NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 464

ตอนที่ 464

บทที่ 464 เจ้านาย ผมมาสายแล้ว

และตอนนี้เอง ถังจิ้นก็ลุกขึ้นกะทันหัน เตะไปที่ขาเก้าอี้ของตู้เฟย

เสียงดังปัง ตู้เฟยล้มลงสองขาชี้ฟ้า

ตู้เฟยตบก้นลุกขึ้นมา สองตาแดงก่ำมองถังจิ้น

“เตะฉันทำไม อยากตายหรือไง”

ถังจิ้นมองตู้เฟยอย่างไม่พอใจ “ถ้าแกยังจ้องฉันอีกนะ ฉันจะควักดูตาแกออกมาคอยดู”

เดิมทีหลี่ฝางคิดว่า ตามนิสัยของตู้เฟยนั้น เขาคงต้องชกต่อยกับถังจิ้นแน่

แต่ใครจะไปรู้ ตู้เฟยก็เพียงแค่จับเก้าอี้กลับมาวาง แล้วนั่งลงใหม่

เหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

นิ่งผิดปกติ นิ่งจนน่ารังแก

คนในห้อง ต่างก็นินทาซุบซิบว่าถังจิ้นนั้นรังแกคนอื่น

และทุกคนก็ดูออก ว่าตอนนี้ถังจิ้นนั้น เป็นหมารับใช้ของหลี่ฝาง

แค่เวลาสั้นๆ ความหวาดกลัวที่ทุกคนมีต่อหลี่ฝาง ก็มีมากขึ้น

แน่นอน หลี่ฝางก็ไม่ได้สนใจ

หลี่ฝางเพียงแต่รู้สึกว่า ตู้เฟยเปลี่ยนไป มากจริงๆ

มากจนไม่อยากจะเชื่อ

ตอนเลิกเรียน หลิวเฉินมาที่ห้องเรียนของหลี่ฝาง บอกกับหลี่ฝางว่า ให้เขาไปที่หน้าประตูมหาลัย

หลัวเฉินไปแล้ว หลี่ฝางก็กวักมือ เรียกถังจิ้นเข้ามา

ถั้งจิ้นเดินเข้าไป ถามอย่างนอบน้อมว่า “คุณชายหลี่ คุณเรียกผมมีเรื่องอะไร”

ถังจิ้นยังคงคิดว่าหลี่ฝางจะให้เขาจัดการตู้เฟย จึงถูกหมัดไปมาพูดว่า“เดี๋ยวหลังเลิกเรียน ผมจะช่วยคุณสั่งสอนมันสักตั้ง”

“ตู้เฟยเหรอ ช่างเถอะ”

หลี่ฝางถามถังจิ้น “พ่อของหลิวเฉินชื่ออะไร”

“หลิวต้าหนึง เป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิต ตอนนี้เขาอยู่กับหวางเห้า ยิ่งกร่างเข้าไปใหญ่ แม้ต่พี่ซินปาเขายังไม่มองอยู่ในสายตา ”ถังจิ้นพูดอย่างอารมณ์ไม่ดี

หลี่ฝางอืมหนึ่งเสียง ควักมือถือออกมา โทรหาหวางเห้า “เจ้านาย คุณหาผมเหรอ”พอรับโทรศัพท์ หวางเห้าก็พูดขึ้นอย่างเคารพ

“ลูกน้องของนาย มีคนที่ชื่อหลิวต้าหนึงด้วยใช่ไหม”หลี่ฝางเลิกคิ้ว

ถามตรงๆไม่อ้อมค้อม

“เจ้านาย คุณรู้ได้ยังไง อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลย หลิวต้าหนึงคนนี้ความสามารถไม่เบาเชียว ลงมือโหดเหี้ยม มีหูตาเพียบ……”หวางเห้าเริ่มอวยขึ้นมา

แต่หวางเห้ายังอวยได้ไม่กี่คำ ก็ถูกหลี่ฝางตัดบทซะก่อน “โหดก็จริง เมื่อกี้ลูกชายเขามาขู่ฉัน อีกเดี๋ยวหลิวต้าหนึงคงได้ตีขาฉันหักแน่”

“หวางเห้า ทำได้ดีนี่ คิดอยากจะหักหลังกันหรือไง”

“ลูกน้องนาย จะกำจัดฉัน”หลี่ฝางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาแกมประชด ไม่ช้า หวางเห้าก็พูดว่า “เรื่องอย่างนี้ ทำไมผมไม่รู้”

“เจ้านาย คุณไม่ได้เข้าใจผิดใช่ไหม ไอ้หลิวต้าหนึงถึงมันจะกล้าแค่ไหน ก็คงไม่กล้าลงมือกับคุณแน่ ”หวางเห้าเอ่ยอย่างสงสัย

หลี่ฝางหัวเราะหึหึ “เอาล่ะ มาดูด้วยตาตัวเองที่หน้าประตูมหาลัยเถอะ”

“ภายในสิบนาที ฉันจะไปถึงหน้าประตูมหาลัย ถ้าหากนายมาไม่ได้ หลังจากนี้ ก็ไม่ต้องมาทำงานให้ฉันอีก”หลี่ฝางพูดจบ ก็กดวางสายทันที

วางสายโทรศัพท์แล้ว หลี่ฝางพูดอย่างผิดหวังอยู่บ้าง “หวางเห้าคนนี้ ใช้คนไปมั่วจริงๆ”หลี่ฝางถอนหายใจในใจ เห็นที หวางเห้าจะขาดคนจริงๆ หากเป็นเมื่อก่อน คนที่ไม่ซื่อสัตย์อย่างหลิวต้าหนึง หวางเห้าคงไม่ใช้งานแน่นอน

แต่ตอนนี้ หวางเห้าคุมพื้นที่ใหญ่ขึ้น เขาต้องการคน ก็เลยทำให้หาคนในเวลาสั้นๆไม่ได้ เรื่องนี้หลี่ฝางก็ไม่โทษเขา

หลี่ฝางมองไปที่ถังจิ้น ถามขึ้น “ใช่แล้ว ถังจิ้น ช่วงนี้พี่ซินปาเป็นยังไงบ้าง กำลังยุ่งเรื่องอะไรอยู่”

“ช่วงนี้พี่ซินปาทำธุรกิจนิดหน่อย ช่วยคนอื่นดูแลร้าน ก็แค่ไนต์คลับธรรมดา นี่ก็จะเจ๊งอยู่รอมร่อแล้ว”ถังจิ้นพูด

“ให้เขาไปหาหวางเห้า”หลี่ฝางพูด “บอกว่าฉันเป็นคนแนะนำ”

“ขอบคุณคุณชายหลี่ ขอบคุณคุณชายหลี่”ถังจิ้นมองหลี่ฝางด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง

ในใจเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและตื้นตัน

ถ้าซินปาตกอับ ถังจิ้นก็ไม่มีหลักให้ยึด อีกหน่อยออกไปเที่ยว ก็ไม่มีความมั่นใจ ไม่มีหน้าอะไรแล้ว

ถ้าหากซินปามีอำนาจขึ้นมาอีกครั้ง ถ้าอย่างนั้นถังจิ้นเขา ก็ย่อมผงาดขึ้นมาอีกครั้ง

และตอนนี้ คนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองเอก ก็คงเป็นหวางเห้า

ไปอยู่กับหวางเห้า น่าจะมีอนาคตมากที่สุดแล้ว

ถังจิ้นวิ่งไปอีกฝาก อดใจรอไม่ไหวที่จะส่งข่าว บอกกล่าวกับซินปา

และหลี่ฝาง ก็เริ่มเดินไปยังนอกมหาลัย

หลี่ฝางจงใจเดินช้าๆ เพราะฝั่งหวางเห้า ต้องเร่งมาให้ทันใหนสิบนาทีก็หนักเอาการอยู่

เห็นหลี่ฝางเดินออกจากตึกเรียน หลิวเฉินก็หัวเราะขึ้น “ไอ้นี่ นายนี่มันกล้าดีนี่ ฉันยังนึกว่านายไม่กล้าลงมาซะอีก”

“มีอะไรต้องกลัวด้วย”

“ไม่กลัวเหรอ เหอะๆ อีกเดี๋ยวนายได้กลัวแน่”หลิวเฉินพูด พลางพลักหลี่ฝาง “ไปเถอะ พ่อฉันรอนายข้างนอกนั่นนานแล้ว”

ระหว่างทาง หลี่ฝางเดินอย่างเชื่องช้า

หลิวเฉินพูดอย่างหงุดหงิด “นี่ขานายเป๋หรือไง ถึงได้เดินช้าขนาดนี้”

“เร็วเข้า ถ้านายกลัว ก็รีบคุกเข่าคงเรียกฉันว่าคุณปู่ ถึงเวลาฉันอาจจะปล่อยขาแกไปข้างหนึ่งก็ได้ ”หลิวเฉินพูดอย่างอวดดี

หลี่ฝางหัวเราะ มองเวลา เกือบจะผ่านไปสิบนาทีแล้ว

แต่หวางเห้ายังไม่โทรมา หลี่ฝางรู้สึกร้อนใจขึ้นมาบ้างแล้ว

ถ้ารู้แต่แรก เรียกส้าวส้วยมาด้วยก็ดี

แต่หลี่ฝางก็รู้สึกว่าหากส้าวส้วยลงมือเอง คงไม่เจ็บใจ เท่ากับให้หวางเห้าลงมือ

ตอนที่เกือบจะไปถึงหน้าประตู ที่สุดหลี่ฝางก็ได้รับโทรศัพท์จากหวางเห้า หลี่ฝางรับโทรศัพท์ “นายถึงแล้วเหรอ”

“เจ้านาย รถติดมาก ให้เวลาผมอีกสองนาทีนะ”

“ได้ อีกสองนาทีถ้ายังมาไม่ถึง ฉันจะทำให้แกไม่เหลืออะไรเลย”หลี่ฝางพูดเสียงเย็น

“จำไว้ ฉันไม่ได้ล้อเล่น”

หลี่ฝางพูดจบ ก็หยิบเอาลิปสติกออกมาจากกระเป๋า ซ่อนไว้ในแขนเสื้อของตัวเอง ถ้าหากหวางเห้ามาไม่ทันเวลา แล้วหลัวต้าหนึงก็ลงมือกับตนขึ้นมาจริงๆ ถ้าอย่างนั้นหลี่ฝางก็คงต้องใช้ลิปสติกแท่งนี้

เดินไปจนถึงหน้าประตูมหาลัย หลี่ฝางมองเห็นชายหน้าเหี้ยมคนหนึ่ง

ด้านหลังเขา ยังมีชายรูปร่างสูงใหญ่อีกหลายคน

“พ่อ ”ห่างกันยังไกล หลิวเฉินก็ร้องตะโกนขึ้น

หลิวต้าหนึงพยักหน้า มองหลี่ฝาง เผยแววตาเย็นชา “ไอ้หนู แกเหรอที่ตีลูกฉันน่ะ”

หลิวต้าหนึงเดินมาข้างหน้าหลายก้าว ตรงไปตรงหน้าของหลี่ฝาง

หลี่ฝางพยักหน้า “ใช่ฉันเอง”

“พ่อ อย่าพูดมากเลย ตีขามันให้หักเลยเถอะ”หลิวเฉินพูด

หลิวต้าหนึงหันไปมอง กลอกตาให้ลูกชาย “นี่แกโง่หรือเปล่า ที่นี่มีกล้องวงจรปิดเต็มไปหมด แล้วยังเป็นหน้าประตูมหาลัย ฉันตีขามันหัก ฉันไม่ต้องไปกินข้าวคุกหรือไง”

“ทำไม อยากให้พ่อแกตายหรือไง ใช่มั้ย”หลิวต้าหนึงจ้องลูกชายด้วยสายตาเหี้ยม

“โธ่เอ๊ย คนฉลาดอย่างฉัน ทำไมต้องมีลูกโง่อย่างนี้ด้วยเนี่ย”หลิวต้าหนึงถอนหายใจ พูดขึ้น

หลังจากหลิวเฉินถูกด่า ก็ไม่กล้าพูดอะไรไปพักหนึ่ง

หลิวต้าหนึงมองหลี่ฝาง พูดขึ้นว่า “นายจะไปกับฉัน หรือจะให้ฉันหาคนสักสองคน มาอุ้มนายไป”

“ถ้านายมีปัญญา ก็อุ้มฉันไปสิ”หลี่ฝางหัวเราะหึหึ

“พูดดีๆไม่ชอบชอบให้ใช้กำลัง ลงมือ”หลิวต้าหนึงหันกลับไป ส่งสายตาให้กับลูกน้อง ที่เขาพามาด้วย

ทั้งสองคนรีบเดินเข้ามา จับตัวหลี่ฝาง “ไอ้หนู ไปกับพวกเราซะดีๆ จะได้ไม่เจ็บ เข้าใจมั้ย”

“พวกนายไม่กลัวฉันร้องขอความช่วยเหลือเหรอ ”หลี่ฝางขมวดคิ้ว

“จะกลัวทำแป๊ะอะไร รู้หรือเปล่าว่าลูกพี่ฉันเป็นใคร หวางเห้า แล้วรู้หรือเปล่าว่าเจ้านายของเจ้านายพวกเราเป็นใคร เป็นถึงตระกูลหลี่เจ้าของสถานตากอากาศ หึหึ มีตระกูลหลี่คุ้มหัวพวกเรา แม้พวกเราจะฆ่านาย ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เข้าใจไหม”

ได้ยินคำพูดโอ้อวดแบบนี้ หลี่ฝางสีหน้าขรึมลงอย่างช่วยไม่ได้

เจ้าหวางเห้า นี่มันรวบรวมลูกน้องอะไรไว้

ถึงกล้าอ้างชื่อของเขา เพื่อทำเรื่องชั่วข้างนอกนี่

“ไปเถอะ”

“ถ้ายังไม่ไปอีก พวกเราจะลงมือจริงๆละนะ”อีกฝ่ายข่มขู่เสียงเย็น

และหลิวต้าหนึงก็ยกขาข้างหนึ่งขึ้น เตะเข้าไปที่ท้องของหลี่ฝาง “แม่งเอ้ย อายุแค่นี้ ทำไมถึงไม่เชื่อฟังกันบ้าง”

เจ้าหลิวต้าหนึง ปกติก็สั่งสอนนักศึกษามาไม่น้อย นักศึกษาปกติทั่วไป แค่ขู่ก็หงอแล้ว

แต่หลี่ฝาง เขารู้สึกว่าต้องสั่งสอนสักตั้งถึงจะได้

หลี่ฝางถูกเตะหนึ่งที กำลังเตรียมจะใช้ลิปสติก รถคันหนึ่งก็แล่นเข้ามาพอดี

หวางเห้าเปิดประตูออกมา รีบวิ่งเข้ามาทันที

เห็นหลี่ฝางถูกเตะ บนหน้าของหวางเห้า ก็มีเหงื่อเย็นๆผุดขึ้น

“เจ้านาย ผมมาสายแล้ว”หวางเห้ามองหลี่ฝาง สีหน้าตื่นตระหนก

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท