NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 444

ตอนที่ 444

บทที่444 มาคนหนึ่งผมก็จะฆ่าคนหนึ่ง

ฉินวี่เฟยเม้มปาก อยากพูดแต่พูดไม่ออก

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลี่ฝางถาม

หลี่ฝางย้ำไปอีกครั้งว่า“ผมอยากรู้จริงๆว่า คุณเห็นอะไรกันแน่?”

“อะไรกันแน่ที่ทำให้ความเคียดแค้นในใจของคุณสงบลง?”หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ

ตอนที่หลี่ฝางเอาหุ้นมูลค่าสองสามพันล้านคืนแก่ฉินวี่เฟย ฉินวี่เฟยก็ไม่ได้ทิ้งความแค้นลง

แต่เข้าไปในห้องกับหลิงหลง อยู่แค่แป๊บเดียว จู่ๆฉินวี่เฟยก็ยกโทษให้หลิงหลง

หลิงหลงเป็นฆาตกรที่ฆ่านายท่านฉินเชียว

หลี่ฝางยังคิดว่า ชีวิตนี้ฉินวี่เฟยจะไม่ยอมทิ้งความแค้นนี้ซะอีก

ใครจะไปรู้ว่า……

ฉินวี่เฟยสูดหายใจ“ถ้าฉันเป็นหลิงหลง ไม่มีทางใช้ชีวิตอยู่ต่อแน่”

“ไม่ใช่แค่ฉัน ผู้หญิงทั่วไป ก็ไม่น่าจะมีชีวิตต่อไปได้”

สองตาของฉินวี่เฟย เต็มไปด้วยความช็อก

“หลิงหลงพาฉันเข้าไปในห้อง แล้วถอดเสื้อผ้าของเธอออก ฉันเห็นร่างของเธอ ก็ตกใจทันที ร่างกายนั้น เหมือนผีเลย”

“หน้าอกเธอถูกคนทำร้ายไปครึ่งหนึ่ง ฉันไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเธอผ่านอะไรมา”

“แล้วก็ด้านล่างของเธอ ก็ไม่เหมือนคนแล้ว”

“เธอบอกฉันว่า ตอนที่เธอหนี ถูกคนกลุ่มหนึ่งจับไว้ ทิ้งไปในหลุมดำมืดมิดที่หนึ่ง ด้านในเต็มไปด้วยทาสที่ถูกเลี้ยง”

“ปกติทาสพวกนั้นจะทำงานให้ทั้งวันทั้งคืน พวกเขากินไม่อิ่ม ใส่เสื้อผ้าอย่างไม่อบอุ่น ป่วยก็ถูกยิงทันที”

“เหล่าบรรดาทาสที่ใช้ชีวิตโดยมีสวัสดิการอย่างเดียวก็คือผู้หญิง ในทุกๆคืน จะส่งผู้หญิงไปคนหนึ่ง”

“และผู้หญิงพวกนี้ มีไม่มากนักที่ออกไปได้ทั้งที่มีชีวิตอยู่”

“ส่วนมากก็จะถูกพวกทาสทรมานจนตาย”

พูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงของฉินวี่เฟยก็สำลัก“ที่จริงฉันไม่สามารถจินตนาการภาพนั้นได้เลย”

“หลิงหลงหลบหนีออกมาจากข้างในได้ เป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก”

“ผู้หญิงหลายคน สุดท้ายก็ถูกกินเรียบ”

“ที่แท้ต่างประเทศก็ยังมีสถานที่แบบนี้”

ฉินวี่เฟยขมวดคิ้ว พูดว่า“หลิงหลงพูด ทั้งหมดนี้ ล้วนแต่เป็นปู่ฉันทำ”

“สี่ตระกูลใหญ่เอาภาพเหมือนที่ปู่ฉันวาดมา จากนั้นก็ไล่ล่าพวกเขาตลอด”

ทันใดนั้นฉินวี่เฟยก็ถอนหายใจ พูดว่า“เธอบอก นี่ยังไม่เท่าไหร่”

“จากนั้น เธอก็ยังเคยประสบผ่านอีกครั้ง”

“ตอนที่เธอเล่าเรื่องพวกนี้จบ จู่ๆฉันก็รู้สึกว่า ความตายไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวที่สุดบนโลกใบนี้”

“ถึงคุณปู่จะตายแล้ว แต่ก็แก่แล้ว ถึงไม่มีหลิงหลง คุณปู่ก็อยู่ได้อีกไม่กี่ปี และหลายปีนี้ คุณปู่ก็มีความสุขไปกับความรุ่งโรจน์มั่งคั่งแล้ว แต่พวกหลิงหลง กลับได้รับความทรมานอย่างไร้มนุษยธรรม”

“เปรียบเทียบกันแล้ว คุณปู่ของฉันก็ทำบาปจริงๆ”

ทันใดนั้นฉินวี่เฟยก็เข้าใจขึ้นมา

“ความเสียใจยากที่จะเลี่ยง ถึงแม้ฉันเจ็บปวดมากที่คุณปู่เสียไป แต่พอเห็นสิ่งที่หลิงหลงเจอ ฉันก็ยิ่งสงสารหลิงหลง หลิงหลงพูดว่า ชีวิตของเธอ เป็นเพื่อนสองคนของเธอที่เสียสละ แลกกลับมา”

“เธอมีชีวิตอยู่ ก็เพื่อแก้แค้น”

“ที่จริงเธออยากฆ่าตระกูลฉินทุกคน เพื่อระบายความเกลียดชังในใจ แต่คิดไม่ถึงว่า พวกเราสองคนกลับเกิดความคลุมเครือที่ไม่ชัดเจน”

“หลี่ฝาง ถ้าไม่ใช่ความสัมพันธ์ของฉันกับคุณ คิดดูแล้วตอนนี้ฉันคงถูกหลิงหลงฆ่าตายนานแล้ว”

ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝาง ทันใดนั้นก็แสดงแววตาขอบคุณ“ดังนั้น จู่ๆฉันก็ไม่เกลียดชังคุณ”

“ที่จริงเป็นคุณที่ช่วยฉันไว้ ช่วยพวกเราทั้งตระกูลฉิน”

“คุณปู่ของฉันบอกในพินัยกรรมว่า ให้พวกเราอย่าไปสืบหาสาเหตุที่เขาตายอีก พวกเราคนของตระกูลฉิน ควรปฏิบัติตามคำสอนที่ปู่กำชับ”

“คุณปู่ดูแลตระกูลเฉียนมาโดยตลอด มักจะยื่นมือมาช่วยตลอด เมื่อก่อนพ่อของฉันเคยถามฉัน ว่าทำไมช่วยตระกูลเฉียนสุดแรงขนาดนี้ เขาบอกว่าติดหนี้คนแก่ตระกูลเฉียนท่านหนึ่ง”

“พอคิดถึงคนแก่คนนั้น ก็น่าจะลุงเฉียนสินะ”

ฉินวี่เฟยส่ายหน้า“สามปีก่อนเกิดอะไรขึ้นนั้น ฉันไม่รู้แน่ชัด แต่คุณปู่คือคนที่ไม่มีเหตุผลมาก ถ้าไม่สมเหตุสมผลจริงๆ เขาไม่ไปกระโดดลงแม่น้ำแน่”

หลี่ฝางไม่พูดอะไร ฉินเฟิงกระโดดลงแม่น้ำ จุดประสงค์เพื่อรักษาทั้งตระกูลฉิน

หลี่ฝางฟังคำตอบของฉินวี่เฟยเสร็จ ในใจก็รับไม่ได้

ถึงจะบอกว่าสิ่งที่พบเจอของหลิงหลง เป็นนายท่านฉินที่ทำร้าย

แต่ถ้าสืบหาจริงๆ ก็เป็นความรับผิดชอบของพ่อของตัวเองส่วนหนึ่ง

ถ้าตอนนั้นหลิงหลงไม่ตาพ่อของตัวเองหนีไป ก็คงไม่เจอการข่มเหงเช่นนี้สินะ?

ตอนนั้นคนที่สี่ตระกูลใหญ่จะฆ่า คือหลอซ่า นั่นก็คือพ่อของหลี่ฝาง

หลิงหลงก็แค่สาวน้อยที่ติดตามข้างกายลุงเฉียน เธอสามารถหาสถานที่เพื่อปกปิดชื่อได้ สี่ตระกูลใหญ่ไม่จำเป็นต้องกำจัดสาวน้อยคนหนึ่งให้สิ้นซาก

คิดถึงพวกนี้ หัวใจหลี่ฝางก็กระอักกระอ่วน จากนั้นเขาก็พูดเสียงทุ้มเบา“ไปเถอะ ผมจะส่งคุณกลับไปตระกูลฉิน”

“ถึงคุณจะทิ้งความแค้น แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนในตระกูลฉินจะยอมทิ้ง”

“เดี๋ยวคุณกลับไปที่ตระกูลฉิน ฝากบอกพวกคุณตระกูลฉินแทนผมด้วย ใครกล้าไปก่อกวนหลิงหลง มาคนหนึ่งผมก็จะฆ่าคนหนึ่ง”

“ถ้าคิดว่าหลุมศพของนายท่านฉินนั้นเหงาไป ก็มาลองดูได้”

หลี่ฝางพูดอย่างเย็นชา

ฉินวี่เฟยตกใจ แต่ไหนแต่ไรไม่เคยเห็นหลี่ฝางที่จะเผด็จการเช่นนี้

“คุณสงสารเธอเหรอ?”หลายวินาทีผ่านไป ฉินวี่เฟยก็ถาม

“ใช่สิ เธอหนีก็เพราะพ่อของผม พวกเราตระกูลหลี่เป็นหนี้เธอ ดังนั้น ไม่ว่าต่อไปเธอจะทำอะไร ผลที่ตามมาทุกอย่าง ก็ให้พวกเราตระกูลหลี่รับผิดชอบ”

หลี่ฝางพูด“กลับไปโน้มน้าวคนตระกูลฉินของพวกคุณ สิ่งชดเชยที่สมควรทำ ตระกูลหลี่จะทำให้ไม่น้อยเลย แต่อย่าไปสร้างปัญหาให้หลิงหลงเด็ดขาด ที่คือเส้นตาย”

เงียบไป หลี่ฝางก็คิดว่าคำพูดตัวเองไม่เหมาะสม จึงพูดเสริม“ผมรู้ว่าชดเชยแค่ไหนก็เอาชีวิตนายท่านฉินกลับคืนมาไม่ได้ แต่ที่พวกเราตระกูลหลี่ทำได้ ก็มีอีกมากมาย”

ฉินวี่เฟยไม่พูด ได้แต่พยักหน้า

หลี่ฝางเปิดรถ ฉินวี่เฟยนั่งที่นั่งข้างคนขับ ทันใดนั้น บรรยากาศในรถ ก็ดูอึดอัดขึ้นมา

ทั้งสองต่างไม่พูด เหมือนไม่มีหัวข้อที่ไปด้วยกันได้

แน่นอนว่า ฉินวี่เฟยเพิ่งเสียปู่ไป อารมณ์ก็ไม่ดีเท่าไหร่นัก

แต่ก็เป็นฉินวี่เฟยที่ทำลายความเงียบก่อน“หลี่ฝาง ฉันอยากถามคุณหนึ่งคำถาม”

“ถามสิ”หลี่ฝางตอบรับ

“ก่อนหน้านี้คุณตอบรับฉันไว้ นับไหม?”ทันใดนั้นฉินวี่เฟยก็ถาม

“คุณหมายถึง เรื่องที่เสแสร้งทำเป็นแฟนคุณเหรอ?”หลี่ฝางถาม

ฉินวี่เฟยพยักหน้าอย่างขี้ขลาด“ไม่ได้เสแสร้ง แต่เป็นอย่างทางการ”

ทันใดนั้นหน้าของฉินวี่เฟยก็แดง“ฉันรู้ว่าพูดตอนนี้ไม่เหมาะสม แต่ฉันก็ยังอยากถาม”

“ฉันอยากรู้คำตอบเป็นอย่างมาก อยากรู้ตำแหน่งที่ตัวเองอยู่ในหัวใจของคุณ”

“ถ้าคุณยังปฏิเสธ ฉันก็จะเตรียมเลิกเรียน ไปเรียนรู้การทำธุรกิจกับพ่อฉันแล้ว……”ฉินวี่เฟยพูด

หลี่ฝางเข้าใจความหมายของฉินวี่เฟย คำตอบของตัวเอง เป็นตัวตัดสินอนาคตของฉินวี่เฟยจะเดินไปทางไหน

หลี่ฝางส่ายหน้า พูดว่า“ช่วยเรื่องคุณปู่ของคุณเสร็จ ผมค่อยตอบคำถามนี้ของคุณละกัน”

หลี่ฝางต้องการเวลาพิจารณา

ที่จริงหลี่ฝางเข้าใจแล้วว่า ฉินวี่เฟยมีพื้นที่ อยู่ข้างในใจของตัวเองแล้ว

แต่หลี่ฝาง ในเวลานั้น ก็ยังลืมลู่หลุ่ยไม่ลง

ถ้าตอบรับฉินวี่เฟยไป งั้นตัวเองกับลู่หลุ่ย ก็ไม่มีความเป็นไปได้อีกแล้ว

ลู่หลุ่ยเคยเจอตัวเองกับฉินวี่เฟยครั้งหนึ่งแล้ว ถ้าคบกันอย่างเป็นทางการ จะต้องเป็นคู่รักในโรงเรียนอย่างเลี่ยงไม่ได้ แบบนั้น ลู่หลุ่ยจะต้องเสียใจมากแน่ๆ

หลี่ฝางไม่อยากทำร้ายลู่หลุ่ยอีก

เพิ่งเลิกกัน ก็ไปมีความรักแล้ว ไม่ค่อยให้เกียรติแฟนเก่าของตัวเองอย่างมาก

ไม่นานนัก รถก็ขับเข้าไปที่ข้างหน้าคฤหาสน์ของตระกูลฉิน คฤหาสน์ของตระกูลฉินในตอนนี้ มีคนยืนอยู่ที่หน้าประตูไม่น้อย

มีผู้บริหารระดับสูงของตระกูลฉิน หุ้นส่วน และก็มีคนใหญ่โตบางคนของเมืองเอก รุ่นพี่ที่เป็นมิตรกับนายท่านฉินก่อนตาย

หลี่ฝางจอดรถลง ฉินวี่เฟยจึงถาม“คุณจะลงไปไหม?ถ้าไม่ลงไป คุณก็ขับรถไปเถอะ”

“ที่นี่เรียกรถยาก”ฉินวี่เฟยพูด

หลี่ฝางคิดอยู่สักพัก จึงพูด“ผมกลับไปด้วยกันกับคุณละกัน”

“ผมอยากไปคำนับนายท่านฉิน ยังไงก็มาแล้ว”

พูดไป หลี่ฝางก็ลงจากรถ ฝีเท้าของเขาหนักหน่อยๆ ยังไงการตายของนายท่านฉิน ก็เกี่ยวข้องกับตัวเองอย่างมาก

ถ้าถูกจำได้ กลัวว่าจะเกิดปัญหาใหญ่

แต่หลี่ฝางก็ยังเดินเข้าไป แต่เข้าไปได้ไม่นาน หลี่ฝางก็มองเห็นเหล่าใบหน้าที่คุ้นเคย

มองเห็นคนพวกนี้ ทันใดนั้นหลี่ฝางก็หยุดฝีเท้า อยากจะออกไป

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท