NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 393

ตอนที่ 393

บทที่393 ตอนนี้เป็นหลี่ฝางที่พูดอะไรก็ว่าตามนั้น

“น้องชาย ความหมายคุณคือ?”มองหลี่ฝาง ซินปาก็ถามอย่างสงสัย

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ เอานิ้วชี้ไปที่ตู้เฟย พูดกับซินปา:“เมื่อกี๊ผมก็ได้ยิน คุณจะเอาแสนหนึ่งซื้อกับขาของผมไป ตลกจริงๆ พี่ซินปา คุณบอกคุณไม่ใช่นักเลง ทำเรื่องพวกนี้ได้ไง?นี่มันผิดกฎหมายนะ”

“เขาล้อเล่นน่ะ”ซินปาไกล่เกลี่ยแทนตู้เฟย

“ล้อเล่น?เห็นผมโง่เหรอ หรือว่าหูหนวก พอเถอะ ผมไม่ใช่เด็กสามขวบ ฟังออกว่าคำไหนจริง คำไหนปลอม”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ หยิบหมื่นหนึ่งมาจากกระเป๋าสะพายข้าง

เงินพวกนี้ ก็คือเงินที่ตู้เฟยแอบยัดใส่ในกระเป๋าของหลี่ฝาง

เดิมที ตู้เฟยอยากเอาเงินนี้มาใส่ร้ายหลี่ฝาง แต่น่าเสียดายไม่สำเร็จ

หลี่ฝางเอาเงินพวกนี้ให้ซินปา ซินปาถามอย่างไม่เข้าใจ:“คุณหมายความว่าไง?”

“ผมไม่ได้บอกเหรอ?พี่ซินปาอุตส่าห์มาแล้ว จะมาให้เปล่าประโยชน์ไม่ได้ ไม่งั้น พวกคุณจัดการเขาแทนผมได้ไหม?เงินพวกนี้จะให้คุณ ถือว่าผมเลี้ยงข้าวพวกคุณ เป็นไง?”หลี่ฝางเลิกคิ้วให้ซินปา แล้วพูด

สีหน้าของซินปา หม่นลงทันที

“น้องชาย ผมมานั่งรถเล่นเฉยๆ ……”ซินปาปฏิเสธ

ซินปาไม่ได้โง่ ตู้เฟยเป็นน้องชายฝ่ายแม่ของหยูเถิง ตบตู้เฟยไป ไม่เท่ากับว่าขัดใจตระกูลหยูเหรอไง?

เพื่อเงินหมื่นกว่าบาท ก็ไปขัดใจตระกูลหยูได้ ไม่คุ้มเลย

สีหน้าของหลี่ฝาง เย็นชาทันที:“ได้ไงกัน เงินน้อยไปหรือว่าอะไร?ผมมีแค่นี้แหละ มากกว่านี้ก็ไม่มีแล้ว”

หลี่ฝางพูดจบ ส่งสายตาให้ส้าวส้วย

ส้าวส้วยเดินหน้าเข้าไป มาตรงหน้าซินปา

“ทำไม คุณอยากเหมือนพี่ใหญ่ห้าวหนาน พิการตลอดชีวิต?”ส้าวส้วยเอามือกดที่ไหล่ซินปา พูดขู่

ถึงเสียงส้าวส้วยจะนิ่ง แต่ตีซินปาจนตกใจตัวสั่น

ซินปารู้ ส้าวส้วยไม่ได้กำลังล้อเล่นกับตัวเอง

ส้าวส้วยมีความสามารถ และแรงก็โหดมาก

ซินปาจำได้ดี ฉากที่เสือถูกส้าวส้วยทุบตีไม่ยั้งมือจนสิ้นซาก

ซินปากลืนน้ำลาย กลัวขึ้นมา

เขาไม่อยากกลายเป็นเสือคนที่สองนะ

“ทำไม ยังไม่ยอมเห็นด้วยอีก?”

“คิดว่าผมกำลังขู่คุณ?”

ส้าวส้วยพูดจบ สีหน้าเย็นชาลงทันที ขณะเดียวกัน มือที่เขากดไหล่ของซินปา ก็ออกแรงทันที

ซินปากัดฟัน กลับสูดหายใจ

ส้าวส้วยลงมือ เกือบจะทำให้แขนของซินปาหัก

“พี่ใหญ่ ผมเห็นด้วย ผมเห็นด้วย”ซินปารีบพยักหน้า

เห็นซินปารับปากแล้ว ตู้เฟยก็กลัวทันที

ตู้เฟยอดกลั้นสุดๆ ทำไมทุกครั้งที่ถูกตี ถึงเป็นตัวเองนะ?

ทำไมไม่จัดการพี่ชายฝั่งแม่ตัวเอง?

ตู้เฟยเตรียมยกขาจะวิ่ง แต่ซินปากลับทำน้ำเสียงเย็นชา ชี้ไปที่ตู้เฟยแล้วตะคอก:“เด็กเปรต หยุดเดี๋ยวนี้!”

“เสี่ยวเจ๋ จับเขา”

ประโยคเดียวของซินปา ลูกน้องของตัวเอง ก็ขยับทันที

ตู้เฟยถูกผู้ชายตัวใหญ่สองคน จับแขนไว้แน่นๆ

“น้องชาย ไม่ได้ยินพี่ใหญ่ผมเรียกให้คุณหยุดเหรอ หูหนวกหรือไง?”เสี่ยวเจ๋จับตู้เฟยไปไว้ตรงหน้าซินปา

ตู้เฟยถูกจับไป ใบหน้าก็ตื่นตระหนก เขาหันหน้า มองไปที่หยูเถิง:“พี่ ช่วยผมด้วย”

สีหน้าของหยูเถิง ก็รู้สึกอึดอัด

นี่ครั้งที่สองแล้ว ที่ยกก้อนหินมา กระแทกใส่เท้าตัวเอง!

หยูเถิงก็หดหู่ เขาขมวดคิ้ว มองไปที่ซินปา:“เขาคือน้องชายผม เป็นครึ่งหนึ่งของตระกูลหยู พี่ซินปา พี่จะทำเขาจริงๆเหรอ?”

“พี่ซินปา คุณต้องรู้ว่า พวกเราตระกูลหยู ไม่ได้ถูกรังแกง่ายๆที่เมืองเอก”

“ทำร้ายน้องชายผม……”

หยูเถิงยังพูดไม่จบ ซินปาก็ถีบไปที่ท้องตู้เฟย จนล้มลงพื้น

ยังไง ซินปาก็ถือเป็นคนมีชื่อที่ยุทธภพ จะตกใจกลัวหยูเถิงง่ายๆได้ไง?

ในเมื่อเขาตัดสินใจลงมือ ก็ต้องคิดถึงผลลัพธ์ดีแล้ว

ขัดใจตระกูลหยู งั้นต่อไปรับงานใดๆ ก็ยากแล้ว

เมืองเอกก็ไม่ถือว่าใหญ่ มากไปกว่านั้น วงการธุรกิจ ก็ช่วยเหลือกันอยู่แล้ว

ขัดใจตระกูลหยู ใครยังจะกล้าเอาโครงการให้พวกซินปา?

แต่ เทียบกับตัวเองต้องพิการแล้ว ไม่มีงานทำ แล้วจะทำไมล่ะ?

คิดถึงสภาพอนาถของพี่ใหญ่ห้าวหนานตัวเอง คิดถึงเสือในตอนนี้ ในใจของซินปา ก็รู้สึกสั่น

ถ้าตัวเองถูกส้าวส้วยทำร้ายจนพิการ งั้นชีวิตครึ่งหลังของตัวเอง เกรงว่าแม้แต่ผู้หญิงก็ร่วมหลับนอนไม่ได้สินะ?

ซินปาลงมือได้โหดมาก ไม่ทันรอให้ตู้เฟยยืนออกมา ซินปาก็เอาเท้า เหยียบไปที่ท้องของตู้เฟย

มุมปากตู้เฟยส่งเสียงร้องอวดครวญ ความเจ็บปวดในท้องถูกเตะออกมา

“พอแล้ว พอแล้ว”

หลี่ฝางรีบเข้าไปดึงซินปาไว้ จากนั้นก็หัวเราะเหอะเหอะ:“ทำไมต้องลงมือโหดขนาดนี้ คุณไม่ได้แค้นกับเขาซะหน่อย”

“นี่ไม่ใช่เพื่อให้น้องชายมีความสุขหรือไงกันล่ะ?”ซินปารู้สึกโล่งใจ ที่จริงเขาก็กลัวทำร้ายตู้เฟยจนเป็นอะไรขึ้นมา

ถ้าตู้เฟยเกิดเรื่อง ตระกูลหยูไม่ปล่อยตัวเองแน่

ซินปามองสายตาหลี่ฝาง อดไม่ได้ที่จะดูถูกหน่อยๆ หลี่ฝางเข้ามาห้าม บอกได้อย่างหนึ่งว่า ก็คือหลี่ฝางไม่ค่อยกล้า กลัวตู้เฟยเกิดเรื่อง

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ พูดอย่างพอใจ:“พอแล้ว ผมมีความสุขมากแล้ว”

ตู้เฟยเงยหน้า มองหลี่ฝาง พูดอย่างขอบคุณ:“หลี่ฝาง ขอบคุณนะ”

พูดตรงๆแล้ว ตู้เฟยฝันก็คิดไม่ถึงว่า หลี่ฝาง จะปล่อยตัวเองได้

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ พูดกับตู้เฟย:“ทุกคนล้วนแต่เป็นเพื่อน จะเกรงใจอะไร”

“โอเค ต่อไป”หลี่ฝางเวลานี้กระแอมออกมา

“ต่อไป?”

“ต่อไป?”

ประโยคของหลี่ฝาง ทำให้สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไป คำว่า‘ต่อไป’นี้หมายความว่าไง?

ซินปามองหลี่ฝางอย่างสงสัย:“น้องชาย หมายความว่าไง?”

“พี่ซินปา คุณบอกคุณคือพี่ใหญ่ จะลงมือเองกับมือได้ไง นี่มีลูกน้องตั้งเยอะไม่ใช่เหรอ เรื่องทำร้ายคน ส่งให้ลูกน้องเถอะ”

หลี่ฝางมองอาเจ๋ที่อยู่ใกล้สุด ก็หัวเราะ พูดว่า:“พี่ๆ เห็นแล้วใช่ไหมพี่ซินปาจัดการคนยังไง?”

“เอาแรงแบบนี้แหละ มา ทำร้ายเจ้าหมอนี่ ให้ผมทำ”

หลี่ฝางยิ้มอย่างชั่วร้าย หันไปมองพี่ซินปา:“พี่ซินปา ความหมายของผมคือ ให้เพื่อนๆของพี่ ผลัดกัน ทำร้ายเจ้าหมอนี่”

“เมื่อกี๊ถือว่าคุณทำให้ลูกน้องคุณดูแล้ว ต้องบอกว่า มันเยี่ยมมาก”

หลี่ฝางหัวเราะหึหึ มองอาเจ๋ พูดว่า:“ตาคุณแล้ว พี่ๆ ลุย”

อาเจ๋มองซินปา ลังเลหน่อยๆ

สีหน้าของหลี่ฝาง เย็นชาทันที:“พี่ซินปา เหมือนคำพูดผมจะใช้ไม่ได้นะ”

“ฟังน้องชายคนนี้”ซินปาพูดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

ซินปาจึงรู้ว่า ในใจหลี่ฝางโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้

เมื่อกี๊เขายังคิดว่าหลี่ฝางขี้ขลาด กลัวทำร้ายแล้วจะเกิดปัญหา แต่ตอนนี้ดูแล้ว หลี่ฝาง ก็เป็นคนโหด

ครั้งนี้ซินปาพาลูกน้องมายี่สิบกว่าคน ลูกน้องเยอะขนาดนี้ ผลัดกันทุบตีตู้เฟย สันนิษฐานว่าถึงตู้เฟยจะไม่ถูกทำร้ายจนตาย ชีวิตครึ่งหลังนี้ ก็คงไม่มีแล้ว

หลี่ฝางจุดบุหรี่ให้ตัวเอง สูบไป ก็ชื่นชมภาพฉากนี้ที่สวยงามไป

“ตู้เฟย ทำไมคุณไม่ขอบคุณผมล่ะ?”หลี่ฝางมองตู้เฟยที่พื้น ยิ้มอย่างชั่วร้าย

หยูเถิงมองน้องชายตัวเอง ถูกทำร้ายจนหายใจไม่ปกติ รีบมาตรงหน้าหลี่ฝาง พูดว่า:“หลี่ฝาง คุณอย่าทำเกินไป”

“หมายความว่าไง ผมทำเกินไป?แม่เอ๊ย คนพวกนี้คุณเรียกมา ถ้าไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนผมซินปา เกรงว่าผมหลี่ฝาง ตอนนี้คงลงไปหอบที่พื้นแล้วใช่ไหม?”หลี่ฝางมองหยูเถิงด้วยใบหน้าเย็นชา

สีหน้าหยูเถิงบูดเบี้ยว:“คุณปล่อยน้องชายผมเถอะ ความคับข้องใจก่อนหน้านี้ เราจะหายกัน”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ ไม่สนใจหยูเถิง สูบบุหรี่ต่อ

หายกัน?

ช่างมันแบบนี้ หลี่ฝางไม่พอใจ

“พี่ซินปา รีบหยุดลงมือน้องชายผมได้แล้ว ทำร้ายต่อไป น้องชายผมตายแน่”หยูเถิงพูดอย่างร้อนใจ

ซินปาเอาคางชี้ไปที่หลี่ฝาง พูด:“คุณชายหยู ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ผมพูดอะไรแล้ว อยู่ที่น้องชายคนนี้ต่างหากพูดอะไรก็ตามนั้น”

หยูเถิงกัดฟัน หยิบโทรศัพท์มา:“ไม่หยุดลงมืออีกผมจะแจ้งความ”

หยูเถิงก็หมดหนทาง หยิบโทรศัพท์ออกมา เตรียมแจ้งความ

คุณชายที่สง่างามแห่งตระกูลหยู ถูกบีบถึงทางตันแล้วจริงๆ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท