ยิ้ม:“พี่ซินปา ถึงตาคุณออกโรงแล้ว”

ใจของซินปาในตอนนี้ เย็นขึ้นทันที

เขาเคยเห็นส้าวส้วยลงมือแล้ว

เมื่อก่อน เสือร่วมมือกับลูกน้องของห้าวหนาน เตรียมจะจัดการให้จางกงหมิงตาย

ใครจะไปคิดว่า เวลาที่สำคัญช่วงสุดท้าย จางกงหมิงจะไปสมรู้ร่วมคิดกับหวางเห้า แล้วยังพาผู้ชายตรงหน้าคนนี้มา……ส้าวส้วย

เสือที่มีชื่อเสียงมานานหลายปี แค่เพราะเจอปีศาจตัวนี้ ก็ทำให้วันนี้เขามีจุดจบ

เสือโหดแค่ไหน ซินปารู้ดีมาก แม้แต่ตอนนั้นที่ห้าวหนานพี่ใหญ่ตัวเองหยิ่งยโส ก็ยังพูดว่าเสือคนนี้แตะต้องไม่ได้

แต่เสือเจอส้าวส้วยเข้า กลับเหมือนแค่ลูกแมวตัวหนึ่ง ถูกทุบตีจนไม่อาจปกป้องได้

ซินปามองส้าวส้วย ก็เข้าไปทันที

เห็นซินปาเข้ามาก่อนเอง ที่ใบหน้าหยูเถิง ก็ปรากฏรอยยิ้มตื่นเต้น

“พี่ซินปา……”

หยูเถิงที่รีบเดินไปไม่กี่ก้าว กำลังเตรียมจะไปต้อนรับซินปา ใครจะไปรู้ว่าซินปากลับไม่สนใจเขาเลย

ซินปามาตรงหน้าส้าวส้วย ยื่นบุหรี่ให้ส้าวส้วย หัวเราะหึหึ:“พี่ใหญ่ เจอท่านอีกแล้วนะ มา สูบบุหรี่สิ”

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ เหลือบมองหยูเถิง แล้วรับบุหรี่เข้ามาในมือ:“ทำไม หยูเถิงให้คุณมาจัดการผมเหรอ?”

“นี่ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ พี่ใหญ่ พี่ไม่จัดการผมก็ดีแล้ว แล้วผมจะจัดการพี่ได้ไง”ซินปารีบพูดเคลียร์:“ผมกับคุณชายหยูแค่เพื่อนธรรมดาๆ ไม่ได้ติดต่อกันเท่าไหร่”

“มา พี่ๆ สูบบุหรี่กัน”

ซินปายื่นบุหรี่ให้หลี่ฝางและคนอื่นๆทีละคน จากนั้นก็ด่าเสี่ยวเจ๋และเพื่อนๆของตัวเอง:“คุณนี่โง่เหรือเปล่าแม่เอ๊ย คุณไปจับคอเสื้อเขาได้ไง ยังไม่รีบเอามือออกอีก”

“ไม่เอาออกอีก กลับไปคุณถูกตัดมือแน่”ซินปาพูดกับลูกน้องตัวเอง สั่งสอนอย่างเย็นชา

เสี่ยวเจ๋และคนอื่นๆก็ตะลึง นี่มันอะไรกัน?

แต่พวกเขาก็รีบปล่อย จากนั้นก็เริ่มขอโทษพวกนักเรียนคนอื่นๆ

เพราะว่าสายตาพวกเขามีแวว มองท่าทีซินปาต่อส้าวส้วยออก

พวกเขาเดาออก ส้าวส้วยนี้ ไม่ใช่คนทั่วๆไปแน่

แน่นอน พวกเขาไม่เคยเห็นฝีมือของส้าวส้วย ถ้าเคยเห็น ส้าวส้วยจะต้องน่ากลัวกว่าพี่ใหญ่ซินปาตัวเองแน่

“ห่า พี่ซินปา นี่คุณเล่นอะไรเนี่ย ผมให้คุณมาทำร้ายพวกเขานะ ทำไมคุณไปให้บุหรี่พวกเขา?”หยูเถิงมองเห็นฉากนี้ ก็เข้าไปอย่างโมโห

“ทำไม พี่ซินปา หรือว่าผมไม่ได้ให้เงินคุณ?ผมคุยเรื่องผลประโยชน์กับคุณแล้วไม่ใช่เหรอ?รอให้โครงการที่ศูนย์การค้าพวกเราตระกูลหยูได้ไป ผมจะให้พี่มีรายได้”หยูเถิงรีบสัญญากับพี่ซินปาอีกครั้ง

ซินปาขมวดคิ้ว แอบส่งสายตาให้หยูเถิง

นี่มันเรื่องเงินเหรอ?

ส้าวส้วยนี้ เสือที่มีชื่อเสียง พออยู่ในมือของส้าวส้วย ก็มีแต่เจ็บปวดใจ

ถ้าตัวเองไปจัดการส้าวส้วย นั่นไม่ใช่ว่าตัวเองไปหาเรื่องอยากตายเหรอ?

ซินปาจ้องหยูเถิง พูดว่า:“พอเถอะน่า คุณชายหยู โครงการที่ศูนย์การค้านี้ พวกคุณตระกูลหยูพวกคุณจะประมูลได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ ……ถึงประมูลได้ ผมก็ไม่ยุ่ง”

“ซินปา คุณหมายความว่าไง?เมื่อกี๊คุณบอกว่าคุณกับเพื่อนๆของคุณหิวแทบตาย ไม่มีข้าวให้กิน ตอนนี้กลับกันบอกว่าไม่ยุ่งด้วย?”หยูเถิงก็โกรธหน่อยๆ

“พูดอะไรน่ะ ผมเป็นนักเลงมาหลายปี จะอดตายได้เหรอ?รีบๆไสหัวไป”ซินปาพยายามส่งสายตาให้หยูเถิงสุดๆ

แต่ หยูเถิงกำลังโกรธมาก ยังต้องแคร์อะไรพวกนี้อีก

“เหอะเหอะ จะเสแสร้งไปทำห่าไร พี่ใหญ่ห้าวหนานของพวกคุณก็พิการแล้ว พวกคุณยังจะมีธุรกิจอะไรหาเงินได้อีก”หยูเถิงหัวเราะอย่างเย็นชา กลอกตาใส่ซินปา

เวลานี้ ตู้เฟยก็เดินเข้ามา

“พี่ชาย พี่ซินปา พวกคุณจะสู้กันเองทำไม”เห็นท่าไม่ดี ตู้เฟยก็รีบเข้ามาโน้มน้าว

จากนั้น ตู้เฟยมองไปก็พูดไป:“พี่ซินปา ในเมื่อคุณไม่เชื่อว่าตระกูลหยูสามารถรับโครงการที่ศูนย์การค้ามาได้ งั้นเอางี้ ผมเสนอราคาละกัน ผมอยากได้ขาข้างหนึ่งของหลี่ฝาง แสนหนึ่ง พอไหม?”

“ถ้าไม่พอ ผมเพิ่มให้ได้อีก”

ตู้เฟยหัวเราะ พูดว่า:“มีอำนาจในการคบหาเป็นเพื่อน”

“แม่เอ๊ยคุณโง่เหรอ?”ซินปาหันหน้าไป กลอกตาใส่ตู้เฟย ต่อว่าทันที

“นี่มันยุคไหนแล้วเนี่ย ตัดขาแลกกับเงินแสนหนึ่ง?แม่เอ๊ย ผมคือพลเมืองดี ไม่ใช่นักเลง ตอนนี้มีกฎหมายควบคุม คุณคิดว่าเป็นเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้เหรอ?ผมว่าเด็กอย่างคุณดูหนังมากไปไหม”

มองตู้เฟย ซินปาก็ด่าทันที:“ถ้าคุณเก่งนัก ก็ไปตัดขาเขาเองสิ อย่ามายุ่งกับผม ผมไม่อยากกินข้าวคุก”

“แม่เอ๊ย เด็กๆตอนนี้ ประสาทกันมากขึ้น”ซินปาด่า

สีหน้าตู้เฟย ดูอึดอัดทันที

เขาไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมซินปาด่าตัวเอง

ซินปาไม่ใช่นักเลงเหรอ?

ตัวเองพูดอะไรผิด?

ซินปาปฏิบัติกับตัวเองอย่างกับกินดินปืนมา ตู้เฟยอึดอัดใจหน่อยๆ มองซินปาแล้วถาม:“พี่ซินปา คุณหมายความว่าไงกันแน่ หลอกพวกเราสองพี่น้องเหรอ?”

“เมื่อกี๊คุณรับประกันกับผมแล้ว บอกว่า ……”

ตู้เฟยยังไม่ทันพูดจบ ซินปาก็ยกแขนขึ้นมา ตบไปที่หน้าของตู้เฟย หนึ่งฉาดทันที

“หุบปากซะ พูดเหลวไหลที่นี่ให้มันน้อยๆหน่อย เมื่อกี๊ผมไม่ได้พูดอะไร ได้ยินไหม?”ซินปาชี้ไปที่จมูกตู้เฟยแล้วต่อว่า

“ห่า ซินปา บ้าแล้วเหรอ ทำน้องชายผม?”หยูเถิงเดินเข้ามา จ้องซินปาเขม็ง

“ไม่อยากช่วยก็บอก”

“คุณตบเขาทำไม?”หยูเถิงโกรธหน่อยๆ

เวลานี้หลี่ฝางเดินเข้าไป พูด:“พอเถอะ ไม่ได้โง่กันนะ ผมเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น”

“ซินปาใช่ไหม?ผมว่าคุณอย่าทำเป็นไม่รู้เรื่องเลย คุณน่าจะเป็นคนที่หยูเถิงให้มาจัดการพวกเราสินะ?ผมเคยเห็นคุณ เมื่อก่อนอยู่กับห้าวหนานใช่ไหม?”

หลี่ฝางหัวเราะ เข้าใจว่าทำไมซินปากลัวส้าวส้วย

เพราะว่าซินปาเคยเห็นฝีมือส้าวส้วยแล้ว

“น้องชายคนนี้จำได้ดีจริง ก่อนหน้านี้พวกเราเคยมีชะตากรรมต่อกันจริงๆ ใช่สิ เรื่องของจางกงหมิง พวกเราตัดสินใจช่างมัน นี่คือความตั้งใจของพี่ใหญ่ห้าวหนาน หวังว่าน้องชายจะช่วยบอกจางกงหมิง”

“น้องชายช่างฉลาด มองออกทุกอย่าง ……แต่ คนไม่รู้ไม่ผิดนี่ ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าเป็นคุณ ถ้ารู้ว่าเป็นคุณ ผมไม่มาหรอก ห่า นี่ก็รีบมาเหนื่อยไปเสียเปล่า เกือบจะทำให้พี่ใหญ่โกรธ”พูดถึงตรงนี้ ซินปาก็มองส้าวส้วยอย่างผวาอยู่

ซินปาเสเพลอยู่ในยุทธภพมาหลายปี ถึงแม้ตอนนี้ส้าวส้วยดูเป็นแค่นักเรียน แต่ซินปารู้ ตัวตนของส้าวส้วย ไม่ธรรมดาอย่างที่เห็นแน่

นี่น่าจะเป็นตัวละครหนึ่งที่โหดร้าย

สามารถจัดการเสือให้แย่ได้ทันที คนแบบนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ

ถ้าเขาคลุกคลีกับพวกนักเลง กลัวว่าสังคมมืดในเมืองเอก จะต้องถูกเขาปั่นป่วนแน่นอน

ได้ยินคำนี้ หยูเถิงกับตู้เฟยก็พอจะเข้าใจขึ้นมา

ก็แค่ พวกเขาเข้าใจผิด พวกเขาคิดว่า ซินปากลัวคือจางกงหมิง

“พี่ เรื่องนี้ พวกเราอยากทำให้มันดีแต่ดันกลายเป็นแย่แล้ว พี่ชายของหลี่ฝางก็คือจางกงหมิง ตอนนี้เสือตายแล้ว อำนาจจางกงหมิงก็ขึ้นไป กลายเป็นผู้มีอิทธิพลของเมืองเอก ไม่น่าล่ะซินปาไม่กล้าทำหลี่ฝาง”ตู้เฟยแนบข้างหูหยูเถิง แล้วพูดเบาๆ

หยูเถิงขมวดคิ้ว:“แม่เอ๊ย ชีวิตของเด็กนี่ ทำไมดีขนาดนี้”

หยูเถิงโกรธจนกัดฟัน นี่หลายครั้งแล้ว ที่ตกอยู่ในมือหลี่ฝาง

“ช่างเถอะ ตอนดึกค่อยจัดการเขา”หยูเถิงไม่พอใจ พูดอย่างทำอะไรไม่ได้

ซินปาตอนนี้ก็พูดมา:“พี่ๆน้องๆ ผมยังมีธุระ ขอตัวก่อนล่ะ รอวันไหนมีเวลา ผมจะเลี้ยงเหล้าทุกคน จากนั้นก็ขอโทษ ว่าไง?”

ซินปามองหลี่ฝางแล้วถาม เขามองออกว่า หลี่ฝางต่างหากที่เป็นลูกพี่

หลี่ฝางหัวเราะอย่างมีเลศนัย:“ผมว่า ก็ไม่เลว”

“คุณอุตส่าห์มาแล้ว แล้วยังทำซะเว่อร์วังขนาดนี้ ถ้าไม่ทำอะไรเลย จะไม่ไร้ค่าไปเปล่า”หลี่ฝางพูดไป ตาก็มองไปที่ตู้เฟย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน