NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 400

ตอนที่ 400

บทที่ 400 เป็นตู้เฟยที่ทำร้ายนาย

พูดได้ว่าหวงว่างโก๋ตั้งตารอเป็นประกาย บอกได้ว่ารอการมาของหลี่ฝาง

“คุณชายหลี่?”

พอได้ยินชื่อเรียกนี้ หยูเถิงแค่รู้สึกว่าตัวเองต้องฟังผิดไปแน่ๆ

หวงว่างโก๋คนนี้ทำไมถึงเรียกหลี่ฝางว่าคุณชายหลี่ล่ะ?

หลี่ฝางกระแอมสองที: “พี่หวง ล้อเล่นอะไรครับเหนี่ย ผมใช่คุณชายหลี่อะไรนั่นที่ไหนกัน”

ที่จริงในตอนนี้ เพื่อนทั้งชั้น ส่วนมากก็พอเดาได้ว่าฐานะของหลี่ฝางไม่ธรรมดา

จ่ายเงินสดเข้าห้องตั้งเจ็ดแสน และเมื่อกี้เคลียร์บิล ก็รูดไปอีกห้าแสนกว่า

วันนี้ ใช้เงินไปเป็นล้านๆ แล้ว

ประเด็นคือบนหน้าของหลี่ฝาง ไม่เห็นถึงความเสียดายตังค์ใดๆ ทั้งสิ้น

สำหรับนักเรียนทั่วไปแล้ว กินข้าวมื้อนึงจ่ายเงินหลักพันหน้าก็เขียวแล้ว แต่ว่าหลี่ฝาง ห้าแสนขนยังไม่ร่วงสักเส้น

ออร่าความรวยนี้ ถ้าไม่ใช่คุณชาย ยังจะเป็นอะไรได้อีก?

จะเป็นอย่างที่ตู้เฟยพูดจริงๆ หรือเปล่า เป็นแค่คนยากจนจริงๆ เหรอ?

“พี่หวง ผมมีเรื่องต้องทำนิดหน่อย จัดการเรียบร้อย จะไปหานะครับ” หลี่ฝางพูดกับหวงว่างโก๋

หวงว่างโก๋พยักหน้า: “โอเค นายมีธุระก็ไปจัดการก่อน พี่จะรอ”

“แต่ว่า นายอย่าเทฉันแล้วกัน” หวงว่างโก๋ชี้ไปที่หลี่ฝาง แล้วพูดเตือน

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ : “ครั้งที่แล้วผมลืมจริงๆ ”

ครั้งก่อน หลี่ฝางนัดหวงว่างโก๋เฉินเจียโล่และคนอื่นๆ ว่าสุดสัปดาห์นัดกินข้าว แต่เพราะว่ายุ่งๆ หลี่ฝางจึงลืมไป

หลังจากหวงว่างโก๋ไป สีหน้าของหยูเถิง ก็สงสัยขึ้นทันที

“หลี่ฝาง นายเป็นใครกันแน่?” ถึงแม้หยูเถิงจะโง่ แต่ก็พอดูออก

ไม่ใช่แค่ช่วยตนจ่ายบิลราคาห้าแสน แถมยังเรียกคนอย่างหวงว่างโก๋แบบพี่น้อง

หลี่ฝางก็รู้ว่าใกล้จะหลอกต่อไปไม่ได้แล้ว จากนั้นก็กระซิบที่ข้างหูลู่เชาไม่กี่คำ

จากนั้น หลี่ฝางก็ตบไปที่บ่าของหยูเถิง แล้วพูด: “ถ้าหากฉันพูดไม่ผิด ตระกูลหยูของพวกนาย คงจะใกล้ล้มละลายแล้วใช่มั้ย?”

“ก็แค่เจอปัญหาเรื่องการเงินนิดหน่อย ยังไม่ถึงขั้นล้มละลาย” หยูเถิงเชื่อมั่นในรากฐานของตระกูลหยู

ตนเพิ่งออกมาจากตระกูลหยูได้แค่วันเดียว ทำไมจู่ๆ ถึงได้ล้มละลายล่ะ?

ตระกูลนี้เป็นตระกูลเก่าแก่หลายสิบปี รากฐานของตระกูล ทำไมถึงได้ถูกทำลายลงได้ในแค่วันเดียวล่ะ?

มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

หลายปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าตระกูลหยูจะไม่เคยเจอวิกฤต แต่ในครั้งนั้น ก็ผ่านพ้นมันมาได้นี่?

ดังนั้น หยูเถิงเชื่อว่า ตระกูลหยูที่หนุนหลังตน เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกถอนรากแบบนี้

“ไป ไปหาที่คุยกัน” หลี่ฝางพูดพลางหัวเราะ

“มีอะไรที่ต้องหลีกเลี่ยงผู้คน?” หยูเถิงขมวดคิ้ว

“ฉันเกรงว่าถ้ามีคนอื่นอยู่ นายจะกระอักเลือด” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ จากนั้นก็โอบหยูเถิง และเดินไปยังสนามหญ้าฝั่งตรงข้าม

และในตอนนั้น ลู่เชาก็สั่งการออกไป ว่าให้เพื่อนร่วมชั้น กลับไปแล้วอย่าพูดเรื่องของหลี่ฝางไปเรื่อย

หลังจากสั่งการ ลู่เชาก็เดินไปทางรถปอร์เช่ 918 สีแดงคันนั้น

“พี่เชา เสียมารยาทถามนิดนึง ท่านกับคุณชายหลี่ มีความสัมพันธ์อะไรกันแน่?”

“เหอะๆ พวกเราที่จริงแล้วเป็นเพื่อนของคุณชายหลี่”

ส้งเคอเดินขึ้นหน้ามา แล้วถามลู่เชา

ส้งเคอและคนอื่นๆ สงสัยว่าสรุปแล้วลู่เชาใช่คุณชายของสี่ตระกูลหรือเปล่า

เพราะว่าจากท่าทีของลู่เชาก็สามารถเห็นได้ว่า ลู่เชานั้นเกรงกลัวหลี่ฝางเอามากๆ

“นายคือคนของคุณชายหลี่ใช่มั้ย?” หวงเจ๋ก็เดินขึ้นหน้ามา และเอ่ยถามเช่นกัน

สีหน้าของลู่เชาเลิ่กลั่กอยู่ครู่ เขาคิดไม่ถึงว่าฐานะของตนจะถูกจับได้

เขาไม่ได้ปิดบัง พูดพลางหัวเราะ: “เห็นว่าพวกนายรู้จักกับเจ้านาย งั้นฉันก็จะบอกความจริงให้ฟังแล้วกัน ที่จริงแล้ว ฉันเป็นแค่ลูกน้องของคุณชายหลี่เท่านั้น”

“งั้นรถคันนั้น?” ใบหน้าของหวงเจ๋ เต็มไปด้วยความตกใจ

“แน่นอนว่าเป็นของคุณชายหลี่สิ” ลู่เชาพูดพลางหัวเราะ และเข้าไปในรถ

ในรถ มีสาวสวยคนนึงนั่งอยู่

หลังจากรถขับออกไป ส้งเคอถึงพูดขึ้น: “คุณชายหลี่สรุปแล้วเป็นคนยังไงกันแน่เหนี่ย? น่ากลัวไปแล้ว ปอร์เช่ 918 คันนี้ กลับเอามาให้ลูกน้องขับ?”

“แล้วก็ป้ายทะเบียนรถนี่ เป็นป้ายทะเบียนรถของท่านจวน ทำไมถึงได้หลุดมาถึงคุณชายหลี่ได้ คุณชายหลี่คนนี้ กับท่านจวนมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่?”

หวงเจ๋ส่ายหน้า: “เรื่องนี้พวกเราอย่าเพิ่งพูดถึงเลย เมื่อกี้ฉันได้รับข่าวมา ว่าตระกูลหยูเป็นไปได้มากว่าจะล้มละลายแล้ว”

“ตระกูลหยูล้มละลาย? เรื่องนี้จริงหรือปลอมเหนี่ย ตระกูลหยูก็ดีๆ อยู่ ทำไมบอกว่าล้มละลายก็ล้มไปทั้งอย่างนั้นได้ล่ะ” หน้าของเฝิงจื่อหลิน เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เฝิงจื่อหลินออกแบบเสื้อผ้า สำหรับธุรกิจของตระกูลหยู เฝิงจื่อหลินก็สนใจอยู่ตลอด

สามารถพูดได้ว่าครั้งนี้ที่กลับมา คู่แข่งของเฝิงจื่อหลิน ก็คือตระกูลหยู

“คุณชายหลี่ลงมือเหรอ” หวงเจ๋ทำสีหน้าสงสัย

“คุณชายหลี่ใช้เวลาแค่วันเดียว ก็ขุดรากถอนโคน ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลหยู ทั้งหมดต้องพังเพราะหยูเถิงคนเดียว” หวงเจ๋ถอนหายใจ

“เวลาแค่วันเดียว? หวงเจ๋ นายบอกว่าคุณชายหลี่ใช้เวลาแค่วันเดียว ก็สามารถขุดรากถอนโคนตระกูลหยูได้แล้ว เป็นไปได้ไง?” ส้งเคอไม่ค่อยเชื่อ

“ฉันก็คิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ แต่ว่าความจริงก็วางกองอยู่ตรงหน้าแล้ว พวกเราไม่เชื่อก็ไม่ได้”

หวงเจ๋ถอนหายใจเฮือกใจ: “ตระกูลหลี่แห่งบ้านพักตากอากาศ น่ากลัวกว่าที่พวกเราคิดไว้มาก……โชคดี พวกเราไม่ได้ทำอะไรให้เขาไม่พอใจ”

ในใจของหวงเจ๋ หลี่ฝางกลายเป็นปีศาจไปแล้ว

ไม่สิ น่ากลัวกว่าปีศาจอีก

“เมื่อคืนสวีเถิงเฟยเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ สองแขนสองขาพิการหมด อีกครึ่งชีวิตที่เหลือ ทำได้แค่นั่งบนรถเข็น แต่พวกนายคิดว่าเป็นอุบัติเหตุจริงๆ เหรอ?” หวงเจ๋หัวเราะอย่างเย็นชา และพูดด้วยสีหน้าซับซ้อน

“ถ้าไม่งั้นล่ะ?” เฝิงจื่อหลินถาม: “หรือว่ามีสาเหตุอื่น?”

“หวงเจ๋ อย่าลีลา ถ้ารู้อะไร ก็รีบบอกมา ในพวกเรา ไม่มีหนอนบ่อนไส้” จางเฉียงร้อนรนเล็กน้อย

หวงเจ๋ส่ายหน้า แล้วพูด: “ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น”

“งั้นนายพูดพร่ำอะไรเหนี่ย?” จางเฉียงได้ยินแบบนี้ ก็ไม่พอใจทันที

หน้าของส้งเคอและเฝิงจื่อหลิน ก็มีความไม่พอใจและผิดหวัง

ในนานหวงเจ๋ ก็พูดขึ้นต่อ: “หรือว่าพวกนายไม่ใช่สมองคิดหน่อยเหรอ ไม่กี่วันก่อนที่บ้านพักตากอากาศ สวีเถิงเฟยคนนั้นทำอะไรไว้?”

“สวีเถิงเฟยกับคุณชายหลี่มีเรื่องกัน……” ส้งเคอพูด

เฝิงจื่อหลินก็คิดขึ้นได้: “หวงเจ๋ ความหมายของนายคือ เรื่องที่สวีเถิงเฟยพิการ คุณชายหลี่เป็นคนทำเหรอ”

หวงเจ๋ยิ้ม: “ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยนะ พวกนายพูดกันเองนะ”

……

ทันใดนั้น ใบหน้าของทุกคน ก็ซีดกันหมด

หลี่ฝาง ทำเรื่องได้เด็ดขาดและรุนแรงมาก

คนนึงพิการ อีกคนตระกูลล้มละลาย

หลังจากหลี่ฝางกับหยูเถิงมาถึงสนามหญ้า หลี่ฝางก็หยิบบุหรี่ขึ้นมวนนึง และยื่นให้หยูเถิง: “อย่างแรก ฉันจะสารภาพเรื่องนึงกับนาย”

“เรื่องฐานะของนาย?”

หลี่ฝางพยักหน้า: “ที่จริงแล้วฉันคือคุณชายของพักบ้านพักตากอากาศ หลี่เจียเฉินคือปู่ของฉันเอง”

เมื่อได้ฟังถึงตรงนี้ ลมหายใจของหยูเถิงก็เปลี่ยนเป็นเร็วขึ้น

“ช็อกมากใช่มั้ย? ช็อกก็ถูกแล้ว” หลี่ฝางยิ้มอย่างเย็นชา

หยูเถิงมองหลี่ฝาง ถามด้วยใจที่เต้นรัว: “ที่ธุรกิจของลุงฉันตู้ต้าไห่ล้มละลาย เป็นนายที่ทำ?”

“ไม่ใช่แค่ตู้ต้าไห่ รวมไปถึงตระกูลหยูของพวกนายด้วย ก็เป็นฉันที่ทำ” หลี่ฝางพูดพลางยิ้ม

“นาย!” หยูเถิงพูดด้วยสีหน้าอาฆาต เกือบจะลงไม้ลงมือกับหลี่ฝาง

ส้าวส้วยเดินออกมาจากหลังต้นไม้ต้นนึงอย่างช้าๆ จึงทำให้ความต้องการทำร้ายหลี่ฝางของหยูเถิงหยุดชะงัก

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ : “โชคนายไม่ดี ที่ไปเป็นลูกพี่ลูกน้องของตู้เฟย”

“ประเด็นสำคัญก็คือ นายช่วยตู้เฟยทำร้ายฉันครั้งแล้วครั้งเล่า นี่เป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ตระกูลหยูพังพินาศ” หลี่ฝางพูด

“หึ อย่าฝันเลย ถึงแม้ตระกูลหลี่ของนายจะมีเงิน อยากจะขุดรากถอนโคนตระกูลหยู ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ แล้วอีกอย่างนี่มันเพิ่งจะแค่วันเดียวเอง ถึงจะเป็นหนึ่งปี เกรงว่าพวกนายก็ทำไม่ได้ อย่าดูถูกตระกูลหยูของพวกเรานักสิ” หยูเถิงพูดอย่างหยิ่งผยอง

“เหรอ?”

หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วเปิดไฟล์นึง จากนั้นก็ยื่นให้หยูเถิง: “นี่คือลูกค้าหลายปีที่ผ่านมาทั้งหมดของพวกนายใช่มั้ย?”

“ทั้งหมดอยู่ในนี้ใช่มั้ย?” หลี่ฝางพูดพลางยิ้มอ่อน: “ไม่น่าตกหล่นนะ”

หยูเถิงมองรายชื่อในไฟล์นี้ ก็ถึงกับอึ้ง

ในไฟล์นั้น ไม่ได้มีแค่รายชื่อลูกค้า นอกจากนั้นยังมีข้อมูล พวกราคา และสิ่งที่ควรมี

“ตระกูลหยูมีหนอนบ่อนไส้……” หยูเถิงกัดฟันแน่น ข้อมูลพวกนี้ นอกจากคนในตระกูล ก็ไม่มีใครหาได้

หลี่ฝางพูด: “ลูกค้าของตระกูลหยูของพวกนาย หยุดการค้าทั้งหมดแล้ว บอกได้ว่า เสื้อผ้าที่ตระกูลหยูของนายผลิตออกมา ก็ขายไม่ออกแล้ว……ทำได้แค่ขายล้างสต๊อกเท่านั้น ฉันได้ยินมาว่าตระกูลกู้เงินมากมายเพื่อโครงการถนนการค้า กู้เงินมาไม่น้อยนี่……”

“เงินในธนาคารมีปัญหา และกำลังต้องการเงินก้อนนี้จากพวกนาย ถ้าหากไม่มีให้ ก็รอล้มละลายได้เลย”

หลี่ฝางยิ้ม แล้วพูดอย่างมั่นใจ: “ฉันคิดว่าตระกูลหยูของพวกนายไม่มีเงินให้หรอก”

“นายมันชั่ว……” หยูเถิงมองหลี่ฝาง กัดฟันแน่นแทบหัก

“ชั่วเหรอ? ถ้าหากไม่ใช่เพราะคุณชายหลี่ เกรงว่าฉันจะเล่นพวกนายถึงตายเลย”

หลี่ฝางปัดๆ ก้นแล้วยืนขึ้น พูดพลางทำสีหน้าเย็นชา: “ฉันแค่โชคดี เกิดดีกว่านายหน่อย เงินเยอะกว่านายหน่อย เส้นสายเยอะกว่านายหน่อย”

“หยูเถิง ไม่ใช่ฉันทำร้ายนายนะ แต่เป็นตู้เฟยน้องชายนายที่ทำร้ายนาย”

“แก……แกมันสารเลว ฉันจะอัดแก!” หยูเถิงพุ่งเข้าหาหลี่ฝาง ราวกับคนบ้า

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท