NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 412

ตอนที่ 412

บทที่412 ถูกจับได้ว่าขโมยรถ

หลี่ฝางส่ายหน้าอย่างหมดคำพูด:“ไม่มีอะไรอร่อยเท่าเกี๊ยวอีกแล้ว แล้วก็ไม่มีสนุกไปกว่าภรรยา นี่มันคุณเลย”

“รักแท้ รักแท้……”

“คุณชายหลี่ คุณเข้าใจรักแท้ไหม?”เฉินฝูเซิงมองหลี่ฝางอย่างซีเรียส

“ผมไม่มีพี่สะใภ้ที่ร่วมนอนได้……”หลี่ฝางกลอกตาใส่เฉินฝูเซิง

“คุณชายหลี่ รักแท้ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่พี่สะใภ้ ผมเป็นข้อยกเว้น……”เฉินฝูเซิงอธิบาย

หลี่ฝางหัวเราะหึหึ:“คุณคือข้อยกเว้นจริงๆ พูดตรงๆนะ ถ้าผมเป็นพี่ชายคุณ ผมจะตามไปทำลายคุณทุกแห่งหนเลย”

ตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ความแค้นที่ฆ่าพ่อ ความเกลียดชังที่แย่งภรรยา เรียกได้ว่าไปอยู่ถึงจุดที่ไม่ยอมอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังเป็นน้องชายของตัวเองที่เป็นชู้?

เป็นความอัปยศอดสูอย่างใหญ่หลวง

เวลานี้ เฉินฝูเซิงก็ชักสีหน้าพูดว่า:“ต้องมีสักวัน ผมจะแย่งผู้หญิงที่ผมรักคืนมา”

“ห่า น้องชาย คุณป่วยจนเกินที่จะเยียวยาแล้ว นั่นพี่สะใภ้คุณนะ ……”

“เป็นรักแท้”เฉินฝูเซิงพูดแก้ให้

“ผมบอกแล้ว เสี่ยวเชี่ยนถูกบังคับ”เฉินฝูเซิงพูด:“คนรักในใจเสี่ยวเชี่ยนคือผม คนรักในใจผมก็คือเสี่ยวเชี่ยน เราสองคน ……”

เฉินฝูเซิงยังพูดไม่จบ ก็ถูกหลี่ฝางตัดบท……

หลี่ฝางชี้ไปที่ผู้หญิงที่เมาเลื้อยบนโซฟา:“งั้นเธอล่ะ?”

“เธอก็แค่คนผ่านมา”

“ผู้ชายล่ะ?ทำตัวเสเพลข้างนอกเป็นเรื่องปกติ แต่ ในใจรู้ดี ว่าเสี่ยวเชี่ยนต่างหากคือคนที่ผมรัก”เฉินฝูเซิงพูดอย่างจริงจัง

หลี่ฝางส่ายหน้า ไม่พูดอะไร

“ไปนอนละ”หลี่ฝางโบกมือ พูดกับเฉินฝูเซิง

เฉินฝูเซิงแบกผู้หญิงที่โซฟาขึ้นมา ถอนหายใจ:“เห้อ เสี่ยวเชี่ยน ทำไมคุณดื่มมากขนาดนี้”

หลี่ฝางกับส้าวส้วย ต่างเข้าไปใสนห้องตัวเอง จากนั้นก็เตรียมเข้านอน

เพิ่งนอนแผ่ลงไป หลี่ฝางกลับได้ยินเสียงหายใจ

เตียงอีกด้าน มีผู้หญิงที่ง่วงนอนอยู่ หวางเหยา พิธีกรแพลตฟอร์มถู่โต้วของตัวเอง

เฉินฝูเซิงไอ้หมานี่ จัดปาร์ตี้บ้าอะไรกันแน่

หลี่ฝางอุ้มหวางเหยาขึ้นมาบนเตียง ห่มผ้าให้เธอ ตอนที่เตรียมจะออกไป หวางเหยากลับโอบคอหลี่ฝาง:“อย่าไป อย่าไป……”

หลี่ฝางไม่ลังเลใดๆ ผลักหวางเหยาออกทันที

หลี่ฝางมีอะไรแล้วกับฉินวี่เฟย กับหลินชิงชิง

ตัวเองจะทำผิดอีกไม่ได้แล้ว

หลี่ฝางออกมาจากห้องนอน มาที่โซฟา นอนจนฟ้าสว่าง

เช้าวันถัดมา เฉินฝูเซิงออกมาด้วยแขนเปล่า บนคอเขา มีรอยจูบ ที่ตัว ก็มีรอยถูกผู้หญิงข่วน

“ผู้หญิงที่นอนกับคุณเมื่อคืน ชื่อเสี่ยวเชี่ยน?”หลี่ฝางหันไปมองเฉินฝูเซิง

เฉินฝูเซิงส่ายหน้า:“ผมไม่รู้แม้แต่ชื่อเธอ”

“ผมได้ยินคุณเรียกเธอว่าเสี่ยวเชี่ยน……”

“คุณชายหลี่ คุณเคยได้ยินว่า สุรามังสาผ่านลำไส้ พุทธะอยู่ในใจไหม?ผมเป็นคนแบบนี้ ไม่ว่าผมจะมีอะไรกับใคร ก็จะสะกดจิตตัวเอง จินตนาการว่าเธอคือผู้หญิงที่ผมรัก เสี่ยวเชี่ยน……”

“แบบนี้ ในใจผมก็จะไม่รู้สึกแย่”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“งั้นคุณรู้ไหมต่อไปของสองประโยคนี้ ยังมีอีกสองประโยค?”

“ไม่รู้สิ”

“ก็คือผู้ใดในโลกทำตามข้า ก็จะตกในบ่วงมารเฉกเช่นกัน”หลี่ฝางตบไหล่ของเฉินฝูเซิง:“คุณน่ะ เป็นคนเลวสุดๆ อย่าพูดว่ารักแท้เลย รักแท้ถูกคุณทำมลทินใส่แล้ว เข้าใจไหม?”

เฉินฝูเซิงเบะปาก พูด:“ใช่สิ มีสาวสวยในห้องของคุณด้วย หุ่นนี่เยี่ยมมาก เมื่อคืนคุณไม่ได้มีอะไรด้วยเหรอไง?”

“ไม่มี”หลี่ฝางส่ายหน้า

“ห่า คุณยังเป็นผู้ชายอยู่ไหม เนื้อมาหาถึงที่ คุณไม่กินเลยเหรอ?”เฉินฝูเซิงอ้าปากกว้าง มองหลี่ฝาง ดูตะลึงอย่างมาก

หลี่ฝางพูดเบาๆ:“ผมกินเจ”

“มีผู้หญิงมาให้แต่ไม่เอา นี่มันเนรคุณนะ หนุ่มๆ”

เฉินฝูเซิงส่ายหน้า:“น่าเสียดายจริงๆ ถ้ารู้ว่าคุณไม่เอา เมื่อคืนผมก็ควงสองละ”

“ผมไม่เหมือนกับคุณ ที่จะเอาผู้หญิงที่ไหนก็ได้ จินตนาการเป็นผู้หญิงในใจของตัวเอง”หลี่ฝางส่ายหน้า ถามว่า:“ส้าวส้วยล่ะ เขายังไม่ตื่นเหรอ?”

“พี่ผมคุยโทรศัพท์อยู่”

“พี่ผมนิสัยไม่ดี ไม่กล้ารบกวนเขา”เฉินฝูเซิงพูด

ไม่นานนัก ส้าวส้วยก็ลงมา ลงมากับเธออีกคน นั่นก็คือหวางเหยา

“เจ้านาย คุณไม่เป็นไรแล้ว”ส้าวส้วยมองหลี่ฝางแล้วพูด

หลี่ฝางยิ้มอย่างพอใจ:“แม่เอ๊ย มลทินนี้ ถือว่าชำระล้างออกไปได้แล้ว”

พอลากับเฉินฝูเซิง หลี่ฝางก็ออกไปจากคฤหาสน์

เฉินฝูเซิงทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งส้าวส้วย สายตาที่เฉินฝูเซิงมองส้าวส้วยออกไป ดูเหมือนอกหัก

เดิมที กษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้เฉินฝูเซิงมาอยู่ที่เมืองเอก นอกจากจะให้เขาหลบหนีปัญหาแล้ว ก็ยังอยากให้เฉินฝูเซิงเรียนกังฟูจากเสี่ยวโจว

แต่ใครจะไปรู้ เฉินฝูเซิงเพิ่งมา เสี่ยวโจวก็เข้าไป

เรียนกังฟูคงไม่ใช่ว่า เพื่อให้เฉินฝูเซิงเข้าไปตามหาเสี่ยวโจวหรอกนะ?

มากไปกว่านั้น เฉินฝูเซิงพบว่า กังฟูของส้าวส้วย เจ๋งกว่าเสี่ยวโจวเยอะเลย

ดังนั้น เฉินฝูเซิงอยากเคารพส้าวส้วยเป็นครู แต่ดูเหมือนส้าวส้วยไม่ค่อยสนใจเขานัก

หลี่ฝางขึ้นรถไป หวางเหยาก็โผล่ออกมา:“เจ้านาย คุณช่วยส่งฉันด้วยได้ไหม?”

หลี่ฝางลังเลหน่อยๆ คิดในใจ ยังไงก็เป็นพนักงานของตัวเอง ถ้าปฏิเสธไป ก็ไร้จิตใจเกิน

“ได้สิ”หลี่ฝางพยักหน้า

มุมปากหวางเหยายิ้ม:“ขอบคุณค่ะเจ้านาย”

ตอนนั้นหลี่ฝางไม่ได้สติคืนมา หวางเหยาก็จูบไปที่หน้าของหลี่ฝาง

หลี่ฝางขมวดคิ้ว ไม่พอใจเล็กน้อย:“ครั้งหน้าอย่าทำแบบนี้อีก”

หวางเหยาตอบอ้อ ใบหน้าก็ดูละอาย

“ผมมีแฟน ถ้าถูกเข้าใจผิด จะเกิดปัญหาเอา”พอขึ้นรถ หลี่ฝางก็อธิบาย

“ผู้หญิงคนนั้นโชคดีจัง ถึงได้มีแฟนที่รวยและหล่ออย่างคุณ”หวางเหยาพูดอย่างอิจฉา

“พอเถอะ อย่าประจบเลย รอมีเวลา ผมจะให้โจวหยางรูดของขวัญให้คุณเยอะๆ”หลี่ฝางก็ไม่โง่ จะไม่เข้าใจความคิดของหวางเหยาได้ไงกัน?

ผู้หญิงพวกนี้ พูดเอาใจตัวเอง ไม่ใช่เพื่อขึ้นตำแหน่งหรือทำเงินได้เยอะๆเหรอ?

“พวกเราไปเปลี่ยนรถกันก่อน”

ส้าวส้วยพูด แล้วก็ออกจากรถ

ขับรถเข้าไปในโรงจอดรถที่เก่าๆ ตอนที่เตรียมจะลงจากรถ ทันใดนั้นกลับมีกลุ่มคนพุ่งออกมา

“แม้แต่รถของผมก็กล้าขโมย ไม่อยากอยู่แล้วใช่ไหม?”

ไอ้หน้ายาวคนหนึ่งด่าด้วยเสียงเย็นชา:“ยังรู้จักขับรถกลับมา?เหอะเหอะ พวกขโมยรถอย่างพวกคุณ ตลกจริงๆ”

“ผมไม่ใช่คนขโมยรถ พวกเราแค่มีเรื่องฉุกเฉิน ก็เลยยืมรถคุณหน่อย ……ไม่ว่าจพูดยังไง พวกเราก็ไม่ได้ขออนุญาตขับรถของคุณ พวกเราปิดเอง ดังนั้นพวกเรายินดีชดใช้”หลี่ฝางเดินเข้าไปพูด

พริบตาเดียว

ไอ้หน้ายาวนี้ก็ไม่รู้ว่าเอาแท่งเหล็กมาจากไหน พุ่งมาที่หลี่ฝาง ดีที่เวลานี้ส้าวส้วยยื่นมือไปทัน ดึงหลี่ฝางไปด้านหลัง จึงทำให้หลี่ฝางหลบทัน

หลี่ฝางขมวดคิ้ว:“ผมรู้ว่าพวกเราผิด แต่ผมบอกแล้ว ผมยินดีชดใช้ ทำไมคุณต้องทำร้ายกันด้วย?”

“เหอะเหอะ ไอ้ขโมย ขโมยรถผมไป คิดจะชดใช้เงิน?คุณเห็นผมไม่มีเงินเหรอ?”ไอ้หน้ายาวพูดอย่างเย็นชา

พูดจบ สายตาเขามองไปที่หวางเหยา สายตาก็ดูทะลึ่งหรี่ตาออกมา

“น้องสาวหน้าตาดีมาก แม่เอีย หน้าตาอย่างสวย แล้วก็ยังสาว ดันมาขโมยรถกับ ……”ไอ้หน้ายาวพูดไม่ออก

“อย่าทำลายความสนใจของคนอื่น รถคันนี้ของคุณเท่าไหร่?”

หลี่ฝางชี้ไปที่VolkswagenCCแล้วพูด:“ผมซื้อโอเคไหม?”

“คุณอยากซื้อ ผมก็ต้องยอมขาย พวกคุณสามคนหัวขโมยรถ ไม่กลัวตายจริงๆ คุณเชื่อไหมแค่ผมโทรศัพท์ ก็ส่งพวกคุณเข้าไปกินข้าวคุกได้แล้ว?”

“น้องชาย บอกให้นะ ลูกพี่ของพวกเรารวย”ผู้ชายด้านหลังไอ้หน้ายาวพูดขึ้น

หลี่ฝางหน้าหม่นลง ถามว่า:“งั้นคุณจะเอาไง?”

“เอาสาวน้อยคนนี้ให้พวกเรา พวกเราเล่นพอแล้ว ก็จะเอาคืนพวกคุณ”

ไอ้หน้ายาวชี้ไปที่หวางเหยา หัวเราะ:“คนสวย ผมไม่ได้พูดนะ แต่คุณมาอยู่กับพี่ ยังมีอนาคตกว่าอยู่กับสองหัวขโมยนี่ซะอีก”

หวางเหยากลัวจนคว้าแขนหลี่ฝาง พูดเบาๆ:“เจ้านาย ไม่เอา คนพวกนี้ดูโรคจิต เอาฉันไปให้พวกเขา ……”

“อีกะหรี่ คุณพูดอะไร?คุณกล้าว่าพวกเราเหมือนโรคจิตเหรอ?”คนด้านหลังไอ้หน้ายาวได้ยินคำพูดของหวางเหยา ทันใดนั้นก็ต่อว่าด้วยสีหน้าโหดๆ จากนั้นก็พุ่งเข้ามาที่หลี่ฝาง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท