NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 438

ตอนที่ 438

บทที่438 เรื่องราวเมื่อสามปี

หลี่ฝางตะลึง

“ฟังที่คุณพูดแล้ว แม้แต่พ่อผมก็ยังกลัวคนพวกนี้?”หลี่ฝางพูดด้วยสีหน้าซีเรียส

“ก็ไม่ใช่ ลูกพี่ไม่กลัวพวกเขา”

ใบหน้าส้าวส้วยมีรอยยิ้มที่มั่นใจ“ก็แค่น้ำที่เมืองเอก ลึกพอแล้ว สี่ตระกูลใหญ่ จนตอนนี้ยังไม่ถูกขุดออกมา ถ้าเอาคนพวกนั้นเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ก็จะยิ่งยุ่งยาก”

“แต่ลูกพี่รับปากแล้วหลิงหลง วันหนึ่ง จะไปแก้แค้นให้หลิงหลง ……ก็แค่ โอกาสยังไม่มาถึง”

ได้ยินคำนี้ หลี่ฝางก็ถือว่าโล่งอก

“ลูกผู้ชายสิบปีล้างแค้น ก็ยังไม่สายนี่”หลี่ฝางหัวเราะ พูดเสริมไป

ส้าวส้วยส่ายหน้า“สิบปีนานไป ใครก็รอไม่ไหว……ที่จริงสามปีก็ว่านานแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าสามปีนี้พวกเราผ่านอะไรมาบ้าง”

“ผ่านอะไรมาล่ะ?”หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ

มองใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของส้าวส้วย หลี่ฝางก็คิดว่าตัวเองช่างไม่เหมาะสม

“คุณไม่อยากพูดก็ช่างเถอะ ผมไม่ควรจะถาม”หลี่ฝางยิ้มอย่างดูถูกตัวเอง

“บอกคุณไปก็ไม่มีอะไร ยังไงมันก็ผ่านไปแล้ว”

“อิทธิพลของสี่ตระกูลใหญ่ ไม่ใช่แค่กระจายไปที่เมืองเอก แต่ยังไปทั่วประเทศ พวกเขาติดต่อสัมพันธ์ กับผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆมากมาย”

“รวมถึงที่เมืองหลวง ก็มีคนของพวกเขา”

“เมื่อก่อน ท่านจวนกับลูกพี่ไม่รู้ว่ามีสี่ตระกูลใหญ่อยู่ และก็ยิ่งไม่รู้ว่าเบื้องหลังของพวกนักธุรกิจในเมืองเอกมีสี่ตระกูลใหญ่ที่เป็นผีดูดเลือดนี้ซ่อนไว้อยู่ ท่านจวนกับลูกพี่ร่วมมือกัน ทั้งสองเข้าไปเคลื่อนทัพที่เมืองเอก แต่ในช่วงเวลาสั้นๆก็ผุดขึ้นอย่างฉับพลัน ไปแย่งธุรกิจที่เป็นของสี่ตระกูลใหญ่ไปไม่น้อย”

“เวลานี้ สี่ตระกูลใหญ่ส่งคนไปหาถึงที่ อยากจะจัดการท่านจวนกับลูกพี่ แต่ไม่ว่าจะเป็นท่านจวนหรือว่าลูกพี่ ต่างก็เป็นคนที่โอหังสุดๆ จะไปยอมให้คนอื่นจัดการได้ไง?”

“สี่ตระกูลใหญ่เสนอทรัพยากรให้พวกเขา ท่านจวนกับลูกพี่ไม่ได้รับไว้ แน่นอนว่า ก็ไม่ยอมจ่ายเงินพวกเขาด้วยเช่นกัน”

“และในช่วงเวลาจากนั้น สี่ตระกูลใหญ่ก็เริ่มแอบลอบกัดท่านจวนกับลูกพี่ ในช่วงที่สู้นี้ก็มีทั้งแพ้และชนะ”

“ในตอนนี้เอง นักธุรกิจไม่น้อยมาหาท่านจวน หลบภัยกับท่านจวน มาหาการคุ้มกันจากท่านจวนและลูกพี่ พวกเขาไม่อยากจ่ายเงินให้สี่ตระกูลใหญ่”

“ท่านจวนกับลูกพี่รับปากคำขอร้องของคนพวกนี้ ความเกลียดชัง ก็เริ่มขยายกว้างจากตอนนี้”

“จากนั้น ประลองฝีมือกันอยู่เกือบหนึ่งปี ในหนึ่งปีนี้ สี่ตระกูลใหญ่ไม่หยุดแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่สง่างามของตัวเอง พวกเขาแข็งแกร่งมากจริง สำหรับพวกเราที่ตอนนั้นเป็นศัตรูแล้ว ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเอาชนะพวกเขาได้”

“กระทั่งว่า แม้แต่ว่าสี่ตระกูลใหญ่พักอยู่ที่ไหน ซ่องโจรอยู่ที่ไหน พวกเราก็ไม่รู้เลย”

“สุดท้ายไม่ต้องพูดมากคุณก็รู้ ท่านจวนจึงต้องลาตำแหน่งไปเช่นนี้ ส่วนลูกพี่ ก็พาพวกเราหนีไป”

“ผมพวกลักลอบไปที่ชายแดนชั่วข้ามคืน ที่ชายแดน ลำบากมากๆ ตอนที่หิวก็ไม่มีข้าวกิน ตอนที่กระหายก็ไม่มีน้ำดื่ม ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ดีไปกว่าคุณเท่าไหร่นัก อย่างเดียวที่โชคดีกว่าคุณ ก็คือพวกเราเคียงข้างไปด้วยกัน”

“ผู้ชายยังดี แต่หลิงหลง ถูกจับไปสองครั้ง ครั้งแรกถูกพวกเราช่วยกลับมา ครั้งที่สอง เธอหนีกลับมาเองได้”

“ต่อมา พวกเราก็เจอคนๆหนึ่ง เขาก็คือปู่คุณ”

ส้าวส้วยพูดไป ก็หยุด

ตาของหลี่ฝางเป็นประกาย“ปู่ผม?ปู่ผมยังมีชีวิตอยู่เหรอ ไม่มีทางอ่ะ?ก่อนหน้านี้ผมไปที่ชนบทแล้วก็ถามมาแล้ว ปู่ผมตายไปนานแล้ว ผู้ใหญ่บ้านยังเห็นร่างปู่ผมถูกเผาไปกับตา หรือว่านี่ไม่จริง?”

“ไม่ใช่แท้ๆ แต่ยอมรับเป็น”

“เขามีชื่อต่างชาติ ยาวมากๆ รอวันหนึ่งจัดการสี่ตระกูลใหญ่ หรือว่าลูกพี่พาคุณไปดูไบ ถึงตอนนั้น คุณก็จะรู้ว่าเขาคือใคร เขามีชื่อเสียงมาก มีชื่อเสียงยิ่งกว่าประธานาธิบดี”

“หลี่เจียเฉิน คือชื่อที่พวกเราตั้งให้เขา เขาก็ชอบชื่อนี้มาก เขาชื่นชมพวกเรามาก พาพวกเราไปจากชายแดน แล้วก็พาพวกเราไปประเทศเขา ที่ดูไบ”

“หลี่เจียเฉินมีบ่อน้ำมัน มูลค่ากว่าหมื่นล้าน อยู่ที่ดูไบก็ไม่เท่าไหร่นักหรอก แต่ภายใต้ความช่วยเหลือของพวกเรา ตอนนี้เขากลายเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของดูไบแล้ว ที่จริงไม่ใช่แค่ดูไบ ถึงแม้ทั้งโลก อย่างน้อยความรวยของเขาก็อยู่สามอันดับต้นๆ”

“สามอันดับต้นของโลก?”

หลี่ฝางสูดลมหายใจ สามอันดับต้นของโลกหมายความว่าไง ความมั่งคั่งนี้ต้องทำลายไปถึงหนึ่งล้านล้านแน่?

“ที่จริงเมื่อหนึ่งปีก่อน พวกเราก็ความสามารถที่จะกลับมาจัดการสี่ตระกูลใหญ่แล้ว แต่ว่า หลี่เจียเฉินมีศัตรูไม่น้อย ลูกพี่ตัดสินใจช่วยหลี่เจียเฉินจัดการศัตรูทั้งหมดของเขา จากนั้นก็กลับมาอีก”

ส้าวส้วยพูดจบก็หัวเราะ“เจ้านาย นี่ก็คือเรื่องราวของพวกเรา”

“เรื่องราวของพวกคุณ ฟังดูแล้วสั้น ไม่ซับซ้อน แต่ผมรู้ ถ้าประสบผ่านมาจริงๆ จะต้องฝ่าอันตรายมาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดแน่”

“ผมรู้ว่าที่ชายแดนวุ่นวายมาก ใช้ชีวิตไม่ง่ายเลย!”

หลี่ฝางถอนหายใจยาวๆ พูดว่า“หลายๆครั้ง ในใจผมก็แค้นพ่อมาก แค้นเขาว่าทำไมไม่เอาผมไปด้วย ตอนนี้ผมจึงเข้าใจว่า เขาไม่เอาผมไปด้วย ก็เพื่อผมเอง”

“วันเวลาที่หลบหนีนั้นไม่ง่ายเลย หากพาผมไปด้วย ก็เหมือนพาภาระไปด้วย”หลี่ฝางพูด

“คุณไม่ใช่ภาระ คุณคือหัวใจของลูกพี่”ส้าวส้วยพูดอย่างจริงจัง

“ถ้าไม่ใช่คุณ ลูกพี่กับอาจารย์ เกรงว่าคงทนไม่ไหวไปนานแล้ว”ส้าวส้วยพูดกับหลี่ฝาง

ส้าวส้วยหัวเราะ“สามปีนี้พวกเราผ่านอะไรมาเยอะจริงๆ เรียกว่าฝ่าอันตรายมาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดก็จะเกินไปหน่อย ประมาณว่าใช้ชีวิตไปอย่างไร้ความหมายดีกว่า แต่ดีที่ ส่วนมากพวกเราต่างมีชีวิตอยู่ต่อ”

“เพราะว่าลูกพี่ไม่ยอมแพ้กับทุกชีวิต ถึงแม้ตายแล้ว ลูกพี่ก็จะเอาศพกลับมา”

“ติดตามลูกพี่ พวกเราไม่เคยมีใครบ่น”

“เขารู้สึกผิดต่อพวกเรามาตลอด เขาบอกว่าตอนนั้นรับพวกเราไว้ เพราะอยากให้พวกเราใช้ชีวิตดีๆ ใครจะไปคิดว่า ……”พูดไป แววตาของส้าวส้วย ก็มีน้ำตาหยดลงมา

“เหอะเหอะ ครั้งนี้สี่ตระกูลใหญ่ จะต้องแพ้อย่างอนาถแน่”

ใบหน้าของส้าวส้วย จู่ๆก็ปรากฏรอยยิ้มอันเย็นชา

คุยกันอยู่นั้น ส้าวส้วยก็ขับรถไปที่หน้ามหาวิทยาลัย

“ส้าวส้วย คุณอย่าลงไป”หยุดรถลง หลี่ฝางก็หันหน้าไปพูดกับส้าวส้วย

“ยังไงซะด้านในก็พี่หลิงหลง อีกอย่างครั้งนี้คนที่นัดผม ก็คือฉินวี่เฟย เธอไม่ทำร้ายผมแน่”หลี่ฝางอยากหาโอกาสที่จะเจอกับฉินวี่เฟยสองต่อสอง

ส้าวส้วยเข้าใจความหมายของหลี่ฝาง จึงพูด“ระวังหน่อย”

“ปู่ตายก่อน จากนั้นพี่ชายก็เกิดอุบัติเหตุ จะเป็นจะตายก็ไม่รู้ ประสบการณ์แบบนี้ ก็จะทำให้คนเกิดความเปลี่ยนแปลงในฉับพลันได้”

สายตาส้าวส้วยมองหลี่ฝางอย่างซับซ้อน พูดว่า“เจ้านาย ผมไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของคุณ แต่ก็อยากโน้มน้าวคุณหน่อย”

“พูดเถอะ”หลี่ฝางถามตาม

“เมื่อก่อน ฉินวี่เฟยเหมาะกับคุณมากกว่า เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย รู้จักพิจารณาคำพูดและสังเกตสีหน้า ความรู้กว้างขวาง แต่งกับเธอ ก็จะเป็นตัวช่วยที่ดีของคุณ”

“แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน เมื่อก่อนผมสนับสนุนฉินวี่เฟย แต่ตอนนี้ ผมว่าลู่หลุ่ยเหมาะสมมากกว่า”

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ“ลู่หลุ่ยก็ดีมาก เธอก็แค่มีความเป็นผู้หญิงไปหน่อย”

“แต่ใสซื่อบริสุทธิ์มาก เธอไม่มีทางทำร้ายคุณ”

“คุณว่าฉินวี่เฟยจะทำร้ายผมไหม?”หลี่ฝางมองส้าวส้วย ถามกลับ

“ผมพูดไม่ได้ เพราะผมไม่ใช่ฉินวี่เฟย แต่คุณลองเปลี่ยนความคิด ถ้าคนที่คุณรักถูกฉินวี่เฟยฆ่าตาย คุณจะแค้นไหม?”

ส้าวส้วยถามหลี่ฝางอย่างจริงจัง“คุณจะไปแก้แค้นเธอไหม?”

ประโยคของส้าวส้วย ทำเอาหลี่ฝางตะลึง

คำถามนี้ หลี่ฝางตอบไม่ได้ และก็ยากที่จะประสบเจอกับตัว

ถ้าฉินวี่เฟยทำร้ายพ่อ หรือว่าแม่ของตัวเอง หลี่ฝางจะกลายเป็นอย่างไร?

แค่คิด ก็แทบจะบ้าตายแล้ว?

คนบ้าขึ้นมา เรื่องไหนบ้างที่ทำไม่ได้

หลี่ฝางส่ายหน้า ไม่กล้าคิดต่อไป“ผมไม่สามารถจินตนาการถึงความเจ็บปวดที่สูญเสียคนรักไปได้ เพราะผมเคยเสียไปแล้วครั้งหนึ่ง”

“เห้อ”

หลี่ฝางถอนหายใจ พูดว่า“ผมไม่เคยคิดจะเป็นอะไร หรือยังไงกับฉินวี่เฟยเลย ผมแค่สงสารเธอเล็กน้อย”

ถ้าระหว่างลู่หลุ่ยกับฉินวี่เฟยต้องเลือกมาสักคน หลี่ฝางคิดว่า ความเป็นไปได้ที่ตัวเองเลือกลู่หลุ่ยนั้นมากกว่า

แต่ หลี่ฝางก็รู้สึกต่อฉินวี่เฟย

ไม่ว่ายังไงทิ้งฉินวี่เฟยแบบนี้ ต่อไปก็จะเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน จุดนี้ หลี่ฝางทำไม่ได้

“ผมลงจากรถละ”

หลี่ฝางลงจากรถด้วยความคิดจิตใจที่หนักอึ้ง พอลงจากรถ หลี่ฝางก็มองเห็นฉินวี่เฟย

ฉินวี่เฟยลงมาจากรถลินคอล์นขยายคันหนึ่ง หลี่ฝางได้แต่มองไปแวบหนึ่ง ก็รู้สึกว่าฉินวี่เฟยเปลี่ยนไป

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน