NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 410

ตอนที่ 410

บทที่410 ถ้าหยูเถิงไม่ตายล่ะ?

หลี่ฝางตะลึงไปเล็กน้อย ถึงจับมือกับหยูเต๋อส่วย

หลี่ฝางพบว่า ฝ่ามือของหยูเต๋อส่วย เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ หมายความว่า ในใจของหยูเต๋อส่วยก็กลัวและกังวล

ตอนนี้หลี่ฝางไม่เข้าใจว่าลุงเฉียนกำลังทำอะไร

ครั้งนี้ก็ขโมยศพของหยูเถิง แล้วก็เรียกหยูเต๋อส่วยมาอีก

“หยูเต๋อส่วย”

ลุงเฉียนลากเสียงยาว เหลือบมองหยูเต๋อส่วย:“ตระกูลหยูทางนั้นเป็นไงบ้าง?”

“ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของผมหมดแล้ว ก็แค่ ตอนนี้ตระกูลหยูยังไม่รู้ว่าผมขายพวกเขา แต่ละคนกำลังร้องห่มร้องไห้ แต่ไม่ใช่เพราะการตายของหยูเถิง แต่เพราะฐานะตระกูลหยูกำลังวิกฤต”

“ทางธนาคารกดดันอย่างหนัก ไม่ว่าพวกเราจะเอาธุรกิจไปขายเอง หรือว่าธนาคารจะเอาไปประมูล ผมกระตุ้นคุณท่านแล้ว ให้เขาขายเอง คุณท่านก็ทำใจไม่ค่อยได้”

“อีกอย่าง เหมือนว่าเขาสงสัยผมหน่อยๆ เหอะเหอะ ยังไงที่ทรยศนี้ ก็ไม่ใช่ผม แต่เป็นพี่ชายผม ความลับลูกค้าที่เป็นใจความสำคัญ มีแค่พวกเราที่รู้ ผมก็ไม่ได้คิดจะปกปิด ถึงจะประกาศต่อสาธารณชนว่าผมขายพวกขา ก็ไม่มีอะไรที่ผมไม่กล้า”หยูเต๋อส่วยหัวเราะอย่างชั่วร้าย

ต้องบอกว่า หยูเต๋อส่วยหน้าด้านจริงๆ ตัวเองหักหลังตระกูลของตัวเอง ก็ยังพูดอย่างมั่นใจ

เวลานี้ลุงเฉียนเดินมาข้างๆศพของหยูเถิง ยกศพของหยูเถิงขึ้นมาเล็กน้อย หยิบสัญญามาจากด้านล่าง

ลุงเฉียนเอาสัญญานี้ยื่นให้หยูเต๋อส่วย พูดว่า:“สัญญานี้ผมให้คุณดู ไม่มีปัญหาอะไร ก็เซ็นเถอะ”

“หุ้น50% เป็นของพวกเรา แต่พวกเราไม่เอาอำนาจ หมายความว่า พวกเราไม่ก้าวก่ายการตัดสินใจใดๆของคุณ”ลุงเฉียนพูด

หยูเต๋อส่วยมองสัญญาแวบหนึ่ง ตอนที่เปิดดูสัญญา ในสัญญาก็มีบัตรหนึ่งหล่นออกมา

“เงินในบัตรนี้ พอที่จะรับซื้อธุรกิจของตระกูลหยูในตอนนี้ ก็ยังเหลืออีกส่วนหนึ่ง ถือว่าเป็นค่าอำนวยความสะดวกของคุณ และก็ถือว่าเป็นทุนเริ่มต้นของคุณละกัน คุณจะจัดการอย่างไร ก็จัดการไปเถอะ”

ลุงเฉียนพูด:“รหัสคือวันเกิดแฟนสาวคุณ ตามปฏิทินจันทรคติ อย่าสับสนล่ะ”

ประโยคของลุงเฉียน เหมือนมีความข่มขู่แอบแฝงด้านใน

หยูเต๋อส่วยหัวเราะ รู้สึกขอบคุณลุงเฉียน:“ขอบคุณจริงๆครับลุงเฉียน”

ลุงเฉียนยิ้มตาม:“สัญญาไม่มีปัญหาอะไรสินะ?ถ้าไม่มีปัญหา ก็ลงชื่อเถอะ”

“ได้”หยูเต๋อส่วยหยิบปากกาออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง จากนั้นก็ลงชื่อต่อหน้าทุกคน

จากนั้น หยูเต๋อส่วยเอาปากกายื่นให้หลี่ฝาง:“เจ้านาย ตาคุณแล้ว”

หลี่ฝางมองลุงเฉียน ลุงเฉียนพยักหน้าให้เขา หลี่ฝางจึงรับปากกา:“ใช่สิ ลุงเฉียน ผมควรเซ็นชื่อไหน?”

“แล้วแต่คุณ”ลุงเฉียนพูดอย่างไม่แคร์

หลี่ฝางพยักหน้าลง ลงชื่อ‘หนีเตีย’ชื่อนี้

มองเห็นชื่อนี้ หยูเต๋อส่วยก็ตะลึง:“หนีเตีย?”

“ใช่ ผมมีชื่อเล่น ชื่อหนีเตีย”หลี่ฝางพูดขำๆ

“ที่แท้คุณก็ผู้ซื้อของแพลตฟอร์มถู่โต้ว ผู้ครอบครองวิลล่ากลางภูเขาหมายเลข1นี่เอง!”มองหลี่ฝาง หยูเต๋อส่วยตกใจหน่อยๆ:“เจ้านายช่างเจ๋งเลยจริงๆ ได้ยินว่าแพลตฟอร์มถู่โต้วนี้มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นหลายเท่า……”

หลี่ฝางไม่พูด ถึงเพิ่มไปกี่เท่า ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเอง

ตัวเองไม่สนใจเลยสักนิด

“โอเค คุณเอาศพของหยูเถิงแบกไปไว้ในรถเถอะ เอาศพของหยูเถิงกลับไปที่ตระกูลหยู จากนั้นจะทำอะไร ก็ไม่ต้องให้ผมพูดแล้วมั้ง?”ลุงเฉียนพูดเบาๆ

“เอ่อ……”

มองศพของหยูเถิง ใบหน้าของหยูเต๋อส่วย ก็ปรากฏความกลัว

ยังไงเขาก็เป็นแค่นักธุรกิจ เห็นศพตอนดึกๆ กลัวว่าก็เป็นเรื่องปกติ

มากไปกว่านั้น ตอนนี้ลุงเฉียนจะให้เขาแบกศพ?

“ทำไม คุณยังคิดจะให้ผมแบกออกไปแทนคุณอีก?”สีหน้าของลุงเฉียน หม่นลงทันที

“ผมแบกละกัน”

ร่างกายหยูเต๋อส่วยนี้ แบกหยูเถิงที่หนักห้าสิบกว่า จึงไม่ใช่ปัญหาเลย

ก็แค่แบกศพ……

หยูเต๋อส่วยมาตรงหน้าของหยูเถิง แบกเขาขึ้นมา

หลี่ฝางยังคงไม่ค่อยเข้าใจ ถามไป:“ลุงเฉียน คุณจะทำอะไรกันแน่เนี่ย?”

ลุงเฉียนหัวเราะเหอะเหอะ ไม่พูด แต่ตามหยูเต๋อส่วยออกไปจากห้องแข็ง

พอออกไป ลุงเฉียนก็ตะโกน:“เจอกับสิ่งที่ตัวเองถนัด สุนัขที่ซื่อสัตย์ มีเจ้าของได้แค่คนเดียว คุณเข้าใจความหมายนี้ไหม?”

ร่างของหยูเต๋อส่วยสั่น หยูเถิงที่แบกไว้ ก็ร่วงลงพื้น

“ลุงเฉียน……ผม……”หยูเต๋อส่วยหันหน้าไป ทันใดนั้นสีหน้าก็ซีดขาว

“เหอะเหอะ คุณไม่ต้องอธิบายกับผม ทุกการกระทำของคุณ ต่างอยู่ภายใต้กล้องวงจรปิดของผม”ลุงเฉียนหัวเราะ พูดไป

“ลุงเฉียน ผมผิดไปแล้ว”

เสียงดังฟุ่บ หยูเต๋อส่วยคุกเข่าลงที่พื้น ไปทางลุงเฉียนอยู่

“โอเค ลุกขึ้นเถอะ เห็นแก่ที่คุณยังมีประโยชน์ ผมจะปล่อยคุณไปครั้งนี้ แต่ ถ้ามีอีกครั้ง ภรรยา ลูกสาวของคุณ ก็จะมีจุดจบเหมือนกับหยูเถิง เข้าใจไหม?ถ้าเข้าใจ ก็ก้มหัวลง ไม่ใช่กับผม แต่เป็นหลานชายคุณ”ลุงเฉียนพูดอย่างเย็นชา

พูดจบ หยูเต๋อส่วยก็หันไปทางตำแหน่งของหยูเถิง ก้มหัวลงให้เขาสามทีแรงๆ

จากนั้น หยูเต๋อส่วยก็ลุกขึ้น มองลุงเฉียน พูดด้วยใบหน้าหวาดกลัว:“ผม……ช่างเถอะ ลุงเฉียน ผมสำนึกผิดแล้ว ไม่มีอีกเป็นครั้งที่สองแล้ว”

หยูเต๋อส่วยไม่กล้าเป็นครั้งที่สองแล้ว

“อือ ทำเรื่องเสร็จ ก็ไปอายน้ำอุ่นที่ศูนย์อาบน้ำสุ่ยหยุนเทียน ล้างความชั่วร้ายออก แม่เอ๊ย หวังว่าคุณจะทำเงินให้พวกเรานะ อย่าสร้างปัญหาให้พวกเราตระกูลหลี่นะ”ลุงเฉียนส่งเสียงอืมโดยไม่พูดใดๆ โบกมือให้หยูเต๋อส่วย ให้เขาไปได้แล้ว

พอหยูเต๋อส่วยเอาศพของหยูเถิงขึ้นรถ ก็สตาร์ทรถออก

เวลานี้หลี่ฝางตามออกมา มองลุงเฉียนแล้วถาม:“ลุงเฉียน หยูเต๋อส่วยทำอะไรผิดกันแน่ ทำไมให้เขาคุกเข่าก้มหัวให้ล่ะ?”

“ผู้ชายคนนี้ เกิดมาเพื่อหักหลัง หักหลังตระกูลหยูก่อน จากนั้นก็หักหลังพวกเราด้วย”

“ถ้าผมไม่เตือนเขา ไม่แน่ว่าเขาคงเอารถคันนั้นขับไปที่ไหนแล้ว”

ลุงเฉียนหัวเราะอย่างเย็นชา พูดว่า:“รู้ไหมหยูเถิงตายยังไง?”

“ไม่ได้ถูกหมาทิเบตันฆ่าเหรอ?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว

“ใช่หมาทิเบตันฆ่าไม่ผิด แต่หยูเต๋อส่วยก็เกี่ยวข้องด้วย วันนี้เขาไปโรงพยาบาล ไปเยี่ยมมู่เสี่ยวไป๋ และท้องสองก็ยังทำข้อตกลงร่วมกันบางอย่างด้วย ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นแก่ที่เขามีผลประโยชน์ ผมคงบิดหัวเขาไปนานแล้ว”

สีหน้าของหลี่ฝางเปลี่ยนไป:“ใบหน้าของชายคนนี้มีแต่ความทรยศ”

“ก็ใช่ไง ถ้าลุงเฉียนไม่เตือนเขา เขาก็จะเอาศพของหยูเถิงไปไว้ในมือของมู่เสี่ยวไป๋ ถึงตอนนั้นข้อกล่าวหาของเจ้านาย ก็ยากที่จะสลัดออก”

“หยูเต๋อส่วยนี้ คิดว่าเราคบงโง่ แต่หารู้ไม่ว่า เนื้อหาที่เขากับมู่เสี่ยวไป๋พูดคุยกัน พวกเรารู้หมด”ส้าวส้วยยิ้มอย่างมีเลศนัย

“หวังจะกินทั้งตระกูลหลี่และตระกูลมู่ หยูเต๋อส่วยนี้ โลภจริงๆ”ลุงเฉียนส่ายหน้า

หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองส้าวส้วย:“เมื่อกี๊คุณพูดอะไรนะ ที่เขากับมู่เสี่ยวไป๋คุยกัน พวกเรารู้หมด?”

“ไม่ใช่เหรอไง?”

ส้าวส้วยหัวเราะ:“เจ้านาย คุณลืมเหรอ ครั้งที่แล้วตอนที่โหจื่อจับมู่เสี่ยวไป๋ ก็เอาโทรศัพท์ของเขาฟอร์แมตหมด”

“จำได้สิ”

“โหจื่อก็ยังเอาแอพกล้องวงจรปิดใส่ไปในโทรศัพท์เขาด้วย ก็แค่ แอพกล้องวงจรปิดนี้ ไอคอนกับชื่อ จะถูกซ่อนไว้”

“ในระยะเวลาหนึ่ง มู่เสี่ยวไป๋ไม่มีทางจับได้”

หลี่ฝางฟังจบ ในใจก็ปีติ:“นั่นไม่ได้หมายความว่า ทุกการกระทำของมู่เสี่ยวไป๋ อยู่ภายใต้กล้องวงจรปิดของพวกเราเหรอ?”

“ก็ใช่ไง”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ หยูเต๋อส่วยนี้ ไม่ใช่แค่โลภ แต่ความกล้าก็เยอะจริงๆ แค่คนตัวเล็กๆ ก็คิดจะเล่นกับตระกูลหลี่และตระกูลมู่ไปพร้อมๆกัน ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ

“ใช่สิ ลุงเฉียน ศพของหยูเถิงมีประโยชน์อะไร”จนตอนนี้หลี่ฝางยังไม่เข้าใจ ขโมยศพของหยูเถิงมีอะไรดี ถึงเอาศพกลับไปที่ตระกูลหยู

หรือว่าแบบนี้ จะพิสูจน์ได้ว่าตัวเองบริสุทธิ์?

“เสี่ยวฝาง คุณเคยได้ยินคำนี้ไหม?อยู่ต้องเห็นคน ตายต้องพบศพ”ลุงเฉียนยิ้มอย่างลึกลับ

“เคยได้ยิน”

“เหรอ ไม่มีศพของหยูเถิง ใครจะพิสูจน์ได้ว่าหยูเถิงตายแล้ว?”ลุงเฉียนเลิกคิ้วขึ้น

“หยูเถิงยังไม่ตาย งั้นคุณจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆ่าคนได้ไง”ลุงเฉียนพูดจบขำๆ ก็พูดกับหลี่ฝาง:“เสื้อคลุมคืนผมมา ผมจะกลับไปนอนแล้ว หลายวันนี้ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท