บทที่437 ผู้ชายที่น่ากลัวยิ่งกว่าหมาทิเบตัน
“หลายร้อยล้าน?”หลี่ฝางตะลึงหน่อยๆ
“ความหมายของคุณคือ ทุกปีตระกูลสวีต้องจ่ายให้สี่ตระกูลใหญ่หลายร้อยล้าน?”หลี่ฝางสูดลมหายใจเข้า
ตัวเลขนี้ ทำให้ตกใจจริงๆ?
แล้วยังเป็นพวกตระกูลสวี ตระกูลมู่ ตระกูลฉิน ตระกูลจ้าว ตระกูลหยู……แต่ละตระกูลนักธุรกิจตั้งมากมาย!
“ไม่ใช่เหรอไง?”
หูเฟยหัวเราะอย่างเย็นชา“ธุรกิจของตระกูลสวี ที่จริงก็ทำไม่ได้เล็กไปกว่าตระกูลฉินกับตระกูลมู่เลย แค่ปีที่แล้วอย่างเดียว กำไรของตระกูลสวีก็ไปถึงห้าร้อยกว่าล้านแล้ว”
“สี่ตระกูลใหญ่รับไปครึ่งหนึ่ง ก็เอาไปสองร้อยกว่าล้าน”
หูเฟยพูดอย่างไม่เต็มใจนัก“ส่วนแบ่งนี้ โหดไปแล้ว”
หลี่ฝางแลบลิ้นออกมา ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไรห่
“สี่ตระกูลใหญ่ไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แบ่งกำไรครึ่งหนึ่งของพวกคุณไป?”
หลี่ฝางขมวดคิ้ว พูดอย่างสงสัย“งั้นตอนนั้นท่านปู่สวีรับปากไปได้ยังไง?”
“บอกคุณอย่างนี้ละกัน คุณชายหลี่ ทุกครอบครัวนักธุรกิจของเมืองเอก ต่างมีสี่ตระกูลใหญ่สนับสนุนอย่างลับๆ ดังนั้น หากไม่มีสี่ตระกูลใหญ่ ก็ไม่มีตระกูลฉิน ตระกูลมู่ ตระกูลเฉียน ตระกูลจ้าว ตระกูลสวี ตระกูลหยูในตอนนี้หรอก……”
“หัวหน้าครอบครัวของตระกูลพวกนี้ ต่างถูกสี่ตระกูลใหญ่เลือก แล้วจากนั้นก็ทำการฝึกขึ้นมา”
“ทุกอย่างที่ทุกคนมี พูดได้ว่าล้วนแต่เป็นที่สี่ตระกูลใหญ่ให้มาหมด”
“พูดถึงแล้ว สี่ตระกูลใหญ่เลี้ยงพวกเขาจนเติบใหญ่ ขูดเลือดขูดเนื้อ จากตัวพวกเข้าบ้าง นั่นก็สมควรแล้ว”
หูเฟยหัวเราะ พูดว่า“แต่พอหัวหน้าครอบครัวสมัยก่อนเปลี่ยนไป ความรู้สึกที่ทุกคนขอบคุณสี่ตระกูลใหญ่ ก็ยิ่งบางลงเรื่อยๆ ที่จริง หลายคนมากที่ไม่อยากจ่ายเงินส่วนนี้ แต่พวกเขาก็กลัว ตัวอย่างเมื่อปีที่แล้ว ก็เป็นจริงอยู่ตรงหน้าพวกเขา”
“พวกคนรวยนี้ พวกเขาชอบเงิน แต่ก็กลัวตาย ดังนั้นภายใต้การครอบงำของความตาย ก็ได้แต่ประนีประนอม จ่ายเงินไปอย่างเชื่อฟัง”
“ถ้ามีคนไม่จ่ายเงิน แล้วยังมีชีวิตอยู่ ผมว่าก็จะมีคนจำนวนมากที่ไม่จ่ายเงิน แล้วก็จะเสนอการต่อต้านสี่ตระกูลใหญ่”
หูเฟยหรี่ตาแล้วหัวเราะ“คุณชายหลี่ คุณว่าไหม?”
“คุณไม่อยากจ่ายเงินแล้ว?”หลี่ฝางมองหูเฟยออก
คนอย่างหูเฟย ถึงมองดูแล้วเป็นคนซื่อสัตย์ แต่ที่จริง เขาก็เป็นไอ้คนโลภคนหนึ่ง ก็แค่ ความโลภของเขาค่อนข้างระวังตัว ค่อนข้างระมัดระวัง
“ถ้าไม่มีการปกป้องของคุณชายหลี่ ผมก็จะจ่ายเงินให้อย่างเชื่อฟัง”
“อิทธิพลของสี่ตระกูลใหญ่ แทรกซึมเข้าไปทุกมุม ก็เหมือนเมื่อกี๊ โทรศัพท์ของมู่หรงฉางเฟิง ก็ทำให้ผมเปลี่ยนความตั้งใจ”
“ฉินเสี่ยวหู่ที่มาหาถึงที่แล้ว ผมจึงไม่กล้าจับ ……ทำไมเหรอ?ก็เพราะว่ามีบางคน ที่ผมไปขัดใจไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้านายผม”
“ผมเข้าใจ”หลี่ฝางพยักหน้า“ความหมายของคุณคือ ให้ผมเป็นคนอยู่สนับสนุนคุณ ใช่ไหม?”
“ใช่ ผมอยากให้ตระกูลหลี่ยืนสนับสนุนผมอยู่ข้างหลัง”หูเฟยหัวเราะ
“ผมตัดสินใจไม่ได้ เดี๋ยวผมถามพ่อผมละกัน”หลี่ฝางไม่กล้ารับปาก ยังไงสี่ตระกูลใหญ่นี้ หลี่ฝางก็ไม่เข้าใจนัก แต่หูเฟยพูดก็มีเหตุผล
แค่มีคนกล้าออกมาตอบโต้ แล้วยังมีชีวิตอยู่ได้ต่อ ต่อไป จะต้องมีคนอีกมากมายไม่ยอมจ่ายเงินแน่นอน
สำหรับตระกูลหลี่แล้ว ถือเป็นเรื่องดี
หลี่ฝางคิดว่าน่าจะได้ แต่จะรับปากหรือไม่รับปากนั้น ต้องให้พ่อของตัวเองตัดสินใจ
“รีบให้คำตอบผมนะ วันที่ต้องจ่ายเงิน เหลือไม่กี่วันแล้ว”หูเฟยหัวเราะเหอะเหอะ
หลี่ฝางยืนขึ้นมา คิดว่าหูเฟย กลับโลภหน่อยๆ
กำไรของตระกูลสวีเยอะขนาดนั้น แบ่งให้สี่ตระกูลใหญ่ไปครึ่งหนึ่ง จะเป็นอะไร?
หนึ่งปีแบ่งออกไปสองร้อยกว่าล้าน ก็ยังมีอีกสองร้อยกว่าล้านอยู่ในมือไหมล่ะ?
หรือว่าปีนี้ เขาใช้ไปสองร้อยล้านหมดเกลี้ยงแล้ว?
หลี่ฝางแอบส่ายหน้า ไม่รู้ว่าทำไมหูเฟยโลภเช่นนี้?
กลับไปที่รถของตัวเอง ส้าวส้วยก็มองหลี่ฝางแล้วถาม“เขาคุยอะไรกับคุณ?”
“คุณอ่านภาษาปากออกไม่ใช่เหรอ?”หลี่ฝางพูดขำๆ
“คุณสองคนหันหลังให้ผม ถึงผมจะอ่านปากออกก็ไม่มีประโยชน์……”ส้าวส้วยเหลือบมองหลี่ฝาง
ผ่านไปหลายวิ ส้าวส้วยก็สตาร์ทรถออก
ขับรถไป ส้าวส้วยก็พูดไป“ที่จริงผมก็พอเดาได้แหละ ผู้ชายคนนี้ คิดจะไม่จ่ายเงินให้สี่ตระกูลใหญ่สินะ?”
“คุณนี่คาดเดาเรื่องได้อย่างกับเทพจริงๆ เรื่องนี้ก็เดาออก”หลี่ฝางพูดด้วยใบหน้าชื่นชม
“นี่ก็เดาไม่ยากนี่ ผมเห็นคุณสองคนโอบไหล่กัน หูเฟยจะต้องมีเจตนาไม่ดีแน่ ถ้าผมเดาไม่ผิด เขาน่าจะเดาออกที่เหยสงฆ่าล้างตระกูลสวี เป็นพวกเราที่ทำใช่ไหม?”ส้าวส้วยถามต่อ
“เขารู้หมด เขาหากล้องวงจรปิดบนถนน รู้ว่าพวกเราเคยไปที่บ้านซุนจิ้น เคยไปหาซุนจิ้น”หลี่ฝางพยักหน้า
“หูเฟยฉลาดหน่อยๆ แต่ความฉลาดเล็กน้อยนี้ ไม่นานก็ช้าจะทำร้ายเขา หลายปีมานี้ ไม่มีใครกล้าติดเงินสี่ตระกูลใหญ่”
“ในเมื่อหูเฟยอยากเป็นคนแรกที่ทำเรื่องนี้ ก็ให้เขาทำไปเถอะ”
ส้าวส้วยหัวเราะในลำคอ“ผมก็หวังว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อ”
“ส้าวส้วย ความหมายของคุณคือ เป็นไปได้ที่หูเฟยจะตายในเงื้อมมือของสี่ตระกูลใหญ่?ไม่มั้ง หูเฟยเป็นถึงผู้บัญชาการตำรวจของสถานีตำรวจ สี่ตระกูลใหญ่กล้ามากแค่ไหน ก็ไม่กล้าฆ่าผู้บัญชาการตำรวจของสถานีตำรวจหรอกมั้ง?”หลี่ฝางพูดอย่างแปลกใจ
“เจ้านาย อย่าดูถูกคนของสี่ตระกูลใหญ่ พวกเขาต่างเป็นคนบ้าระห่ำ เรื่องอะไรก็ทำออกมาได้”
“คุณลองคิดนะ คนปกติจะเอาลูกตัวเองไปทิ้งไว้ที่กรงแปดเหลี่ยมเหรอ?”
“คนปกติจะเอาลูกที่เพิ่งคลอดไปที่บ้านของคนทั่วไปเหรอ?”
“และก็น่ากลัวมากกว่านั้น”
“สี่ตระกูลใหญ่ ลึกลับมาก ตอนนั้นลูกพี่ส่งพวกคนของหน่วยมืดเข้าไปปะปน จนตอนนี้ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ดูเหมือนจะถูกกำจัดหมดแล้ว”
พูดไป ใบหน้าของส้าวส้วย ก็ปรากฏร่องรอยความเหงา“สรุปคือ สี่ตระกูลใหญ่ ไม่ธรรมดาอย่างที่คุณคิด”
“ถ้าหากพวกเขาแตะต้องได้ สามปีก่อน ลูกพี่ก็คงไม่นำพวกเราหนีไปหรอก”
หลี่ฝางพยักหน้า มองที่ส้าวส้วย“พวกเขาเป็นใครมาจากไหนกันแน่?”
“รายละเอียดที่พวกเขาเป็นใครมาจากไหน ผมยังไม่รู้ แต่ท่านจวนรู้ ลูกพี่รู้”ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ“ผมเราคือทหาร ไม่จำเป็นต้องรู้เบื้องลึกภายในขนาดนั้น”
ตอนที่รถขับไปได้สักพัก โทรศัพท์ของหลี่ฝางก็ดังขึ้นมา เป็นฉินวี่เฟยที่โทรมา
หลี่ฝางลังเลเล็กน้อย จึงกดปุ่มรับ
“คุณอยู่ที่ไหน?”เสียงของฉินวี่เฟย เย็นชามาก
เมื่อก่อน ฉินวี่เฟยไม่มีทางพูดอย่างนี้กับตัวเองแน่
“ฉันอยากเจอคุณหน่อย”ไม่รอให้หลี่ฝางตอบ ฉินวี่เฟยก็พูดต่อ
หลี่ฝางพยักหน้า พูดว่า“ได้ คุณหาสถานที่ละกัน”
“เลี้ยวเจอรัก”ฉินวี่เฟยพูดจบ ก็วางสายเลย
หลี่ฝางตะลึงเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าฉินวี่เฟยจะเลือกร้านกาแฟของหลิงหลง
นายท่านฉินตายในเงื้อมมือของหลิงหลง
เลือกร้านกาแฟร้านนี้ มีจุดประสงค์อะไรพิเศษหรือไม่?
“ส้าวส้วย ขับรถที่ร้านกาแฟ”
หลี่ฝางหันไปพูดกับส้าวส้วย“ที่พี่หลิงหลงเปิด”
“ครับ”ส้าวส้วยตอบรับ แล้วก็เร่งความเร็วรถทันที
ระหว่างทาง หลี่ฝางถามอย่างเป็นธรรมดาชาติ“พี่หลิงหลง ก็เป็นคนของพ่อผมเหรอ?”
“หลิงหลงคือสาวน้อยที่ลุงเฉียนเลี้ยงไว้ ไม่มีพ่อแม่แต่เด็ก ไม่ต่างกับผมมาก ตั้งแต่เด็กเธอก็ถูกลุงเฉียนรับเลี้ยงไว้ ถือว่าเป็นลูกบุญธรรมของลุงเฉียน”
“หลิงหลงคือคนที่น่าสงสาร”
ส้าวส้วยพูดไป ก็ไม่รู้ว่าคิดถึงอะไร“ตอนนั้น พวกเขาสามคนตกอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู ก็มีหลิงหลงหนีไปคนเดียว”
“ตอนที่ออกมา หลิงหลงถูกทำลายจนไม่เหลือความเป็นผู้หญิงแล้ว”
ส้าวส้วยสูดหายใจลึกๆ“หลิงหลงอยากตามไปแก้แค้นคนพวกนั้นมาตลอด”
“แก้แค้นยัง?”หลี่ฝางถามต่อ
“ยัง ลูกพี่ไม่ให้”ส้าวส้วยพูด“ลูกพี่ทำเพื่อหลิงหลง”
“คนพวกนั้นแตะต้องไม่ได้”เงียบไปสักพัก ส้าวส้วยก็พูดเสริม
“หรือว่ายากที่จะจัดการกว่าสี่ตระกูลใหญ่อีก?”หลี่ฝางอดไม่ไหวที่จะถาม
“พูดไม่ถูก แต่สี่ตระกูลใหญ่ก็แค่ลึกลับเท่านั้นแหละ ถ้าหากเปิดผ้าคลุมหน้าลึกลับนั่นออกมา พวกเขาก็ไม่ได้เก่งเหนือมนุษย์อะไรหรอก แต่คนพวกนั้นที่เกือบทำให้หลิงหลงตาย นั่นมีความเป็นคนเหนือมนุษย์จริงๆ”
“ปีศาจเหรอ?”หลี่ฝางตกใจจนใจสั่น
“คน บนโลกนี้มีปีศาจที่ไหนกัน ก็แค่ คนพวกนี้ค่อนข้างน่ากลัว ไม่ใช่ว่าคุณอยากเห็นหมาทิเบตันเหรอ?หมาทิเบตันถือว่าเป็นสมาชิกหนึ่งในพวกเขาแหละ”
ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ พูดว่า“แต่หมาทิเบตันอยู่ในกลุ่มพวกนั้น ก็ถือได้ว่าธรรมดามากๆ”
“ลูกพี่ไม่ให้ฆ่าหมาทิเบตัน เพราะกลัวว่าจะดึงดูดให้คนที่น่ากลัวยิ่งกว่ามา”