NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 424

ตอนที่ 424

บทที่424 นางในฝันของฉินจื่อยี่

ร่างของหลิงหลงก็เหมือนภูตผี และไม่รู้ว่าเธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่

“ถ้านายต่อยอีกครั้ง” หลิงหลงมองไปที่ฉินจื่อยี่ และพูดอย่างเย็นชา

ฉินจื่อยี่อ่อนแรงขึ้นมาทันที

มีดของหลิงหลง วางอยู่บนคอของฉินจื่อยี่ ฉินจื่อยี่จะไม่อ่อนแรงได้ยังไง?

หลิงหลงเหลือบมองหลี่ฝาง ถอนหายใจ และถามเสียงเบา “คุณชายทำไมคุณไม่ตอบโต้?”

หลี่ฝางเช็ดเลือดจากมุมปาก และยืนขึ้นจากพื้น

ที่หลี่ฝางไม่ตอบโต้ มีเหตุผลสองอย่าง

เหตุผลแรกคือ การตายนายท่านฉิน เกี่ยวข้องกับตัวเองอย่างแน่นอน

เหตุผลที่สองคือ หลี่ฝางต้องการทดสอบฉินวี่เฟย เป็นไปได้ไหมที่ตัวเองถูกต่อยจนตาย ฉินวี่เฟยก็จะไม่แคร์

หลี่ฝางยืนขึ้น ยิ้มที่มุมปาก เมื่อกี้เขาเพิ่งทดสอบฉินวี่เฟยด้วยการปฏิบัติจริง

แน่นอนว่า ฉินวี่เฟยเกลียดตัวเองมาก

ฉินจื่อยี่มองหลิงหลง และถามด้วยความกลัว “คุณ……ช่วยเอามีดออกก่อนได้ไหม?”

หลังจากพูดจบ ฉินจื่อยี่ก็ตกใจ

“พี่หลิงหลง ทำไมเป็นคุณ?”

เมื่อมองไปที่หลิงหลง สีหน้าฉินจื่อยี่ก็ตกใจ จากนั้นก็มีรอยยิ้ม

“พี่หลิงหลง คุณกลับมายังไง?”

“ในที่สุดฉันก็หาคุณจนเจอ”

ฉินจื่อยี่ดูตื่นเต้นมาก และลืมเรื่องการตายของปู่ของเขาอย่างสิ้นเชิง

หัวใจของฉินจื่อยี่เต้นเร็วขึ้น

หลิงหลง เป็นนางในฝันของเขา

แม้ว่าหลิงหลงจะอายุมากกว่าเขาหลายปี และภูมิหลังครอบครัวของเธอจะด้อยกว่าฉินจื่อยี่ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไร

ฉินจื่อยี่ตกหลุมรักหลิงหลงตั้งแต่แรกเห็น และชอบมานานหลายปี ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

หลังจากหลิงหลงหายตัวไป ฉินจื่อยี่ได้ค้นหาที่อยู่ของหลิงหลง แต่หลังจากค้นหาเป็นเวลาหลายปี เขาก็ไม่พบร่องรอยของหลิงหลง

แต่ถึงกระนั้น หลายปีมานี้ ฉินจื่อยี่ก็ไม่ได้ตกหลุมรักผู้หญิงคนอื่น

ต้องบอกเลยว่า ฉินจื่อยี่เป็นผู้ชายที่ซื่อสัตย์ในความรักมาก

เขารักหลิงหลง และรักอย่างลึกซึ้งมาก

แม้ว่าหลิงหลงจะมองว่า ฉินจื่อยี่เป็นน้องชาย ในแง่ความรักเธอไม่เคยรู้สึกรักเขาเลย

ถึงกับว่า หลิงหลงเคยบอกฉินจื่อยี่มากกว่าหนึ่งครั้ง ว่าระหว่างเรามันไม่เหมาะสม แต่ฉินจื่อยี่ไม่สนใจเรื่องนี้

ด้วยเหตุนี้ ในวินาทีนี้ที่ฉินจื่อยี่เห็นหลิงหลง ฉินจื่อยี่ก็ตื่นเต้นมาก แม้แต่ความโศกเศร้าจากการตายของปู่ของเขา ก็สามารถลืมไปได้

ฉินจื่อยี่อยากวิ่งเข้าไปกอดหลิงหลง แต่หลิงหลงใช้มีดชี้ไปที่ฉินจื่อยี่

หลิงหลงส่ายหัว มองไปที่ฉินจื่อยี่ และพูดว่า “คุณไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ยังคงเป็นเหมือนเมื่อสามปีก่อน”

“อะไรนะ พี่หลิงหลง ดูดีๆ ฉันสูงขึ้น และหล่อขึ้นแล้ว คุณไม่สังเกตเหรอ” ฉินจื่อยี่พูดด้วยความตื่นเต้นดีใจ

หลิงหลงส่ายหัว “ฉันไม่ใช่สาวๆ ดังนั้นฉันจะไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้”

“อย่าโง่เหมือนเมื่อสามปีก่อนเลย ฉันไม่มีวันชอบคุณอยู่แล้ว”

หลิงหลงพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา “ยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงแต่ชอบคุณ และฉันยังเกลียดคุณมาก”

“เกลียดฉัน?”

“พี่หลิงหลง คุณเกลียดอะไรฉัน” ฉินจื่อยี่มองหลิงหลง ใบหน้ามีความกังวลใจเล็กน้อย

ในเวลานี้ ฉินวี่เฟยก้าวไปข้างหน้า และเดินเข้าไปหาพี่ชายของเธอ และพูดด้วยความโกรธ “พี่ เมื่อกี้พี่ยังตำหนิฉันว่าไม่รู้เรื่องอะไร แล้วพี่ล่ะ?”

“พี่รู้ไหมว่า ผู้หญิงคนนี้ เป็นคนทำให้คุณปู่ต้องตาย!”

“ที่แท้ เธอเป็นนางในฝันของพี่ที่คิดถึงทุกวันทุกคืน พี่หลิงหลง!” ฉินวี่เฟยกัดฟัน และพูดด้วยความโกรธ

สายตาของฉินวี่เฟยจ้องมองไปที่หลิงหลง ราวกับจะกินคน

“อะไรนะ?”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ สีหน้าของฉินจื่อยี่ ก็นิ่งอึ้งชั่วขณะ

รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินจื่อยี่หายไปในทันที เขามองหลิงหลงอย่างงุนงง และถามว่า “สิ่งที่น้องสาวของฉันพูด เป็นความจริงหรือไม่?”

“คุณเป็นคนที่ฆ่าปู่ของฉันเหรอ?”

“ผู้หญิงที่แทงปู่ของฉัน เป็นคุณเหรอ? พี่หลิงหลง?” ฉินจื่อยี่ซักถามเสียงเบา

หลิงหลงพยักหน้า และยอมรับทันที “ใช่ ฉันเอง”

ฉินจื่อยี่ถอยหลัง เขาไม่กล้าที่จะยอมรับความจริงนี้

คนที่ฆ่าปู่ของเขา กลับกลายเป็นนางในฝันของเขา พี่หลิงหลง!”

“เป็นไปไม่ได้? เป็นคุณได้อย่างไร พี่หลิงหลง นี่ต้องเป็นการเข้าใจผิดแน่นอน พี่หลิงหลง พี่ก็รู้จักปู่ของผมนี่?”

ฉินจื่อยี่ถาม

หลิงหลงพยักหน้า และพูดว่า “ไม่รู้จักแล้ว เมื่อสามปีก่อน ฉันก็ไม่รู้จักเขาแล้ว”

สติของฉินจื่อยี่ เริ่มผิดปกติ

เขาหัวเราะเบาๆ หันหัวกลับมา และเข้าไปในรถสปอร์ตเฟอร์รารีของเขา

ด้วยเสียงสตาร์ทรถ เฟอร์รารีก็หายไปอย่างรวดเร็ว

ฉินวี่เฟยเหลือบมองไปที่หลี่ฝาง และถอนหายใจยาวๆ “เป็นโชคชะตาที่แกล้งคนจริงๆ ชะตากรรมของฉันกับพี่เหมือนกันทุกประการ”

“คนรักของตัวเอง คือคนที่ฆ่าปู่ของตัวเอง” ฉินวี่เฟยหัวเราะอย่างขมขื่น ราวกับว่ามันยากที่จะยอมรับความจริง

“ช่างมันเถอะ หลี่ฝาง ปู่ของฉันก็ตายไปแล้ว ฉันก็ไม่จำเป็นต้องมาตอแยคุณอีกต่อไป คุณก็ไม่จำเป็นต้องปลอมตัวเป็นแฟนของฉันแล้ว เพื่อที่จะช่วยฉันหลอกคนอื่น คุณหลุดพ้นแล้ว เป็นอิสระแล้ว” ฉินวี่เฟยฝืนยิ้มแล้วพูด

หลี่ฝางไม่ใช่คนโง่ เขารู้ว่า หัวใจของฉินวี่เฟย ในขณะนี้ทุกข์ใจมากกว่าใคร

ปู่ของเธอเสียชีวิตแล้ว และคนที่ทำร้ายครอบครัวและฆ่าปู่ของเธอ กลับกลายเป็นชายที่เธอรัก

นี่มันเลือดเย็นเกินไป

จากนั้น ฉินวี่เฟยเงยหน้าขึ้นมองหลิงหลง และพูดว่า “ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร ฉันจะไม่มีวันปล่อยเธอไป”

หลิงหลงถามอย่างไม่แยแส “คุณกำลังข่มขู่ฉันหรือ?”

“ฮึฮึ ถ้าคุณมีความสามารถนี้ ยินดีให้กลับมาแก้แค้น”

“ฉันจะรออยู่ในร้านกาแฟนี้”

หลิงหลงพูดอย่างเหยียดหยาม “และจะไม่ไปไหน”

ฉินวี่เฟยตะคอกใส่ แล้วหันหลังเดินจากไป

ฉินวี่เฟยโบกรถแท็กซี่ และกลับไปที่บ้านของเธอ

นายท่านฉินเสียชีวิตแล้ว และตระกูลฉินทั้งหมดตกอยู่ในความยุ่งเหยิง ในฐานะคนในตระกูลฉิน ฉินวี่เฟยจะมีกะจิตกะใจไปเรียนหนังสือได้อย่างไร?

เมื่อเห็นการจากไปของฉินวี่เฟย หลี่ฝางก็ส่ายหัว และพูดว่า “เฮ้อ ตอนนี้ฉินวี่เฟยคงจะเกลียดฉันมาก”

“อย่างที่เธอบอก มันเป็นโชคชะตาที่กลั่นแกล้งคนจริงๆ”

หลี่ฝางถอนหายใจยาวด้วยความโกรธ และพูดอย่างหมดหนทาง “ฉันคิดว่าฉันไม่มีความรู้สึกใดๆกับฉินวี่เฟย แต่เมื่อกี้ที่เห็นเธอเย็นชากับฉัน และได้ตัดความสัมพันธ์กับฉันออกไป ตอนนี้ ฉันรู้สึกเจ็บปวดใจมาก”

จนถึงขณะนี้ หลี่ฝางพึ่งตระหนักได้ว่า ที่แท้หัวใจของตัวเอง มีฉินวี่เฟยเข้ามาอยู่ในหัวใจ

เพียงแต่ว่าตัวเองยังไม่รู้สึกตัว

หลิงหลงถอนหายใจ “ถ้าผู้หญิงคนนี้รักคุณจริง สักวันเธอจะเข้าใจ ความคับแค้นใจของคนรุ่นก่อน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกคุณ”

“ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านฉินติดค้างพวกเรา เขาคืนชีวิตให้พวกเรา มันยุติธรรมแล้ว” หลิงหลงพูด

“เมื่อสามปีก่อนเกิดอะไรขึ้น?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองไปที่หลิงหลงและถาม

แม้ว่าหลี่ฝางจะสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อน แต่เขาก็ไม่เคยถาม

เพราะหลี่ฝางรู้สึกว่า สาเหตุที่พ่อกับส้าวส้วยและคนอื่นๆได้ปกปิดความจริงทั้งหมดกับเขา เพื่อต้องการให้เขาเติบโตมีชีวิตที่ดี และไม่ให้ตัวเองต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้

แต่ตอนนี้ หลี่ฝางกลับต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาเมื่อสามปีก่อน เพราะความสัมพันธ์เรื่องความรัก

ก่อนหน้านี้ ฉินวี่เฟยยังชอบตัวเอง และต้องการสารภาพรักกับตัวเอง

แต่ตอนนี้ อย่าพูดถึงคำว่าสารภาพรักเลย ฉินวี่เฟยมองว่าตัวเองเป็นศัตรูของเธอโดยตรง

หลี่ฝางรู้สึกเจ็บปวดใจ และใจของฉินวี่เฟย ก็คงเจ็บปวดยิ่งกว่า

หลังจากที่ฉินวี่เฟยขึ้นรถไปแล้ว เธอก็ร้องไห้อย่างหนัก อีกด้านหนึ่งเธอรู้สึกเศร้ากับการสูญเสียคุณปู่ของเธอ อีกด้านหนึ่งเธอไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้ เลยทำให้เสียมาก

ฉินวี่เฟยรู้สึกเหมือนตัวเองอกหัก

ในขณะนี้ความเจ็บปวดที่ฉินวี่เฟยได้รับ กับตอนที่หลี่ฝางปฏิเสธเธอตอนอยู่ในมหาลัย ตอนนี้เจ็บปวดมากกว่าร้อยเท่า

ฉินวี่เฟยรู้ว่า เธอไม่สามารถรักหลี่ฝางได้อีกต่อไป

มิเช่นนั้น ก็เหมือนตัวเองนับถือศัตรูเหมือนพ่อ มันไม่ต่างกันเลย?

ไม่นานหลังจากรถแท็กซี่ขับออกไป ฉินวี่เฟยก็เห็นอุบัติเหตุทางรถยนต์อยู่ข้างหน้า

“โชเฟอร์ คุณช่วยหยุดรถตรงจุดที่เกิดอุบัติเหตุหน่อย” ฉินวี่เฟยเหลือบมองไปที่อุบัติเหตุ และพูดอย่างรีบร้อน

“สาวสวย ชอบดูความคึกครื้นเหรอ”

“โอเค ลุงจะตามใจเธอ” หลังจากโชเฟอร์พูดเสร็จ ก็เลี้ยวรถ ขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ

“ว้าว นี่มันรถเฟอร์รารี่ถูกชนเหรอ รถหรูนะเนี่ย” โชเฟอร์อ้าปากค้าง รอยยิ้มที่มุมปาก บ่งบอกว่าเขากำลังมีความสุขบนความทุกข์ผู้อื่น

“พี่” ฉินวี่เฟยเปิดประตูรถ และวิ่งออกไป

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท