NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 415

ตอนที่ 415

บทที่415 การไปตำหนิถึงที่ของเหมิงเหมิง

“ไป” หลิวเฉินพูดด้วยใบหน้าไม่พอใจ

ถึงห้าวหนานจะพิการ แต่ยังไม่ตาย

ชื่อเสียงของผู้คน นั้นสำคัญมาก แค่ห้าวหนานโมโห คนธรรมดาๆ ก็ไม่มีใครไม่กลัวเขา

และถังจิ้นในฐานะหลานชายของห้าวหนาน สมาชิกทีมกีฬา ใครจะไปกล้าแตะต้องเขาแม้แต่ปลายเล็บ?

ไม่มีใครกล้า!

ดังนั้นไม่ใช่หลิวเฉินขี้ขลาด แต่สมาชิกของทีมกีฬา ไม่มีใครกล้าลงมือกับถังจิ้น

ถังจิ้นเมื่อกี๊ก็พูดแล้ว ถ้าก่อเรื่องต่อไป เขาจะพาคนไปทำลายนักกีฬา ……

“อยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป?เห็นผมเป็นตลาดขายผักเหรอไง!”

หลี่ฝางยกเก้าอี้นั่งขึ้น เขวี้ยงใส่หนังหัวของหลิวเฉิน

เก้าอี้นั่งก็แตกทันที จะเห็นว่าเก้าอี้นั่งที่หลี่ฝางเขวี้ยงใส่นี้โหดแค่ไหน

หลิวเฉินร้องโอดครวญ หันไปมองหลี่ฝาง:“แม่เอ๊ยอยากตายเหรอ!”

“กล้าทำพี่เฉินผม ดูซิว่าผมจะเล่นงานคุณให้ตายไม่ได้เหรอ”รุ่นพี่ที่สูงใหญ่คนหนึ่งพูด

ตอนที่เขาจะลงมือ ถังจิ้นก็ยกกระบองเหล็กยืดหดชี้ไปที่เขา:“คุณลองขยับดูสิ!”

คนสูงใหญ่คนนี้ตกใจจนไม่กล้าขยับ

ถังจิ้นเอากระบองเหล็กยืดหดตีไปที่หลังเขา:“ไสหัวไป ได้ยินไหม?”

“เล่นบาสดีๆไม่เอา ออกกำลังกายก็ไม่ฝึก มาทำตัวถ่อยกับพวกเราปีหนึ่ง ทำไม คิดว่าพวกเรานักเรียนใหม่ปีหนึ่งรังแกง่ายเหรอ?”ถังจิ้นตะโกนใส่

“พี่จิ้น ทำไมต้องทำลายมิตรภาพของพวกเราเพราะคนนอกนี้ด้วย”ผู้ชายคนหนึ่งที่ดูสนิทกับถังจิ้นเดินเข้ามา

เขาจะไปตรงหน้าถังจิ้น ถังจิ้นก็ยกเท้าขึ้น เตะไปที่ท้องของผู้ชายคนนั้น:“ไสหัวไปไอ้ระยำ พูดเอาดีเข้าตัวกับผมให้มันน้อยๆหน่อย คุณเป็นห่าอะไร มาพูดมิตรภาพกับผม?ผมต้องไปพูดมิตรภาพกับแม่คุณเหรอไง”

“ไสหัวไปให้หมด ได้ยินไหม?อย่าคิดว่าลุงผมแย่แล้วก็จะไม่เห็นหัวผมได้ ลุงผมยังไม่ตาย งั้นตอนนี้ให้ผมโทร เรียกพี่ซินปามาไหม มาคุยปรัชญากับพวกคุณหน่อย?”

ถังจิ้นใช้ไม้ตายของตัวเอง

ซินปาคือลูกน้องมือหนึ่งของห้าวหนาน และก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงในเมืองเอก

คนอย่างหลิวเหล่าซาน เห็นซินปายังต้องก้มหัวให้ ยิ่งอย่าไปพูดถึงพวกนักเรียนนี่

นักเรียนพวกนี้นอกจากจะทำตัวเบ่งใหญ่กว่าคนอื่นแล้ว ก็ไม่ได้มีพื้นฐานครอบครัวที่ดีนัก

ถ้าจะเล่นงานคนอย่างซินปาจริงๆ ก็มีแต่ตาย

“พี่จิ้น คุณเป็นอะไรกันแน่เนี่ย,?”คนที่ถูกถังจิ้นเตะล้มไปรีบคลานขึ้นมา:“แค่คนนอกคนหนึ่ง……”

“หลี่ฝางไม่ใช่คนนอก รีบไสหัวไป”ถังจิ้นตัดบทเขาอย่างเย็นชา จากนั้นก็ส่งสายตาให้

คนๆนี้ดูเหมือนเป็นเพื่อนของถังจิ้น เขาเข้าใจความหมายของถังจิ้น

“พวกเราไป”คนๆนี้พูด แล้วห็หมุนตัวออกไป

พวกผู้ชายทีมกีฬานี้ ก็เริ่มทยอยออกไป มีสองสามคนมองหลิวเฉิน แล้วก็เข้ามาดึงไป

“ลากทำห่าไร!”

“ให้พวกคุณไป แต่ไม่ได้ให้เขาไป!”

ถังจิ้นเข้ามาถีบ จนเขาล้มลงพื้น

เห็นถังจิ้นโกรธ ทุกคนก็ทิ้งหลิวเฉิน เริ่มหนี

สีหน้าของหลิวเฉิน ก็หม่นลงทันที:“ถังจิ้น คุณอย่ายโสหน่อยเลย ตอนนี้พ่อผม……”

“ได้ อย่าพูดถึงพ่อคุณกับผม พ่อคุณก็แค่สุนัขรับใช้ เอาสุนัขรับใช้มาขู่ผม ทำเอาผมตกใจจัง!”ถังจิ้นใช้เท้าเตะไปที่ท้องของหลิวเฉิน จนเขากรีดร้องออกมา จนน้ำในท้องแทบจะอ้วกออกมา

“หลี่ฝาง คุณคิดจะจัดการเขายังไง?”ถังจิ้นหันไปมองหลี่ฝาง แล้วถาม

หลี่ฝางพูดอย่างไม่แคร์:“ก็แค่สั่งสอนไปหน่อย”

ที่นี่คือหน้าห้องเรียน หลี่ฝางไม่อยากทำให้เรื่องวุ่นวายมาก ถึงแม้ทำจนเกิดเรื่อง หลี่ฝางก็สามารถจัดการให้เรียบได้

“เจ้านาย เกิดอะไรขึ้น?”ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ส้าวส้วยก็มาข้างๆหลี่ฝาง

“คนนั้นที่ผมทำร้ายเมื่อวาน วิ่งมาแก้แค้นผม”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ พูดอย่างไม่แคร์

พอเอาหลิวเฉินส่งต่อให้ถังจิ้นจัดการ หลี่ฝางก็ไปที่โรงอาหารกับส้าวส้วย

พูดตรงๆแล้ว จางเลี่ยงเลี่ยงไม่เข้ามา ทำให้ในใจของหลี่ฝางไม่ค่อยสบายใจนัก

นั่นต่างหากถึงเป็นคนที่หลี่ฝางอยากทำร้ายที่สุด กล้าทำลายความคิดของลู่หลุ่ย อยากตายจริงๆ

จางเลี่ยงเลี่ยงไม่ยั่วยุก่อน หลี่ฝางก็ไม่มีกะจิตกะใจจะไปรังแกเขาก่อน

หลี่ฝางออกไปจากอาคารเรียนไม่นาน ก็เจอกับเหมิงเหมิง

เหมิงเหมิงวิ่งเข้ามาที่หลี่ฝาง:“เหอะเหอะ ในที่สุดก็เจอคุณแล้ว”

“ฉันว่านะผู้ชายเลวอย่างคุณ ทำไมไม่ถูกตำรวจจับนะ!”เหมิงเหมิงมองหลี่ฝาง พูดอย่างเซ็งๆ

“ผมไปทำอะไรให้คุณอีก?คุณเป็นหมาบ้าเหรอ?เห็นผมแล้วจะกัด?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่เกรงใจ

“ไม่ว่าจะพูดยังไง ผมก็เคยช่วยคุณหลายครั้ง ผมไม่ทวงบุญคุณคุณก็พอแล้ว ……ทำไมต้องคอยรังควานผมตลอด?เพราะว่าผมกับลู่หลุ่ยเลิกกัน?ปัญหาความรักของเราสองคน คุณจะมายุ่งเรื่องคนอื่นทำไม?”หลี่ฝางโกรธหน่อยๆ

“ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเหรอ แต่ฉันไม่ชิน คุณบอกว่าคุณเลิกกันแล้ว แล้วทำไมต้องโทรกลับหาลู่หลุ่ย เมื่อคืนลู่หลุ่ยร้องไห้ทั้งคืน ตอนเช้าตื่นมา ไม่แค่หมอนที่เปียก ตาก็บวมเป็นอย่างมาก!”

“ฉันให้เธอไปโรงพยาบาล เธอก็ไม่ไป”

“ดูคุณสิไม่เป็นไรจะยุ่งกับลู่หลุ่ยไปทำไม ฉันแนะนำแฟนให้ลู่หลุ่ยคุณยังจะตามไป?”เหมิงเหมิงพูดเสียงเย็นชา:“คุณจะเอาไงกันแน่ เลิกกันแล้ว ยังจะไม่ปล่อยลู่หลุ่ยอีก?”

“เรื่องของผมกับลู่หลุ่ย ไม่เกี่ยวกับคุณ”หลี่ฝางพูดอย่างเย็นชา

“ไม่เกี่ยวกับฉัน?ฉันคือเพื่อนของลู่หลุ่ย เรียกว่าไม่เกี่ยวกับฉันได้ไง?คุณรู้ไหม วันนี้ตอนที่ฉันเปลี่ยนหมอนให้เธอ ก็พบใต้หมอนของเธอ ซ่อนยานอนหลับขวดใหญ่ ……”เหมิงเหมิงมองหลี่ฝางอย่างโกรธจัด

หลี่ฝางได้ยินคำนี้ จู่ๆในใจก็สั่น:“ลู่หลุ่ยซื้อยานอนหลับมากมายขนาดนี้ทำไม?”

“ฉันจะรู้ได้ไง น่าจะนอนไม่หลับ หรืออาจจะคิดฆ่าตัวตาย!”

เหมิงเหมิงกลอกตาใส่หลี่ฝาง:“แต่ยังไงก็เป็นคุณที่ทำร้าย”

หลี่ฝางสีหน้าลำบากใจ เงียบไปหลายวินาที หลี่ฝางก็ใช้สายตาร้องขอมองที่เหมิงเหมิง:“ช่วยผมดูลู่หลุ่ยหน่อยได้ไหม อย่าให้เธอเป็นอะไร?”

หลี่ฝางกลัวจริงๆว่าลู่หลุ่ยจะคิดสั้น

เหมิงเหมิงพยักหน้าลง:“ถึงคุณไม่พูด ฉันกับเพื่อนรูมเมทของฉันก็จับตาดูเธอน่ะ”

“คุณกลับดี สำมะเลเทเมาไปทุกที่ ได้ยินว่าเมื่อคืนคุณเที่ยวที่โรงแรมว่างโก๋อย่างสนุกสนาน เมื่อวานตอนบ่ายลู่หลุ่ยออกมาจากเคเอฟซี ก็วิ่งไปที่ข้างทะเลสาบคนเดียว ได้ยินคนบนฝั่งพูดว่า เธอจะกระโดดลงไปตั้งหลายครั้ง”

เหมิงเหมิงส่ายหน้า:“เห้อ ไม่รู้จริงๆว่าที่ตัวคุณมีอะไรดี”

“คุณมีเงินสกปรกไม่ใช่เหรอ?ไม่สิ ลู่หลุ่ยก็ไม่ได้ชอบเงิน คุณว่าลู่หลุ่ยชอบคุณตรงไหนกันแน่?”เหมิงเหมิงถามด้วยใบหน้างุนงง

หลี่ฝางส่ายหน้า และตอบคำถามนี้ไม่ได้

“ช่วยผมดูเธอดีๆ”หลี่ฝางกำชับอีกครั้ง เดินผ่านเหมิงเหมิงไป เตรียมไปกินข้าวที่โรงอาหาร

หลี่ฝางเดินไปได้ไม่ไกล เหมิงเหมิงก็ตามเข้าไป

“คุณเดินไปทางนั้นหน่อยได้ไหม?”เหมิงเหมิงมองส้าวส้วย พูดว่า:“ฉันมีเรื่องส่วนตัวจะถามหลี่ฝาง”

ส้าวส้วยมองหลี่ฝางแวบหนึ่ง

หลี่ฝางพยักหน้า:“คุณไปสูบบุหรี่เถอะ”

พอส้าวส้วยไป เหมิงเหมิงก็มองหลี่ฝาง ลังเลเล็กน้อย

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“ทำไม คุณก็มีเรื่องยากเย็นเหรอ พูดมาสิ เรื่องอะไร?เรื่องนี้ น่าจะไม่เกี่ยวกับลู่หลุ่ยสินะ”

เหมิงเหมิงส่ายหน้า เงยหน้ามองหลี่ฝาง:“ฉันอยากถามคุณ หลังจากออกมาจากสถานตากอากาศ คุณได้เจอแฟนเก่าฉันไหม?”

“คุณหมายถึงหลิวจินหยางไหม?”หลี่ฝางถามต่อ

“ใช่”

“เจอ ทำไมเหรอ?”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“เขาให้คนมาแก้แค้นผม แต่ไม่สำเร็จ”

“งั้นพูดแบบนี้ แผลที่ตัวของหลิวจินหยาง ก็เป็นคุณทำสินะ?”ตาของเหมิงเหมิง ทันใดนั้นก็ปรากฏความเยือกเย็น

สายตานี้ เหมือนกับคนที่จ้องศัตรูตัวเอง

หลี่ฝางพยักหน้าลง:“ก็ใช่แหละ ทำไม?”

เหมิงเหมิงกัดฟัน มองหลี่ฝาง ท่าทางดูดุร้าย:“ทำไมคุณลงมือได้แรงขนาดนั้น ถึงหลิวจินหยางแย่แค่ไหนก็ไม่ควรถูกคุณลงมืออย่างเหี้ยมโหดขนาดนี้หรอก?!”

“ลงมืออย่างเหี้ยมโหด?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว:“เดี๋ยว หลิวจินหยางเป็นอะไร?”

“เล็บของหลิวจินหยางถูกเลาะออก เอ็นมือและเท้า ก็ถูกเลาะออก มีแค่ตา และก็ถูกทำจนตาบอด เขาในตอนนี้ ก็แค่คนพิการที่ไม่เหลืออะไร”

“หูเสี่ยวน่าวนั่นก็ไม่ต้องการเขา ฉันเคยเห็นเขา ตอนนี้เขากำลังขอทานที่ถนนใหญ่”

เหมิงเหมิงเงยหน้าขึ้น มองหลี่ฝางอย่างงุนงง:“ทำไม ไม่ใช่คุณที่ทำเหรอ?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท