NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 431

ตอนที่ 431

บทที่431 เก็บแรงไว้วิ่งเถอะ

“คุณชายของพวกคุณคือพ่อผมเหรอไง?”

ทนายหลิวตะลึง จากนั้น สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ“ถันอีหมิง ทำไมคุณยังจะต่อว่าอีก!”

ทนายหลิวดูไม่ค่อยอยากจะเชื่อ ยังไงทนายที่ชื่อถันอีหมิงตรงหน้านี้ ก็เป็นทนายระดับท็อปสิบของประเทศ

ในสังคมของทนายความ ชื่อถันอีหมิงนี้ เรียกได้ว่าถึงขั้นน่าหวาดกลัว

ถ้าอีกฝ่ายเป็นถันอีหมิง โดยทั่วไปแล้วสามารถประกาศยอมแพ้ได้

ถันอีหมิงเคยประจันหน้ากับทนายในวงการมาหลายคน แต่ไม่เคยแพ้สักครั้ง

ทนายหลิวเริ่มสงสัยแล้ว ผู้ชายตรงหน้านี้ ใช่ถันอีหมิงที่พูดจาเก่งจริงๆไหม?

“ต่อว่า?ผมไม่ได้ว่านี่ ผมแค่อยากบอกว่า ชื่อของคุณชายพวกเรา ชื่อว่าหนีเตีย”ถันอีหมิงพูดยิ้มๆ

ถันอีหมิงก็ถือว่ายอมหลี่ฝาง ชื่อแปลกๆแบบนี้ก็คิดได้

ช่างฉลาดหลักแหลมเสียจริง

ตอนที่ถันอีหมิงยื่นสัญญาไปตรงหน้าทนายหลิว สีหน้าของทนายหลิว ดูเหยเกทันที“ชื่อนี้……”

นี่มันได้เปรียบเกินไปแล้ว?

“ทนายหลิว คุณดูได้นะ ทรัพย์สินกว่า 95% ก่อนที่นายท่านฉินฉินเฟิงเสีย ตอนนี้ทุกอย่างคืนกลับมาที่คุณชายของพวกเราแล้ว รวมถึงคฤหาสน์ตระกูลฉินอาคารทรัพย์สินของบริษัท แล้วก็หุ้นของบริษัทฉินซื่อ กรุ๊ปเป็นต้น”ถันอีหมิงพูด

“คุณชายของพวกคุณคือใคร?”

จู่ๆก็เกิดเรื่องไม่คาดฝัน สีหน้าของฉินเสี่ยวหู่ หม่นลงทันที

ฉินเสี่ยวหู่เดินเข้าไปใกล้ถันอีหมิง มองเขาด้วยสายตาคมกริบ

ฉินเสี่ยวหู่คิดไม่ถึงเลยว่า ก่อนที่นายท่านฉินนี้เสียไป จะเอาทรัพย์สินของตัวเอง โอนออกไปหมดด้วย

ทำให้ฉินเสี่ยวหู่ยากที่จะยอมรับได้

ตำแหน่งเดิมทีทั้งประธานกรรมการของบริษัทฉินซื่อ กรุ๊ป……หัวหน้าครอบครัวตระกูลฉิน ต้องเป็นของตัวเองหมด แต่ตอนนี้ ……

ถันอีหมิงยิ้มเล็กน้อย“คุณชายของพวกเราคือหนีเตีย!”

“แม่เอ๊ย!”

ฉินเสี่ยวหู่คือคนหยาบคาย มีคนถากถางเขา เขาก็จะปล่อยหมัดสู้กลับ

แต่ใครจะไปรู้ว่า ถันอีหมิงกลับยิ้มให้ หันหัวไป แล้วก็หลบ

“น้องชาย อย่าตื่นเต้นนักสิ ผมเป็นทนายความ แม้แต่ทนายความคุณยังไม่กล้าทำร้าย ทำไม กินข้าวอยู่ข้างนอกไม่เอาแล้ว อยากไปกินข้าวข้างในเหรอ?”

ถันอีหมิงจับแว่นเล็กน้อย จู่ๆสีหน้าก็เย็นชา“ผมแนะนำให้คุณ ใจเย็นหน่อยดีกว่า”

“พี่เสือ อย่าใจร้อน ในโรงพยาบาลมีกล้องวงจรปิดทุกที่ ถ้าคุณทำร้ายเขา ก็น่าจะต้องกินข้าวคุกอยู่หลายปี”ทนายหลิวจับแขนของฉินเสี่ยวหู่ พูดโน้มน้าว

“ห่า ไอ้ห่านี่มีค่าขนาดนี้เชียว?”

“แค่ทำร้ายเขา ก็ต้องกินข้าวคุกหลายปีเลย?เหอะเหอะ เขาเป็นเทวดาหรือไง?”

ฉินเสี่ยวหู่ไม่ค่อยเชื่อ ท่าทางบนใบหน้ายิ่งดูถูกมากขึ้น“ทนายความใช่ไหม?ผมบอกคุณให้นะ เรื่องที่ไม่ควรยุ่ง ก็อย่ายุ่งให้มาก”

“กลับไปบอกคำนี้กับคุณชายพวกคุณด้วย ถ้าเขาไม่ฟัง ……”

ถันอีหมิงตัดบทของฉินเสี่ยวหู่“คุณจะขู่คุณชายของพวกเราใช่ไหม?”

“ใช่สิ ฉินเสี่ยวหู่ เมื่อกี้ตอนเหนือของเมืองเอกมีคลับแห่งหนึ่ง สงสัยว่าทำการค้าประเวณี แล้วยังซ่อนสินค้าต้องห้ามมากมาย เมื่อกี้นี้ ถูกตำรวจยึดไว้แล้ว คนมากกว่าร้อยคนในคลับ ต่างถูกจับกุมหมด”

“ผมได้ยินว่า คลับนั่น ดูเหมือนเป็นชื่อของคุณอยู่”ถันอีหมิงยิ้มนิ่งๆ

ได้ยินคำนี้ สีหน้าของฉินเสี่ยวหู่ ก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวทันที

“เหลวไหล!”

ฉินเสี่ยวหู่ตาโตมองถันอีหมิง พูดอย่างร้อนตัวเล็กน้อย“นั่นเป็นคลับของผม ถ้าถูกรวบจับ ผมจะไม่รู้ได้ไง?”

“อีกอย่าง สินค้าต้องห้าม ค้าประเวณีอะไรกัน คลับของผมทำแต่เรื่องสะอาดๆ!”

ฉินเสี่ยวหู่ยื่นนิ้วชี้ ชี้ใส่จมูกของถันอีหมิง“คุณอย่ามาใส่ร้ายผม!”

“ใส่ร้ายหรือไม่ ผมพูดไปก็เท่านั้น ต้องอยู่ที่ตำรวจพูด”

ถันอีหมิงหยิบโทรศัพท์ออกมาจากอ้อมแขนนิ่งๆ เปิดวีแชท“ผมมีเพื่อนเป็นตำรวจสองสามคน นี่คือที่เพื่อนผมส่งมาให้ สาวๆพวกนี้ คุณรู้จักหมดสินะ?”

สีหน้าของฉินเสี่ยวหู่ ทันใดนั้นก็หม่นลงทันที นี่คือสาวๆในคลับของตัวเอง

สาวๆพวกนี้ ต่างทำอาชีพค้าบริการ

“รู้จักแล้วยังไง?”ฉินเสี่ยวหู่ขมวดคิ้ว“พวกเธอคือเพื่อนผม ว่างๆชอบไปที่คลับของผม หรือว่านี่ผิดกฎหมาย?”

“พวกเธอต่างสูบยา คุณคงไม่ใช่ว่าไม่รู้หรอกนะ?”

ถันอีหมิงใช้มือสไลด์ จากนั้นข้างในรูปอีกใบ เป็นวัตถุที่เป็นผงจำนวนมาก

“ของพวกนี้ น่าจะไม่ใช่ผงนมของเด็ก หรือว่าผงซักฟอกหรอกนะ?”

“นี่เจอมาจากคลับของคุณทั้งนั้น”

“ตามกฎหมายแล้ว ของพวกนี้ถ้าเป็นของคุณจริงๆคุณก็จะถูกยิงเป้า ฉินเสี่ยวหู่”

ถันอีหมิงยิ้มเล็กน้อย“แน่นอน จากความฉลาดของคุณแล้ว คุณแค่หาลูกน้องคนหนึ่ง ไปเป็นแพะแทนคุณ”

“จากนั้นก็ให้คนอื่นโดนยิงแทนคุณ”

ถันอีหมิงคิดทางหนีทีไล่แทนฉินเสี่ยวหู่อย่างดี ฉินเสี่ยวหู่ดูมั่นใจก็พูดอย่างไม่พอใจ“พวกนี้ไม่ใช่ของผมเลย”

ถันอีหมิงพยักหน้า จากนั้นก็ใช้นิ้วสไลด์อีกครั้ง

รุปนี้ ทำให้ร่างของฉินเสี่ยวหู่สั่นทันที

นี่คือศพของพวกสาวๆวัยรุ่น

“สาวๆพวกนี้ ดูเหมือนจะเคยคบกับคุณ ฉินเสี่ยวหู่ นี่คือพวกแฟนเก่าคุณสินะ?”

“บรรดาแฟนเก่าของคุณ นี่เยอะจริงๆเลย!”

“ฉินเสี่ยวหู่ คุณทำไม่ดีต่อแฟนสาวใช่ไหม ทำไมผู้หญิงที่คบกับคุณ ตายหมดล่ะ?พวกเธอยังอายุน้อยขนาดนี้ ต่างเป็นช่วงอายุที่สดใส”ถันอีหมิงมองฉินเสี่ยวหู่ด้วยใบหน้าแปลกใจ แล้วถาม

ฉินเสี่ยวหู่กลืนน้ำลาย ตัวสั่นไปทั้งตัวขึ้นมา

หญิงสาวทั้งห้าคนในรูป ต่างตายเพราะเล่นสเกต

ศพของพวกเธอ ถูกคนของตัวเองจัดการเรียบร้อยแล้ว

ถันอีหมิงนี้ มีรูปศพพวกนี้ได้ยังไง

และศพพวกนี้ ต่างเป็นเมื่อหนึ่งปีก่อนทั้งนั้น

หมายความว่า ถันอีหมิงนี้ จับตาดูตัวเอง อย่างน้อยก็เมื่อหนึ่งปีก่อนแล้ว

เสียงของฉินเสี่ยวหู่สั่นเล็กน้อยพร้อมมองถันอีหมิง“คุณ……คุณมีรูปพวกนี้ได้ไง?”

“คุณคิดว่ามีแค่รูปพวกนี้เหรอ?”

“รวมถึงว่าพวกเธอตายอย่างไร เสียงบันทึกที่คุณข่มขู่ครอบครัวพวกเธออย่างไร ผมมีบท”

ถันอีหมิงหัวเราะ พูดว่า“ไม่ใช่แค่ผมมี ทางตำรวจก็มีอีกชุด”

“ฉินเสี่ยวหู่ ถ้ามีแรงทำร้ายผม ผมกลับแนะนำให้คุณออมแรงไว้หนีดีกว่านะ”

ถันอีหมิงมองนาฬิกา“ผมมาก่อนตำรวจห้านาที ดังนั้น เหลืออีกสามวินาที ตำรวจก็จะมาถึงโรงพยาบาลแล้ว”

“แน่นอน ถ้าคุณไม่ได้ทำผิดจริงๆ ก็อย่ากลัว”

“ตำรวจไม่ปรักปรำคนดีแน่ วางใจเถอะ”

ถันอีหมิงพูดยิ้มๆ

หลังจากฉินเสี่ยวหู่ได้ยินคำนี้ ที่ใบหน้าเขา ก็เปลี่ยนเป็นโมโหสุดๆ

เขามองถันอีหมิงด้วยใบหน้าน่ากลัว เส้นเลือดที่ใบหน้าแทบจะระเบิดออกมา“เป็นคุณที่เอารูปพวกนี้ให้ตำรวจ?”

“ใช่ ผมคือพลเมืองดี พวกของน่าสงสัย ก็เจอไปแจ้งตำรวจ ไม่อย่างนั้น ทางตำรวจจะไปค้นคลับของคุณได้ไง?”

“คุณดูสิพูดถึงก็แปลกนะ ลูกน้องพวกนั้นของคุณ ต่างเหมือนกับกินยานอนหลับ ตอนที่จับพวกเขา พวกเขาก็นอนหลับที่พื้น”

ถันอีหมิงหรี่ตาลงขำ“พวกเขาพักผ่อนไวขนาดนี้เชียว?”

“แม่เอ๊ย!”

ฉินเสี่ยวหู่กำหมัดขึ้นมา เล็งไปที่ถันอีหมิง แล้วปล่อยออกไป

แต่ถันอีหมิงกลับลงมือไปก่อนฉินเสี่ยวหู่ ใช้เท้าเตะออกไป เตะไปที่เป้าของฉินเสี่ยวหู่

ฉินเสี่ยวหู่ถูกเตะจนถอยหลังไปหลายก้าว ถ้าไม่ใช่ว่าท่าม้านั่งของเขานั้นมั่นคง เกรงว่าคงล้มลงไปที่พื้นแล้ว

“โอเค ที่มีความสามารถกังฟูเล็กๆน้อยๆอย่างคุณ ก็น่าทึ่งพอที่จะล้มผมได้”ถันอีหมิงหัวเราะดูถูก

ตอนนี้เอง ที่หน้าประตูโรงพยาบาล ก็มีเสียงรถตำรวจเข้ามา

เสียงฝีเท้าดังปังปังปัง เข้ามาอย่างรวดเร็ว

“คุณมันร้ายกาจ!”

ใช้นิ้วชี้ไปที่ถันอีหมิง ฉินเสี่ยวหู่หันแล้ววิ่งทันที

ฉินเสี่ยวหู่ฝันก็ไม่อยากจะเชื่อว่า ตัวเองทำอย่างระวังแบบนี้ กลับถูกคนคว้าจุดอ่อนไว้ได้

อีกอย่าง แม้แต่ผู้หญิงที่ตัวเองทำร้ายตายเมื่อหนึ่งปีก่อน ก็ถูกถันอีหมิงถ่ายไว้เป็นหลักฐาน

ถันอีหมิงนี้ เป็นใครกันแน่?

ทำไมเขาต้องจับตาดูตัวเอง?

แล้วยังจับตาดูถึงหนึ่งปีกว่าเต็มๆ!

ฉินเสี่ยวหู่คิดไม่ออก เขาเพิ่งวิ่งออกมาจากโรงพยาบาล รถคันหนึ่ง ก็มาจอดตรงหน้า

เปิดประตูรถออก มู่หรงฉางเฟิงก็พูดอย่างเย็นชา“ขึ้นรถ”

มองมู่หรงฉางเฟิงไปแวบหนึ่ง ฉินเสี่ยวหู่ไม่มีความลังเลใดๆ กระโดดเข้าไปทันที

“แม่เอ๊ย ถันอีหมิงนั่น คือใครกันแน่ ทำไมในมือเขาถึงมีหลักฐานที่ผมทำผิดมากมายขนาดนี้?”พอขึ้นรถ ฉินเสี่ยวหู่ก็ด่าด้วยความโกรธ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท