NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 470

ตอนที่ 470

บทที่ 470 พ่อของคุณคือหลอซ่าหรือ

หากเป็นเมื่อก่อน หลี่ฝางคงเสริมขึ้นอีกคำว่า เรียกเสี่ยวฝางก็ได้

หลายปีมานี้ หลี่ฝางก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาชินกับความธรรมดาแล้ว

คุ้นเคยกับความเรียบง่ายเป็นกันเอง

แต่ตอนนี้ หลี่ฝางอยากเปลี่ยนแปลงสักหน่อย

เพราะเขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลี่ ถ้าหากเกรงใจเกินไป ถ้าอย่างนั้น บนตัวเขาก็จะไม่มีความน่าเกรงขามอยู่เลย

ตัวเองเป็นถึงเจ้านาย สามารถคุยหยอกล้อเล่นกับคนใต้บังคับบัญชาได้ แต่ไม่อาจจะลดตัวลงไปได้เด็ดขาด

ฉะนั้น หลี่ฝางกำลังลองยอมรับสถานะของคุณชายหลี่อยู่

“อย่ายืนอยู่ข้างนอกเลย เข้าไปข้างในกันเถอะ วันนี้อากาศค่อนข้างหนาว”

หลี่ฝางหัวเราะหึหึ พูดขึ้น

แต่หลี่ฝางยังไม่ก้าวเท้าเข้าไปในโรงแรม ใครจะกล้าเข้าไปก่อน

ไม่มีใครกล้า

หัวล้านเฉินเจียโล่หัวเราะแหะๆ ทำท่าเชิญให้กับหลี่ฝาง “เชิญคุณชายหลี่ก่อน ”

“ได้”หลี่ฝางตอบตกลง ในเมื่อสถานะของตัวเองวางอยู่ตรงนี้

หลี่ฝางก็ไม่ได้เกี่ยง เดินเข้าไปในโรงแรมคนแรก

“ใช่แล้ว พี่เห้า คู่พ่อลูกหลิวต้าหนึงเป็นยังไงบ้าง”หลี่ฝางถามขึ้น

“หลังจากฉันไปแล้ว พวกเขาพูดเรื่องแก้แค้นฉันหรือเปล่า ”หลี่ฝางถาม

หวางเห้าพูดอย่างดูถูก “พวกเขาจะกล้าได้ยังไง”

“พวกเขาพ่อลูก ก็แค่คนตัวเล็กๆในเมืองเอก มากสุดก็แค่พวกกุ๊ยข้างถนน เพราะก่อนหน้านี้ไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของคุณ ตอนนี้รู้แล้ว คงไม่กล้าหาเรื่องคุณอีก”หวางเห้าก้มหน้าพูดยิ้มๆ

หลี่ฝางพยักหน้า พูดเสียงเบา “นายไม่ควรใช้คนอย่างหลิวต้าหนึง ”

หลี่ฝางสีหน้าไร้ความรู้สึก หลังจากหวางเห้าได้ยิน ก็ไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง

ก่อนหน้านี้ หวางเห้ารู้สึกเพียงว่าหลี่ฝางก็แค่มีเงินเท่านั้น แม้ว่าเขาจะช่วยเหลือตน แต่ก็ไม่เคยก้าวก่าย แต่วันนี้หวางเห้าพบว่า หลี่ฝางค่อยๆผูกมัดเขา

นี่ทำให้หวางเห้ารู้สึกไม่ค่อยพอใจนิดๆ

อีกอย่าง วันนี้หลี่ฝาง ทำให้หวางเห้ารู้สึกไม่เหมือนเดิม

แต่หวางเห้าก็ได้แต่เม้มปาก ไม่พูดอะไร

ในสายตาของหวางเห้า หลี่ฝางก็แค่เด็กน้อย เขาอาศัยอะไรมาบงการตน

ฉะนั้นในใจหวางเห้า มีความโกรธอยู่บ้าง

มาถึงห้องวีไอพี ทุกคนนั่งลงบนที่นั่งของตัวเอง

หลี่ฝางหัวเราะหึหึ มองหวางเห้าและพูดว่า “ขอแนะนำคนคนหนึ่งให้ทุกคนรู้จัก คนนี้คือหวางเห้า เจ้านายของศูนย์อาบน้ำสุ่ยหยุน”

“พวกเรารู้จักกันแล้ว”

หวงว่างโก๋ยิ้ม พูดว่า “ตอนที่คุณชายหลี่กำลังเดินทาง ผมได้แนะนำไปแล้ว”

“ขอโทษที ผมมาสาย”

หลี่ฝางพยักหน้า แสดงความขอโทษ

หวงว่างโก๋ขรึมลงทันที นึกว่าตัวเองพูดผิดไป ก็รีบเสริมขึ้นว่า

“คุณชายหลี่ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ”

“ไม่เป็นไร ผมสายไปจริงๆ เจอเรื่องระหว่างทางนิดหน่อย”

หลี่ฝางมองหวงว่างโก๋ แล้วก็มองคนข้างๆเขา

“คนนี้คือ”หลี่ฝางไม่รู้ว่าคนคิ้วดกนี้ชื่ออะไร

หลี่ฝางจำได้แค่ว่า คิ้วดกคนนี้คือพี่ใหญ่ของหัวล้านเฉินเจียโล่กับเจ้าของโรงแรมหวงว่างโก๋

“คุณชายหลี่ ผมขอแนะนำตัวเอง ผมชื่อหวางเสี่ยวหยวน ตอนนี้เปิดบาร์เล็กๆอยู่”

“ไม่ได้คึกคักมาก ก็เป็นที่พักผ่อนของพวกพี่น้องเพื่อนฝูง ถ้าคุณชายหลี่มีเวลาว่างก็ลองไปนั่งดู ” หวางเสี่ยวหยวนยืนขึ้นพูด

หลี่ฝางพยักหน้า “ต้องไปแน่นอน”

“คุณชายหลี่ ผมชื่อ……”หัวล้านยืนขึ้น คิดจะแนะนำตัวเอง

หลี่ฝางยิ้ม พูดว่า “พี่โล่ เฉินเจียโล่ ผมจำชื่อพี่ได้”

หลี่ฝางยังจำได้ดี หลังจากที่พวกเฉินเจียโล่ช่วยตนออกมาจากเงื้อมือของหลี่หลง เฉินเจียโล่ก็ได้บอกชื่อของตัวเองกับหลี่หลง

หลี่ฝางมองทุกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ พูดว่า “ที่ผมเชิญทุกคนมาวันนี้เพราะมีจุดประสงค์ เพียงหนึ่งอย่าง ก็คือตอนนี้ผมมีพื้นที่อยู่ในมือบางส่วน ต้องการคนช่วยดูแล แต่ก็ไม่มีคนที่เหมาะสมในมือ จึงอยากจะเชิญพวกพี่พี่ช่วยผมหน่อย”

หวางเห้ายิ้ม

ตอนนี้ เหยโก่วตายแล้ว เหยสงก็หนี

ลูกน้องทั้งหมดของเหยสง ที่มีชื่อเสียงหน่อย ตอนนี้ก็ไม่นั่งอยู่ในคุกกันหมด

ฉะนั้นพื้นที่ของเหยสง ก็เลยกลายเป็นที่ร้าง

ที่จริงหลังจากเกิดเรื่อง มีคนมากมายอยากจะแย่งพื้นที่นี้

แต่เหมือนตระกูลหลี่จะคาดการณ์ไว้ก่อนแล้ว ก็เลยชิงลงมือ เอาพื้นที่นี้มาตั้งแต่คืนที่เหยสงเกิดเรื่อง

และข้างกายตระกูลหลี่ ยังมีท่านจวนคอยสนับสนุนอยู่

คนหนึ่งมีเงิน มีเงินจนนักว่าเป็นเศรษฐีระดับประเทศ

คนหนึ่งมีชื่อเสียง มีชื่อจนไม่กี่ปีก่อนทุกคนต่างก็ต้องรู้จัก

ทั้งสองคนนี้ยึดครองพื้นที่ของเหยสง คนอื่นๆ ก็ไม่กล้าคิดทำอะไรอีก

ตอนนี้ ลมได้เปลี่ยนทิศแล้ว

หวางเห้าเป็นคนของตระกูลหลี่ ฉะนั้นพื้นที่ของเหยสง ไม่ช้าก็จะตกอยู่ในมือของหวางเห้า

และหวางเห้า ก็เริ่มที่จะค่อยๆรับช่วงพื้นที่ของเหยสงแล้ว

แต่เสียดายที่มีคนไม่มากพอ จึงรับช่วงต่อได้เพียงหนึ่งในสามของพื้นที่เท่านั้น

ฉะนั้น ได้ยินหลี่ฝางบอกว่าจะแบ่งพื้นที่ หวางเห้าก็ย่อมดีใจมาก

คำพูดของหลี่ฝาง เท่ากับเป็นการประกาศอย่างเป็นทางการ

หวางเห้ามีความรู้สึกว่าจะรอไม่ไหวแล้ว แต่คำพูดต่อไปของหลี่ฝาง ทำให้หวางเห้ารู้สึกหนาวสะท้านในใจ

“หวางเห้า ตอนนี้พื้นที่หนึ่งในสามของเหยสง อยู่ในมือนายแล้วใช่ไหม”

หลี่ฝางมองหวางเห้าและถามขึ้น

หวางเห้าพยักหน้า พูดว่า “ใช่แล้ว แต่ว่าผมไม่มีคนที่มีฝีมือ ถ้าไม่อย่างนั้น ผมคงเอาพื้นที่ทั้งหมดมาได้แล้ว”

“อย่าโลภมากเกินไป ค่อยๆทีละก้าว”

หลี่ฝางพูดหนึ่งประโยค ใบหน้าของหวางเห้า ก็เปลี่ยนสีทันที

เพราะว่า หวางเห้าเป็นคนแรกๆที่สร้างสัมพันธ์ในการร่วมงานกันกับหลี่ฝาง

หวางเห้าคิดในใจ

พื้นที่ทั้งหมดของเหยสง สมควรจะเป็นของตนทั้งหมด

ทำไม่หลี่ฝางยังรังเกียจว่าเขาจะโลภมากไป นี่หมายความว่าไง

“อีกอย่าง พี่หวง พี่หวาง พี่เฉิน ผมรู้ว่าพวกพี่ก็อยู่ในวงการนี้มาก่อน จึงคุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้ ภายหลังเพราะสาเหตุบางอย่าง บีบให้ต้องวางมืออย่างไม่เต็มใจ ตอนนี้ผมอยากถามพี่ทั้งสามว่า พวกพี่มีความคิดที่จะคืนสู่วงการหรือเปล่า ”

หลี่ฝางมองทั้งสามคนและถามขึ้น

หวงว่างโก๋กับเฉินเจียโล่ไม่พูดอะไร เพียงแต่มองไปทางหวางเสี่ยวหยวนเท่านั้น

เพราะหวางเสี่ยวหยวนเป็นพี่ใหญ่ของพวกเขา

คำพูดของหวางเสี่ยวหยวน ก็เท่ากับเป็นคำพูดของพวกเขา

หวางเสี่ยวหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย มองหลี่ฝาง “คุณชายหลี่หมายความว่า ”

“พูดให้ชัดกว่านี้ดีกว่า หากพวกพี่ยินดีกลับสู่วงการ ผมก็ยินดีจะมอบพื้นที่หนึ่งในสามของเหยสง ให้พวกพี่ ถือว่าเป็นของขวัญในการพบปะ เงินที่พวกพี่หาได้ แบ่งกันห้าต่อห้าส่วน แน่นอน ถ้าพวกพี่ต้องการเงิน ผมจะออกให้”

“ที่ควรช่วยเหลือ ผมก็จะให้ไม่ขาดเหมือนกัน”

หวางเสี่ยวหยวนสีหน้านิ่งมาก เหมือนกับไม่ได้ตื่นเต้นกับข้อเสนอ

พื้นที่ของเหยสง นับว่าใหญ่ที่สุดในเมืองเอก

พื้นที่หนึ่งในสาม ก็ไม่น้อยไม่กว่าพื้นที่ของเสือที่ห้าวหนานดูแล

แต่พื้นที่ใหญ่ขนาดนี้ ตอนที่หลี่ฝางพูดว่าจะมอบให้หวางเสี่ยวหยวน หวางเสี่ยวหยวนยังมีความลังเลอยู่เล็กน้อย

หลี่ฝางไม่อยากจะเชื่อ

ไม่ต้องสงสัยนี่เท่ากับเป็นเรื่องดีๆที่ตกลงมาจากฟ้าเชียวนะ หรือว่า หวางเสี่ยวหยวนยังคิดจะปฏิเสธอีก

หรือไม่ หวางเสี่ยวหยวนยังไม่คิดจะคืนสู่วงการ

หลี่ฝางมองหวางเสี่ยวหยวน ถามขึ้น “มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ”

“พี่หวาง พื้นที่หนึ่งในสามของเหยสง น่าจะจริงใจพอแล้วนะ”หลี่ฝางใช้นิ้วเคาะโต๊ะ

“คุณชายหลี่เข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้จะโลภมาก พูดตามจริง ของขวัญใหญ่ขนาดนี้ ผมยังรู้สึกเหมือนได้รับความโปรดปรานอย่างที่คิดไม่ถึงเลย” หวางเสี่ยวหยวนพูดยิ้มๆ

“แล้วทำไมพี่ไม่ตอบตกลง ”หัวล้านเฉินเจียโล่ถามขึ้นเสียงเบา

หวงว่างโก๋กดเสียงให้ต่ำลง พูดว่า “พี่ใหญ่ ตกลงเถอะ”

“พลาดโอกาสนี้ไป ก็ไม่มีอีกแล้ว”

“นี่เป็นโอกาสเดียวของพวกเราแล้ว”หวงว่างโก๋เอ่ยขอร้อง

ความคิดของหวงว่างโก๋กับเฉินเจียโล่ก็เห็นได้ชัดเจนแล้ว อย่างนั้นก็ให้หวางเสี่ยวหยวนรีบตอบตกลงเถอะ

แต่ว่า หวางเสี่ยวหยวนยังคงลังเลตัดสินใจไม่ได้

“พี่หวางยังมีปัญหาอะไรอีกหรือเปล่า ”หลี่ฝางมองหวางเสี่ยวหยวนและถามขึ้น

หวางเสี่ยวหยวนขมวดคิ้วถาม “คุณชายหลี่ ก่อนจะตัดสินใจทำงานให้คุณ ผมขอถามคุณสักเรื่องก่อนได้ไหม”

“พี่ถามเถอะ”หลี่ฝางพยักหน้า

“พ่อของคุณ คือหลอซ่าหรือเปล่า ”มองหลี่ฝาง หวางเสี่ยวหยวนถามขึ้น

หวางเสี่ยวหยวนรู้สึกว่า นอกจากหลอซ่า ก็ไม่มีใครสามารถต่อกรกับสี่ตระกูลใหญ่ได้

ฉะนั้น หากยังไม่ชัดเจนเรื่องนี้หวางเสี่ยวหยวนก็ไม่อยากจะตอบตกลงง่ายๆ

ตอนแรก หวางเสี่ยวหยวนถูกสี่ตระกูลใหญ่บีบให้จนมุม หากเขาไม่ก้มหัวยอมแพ้ให้กับสี่ตระกูลใหญ่ ตอนนี้พี่น้องของพวกเขา ไหนเลยจะมีที่ยืนของตัวเองอย่างทุกวันนี้

“คุณชายหลี่ พวกเราต้องรู้ว่ากำลังขายชีวิตให้ใคร”หวางเสี่ยวหยวนถามขึ้น

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท