NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 408

ตอนที่ 408

บทที่408 ความใส่ใจของลู่หลุ่ย

เหยสงเข้ามาในรถตู้ ตาก็แดงขึ้นมา

ใบหน้าที่ดุดันของเขา มองซุนจิ้นที่นั่งข้างคนขับ ก็ทำท่าจะระเบิดใส่

เหยสงเดิมทีนั้นโหด โหดยิ่งกว่าเสือ ถ้าไม่ใช่แบบนี้ โหจื่อก็คงไม่ตัดขาของเขา

เหยสงจะระเบิดใส่นั้น ไอ้หน้าหนวดก็คว้าคอเสื้อเหยสง จากนั้นใช้ปืนจ่อไปที่หัวเขา:“อย่าขยับ ถ้าขยับผมทำคุณตายแน่!”

“ไอ้หน้าหนวด ให้ผมฆ่าเขา แค่ผมฆ่าเขา ต่อไปคุณจะให้ผมทำอะไรก็ได้!”เหยสงหันหน้าไปพูดอย่างร้องขอ

“เหลวไหล ตอนนี้ซุนจิ้นเข้าร่วมกับกลุ่มพวกเราแล้ว ผมจะให้ฆ่าคนของผมเหรอ?”ไอ้หน้าหนวดปฏิเสธอย่างเย็นชา

“เขาฆ่าลูกชายผม!”เหยสงพูดตะคอก

“หรือว่าผมไม่ควรแก้แค้นแทนลูกชายผมเหรอ?”เหยสงมีสีหน้าโหดเหี้ยม พูดเสียงดัง

“คุณมีลูกชาย ผมไม่มีเหรอ?ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ตอนนี้ลูกชายผมก็ยังใช้ชีวิตอยู่ดี”ไอ้หน้าหนวดมีใบหน้าเย็นชา มองเหยสง:“ไม่ใช่แค่ลูกชายผม ยังมีอีกตั้งหลายคน เพราะว่าถูกคุณฆ่าตาย รู้ไหม?”

“ตอนนั้นไม่ใช่ผมที่ทรยศเอง ทุกคนต่างตบตีหลอซ่า ทั้งเมืองต่างตบตี คุณจะให้ผมเลือกยังไง?คนฉลาดต้องเลือกจัดการในสิ่งที่ตัวเองถนัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีสิ ผมผิดตรงไหน?”เหยสงอธิบายเพื่อตัวเอง

“ห่า คุณยังคิดว่าคุณทำถูกเหรอ?ถ้าไม่ใช่ว่าไอ้หมาอย่างพวกคุณช่วยคนเลวทำเรื่องเลวๆ เอาผลประโยชน์ของสี่ตระกูลใหญ่มา ลูกพี่จะถูกไล่ออกไปเหรอ?แล้วพวกเราจะต้องหลบหนีเหรอ?”

“ถ้าคุณกล้าแตะต้องซุนจิ้นแม้แต่เส้นผม ผมจะไปคุยกับเสี่ยวฉิน”

ไอ้หน้าหนวดเก็บปืน ตบไหล่ของเหยสง:“คุณไปเถอะ คุณไปทำซุนจิ้นให้ตาย ให้ผมดูว่าหลายปีนี้กังฟูของคุณยังดีอยู่ไหม?”

ไอ้หน้าหนวดนั่งลงที่นั่งข้างคนขับ จุดบุหรี่ให้ตัวเอง:“ผมบอกคุณให้ ครั้งนี้คุณท่านกลับมา เพื่อมาแก้แค้น”

“สามปีนี้ ทุกอย่างที่ผมเสียไป จะต้องเอากลับคืนมา”

“สามปีนี้ ทุกอย่างที่พวกคุณหักหลังลูกพี่ ผมจะทำลายพวกคุณทีละคน”

“ที่จริง ทำลายคุณ ทำลายตระกูลสวี มีหลากหลายวิธี พวกเราไม่จำเป็นต้องฆ่าหวางเฉิน แต่พวกเราได้ข่าว หวางเฉินเจ้าเด็กนี่ค้ายา ตอนนั้นที่หลอซ่ากับท่านจวนปกครองเมืองเอก ยังเคยทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สิ่งนี้ จะทำการไหลเวียนไม่ได้”

“ผมรู้ว่าเป็นคุณที่ให้เขาทำธุรกิจพวกนี้ ดังนั้น การตายของเขา คนร้ายก็คือคุณต่างหาก ไม่ใช่ซุนจิ้น”

“ใช่สิ ลูกชายคุณก็กล้าเช่นกัน กล้าลงมือกับคุณชาย ……”

ไอ้หน้าหนวดพ่นบุหรี่ออก หัวเราะอย่างเย็นชา:“คุณกล้ามาก เกือบจะลงมือกับคุณชาย”

“คุณชาย?”

“ลูกชายของลูกพี่”ไอ้หน้าหนวดพูด

“คุณพูดถึงหลี่ฝางนั่น?”เหยสงรีบขมวดคิ้ว:“หลอซ่าก็คือ……”

“ใช่ ลูกพี่เปลี่ยนตัวตน หลอซ่าตายไปแล้ว ถูกพวกคุณทำลายลง……ตอนนี้ลูกพี่ก็เข้าใจว่า ตอนนั้นที่แพ้ ไม่ใช่เพราะจนเหรอ?สี่ตระกูลใหญ่มีเงิน ดังนั้นจึงล่อใจพวกคุณได้ ตอนนี้ลูกพี่ฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง นำเงินมาก้อนใหญ่ เงินนี้ ……”

“ช่างเถอะ ไม่พูดกับคุณแล้ว นักเลงขี้โกงอย่างคุณนี้ พูดกับคุณคุณก็ไม่เชื่อ อย่าคิดว่าสามปีมานี้คุณเป็นลูกพี่ หาเงินได้หลายล้าน ก็จะรู้สึกว่าสุดยอดเหลือเกิน ผมบอกคุณให้ หลายวันก่อนท่านไปนั่งรถเล่น ก็โปรยเงินไปกว่าห้าร้อยล้าน คุณเชื่อไหม?”มุมปากไอ้หน้าหนวดมีรอยยิ้ม

“เงินพวกนั้น คุณโปรยเหรอ?”

เรื่องที่หลายวันก่อนมีเงินตกลงมา ก็เป็นที่ฮือฮาไปทั้งประเทศ

ถึงแม้แต่ไม่มีตัวเลขที่แน่ชัด แต่ ก็ต้องมีถึงล้านแน่นอน

และก็ไม่รู้ว่าเป็นเทพมาจากไหน ถึงขับเครื่องบินโปรยเงินหลายล้านลงมา

เพียงชั่วขณะ ก็กลายเป็นข่าวระหว่างประเทศ

ในฐานะคนท้องถิ่นของเมืองเอก เหยสงจะไม่รู้ได้ไง?

ก็แค่ เหยสงคิดไม่ถึง เงินจำนวนมากขนาดนี้ จะเป็นเพื่อนเก่าตัวเองทำ

“ใช่ ไม่มีอะไรทำ ก็เลยมาโปรยเงินเล่น ……ตอนนี้พวกเรามีเงินเยอะ”ไอ้หน้าหนวดยิ้มอย่างภูมิใจ

เหยสงเม้มปาก ในใจเต็มไปด้วยความช็อก

“เหยสง ของที่ติดไว้ ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องคืน พอชดใช้หนี้จนหมด ผมจะส่งคุณไปกับมือเอง”ไอ้หน้าหนวดมองเหยสง พูดอย่างซับซ้อน

“การตายของซ้อกับหลานชายคนโต……ไม่เกี่ยวกับผม”

“ผมรู้ แต่ถ้าคุณมีหัวใจ พวกเขาก็คงไม่ตาย”มุมปากไอ้หน้าหนวดหัวเราะ ในแววตากลับเต็มไปด้วยขุ่นเคืองกับแค้น

“ทุกคนไม่ใช่เด็กสามขวบทั้งนั้น ถ้าคุณอยากย้อนความหลัง ก็หาคนไปเตือนสะใภ้ผม เธอก็หนีแล้วไหม?ผมรู้ว่าคนที่วางเพลิงฆ่าพวกเธอ ไม่ใช่คุณ แต่เรื่องนี้ คุณกล้าพูดว่าคุณไม่รู้เหรอ?”

“แม่เอ๊ย คุณมันคนทรยศ”คิดถึงเรื่องตอนนั้น ไอ้หน้าหนวดก็โมโห

มือของไอ้หน้าหนวด อดไม่ได้ที่จะสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง กำปืนแน่น

ขาแทบอยากจะยิงใส่เหยสง เหยสงส่ายหน้า:“คนในยุทธภพ ไม่อาจทำตามใจตัวเองได้ ผมก็แค่คนตัวเล็กๆ แก้ไขจุดจบไม่ได้ ถึงแม้ผมไม่ได้ทรยศ โชคชะตาของหลอซ่าก็ไม่เปลี่ยน……ถึงตอนนั้น ผมกลัวว่าแม้แต่เสี่ยวฉินกับชองชองก็รักษาไว้ไม่ได้”

“ไอ้หน้าหนวด ในรถไม่มีพื้นที่นัก รอลงจากรถ ผมจะก้มหัวให้คุณด้วยขากะเผลกนี่ ……”เหยสงพูดอย่างรู้สึกผิด

ไอ้หน้าหนวดปล่อยปืน หลับตาลง

……

ในVolkswagen CCคันหนึ่ง หลี่ฝางมองส้าวส้วยแล้วถาม:“ต่อไปพวกเราไปไหน?”

“ผมกลับมหาวิทยาลัยได้ยัง?”หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะถาม

ส้าวส้วยส่ายหน้า:“การตายของหยูเถิง ยังไม่ได้จัดการอย่างเรียบร้อย ตอนนี้คุณยังเป็นผู้ต้องสงสัย ถ้าคุณกลับไปพักที่หอของมหาวิทยาลัย ก็ยากที่จะเลี่ยงถูกตำรวจจับไป แน่นอน สุดท้ายคุณไม่เป็นอะไรแน่ แต่คุณก็ไม่อยากเข้าคุกสักคืนใช่ไหมล่ะ?”

“ไม่อยากแน่นอน”

ในใจหลี่ฝางกังวล กลัวหน่อยๆ:“ส้าวส้วย คุณว่าผมจะเหมือนหยูเถิงไหม ถูกว่าถูกฆ่าตายก็ตายเลย?”

“เขายังหนุ่มอยู่เลย ก็ถูกคนฆ่าตายแล้ว”หลี่ฝางพูดอย่างเสียใจ

ยังไงก็ยังอยู่ในยุทธภพนี้ ไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ต้องโดน คนแรกเป็นหลี่หลง ต่อมาก็หยูเถิง พวกเขาอายุพอๆกับตัวเอง แต่ก็เสียชีวิตตอนยังหนุ่มทั้งนั้น

หลี่ฝางกลัวจริงๆ กลัวว่าต่อไปจะเป็นตัวเอง

ส้าวส้วยไม่พูด ได้แต่ขับรถต่อไป

“เจ้านาย ที่จริงมีที่หนึ่งปลอดภัยมาก คุณจะไปไหม?”ผ่านไปนาน จู่ๆส้าวส้วยก็ยิ้มออกมา

“ที่ไหน?”หลี่ฝางถามตาม

“ดูไบไง คุณลืมแล้วเหรอ?ปู่ของเจ้านายเป็นถึงคนที่รวยเป็นอันดับหนึ่งดูไบนะ”ส้าวส้วยพูดขำๆ:“พอถึงดูไบ ไม่มีใครรังแกคุณแน่ อีกอย่างที่ดูไบ ก็สนุกกว่าที่เมืองเอกเยอะเลย”

“ช่างเถอะ ที่เมืองเอกผมยังไม่ได้เที่ยวหมดเลย ผมยังต้องไปดูไบอีก?”

หลี่ฝางยิ้ม ในใจดูถูกหน่อยๆ

คนที่รวยเป็นอันดับหนึ่งดูไบอะไรกัน?

หลี่เจียเฉินอะไร?

หลี่ฝางเคยถามผู้ใหญ่บ้านไว้นานแล้ว ปู่ของตัวเอง ตายไปแล้วจริงๆ อีกอย่างก็เป็นผู้ใหญ่บ้านที่เห็นเขาหายใจเฮือกสุดท้าย

ตั้งแต่ไฟแผดเผาไปที่ศพ ผู้อาวุโสในหมู่บ้านล้วนแต่เห็นหมด

หมายความว่า หลี่เจียเฉินคนนี้ ถึงแม้จะยังอยู่ แต่ไม่ใช่ปู่ของตัวเอง

หลี่ฝางไม่ได้เปิดเผย และก็ไม่ได้ถามส้าวส้วย ได้แต่ทำเป็นไม่รู้ต่อไป

“ผมโทรหาพี่ชิงชิง ไปหาเขาหน่อย”หลี่ฝางคิด แล้วพูด

“ใช่สิ โทรศัพท์ผมโทรได้ยัง?”หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์มา แล้วก็ถาม:“คงไม่ถูกดักฟังหรอกนะ?”

“ไม่เป็นไร คุณโทรไปเถอะ ที่ตัวผมมีติดเรื่องรบกวนไว้ น่าจะไม่มีปัญหาอะไร วันนี้ทางสถานีตำรวจก็ใกล้จะตายห่าอยู่แล้ว อย่างแรกลูกคนรวยเล่นยาจนเสียชีวิต จากนั้นก็เป็นตระกูลสวีถูกการฆ่านองเลือดของเหยสงอีก คดีของหยูเถิง กลับเป็นเรื่องเล็ก”

ส้าวส้วยส่ายหน้าขำๆ:“ทั้งหมดนี้ ต้องยุ่งแน่ๆ”

หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ออกมา มองเห็นสายของฉินวี่เฟยโทรมา……

เมื่อกี๊หลี่ฝางตั้งเงียบ ดังนั้นเบอร์ที่โทรมา ก็เลยไม่แจ้ง พอหยิบโทรศัพท์มาดู แม่เอ๊ย มีโทรมาเป็นร้อยสาย

หนึ่งในนั้นก็ยังมี หลายสายของลู่หลุ่ยที่โทรมาด้วย

ไม่รู้สิ พอหลี่ฝางมองเห็นลู่หลุ่ยโทรมา ก็ดีใจ หลี่ฝางรีบโทรกลับไป เบอร์ของลู่หลุ่ย ก็รับอย่างไว

“ยังไม่นอนเหรอ?”หลี่ฝางถามไป

“อือ นอนไม่หลับ”ลู่หลุ่ยพูดเสียงเบา:“ฉันได้ยินว่าคุณ……ฆ่าคนเหรอ?”

“คุณรู้ได้ไง?”

“เมื่อกี๊เจ้าหน้าที่ตำรวจสาวนั้นมาหาฉัน ถามเบาะแสของคุณจากฉัน แล้วยังถามว่าคุณได้ติดต่อฉันไหม ฉันไม่ได้พูดอะไรไป ……ก็แค่เป็นห่วงคุณ คุณ……ไม่เป็นไรนะ?”ลู่หลุ่ยพูดเบาๆอย่างเป็นห่วง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท