NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 399

ตอนที่ 399

บทที่ 399 คุณชายหลี่ ท่านกลับมาอีกแล้วเหรอครับ

ท่าทีของหลี่ฝางนี้ ทำเอาหยูเถิงถึงกับทำหน้างง

นี่มันสถานการณ์ไหนเหนี่ย?

จากที่เคยคลุกคลีด้วย นิสัยของหลี่ฝางเป็นยังไง หยูเถิงเขาก็ถือว่าพอรู้บ้าง

ไอ้หลี่ฝางคนนี้เหมือนหมาป่า มีแค้นต้องชำระ ขอแค่ทำให้เขาไม่พอใจ เขาต้องแล่เนื้อนายออกมาเป็นชิ้นๆ แน่ๆ

แต่นี่มันอะไรกัน?

ถึงกับดื่มหมดแก้วเพื่อตน?

นี่มันผิดปกติไปหน่อยนะ

แต่ว่าหยูเถิงก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ถึงยังไงสามารถคืนดีกับศัตรูได้ สำหรับตนแล้ว ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ

เป็นแบบนี้ ก็ถือว่าตนก็สามารถเป็นเพื่อนกับลู่เชาได้แล้วใช่มั้ย?

“หลี่ฝาง เรื่องเมื่อก่อน……”

ขณะที่หยูเถิงกำลังจะพูดจบ หลี่ฝางก็พูดแทรกขึ้น: “ผ่านไปหมดแล้ว”

“ดีดีดี นายถึงกับดื่มให้ฉันแล้ว งั้นฉันก็หมดแก้ว” หยูเถิงพยักหน้า แล้วยกแก้วดื่มรวดเดียวจนหมด

บนหน้าของหยูเถิง ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

หวางเสี่ยวโก๋ ส้งเคอและคนอื่นๆ เห็นฉากนี้ ก็คิดว่าหลี่ฝางไม่เอาเรื่องเมื่อก่อนแล้ว

ต่อมา ในห้องก็เต็มไปด้วยความครื้นเครง

เหล้าถึงกินอิ่ม แต่เหมือนหยูเถิงยังไม่พอใจ เขาโอบไหล่ของลู่เชาแล้วพูด: “พี่เชา อีกแป๊บ พวกเราไปผับกัน”

“ฉันเลี้ยงเอง ทุกคนห้ามแย่งฉันจ่ายนะ”

“รวมถึงนายด้วย หลี่ฝาง คืนนี้ฉันจะจัดผู้หญิงให้นายสักสองคน ดูแลนายหน่อย ลูกพี่ลูกน้องฉันแย่งผู้หญิงนายมาคนนึง ฉันคืนสาวฝรั่งให้นายสองคนเลย พอใจมั้ย?” หยูเถิงมองหลี่ฝาง แล้วพูดพลางหัวเราะ

หลี่ฝางก็หัวเราะตาม แล้วพูด: “หัวหน้าห้อง นายดื่มมากไปแล้ว”

“ดื่มมากไป? ฉันหยูเถิงขึ้นชื่อเรื่องชนแก้วแล้วไม่เมานะ อีกแป๊บนึงไปผับ ฉันจะให้นายได้เห็นว่าอะไรที่เรียกว่าคอแข็ง” หยูเถิงพูดโชว์ออฟ

หลี่ฝางลุกขึ้น แล้วพูดขึ้น: “ดึกมากแล้ว พวกเราแยกย้ายเถอะ”

“คิดถึงสาวฝรั่งแล้วใช่มั้ย? รอไม่ไหวแล้วล่ะสิ? ฮ่าฮ่า ไป ฉันจะพานายไปเที่ยวผับเดี๋ยวนี้แหละ” หยูเถิงพูด

หลี่ฝางรู้ถึงได้ถึง ว่าหยูเถิง ไม่มีความคับแค้นอะไรกับตนแล้ว

แต่ว่า แล้วยังไง?

ผลก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้

ทุกคนลงมา ถึงที่แคชเชียร์ หลี่ฝางเดินเข้าไปพูดก่อน: “รบกวนเช็กบิล ห้องวีไอพีเบอร์666แล้วก็ห้องธรรมดาอีกสี่ห้องด้วยครับ”

“เห้ย หลี่ฝาง นายทำอะไรอ่ะ? บอกแล้วว่าฉันหัวหน้าห้องเลี้ยงเอง นายจะแย่งฉันจ่ายเหรอ? จะให้พูด นายมีเงินเหรอ?” หยูเถิงหัวเราะ สายตาดูถูกเล็กน้อย

ถึงแม้จะไม่ได้คับแค้นใจอะไรหลี่ฝางแล้ว แต่ว่าในใจ หยูเถิงก็ยังดูถูกหลี่ฝางอยู่

เหตุผลที่หยูเถิงตีสนิทกับหลี่ฝาง ทั้งหมดเป็นเพราะเห็นแก่หน้าของลู่เชา

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วถาม: “นายแน่ใจว่าจะเลี้ยง?”

“พูดเป็นเล่น?” หยูเถิงพูด พลางควักบัตรของตนขึ้นมา แล้วยื่นให้กับแคชเชียร์สาวสวย

“คิดเงิน”

เมื่อแคชเชียร์สาวสวยยื่นเครื่องรูดบัตรไปทางหยูเถิง มุมปากของหลี่ฝาง ก็มีรอยยิ้มสนุกๆ โผล่ขึ้นมา

หยูเถิงกดรหัสอย่างเคยชิน แต่กลับขึ้นว่าการจ่ายเงินล้มเหลว

หยูเถิงก็ลองใหม่อีกครั้ง แต่ก็ยังรูดไม่ผ่าน

“นี่มันเครื่องรูดบ้าอะไรเหนี่ย?” หยูเถิงด่าอย่างไม่สบอารมณ์: “แค่รูดบัตรยังรูดไม่ผ่าน”

“คุณชายหยู ฉันจะเปลี่ยนให้เดี๋ยวนี้……” ทันใดนั้นแคชเชียร์สาวสวยก็หยิบเครื่องรูดบัตรอันสำรองขึ้นมา แล้วยื่นให้

หยูเถิงก็ลองรูดบัตรอีกครั้ง ก็ยังคงรูดไม่ผ่าน

“แม่งเอ๊ย หรือว่าบัตรของฉันมันมีปัญหาว่ะ?” หยูเถิงก็งงอย่างอดไม่ได้

หยูเถิงหยิบกระเป๋าตังค์ออกมาเปลี่ยนเป็นบัตรอีกใบ แล้วพูด: “เปลี่ยนเป็นใบนี้ลองดู”

สุดท้าย ก็ยังคงรูดไม่ผ่าน

หยูเถิงขมวดคิ้ว: “นี่มันยังไงกันแน่เหนี่ย? บัตรฉัน ทำไมถึงรูดไม่ผ่านเหนี่ย!”

ส้งเคอและคนอื่นๆ ยังยืนมองอยู่ด้านข้างนะ

ในตอนนี้ สีหน้าของหยูเถิงเริ่มไม่ดีแล้ว: “คิดเงินยังมีปัญหา”

หยูเถิงแทบจะเอาบัตรทุกใบในกระเป๋าตังค์ ออกมาลองรูดดู แต่ก็ไม่มีอะไรต่าง ทุกใบก็รูดไม่ผ่านหมด

บนหน้าของหยูเถิง เริ่มมีเหงื่อตก

เครื่องรูดบัตรทั้งสองใบ มีปัญหาพร้อมกัน?

หรือว่าบัตรของตนมีปัญหา

หยูเถิงเห็นผู้จัดการแคชเชียร์ จึงเรียกผู้จัดการมา: “นี่ ค่าบริการคืนนี้ ลงบิลตระกูลหยูของพวกเราไว้ก่อน รออีกไม่กี่วัน ฉันจะมาเคลียร์ให้”

“นี่……เกรงว่าจะไม่ได้” ผู้จัดการแคชเชียร์ส่ายหน้า

“ไม่ได้? เ**ดแม่มึงสิ นายมองหน้าฉันให้ชัดๆ ฉันคือหยูเถิงนะ ปกติก็ลงบิลไว้ไม่ใช่ไง? ทำไมครั้งนี้ถึงไม่ได้ล่ะ ทำไม ตระกูลหยูของเราล้มละลายหรือไง ถึงได้ขาดข้าวหนึ่งมื้ออ่ะห้ะ? เ**ดแม่ง!” ที่จริงหยูเถิงก็มีน้ำโหอยู่แล้ว พอเห็นผู้จัดการไม่ไว้หน้าเขาอีก จึงได้แหกปากตะโกนด่าแบบนี้

“คุณชายหยูครับ คงต้องรบกวนให้คุณชายจ่ายบิลนะครับ คุณก็เห็นแล้ว ว่าตรงนี้เขียนว่าอะไรนี่ครับ? ไม่รับเซนต์บิล ต้องชำระเลยนะครับ”

“คุณชายหยู กรุณาอย่าทำให้ผมลำบากเลยครับ” ผู้จัดการแคชเชียร์ได้ยินข่าวมา ว่าวันนี้ตระกูลหยูมีวิกฤตการเงิน ถ้าหากแก้ปัญหาไม่ได้ เป็นไปได้มากที่จะล้มละลาย

ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ผู้จัดการแคชเชียร์ต้องตอบรับแน่ๆ

แต่ว่าตอนนี้ เขาไม่อยากเสี่ยง ถึงยังไงค่าบริการครั้งนี้ มันไม่ใช่น้อยๆ

ห้องวีไอพีไม่เท่าไหร่ ค่าบริการแค่หมื่นห้า แค่ว่าห้องธรรมดานั่นเอาเรื่อง แต่ละห้อง ค่าบริการห้องละเป็นแสนๆ

ยอดของบิลนี้ ทั้งหมดห้าแสน

ถ้าตระกูลหยูล้มละลายขึ้นมาจริงๆ งั้นเงินเดือนปีนึงของผู้จัดการแคชเชียร์ ก็หมดเกลี้ยงเลยสิ

“นายทำบ้าอะไรเหนี่ย?” หยูเถิงขมวดคิ้ว

ผู้จัดการแคชเชียร์ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน: “ถ้าเป็นเงินไม่ถึงหมื่น คุณชายหยู ผมก็สามารถให้คุณเซนต์บิลไว้ก่อนได้ แต่คุณดูบิลนี้นะครับ ครั้งนี้ ห้าแสนเต็มๆ เลยนะครับคุณ”

“ห้าแสน??”

สีหน้าของหยูเถิง ก็มืดลงทันที

ส้งเคอหวงเจ๋และคนอื่นๆ ก็โดนตัวเลขจำนวนนี้ทำให้ตกใจไปด้วย

ในตอนนี้ เพื่อนร่วมชั้น ก็ทยอยตามๆ กันลงมา

เมื่อเห็นเพื่อนร่วมห้องของตน หยูเถิงก็แหกปากด่า: “ไอ้พวกยาจกเอ๊ย ไม่เคยมาโรงแรมห้าดาวหรือไงวะ? มื้อนึง แดกไปห้าแสน? แม่ง ไอ้พวกโง่!”

เห็นได้ชัด ว่าเพื่อนร่วมชั้นพวกนั้นก็คิดไม่ถึงว่าจะแพงแบบนี้

ห้าแสน สีหน้าของทุกคน เปลี่ยนไปทันที

หลี่ฝางออกมายืนพูด: “ห้าแสนนี้ ส่วนมากเป็นค่าเหล้าค่าเครื่องดื่ม เหล้าพวกนี้ เป็นฉันที่ต้องการสั่ง หัวหน้าห้อง มื้อนี้ คิดที่ฉันเถอะ”

“ไม่ได้”

ถ้าหากลู่เชาไม่อยู่ด้วย หยูเถิงคงจะตอบตกลง

แต่ว่าครั้งนี้ เขาต้องการสร้างสัมพันธ์กับหลี่ฝาง จากนั้นก็ใช้หลี่ฝางเป็นสะพาน ไปหาลู่เชา

เขาจะให้หลี่ฝางจ่ายได้ยังไง

แต่ว่าในใจของหยูเถิง เขาก็จดบัญชีกับหลี่ฝางอีกครั้ง

หยูเถิงเตรียมตัวที่จะหาโอกาสคิดบัญชีกับหลี่ฝางที่หลัง ครู่เดียวก็ผลาญเงินเขาไปตั้งห้าแสนกว่า……บัญชีนี้ ต้องไม่จบง่ายๆ แบบนี้แน่

“ไม่สิ ถึงจะห้าแสนก็เถอะ? ในบัตรฉัน ยังมีเงินอยู่แปดแสนกว่าๆ นะ!”

“ยังมีบัตรเครดิตใบนี้ มีวงเงินตั้งสามล้านนะ ทำไมถึงรูดเงินแค่ห้าแสนไม่ได้ล่ะ!”

หยูเถิงขมวดคิ้ว แล้วถามเองตอบเองอย่างสงสัย

ผู้จัดการแคชเชียร์มองหยูเถิง และพูดอย่างกล้าๆ : “คุณชายหยู ผมได้ยินมาว่าการเงินตระกูลหยู เหมือนจะมีปัญหาเล็กน้อย เอางี้ คุณชายลองโทรหาที่บ้าน ถามดูมั้ยครับ?”

“ไร้สาระ!”

“ตระกูลหยูของพวกเราจะมีปัญหาเรื่องเงินได้ยังไง? นายพูดมั่วซั่วบ้าอะไรห้ะ!”

หลังจากหยูเถิงแหกปากด่าไปแล้ว แต่ว่าในใจ กลับรู้สึกระแวงขึ้นมา

บัตรนี่รูดไม่ผ่าน ก็เห็นได้ชัดว่ามีปัญหา

หยูเถิงหลบเข้ามุมที่ไม่มีคน แล้วโทรหาพ่อของตน: “พ่อ บัตรผมเป็นอะไร ผมกำลังจะจ่ายเงินเหนี่ย ทำไมถึงรูดไม่ผ่าน?”

“เสี่ยวเถิง พ่อกำลังจะบอกลูกเลย บัตรของนาย ถูกธนาคารอายัดไว้ทุกใบแล้ว”

“ไม่ใช่แค่ของลูก บัตรของตระกูลหยูทุกคน ทั้งหมดถูกธนาคารอายัดบัตรหมดแล้ว”

“เอาล่ะ ไม่พูดแล้ว พ่อกำลังยุ่ง นายไปยืมเงินคนอื่น ออกไปก่อนนะ แล้วก็กลับมาบ้าน ทั้งนี้ตระกูลหยูของพวกเรา เจอเรื่องใหญ่แล้ว” พ่อของหยูเถิงพูดจบ ก็วางสายไป

พ่อของหยูเถิง เริ่มโทรหาคนรู้จัก ไปทั่ว

“เ**ดแม่ง มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่?” ในตอนนั้นหยูเถิงก็ยืนโง่อยู่กับที่ สีหน้าซีดเผือด

ถูกอายัดบัตร นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แล้ว

แต่เมื่อหยูเถิงกลับมา หลี่ฝางก็จ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว

“ไปเถอะ ฉันเคลียร์บิลเรียบร้อยแล้ว” หลี่ฝางยิ้มนิ่งๆ

สีหน้าของหยูเถิงอึ้งเล็กน้อย: “นายจ่ายเหรอ? นายไปเอาเงินมาจากไหน นี่มันเงินห้าแสนนะ!”

“คุณชายหลี่ ท่านกลับมาอีกแล้วเหรอครับ” ในตอนนั้น หวงว่างโก๋ก็รีบเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างเร็ว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท