NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 443

ตอนที่ 443

บทที่443 หลี่ฝางเป็นประธานกรรมการของบริษัทฉินซื่อ กรุ๊ป

ฉินวี่เฟยแสดงออกว่าตกใจอย่างชัดเจน

ตอนหลี่ฝางเล็กๆ เคยเห็นเด็กตกใจจนเสียสติ ก็เดินเช่นนี้

แต่ฉินวี่เฟยตกใจ ไม่ถือว่ารุนแรงนัก อย่างน้อยที่สุดก็ยังพอมีสติอยู่

“ฉันไม่เป็นไร”ฉินวี่เฟยส่ายหน้า สีหน้ายังคงตะลึงงัน

ฉินวี่เฟยเดินไปหน้าร้านกาแฟด้วยอาการตกใจอย่างแข็งทื่อ จนชนไปที่กระจกของประตู

หลี่ฝางวิ่งเข้าไป เปิดประตูกระจกออก แล้วเอาประตูม้วนด้านนอกนั้นออกไป

“คุณเห็นแล้วใช่ไหม?”หลี่ฝางมองฉินวี่เฟยแล้วถาม

“อนาถมาก น่าสงสารมาก”ฉินวี่เฟยส่ายหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

“หมายความว่าไง?”หลี่ฝางมองฉินวี่เฟยอย่างงุนงง ไม่ค่อยเข้าใจ

“หลิงหลง……”

“ทุกส่วนที่ร่างกายเธอ และก็หน้าอก เหลือแค่ส่วนเดียว และก็ด้านล่างของเธอ ……”พูดไปอยู่นั้น สีหน้าของฉินวี่เฟย ก็ซีดขาวขึ้นมา

ในหัวของฉินวี่เฟย ดูเหมือนจะคิดถึงภาพที่น่ากลัวมากๆ

เสียงของฉินวี่เฟยมาถึงจุดจบ ไม่ได้พูดต่อ ได้แต่ส่ายหน้า ส่ายหน้าอย่างสุดชีวิต

“ฉันจะไม่แก้แค้นเธออีกแล้ว”

“เธอน่าสงสารมาก”

ฉินวี่เฟยส่ายหน้าพูด แล้วเปิดประตูรถ“เมื่อกี๊ที่เข้าไปข้างในนาน เพราะว่าอ้วกอยู่ข้างใน”

“หลี่ฝาง ฉันไปก่อนนะ”

ฉินวี่เฟยพูดไป ก็เข้าไปในรถ

และตอนนี้เอง หลิงหลงก็เดินออกมา

ฉินวี่เฟยในรถมองหลิงหลงแวบหนึ่ง

สายตาของฉินวี่เฟย มีแต่ความเห็นใจ ไม่มีความเคียดแค้นเลย

ทำให้หลี่ฝางรู้สึกแปลกใจหน่อยๆ

หลิงหลงเป็นผู้ร้ายที่ฆ่าปู่ของฉินวี่เฟยนะ ให้อภัยไปแบบนี้เลยเหรอ?

เมื่อกี๊ฉินวี่เฟยเห็นอะไรไป?

ไม่นานนัก ฉินหมิงก็เดินออกมา เขามองหลิงหลงแล้วถาม“หลุมศพของเสี่ยวชิงอยู่ที่ไหน เดี๋ยวผมส่งคุณหนูเสร็จ จะไปเยี่ยมเธอหน่อย”

“ลาดสือซาน”

หลิงหลงมองฉินหมิง พูดเสียงไม่ดังนัก“สถานที่ที่เมื่อก่อนพวกคุณไปบ่อย”

ฉินหมิงก็ตกอยู่ในการเชื่อมโยงที่ไม่สิ้นสุด“ลาดสือซาน เหอะเหอะ ฝังไว้ที่นั่นจริงๆด้วย เป็นความคิดของเสี่ยวชิงสินะ”

“นั่นเป็นสถานที่ที่พวกเราเดทกันครั้งแรก มีครั้งหนึ่งพวกเราวิ่งออกมาจากสถานเด็กกำพร้า เล่นที่ลาดสือซานไปทั้งบ่ายนั้น เสี่ยวชิงไม่ระวังจึงขาหัก ผมจึงแบกเธอไว้”

“ตอนนั้น เธอเป็นเด็กอ้วน”

จู่ๆฉินหมิงก็คิดถึงวัยเด็ก

ข้าวที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแย่งมายากมาก เสี่ยวชิงเป็นแค่เด็กผู้หญิง ทุกครั้งก็จะหิว แต่ต่อมาพอรู้จักฉินหมิง ฉินหมิงก็จะแย่งข้าวมาให้เธอทุกครั้ง เลี้ยงจนเธอขาวอ้วนตุ้ยนุ้ย

คิดถึงทุกๆฉากในวัยเด็ก

ฉินหมิงทนไม่ไหว คุกเข่าลงหน้าร้านกาแฟ ร้องไห้ออกมา

ฉินหมิงเสียใจยิ่งกว่าฉินวี่เฟย

ฉินวี่เฟยไม่มีปู่ อย่างน้อยก็ยังมีพ่อแม่ พี่ชายพี่สาว

แต่ฉินหมิง ตั้งแต่เด็กจนโต เสี่ยวชิงคือญาติคนเดียวของเขา

ทั้งสองประคับประคองกันก้าวผ่าน ทั้งคู่ก็รักกันจริง แต่ใครจะไปคิดว่า……

รอมาสามปี ไม่ง่ายเลยที่จะได้ข่าวของเสี่ยวชิง แต่กลับเป็นข่าวร้ายเช่นนี้

ฉินหมิงยากที่จะยอมรับหน่อยๆ

จนกระทั่งว่าฉินหมิงมีความคิดหนึ่งอย่าง อยากฆ่าตัวตายตามเสี่ยวชิงไป

“ใครกันแน่ที่ฆ่าเสี่ยวชิง?”ทันใดนั้นฉินหมิงก็ยืนขึ้น คว้าแขนของหลิงหลง

“ฉันรับปากเสี่ยวชิงแล้ว จะไม่บอกความจริงคุณ”

หลิงหลงส่ายหน้า“แน่นอนว่า ฉันก็สามารถละเมิดคำสัญญาต่อเสี่ยวชิงได้”

“หากคุณเอาชนะฉันได้!”

หลิงหลงพูดจบ ฉินหมิงก็กำหมัด ต่อยไปที่ร่างของหลิงหลงอย่างฉับพลัน

แต่หมัดนี้ยังไม่ทันต่อยไปที่หลิงหลง หลิงหลงก็ชิงนำก่อน ตบใส่ที่แผลของฉินหมิง

ฉินหมิงถอยหลังไปหลายก้าว

ฉินหมิงไม่ยอมแพ้ พุ่งเข้าไปอีกครั้ง

หลิงหลงหรี่ตาลง ตีไปที่คอของฉินหมิงด้วยสันมือ จนเขาเกือบจะมึนหัว

ฉินหมิงส่ายหัว เหมือนคนบ้า แล้วพุ่งเข้าไปอีกครั้ง

ก็แค่ครั้งนี้ ฉินหมิงไม่ได้กล้าเหมือนสองครั้งแรก

แผลถูกแทงที่หน้าท้องเขา บาดแผลนั้นฉีกขาดแล้ว

ตอนนี้เขายังมึนๆหัวเล็กน้อย

ความเร็วและแรงนั้น ไม่มากเท่าก่อนหน้านี้

หลิงหลงส่ายหน้า ยืนมือข้างหนึ่งออกไป คว้าคอของฉินหมิง“อยากแก้แค้น ก็อย่าเสียสติ”

“มีสิตหน่อย ตอนนี้คุณยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ฉัน แล้วคุณก็ยังได้รับบาดเจ็บด้วย”

“รักษาแผลเสร็จค่อยมาอีก”

หลิงหลงพูดไป ก็ตบไปที่หน้าของฉินหมิง ตบจนล้มไปที่พื้น

ฝีมือหลิงหลงโหดมาก ฉากที่ตบนี้ ทำเอาฉินหมิงยืนไม่ขึ้น

หลี่ฝางไปประคองฉินหมิงขึ้นมา มาเข้าไปในรถ

“คุณขับรถเป็นไหม?”มองฉินวี่เฟยแวบหนึ่ง หลี่ฝางก็ถาม

ฉินวี่เฟยพยักหน้า แล้วก็ส่ายหน้า“ได้นิดหน่อย แต่……”

“ช่างเถอะ ผมไปส่งพวกคุณละกัน”

ตอนนี้เป็นชั่วโมงเร่งด่วนเลิกงานพอดี รถบนถนนเยอะมาก บวกกับปู่ของฉินวี่เฟยเพิ่งเสียไป พี่ชายก็ยังประสบอุบัติเหตุอีก

ภายใต้การโจมตีชุดนี้ อาการของฉินวี่เฟยแย่มาก ให้เธอขับรถ หลี่ฝางไม่วางใจหน่อยๆ

หลี่ฝางนั่งลงบนที่นั่งคนขับ สตาร์ทรถออก

“แผลของคุณ……ให้ฉันขับดีกว่าไหม?หรือว่าเรียกคนขับรถก็ได้ บนแอพGrabก็มีคนขับรถจำนวนมาก”ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝางแวบหนึ่ง แล้วพูด

แผลที่หน้าอกของหลี่ฝาง เจ็บมาก

เวลานี้ ที่จริงเขาควรจะพักผ่อนเยอะๆ

แต่เขากลับส่ายหน้าอย่างดื้อดึง“ดูบาดแผลคนข้างหลังสิ ถ้าคนขับรถที่นัดในอินเทอร์เน็ตมาแล้ว จะไม่ตกใจจนแจ้งความเหรอ?แบบนั้น จะทำให้เดือดร้อนอย่างเลี่ยงไม่ได้”

ฉินวี่เฟยไม่พูดอีก เธอแค่มองเส้นทางขับรถ แล้วก็ตกอยู่ในความงุนงง“นี่จะไปไหนเหรอ?”

“ไปโรงพยาบาล”หลี่ฝางพูด

“โรงพยาบาล?ทางนี้มีโรงพยาบาลเหรอ?”ฉินวี่เฟยพูดอย่างแปลกใจ

หลี่ฝางไม่ตอบ แต่ตั้งใจขับรถ

น่าจะผ่านไปกว่าสิบนาที ฉินวี่เฟยก็มองเห็นโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

“สถานที่แบบนี้ มีโรงพยาบาลจริงๆด้วย”ฉินวี่เฟยตะลึงหน่อยๆ ยังไงสถานที่นี้ ตำแหน่งก็อยู่ไกลมาก

“นี่คือโรงพยาบาลของพวกเราตระกูลหลี่”

“ให้พี่ฉินหมิงรักษาตัวที่นี่ละกัน”

พอหยุดรถ หลี่ฝางก็เอาตัวฉินหมิงลง

หลังจากจัดการฉินหมิงเสร็จ หลี่ฝางก็กลับไปที่รถอีกครั้ง

“ให้ผมส่งคุณไปโรงพยาบาล หรือว่ากลับตระกูลฉิน?”หลี่ฝางถาม

ฉินวี่เฟยยุ่งเหยิงไปหมด เธอก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี

“ตอนนี้พี่ชายฉันอยู่ในอาการโคม่า ตอนนี้ตระกูลฉินวุ่นวายไปหมด คุณปู่ก็ตาย หลายๆเรื่องมาหมด ลุงทั้งสองคนก็ไม่พอใจที่ฉันเป็นประธานกรรมการ ไม่ชอบที่ฉันเด็กไป……”

“หุ้นส่วนคืนอื่นๆ ก็ไม่เห็นด้วย”

ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝาง แล้วพูด“หลี่ฝาง ไม่งั้น คุณมาเป็นเถอะ”

“ผมเป็น?ล้อเล่นอะไร!”หลี่ฝางส่ายหน้า“ผมไม่ใช่คนตระกูลฉิน พวกเขาไม่ยอมคุณ แล้วจะยอมผมเหรอ?”

“พวกเขาเห็นแก่ผลประโยชน์ ตอนนี้ปู่ฉันตายแล้ว คอนเนคชั่นจำนวนมากมากที่ปู่สร้างขึ้น ก็หายตามไปด้วย ดังนั้นหุ้นส่วนกับพันธมิตรจำนวนมาก ไม่เชื่อกำลังตระกูลฉินของพวกเราแล้ว”

“พ่อฉันบอกว่า ดังนั้นตระกูลฉินอาจจะต้องถดถอยลงไป”

“ถ้าคุณรับช่วง ก็จะไม่เกิดสถานการณ์เช่นนี้ ตระกูลหลี่ของพวกคุณมีเงิน พันธมิตรพวกนั้น ก็จะต่อสู้เพื่อทำการร่วมมือต่อ และธนาคารก็จะไม่กลัว บริษัทฉินซื่อ กรุ๊ปของพวกเราล้มละลาย”

“ผมเข้าใจความหมายของคุณ ความหมายของคุณคือ ใช้ประโยชน์จากอิทธิพลตระกูลหลี่ของพวกเรา ใช่ไหม?”หลี่ฝางพูด

“อือ”หลี่ฝางพยักหน้าตอบรับ

“ลุงทั้งสองของคุณจะเห็นด้วยไหม?ยังไงพวกเขาก็รู้ นายท่านฉินถูกพวกเราตระกูลหลี่ฆ่า”

“อีกอย่าง พ่อคุณเห็นด้วยเหรอ?”

หลี่ฝางขมวดคิ้วถาม

“พวกเขาก็ไม่อยาก แต่พวกเขาไม่มีหนทาง ……ทางพ่อฉัน ฉันจะไปคุยให้ ส่วนลุงทั้งสองของฉัน พวกเขาเห็นเงินสำคัญกว่าสิ่งใด ใครทำให้พวกเขารวยได้ ก็เป็นญาติของพวกเขา พวกเขามีความแค้นต่อคุณ แต่ไม่ได้มีกับเงิน”

ฉินวี่เฟยทำเสียงฮึดฮัด“คุณลุงสองคนของฉัน ไม่มีทางขจัดคุณ”

หลี่ฝางเม้มปาก ลังเลเล็กน้อยจึงพูด“คุณล่ะ?คุณจะขจัดผมไหม?”

ฉินวี่เฟยส่ายหน้า“หนึ่งชั่วโมงก่อนนี้ ฉันเกลียดชังหลิงหลงมาก และก็เกลียดชังคนของพวกคุณตระกูลหลี่ตาม สำหรับคุณ ก็นิดหน่อย ยังไงคุณก็คือคนตระกูลหลี่”

“แต่ตอนที่หลิงหลงให้ฉันดูร่างกายเธอ จู่ๆฉันก็ไม่เกลียดเขาแล้ว เพราะว่าฉันไม่มีคุณสมบัตินี้”

“หลิงหลงน่าสงสารมาก”ฉินวี่เฟยพูดพร้อมส่ายหน้า

“คุณเห็นอะไรกันแน่?”หลี่ฝางถามต่อ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท