NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 449

ตอนที่ 449

บทที่449 องค์กรทหารรับจ้างอันดับ 1 ของโลก

หลี่ฝางไม่อยากจะเชื่อ หมาทิเบตันที่ดูเหมือนผู้ชายหยาบๆ อาวุธที่ใช้ดันเป็นดาบ

และยังเป็นดาบนุ่มหนึ่งเล่มด้วย

ถ้าส้าวส้วยเอาดาบนุ่มนี้มาโบก หลี่ฝางยังจะรับได้กว่า แต่ถ้าเป็นหมาทิเบตัน……

หลี่ฝางคิดว่าภาพนั้นผิดไปเล็กน้อย

เวลานี้ หลี่ฝางขมวดคิ้วแน่น เขามองส้าวส้วยที่ไปด้วยมือเปล่า ในใจอดไม่ได้ที่จะกังวล

“แม่เอ๊ย ผู้ชายคนนี้น่ารังเกียจมากไปแล้ว?”

หลี่ฝางโกรธจนด่าออกไป“ดันยังใช้อาวุธ!”

“เจ้านาย การต่อสู้ถึงเป็นถึงตายนี้ ใช้อะไรก็ได้หมด”โหจื่อพูด

หมาทิเบตันก็ทำเสียงฮึดฮัด หัวเราะไปพูดไปอย่างเย็นชา“มามือเปล่า คิดว่าจะชนะผม?”

ดาบแทงออกไป ร่างของส้าวส้วย หมุนตัวกลางอากาศ ไม่ใช่แค่หลบดาบนี้ แต่ยังเตะไปที่อกของหมาทิเบตัน

หมัดเท้านี้ หนักมาก มุมปากของหมาทิเบตัน ก็ปรากฏเลือดออกมา

หมาทิเบตันได้รับบาดเจ็บภายใน แต่เขาทนไว้ ทนไม่ให้เลือดนี้ถ่มออกมา

เลือดคือสารจำเป็นแห่งชีวิต

หากอ้วกออกไป สารจำเป็นนี้ก็จะหายไปด้วย

การดวลนัดนี้ หมาทิเบตันก็แพ้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง

หมาทิเบตันเอาเลือดนี้กลืนกลับไปอย่างไม่เต็มใจ เขาคิดไม่ถึงว่ากังฟูของส้าวส้วยจะดีขนาดนี้

“วิชาตัวเบา?”

หมาทิเบตันไม่ค่อยอยากจะเชื่อนัก บนโลกนี้ จะมีคนใช้เทคนิคกลางอากาศได้!

“เหมารวมไม่ได้หรอก ปกติพลิกกำแพงกลับไม่มีปัญหา”ส้าวส้วยหัวเราะเบาๆ

“คุณไม่คิดจะใช้อาวุธเหรอ?”

หมาทิเบตันมองส้าวส้วย พูดด้วยสีหน้าซีเรียส“แวดวงทหารรับจ้าง ที่ตัวแต่ละคนต่างอาวุธของตัวเอง”

“ดาบ ปืน กริช รวมถึงอาวุธที่ซ่อน”หมาทิเบตันถามอย่างหยั่งเชิง

“ช่างเถอะ ไม่ใช้แล้ว”

ส้าวส้วยส่ายหน้า พูดอย่างไม่แคร์“จัดการคุณ ไม่ต้องใช้อาวุธหรอก”

“ตอนแรกผมก็บอกแล้วไง หวังว่าคุณจะสามารถฝึกดีๆกับผมได้ ทำการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ”

ส้าวส้วยพูด“ถ้าผมเอาอาวุธออกมา ครั้งเดียวก็น็อคคุณได้แล้ว งั้นความปรารถนาของผม จะไม่ล้มเหลวเหรอ?”

“น้ำเสียงของคุณ จองหองเหลือเกิน!”

หมาทิเบตันโกรธจนกัดฟัน เขายืดตัวขึ้นอีกครั้ง ยกดาบขึ้น ดินทรายนับไม่ถ้วนก็ปลิวตามขึ้นมา

ดินทรายพุ่งไปทางส้าวส้วย ส้าวส้วยถอดเสื้อผ้าออก กันดินทรายพวกนี้ไว้

ในชั่วขณะเดียว ดาบในมือของหมาทิเบตัน แทงเสื้อของส้าวส้วยขาด เสียบลงไป

หลี่ฝางเบิกตาโตอย่างกังวล ใจเต้นเร็วขึ้นตามไปด้วย

แขนของโหจื่อขยับ เขายกแขนขึ้นเล็กน้อย เหมือนจะยิงปืน

หลี่ฝางคิดว่า ในมือของโหจื่อกระบอกนี้ ไม่ใช่ปืนฉีดน้ำอะไร

ถ้าเป็นปืนฉีดน้ำจริงๆ ทำไมโหจื่อต้องเอามาด้วย เพื่อกฎของตัวเองจริงๆเหรอ?

ส่วนทานด้านนี้ ส้าวส้วยกลับปลอดภัยไม่เกิดเรื่องใดๆ

เสื้อผ้าถูกดาบฉีกขาด ส้าวส้วยใช้สองมือ หนีบดาบนุ่มของหมาทิเบตันไว้

“อะไรน่ะ?”

ตาของหมาทิเบตันเบิกโตทั้งคู่“นี่จะเป็นไปได้ไง?”

หมาทิเบตันไม่อยากจะเชื่อเลย ดาบของตัวเองที่คมกริบเช่นนี้ จะถูกส้าวส้วยหนีบไว้ด้วยมือเปล่า

อีกอย่างในความเร็วระดับนี้ ส้าวส้วยทำได้อย่างไร?

นี่มัน……

ทันใดนั้นหมาทิเบตันก็ตะลึง

มุมปากส้าวส้วยมีรอยยิ้มเย็นชา“หมาทิเบตัน นี่คือความสามารถทั้งตัวคุณแล้วเหรอ?”

ความหมายของส้าวส้วยนี้ เห็นได้ชัดว่าดูถูกหมาทิเบตันหน่อยๆ

ส้าวส้วยยังรอเทคนิคที่สุดยอดกว่านี้ของหมาทิเบตัน สุดท้ายคิดไม่ถึงว่า หมาทิเบตันจะทำได้แค่ระดับนี้

ส้าวส้วยพูดอย่างผิดหวัง“ถ้าความสามารถแค่นี้ งั้นการดวลของพวกเรา ก็รู้ผลลัพธ์ล่วงหน้าแล้ว”

พูดไป ทันใดนั้นส้าวส้วยก็ออกแรง เอาดาบนุ่มนั้น หักออกโดยตรง

ส้าวส้วยหยิบเศษดาบขึ้นมา โยนออกไปโดยตรง ลอยไปทางหมาทิเบตัน

หมาทิเบตันรีบหลบ แต่ความเร็วของเขาช้าไป

ใบมีดบาดไปที่แผ่นอกเขา แล้วแทงลงไปที่เนื้อ

สีหน้าของหมาทิเบตันซีดขาว หนึ่งเพราะบาดเจ็บ และก็ถูกพละกำลังของส้าวส้วย ทำให้อึ้งไป

“แม่เอ๊ยคุณยังใช่คนอยู่ไหม?”

หมาทิเบตันดูไม่ค่อยอยากจะเชื่อนัก พละกำลังแบบนี้ ที่สำนักหยิ่งซา ก็เห็นไม่มาก

แต่ ส้าวส้วยก็แค่ลูกน้องคนหนึ่ง

และที่สำนักหยิ่งซา คนที่มีกำลังเท่ากับกับส้าวส้วย ล้วนแต่เป็นระดับผู้อาวุโสของสำนักหยิ่งซา

ลูกน้องคนหนึ่งของตระกูลหลี่ ดันเป็นองค์กรอันดับ 1 ของโลก พละกำลังเท่ากับระดับผู้อาวุโส ถ้าหมาทิเบตันเอาข่าวนี้แพร่ออกไป ใครจะไปเชื่อ?

ไม่มีใครเชื่อแน่

เวลานี้ หมาทิเบตันไม่อยากสู้แล้ว เขาแค่อยากหนี

“เห็นแก่หน้าของสำนักหยิ่งซา ปล่อยผมไปสักครั้งได้ไหม?”มองไปที่ส้าวส้วย หมาทิเบตันพูดขอร้อง

“หมาทิเบตัน ก่อนหน้านี้ผมเคยเตือนคุณแล้วนะ ว่าคุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเรา ผมแนะนำให้คุณรีบไปอยู่ไกลๆกว่านี้หน่อย แต่คุณไม่ฟังเอง ”

ส้าวส้วยส่ายหน้า“ตอนนี้มาพูดพวกนี้ คุณคิดว่าช้าไปหน่อยไหม?”

“คุณฆ่าผม ต้องเกิดปัญหาแน่”

“ที่นี่คือประเทศจีน คุณฆ่าผม ก็จะได้รับการลงโทษทางกฎหมาย ถึงคุณจะสามารถหลบหนีการจับกุมของตำรวจได้ คุณก็จะไม่สามารถปกป้องคุณชายตระกูลหลี่ต่อไปได้อย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาแล้ว”หมาทิเบตันพูด

“ถ้าฆ่าคนอื่น บางทีผมจะต้องหนี”

“แต่คุณ?”

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ“ผู้ร้ายระหว่างประเทศที่ต้องการตัวคนหนึ่ง ตำรวจไม่ให้รางวัลพลเมืองดีแก่ผม ผมต้องไปหาพวกเขา พวกเขายังจะจับกุมผมไหม?”

“คุณล้อเล่นอะไรเนี่ย?”

“สุดยอดฝีมือดีคนนี้ คุณฆ่าไปเถอะ ถึงเขาไม่ใช่ผู้ร้ายระหว่างประเทศที่ต้องการตัว เขาก็พุ่งทำร้ายผม แย่งปืนของผม ก็จะไม่มีปัญหาใดๆ”เวลานี้หูเฟยก็พูดเสริม

“ได้ยินไหม?ฆ่าคุณ ก็เท่ากับป้องกันตัวปกติ ไม่ต้องได้รับความรับผิดชอบทางกฎหมายใดๆ”

ส้าวส้วยหัวเราะ พูดว่า“เอาไง คุณจะฆ่าตัวตาย หรือว่าให้ผมออกแรง?”

“ต้องการฆ่าจริงๆ หรือไม่กลัวการแก้แค้นของพวกเราสำนักหยิ่งซาเหรอ?”

สีหน้าของหมาทิเบตันเย็นชาทันที

“โอเค ในเมื่อคุณจะฆ่าผม งั้นพวกเราก็มาตายด้วยกันเถอะ”

เสียงหมาทิเบตันพูดจบ ฝีเท้าของเขา ก็เดินไปทางหลี่ฝางโดยตรง ดาบหักในมือของหมาทิเบตัน เล็งไปที่หัวใจของหลี่ฝาง จะแทงลงไป

และส้าวส้วยก็คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว ความเร็วที่เขาก้าวไปนั้นไวมากกว่า

ก่อนที่หมาทิเบตันจะมาถึง เขาชิงมาก่อน มาที่ตรงหน้าของหลี่ฝาง

“ผมสามารถต้านทานดาบแรกของคุณได้ ดาบที่สองผมก็ต้านทานได้อย่างเป็นธรรมชาติ!”ส้าวส้วยหรี่ตาลง จ้องไปทางหัวดาบอย่างตั้งอกตั้งใจ

มุมปากของหมาทิเบตัน ปรากฏรอยยิ้มอันร้ายกาจ“คุณต้านทานดาบได้ แล้วต้านทานกระสุนได้ไหมล่ะ?”

หมาทิเบตันถาม จากนั้นที่มืออีกข้าง ก็ปรากฏปืนกระบอกหนึ่ง

กลยุทธ์ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม!

เทคนิคการฆ่าที่แท้จริงของหมาทิเบตัน ก็คือปืนในมือ

เขาจะยิงปืนฆ่าส้าวส้วยให้ตาย

ตอนที่เขาหยิบปืนออกมานั้น แขนของโหจื่อก็ยกขึ้น กระสุนลูกหนึ่ง ตัดผ่านป่าที่เงียบงัน ยิงไปที่มือของหมาทิเบตัน

ฝีเท้าของหมาทิเบตันหยุดลง มือที่ถือปืนนั้น ก็เริ่มสั่นขึ้นมา

“แม่เอ๊ย นี่ไม่ใช่ปืนฉีดน้ำเหรอ?”หมาทิเบตันหันหน้าไป จ้องโหจื่อย่างเย็นชา สีหน้าดุร้ายมาก

“ใช่ นี่คือปืนฉีดน้ำ!”

“คุณดูสิ”

โหจื่อหัวเราะเหอะเหอะ จากนั้นก็เหนี่ยวไกอีก ที่ปากกระบอกปืนไหลออกมา กลับเป็นน้ำ

“มองเห็นไหม ใช่ปืนฉีดน้ำหรือไม่?”

โหจื่อโชว์เสร็จ ก็พูด“หมาทิเบตัน คุยเคยได้ยินว่าดาบแม่และลูก แล้วเคยได้ยินว่าปืนตัวอักษรไหม?”

“ปืนกระบอกนี้มีสองปากกระบอกปืน ด้านหนึ่งยิงเป็นกระสุน อีกด้าน ยิงออกมาคือน้ำ”

โหจื่อยิ้ม แล้วพูดว่า“นี่คือปรมาจารย์เครื่องจักร ตั้งใจทำเพื่อพวกเราเลย ผมจ่ายไปสิบล้านเพื่อซื้อมา”

หมาทิเบตันฟังจบ ที่ใบหน้าเขา ก็เต็มไปด้วยความหมดหวัง

สุดยอดฝีมือคนหนึ่งที่เกือบจะโรคจิต อีกคนเป็นเทพแห่งปืนที่ยิงร้อยนัดแม่นร้อยนัด

อยู่ตรงหน้าคนสองคนแบบนี้ หมาทิเบตันหนีไม่พ้น

หมาทิเบตันก็ไม่อยากหนี เขามองส้าวส้วยแวบหนึ่ง แล้วมองโหจื่ออีกแวบหนึ่ง แล้วส่ายหน้า

“โอเค ผมยอม”

“พวกคุณฆ่าผมสิ”หมาทิเบตันถอนหายใจยาวๆ แล้วพูด

“คุณไม่ควรมา”

ส้าวส้วยพูดนิ่งๆ“ถ้าอยู่ที่ต่างประเทศ บางทีคุณควรมีชีวิตยืนยาวกว่านี้”

ส้าวส้วยพูดไป ก็ค่อยๆเดินไปที่หมาทิเบตัน เตรียมจบชีวิตของเขา

และตอนนี้เอง รอบๆทิศทั้งสี่ ก็มีคนสี่คนปรากฏตัว

สี่คนนี้ ต่างคลุมหน้า และก็สวมชุดดำทั้งชุด

ที่หน้าอกพวกเขา ประทับเป็นรูปพลุ

“สำนักหยิ่งซา?”

เห็นรูปนี้ สีหน้าของส้าวส้วยก็ตะลึงหน่อยๆ มองหมาทิเบตันแล้วพูด“ไม่น่าล่ะลูกพี่ไม่ให้ฆ่าคุณ ที่แท้พวกคุณคือคนของสำนักหยิ่งซา แล้วยังมาตั้งหลายคน”

หมาทิเบตันเห็นคนขององค์กรตัวเอง ในใจก็มีความหวังขึ้นมาทันที

เขาคิดว่าตัวเองมีทางรอดแล้ว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท